โครงรา่ งงานวิจยั นายอภิสทิ ธ์ิ เชอ้ื สะอาด โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา ก กิตติกรรมประกาศ งานวิจัย
เร่ืองการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง สมการ ขอขอบคณุ ผูบ้
ริหารสถานศกึ ษา คณะครู นักเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัด อนงึ่ ผวู้ จิ ัยหวงั ว่า งานวจิ ัยฉบบั น้จี ะมปี ระโยชน์อยไู่ ม่น้อย สาหรับข้อบกพร่องต่างๆ ที่อาจจะ อภิสิทธิ์ เชอ้ื สะอาด ชื่อเรอ่ื ง ข ผู้วจิ ัย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คณิตศาสตร์พ้ืนฐานเร่ือง สมการเชิงเส้น บทคัดยอ่ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) เพื่อเปรียบเทียบและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการ การวิจัยในคร้ังน้ีเป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนท่ีกาลังศึกษาอยู่ในระดับช้ัน ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังจากใช้แบบฝึกทักษะ ค สารบญั เรอื่ ง หน้า กติ ติกรรมประกาศ ....................................................................................................... ก บทที่ 1 บทนา 1 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง 6 บทที่ 3 วิธีดาเนินการวจิ ยั 16 ง สารบัญ (ตอ่ ) หน้า เรื่อง 21 บรรณานุกรม ตัวอย่างแผนการจดั การเรียนรูเ้
รือ่ ง สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว 1 บทที่ 1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา ย่อมส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้า ดังน้ันหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์มีความสาคัญย่ิงต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ทาให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ วิชาคณิตศาสตร์เปน็ วชิ าที่มีเน้อื หาเปน็ นามธรรมเป็นส่วนมาก จึงยากท่ีจะทาให้นักเรียนส่วน จากความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา ผู้วิจัยได้เห็นว่าการประยุกต์สมการเชิงเส้นตัว 2 คณิตศาสตร์ เรอ่ื งสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว สาหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ โรงเรียนราชประชานุ วัตถุประสงค์ คณิตศาสตร์ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนราช 2. เพอ่ื ศกึ ษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ เร่ืองสมการเชิงเส้นตัวแปร สมมุติฐานของการศกึ ษา คณิตศาสตร์ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนราช 2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการการจัดการเรียนรู้ เรื่องสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 3 กรอบแนวคดิ การทาวจิ ัย แบบฝึกทกั ษะคณิตศาสตร์ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวดั พะเยา -
ผลการเปรียบเทยี บสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียน กอ่ นและหลังเรียนโดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ ขอบเขตของวจิ
ยั ศึกษาอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา สังกัดสานัก ขอบเขตด้านเนอ้ื หา 4 2. ตัวแปรตาม ไดแ้ ก่ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เร่ือง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 2.2 ความพงึ
พอใจของนกั เรยี นทม่ี ตี ่อการการจัดการเรียนรู้ เร่ือง สมการเชิงเส้นตัว นิยามศพั ท์ เส้นตัวแปรเดียว ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ สาหรับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 160 2. พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ของ 3. แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน หมายถึง แบบทดสอบที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพ่ือใช้วัด 4. การจดั
การเรยี นรโู้ ดยใช้แบบฝึกทักษะ หมายถึง การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดย 5. ความพึงพอใจ หมายถึง ความรูส้ กึ ช่ืนชอบหรือพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ 6. สมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดยี ว หมายถงึ สมการทีม่ ตี วั แปรหรอื ตวั ไมท่ ราบค่าและเลขชี้กาลัง 5 ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการวิจัย จดั การเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เร่ือง การประยกุ ต์สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว ในระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาที่ 1 3. สามารถพัฒนาผเู้ รียนและรูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ในการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ทบทวน 6 บทที่ 2 ในการศึกษาเก่ยี วกับรูปแบบวิธกี ารเรยี นของนักเรียนครงั้ น้ี ผูว้ ิจยั ไดศ้ กึ ษาเอกสารและ 1. หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2560) 1. หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานพทุ ธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ได้เน้น สาระที่ 1 จานวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ วจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ 7 2. แบบฝกึ ทกั ษะ บรรลผุ
ล อีกทั้งยังสามารถช่วยในการฝึกทักษะผู้เรียนได้ดี นักการศึกษาได้ให้ความหมาย ความสาคัญ ความหมายของแบบฝกึ ทักษะ ความสาคญั และประโยชนข์ องแบบฝึกทักษะ 8 อุบลวรรณ ปรุงวนิชพงษ์ (2551 : 86) แบบฝึกทักษะช่วยในการฝึกฝนทักษะทักษะ การใช้ สมพร ตอยยีบี (2554 : 37) ได้กล่าวว่า แบบฝึกมีความสาคัญต่อการเรียน การสอนใน อนุรักษ์ เร่งรัด(2557 : 38) แบบฝึกทักษะมีความสาคัญและมีประโยชน์ต่อท้ังครูผู้สอนและ บุญนา เกษี (2558 : 17) แบบฝึกมีความสาคัญ ทาให้เกิดทักษะความชานาญ หากแต่ จากการท่ีกลา่ วมาแลว้ สรุปได้ว่า แบบฝึกทักษะมีความสาคญั และมปี ระโยชนต์ ่อท้ัง ครูผู้สอน ลักษณะของแบบฝึกทักษะ 9 ประภาพร ถ่ินอ่อง
(2553 : 33) ได้กล่าววา่ ลกั ษณะของแบบฝึกท่ีดีต้องมี จุดหมายท่ีแน่นอน ปราณี จิณฤทธ์ิ (2552 : 32) ได้กล่าวว่า ลักษณะของแบบฝึกที่ดีต้องสร้างให้ เก่ียวข้องกับ จากการที่กลา่ วมาแลว้ สรุปได้ว่า ลักษณะของแบบฝึกท่ีดีควรสร้างเพ่ือฝึกทักษะเฉพาะอย่าง ทฤษฎีทางจติ วทิ ยาท่ีเกีย่ วกับการฝึกทักษะ 2.1) กฎแห่งการใช้ (Law of Use) หมายถึง การฝึกฝน การตอบสนองอย่างใดอย่าง 2.2) กฎแห่งการไม่ใช้ (Law of Disuse) หมายถึง การไม่ได้ฝึกฝนหรือไม่ได้ใช้ไม่ได้ 10 3) กฎแห่งความพอใจ (Law of Effect) หมายถึง พันธะหรือส่ิงเช่ือมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับ 3. แผนการจดั การเรยี นรู้ จัดการเรียนรู้คือการนาวิชาหรือกลุ่มประสบการณ์ที่จะต้องทาการสอบ
ตลอดภาคเรียนมาสร้างเป็น เกรียงไกร บุญเบ้า (2557 : 20) การจัดการเรียนรู้หมายถึง การวางแผนจัดเตรียม บุญนา เกษี (2558 : 23) แผนการจัดการเรียนรู้ คือ การเตรียมการจัดการเรียนรู้โดยจัดทา จากการที่กล่าวมาแล้ว สรุปได้ว่า แผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การวางแผนจัดเตรียม
ความสาคัญของแผนการจัดการเรียนรู้ 11 จุดประสงค์ท่ีตั้งไว้ ทาให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความสะดวกสบายและดาเนินการไปได้อย่างมี ฤดี เชยเดช (2557 : 22) แผนการจัดการเรียนรู้
ช่วยให้ผู้สอนเกิดความม่ันใจในการจัดการ จากการที่กล่าวมาแล้ว สรุปได้ว่า แผนการจัดการเรียนรู้
เป็นการเตรียมความพร้อมของการ 4. ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาคณติ ศาสตร์ การมีทักษะในการคานวณ และมีความสามารถในการแก้โจทย์ ปัญหาด้านต่างๆ ของนักเรียน เช่น ลียานา ประทีปวัฒนพันธ์ (2558 : 40 ) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถใน ความหมายของความพึงพอใจ 12 จริ าพร กาจดั ทกุ ข์ (2552: 23) ความพึงพอใจ หมายถึงความรู้สึกที่เป็นการยอมรับความรู้สึก ชะเอิ้น พิศาลวัชรินทร์(2553 : 7) ความรู้สึกชอบพอใจและประทับใจจากการได้รับการ จารุวรรณ เทวกุล (2555 :18) ความพึงพอใจเป็นเรื่องเก่ียวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึกและ จากการทกี่ ล่าวมาแลว้ สรุปได้วา่ ความพึ่งพอใจหมายถึง ความรู้สึกชอบพอใจ จากการได้รับ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกบั ความพงึ พอใจ 3.1) คนทางานมีสว่ นในการต้ังเปา้ หมาย 13 3.3) งานนนั้ สามารถทาให้สาเร็จได้ 6. งานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง เรียนรแู้ บบร่วมมือ 1) เพ่ือศึกษาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 14 แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน และ 4)
แบบสอบถามความพงึ พอใจ สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ เกียงไกร บุญเบ้า (2557 : บทคัดย่อ)
การวิจัยคร้ังนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษา นายอนุรักษ์ เร่งรัด (2557 : บทคัดย่อ) การวิจัยคร้ังนี้ วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูล 15 ความสามารถในการแก้ปัญหา สาหรับนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 1 4)
เพื่อประเมินผลและปรับปรุง 16 บทที่ 3 ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 1. ประชากรที่ใชใ้ นการศกึ ษาครั้งน้ี คือ นักเรียนท่ีกาลังศึกษาอยู่ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2. กลุ่มตัวอย่าง นักเรยี
นที่กาลังศกึ ษาอยใู่ นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนราชประชานุ ระยะเวลาทที่ าการศึกษา 20 มกราคมโดยใชเ้ วลาดาเนินการ 16 คาบ คาบละ 50 นาที ไม่รวมเวลาทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการ เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ
ยั 17 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกับจานวน โดยในแผนการจัดการเรยี นรเู้ ปน็ การเรียนรู้เร่ือง การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ซึ่ง 1.1 ศกึ ษาเอกสารหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ 1.2 ศึกษาค้นคว้าเอกสาร เน้ือหาสาระเร่ืองการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว 1.3 วิเคราะห์หลักสูตร เนื้อหา สาระคณิตศาสตร์ช่วงช้ันท่ี 3 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 1.4 กาหนดรูปแบบการจัดการเรยี
นรู้โดยลักษณะการจัดการเรียนรู้จะเริ่มต้นจากขั้น 1.5 สร้างแผนการเรียนรแู้ ละสร้างเอกสารประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน ได้แก่ 1.6
นาแผนการเรียนรู้ท่ีสร้างข้ึนให้อาจารย์ที่ปรึกษาตรวจสอบหลังจากนั้นจึงได้ให้ 1.7 ปรับปรุงแผนการเรียนรู้ตามคาแนะนาของอาจารย์และผู้เช่ียวชาญและ 2. แบบฝึกทกั ษะเร่อื ง สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว จานวน 8 ชดุ ซงึ่ มขี ้นั
ตอนในการสร้าง 2.1 ศึกษาจุดประสงค์การเรยี นรู้ ในแผนการจดั การเรียนรู้ 18 2.3 นาแบบฝกึ ทักษะเรอ่ื ง สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวทง้ั 8 ชดุ ใหห้ ัวหน้ากลุ่มสาระ 2.4 ปรบั ปรุงแบบฝึกทักษะ ตามคาแนะนาของหัวหนา้ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ 3.1 วเิ คราะหจ์ ุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ในแผนการจดั การเรยี นรู้ 4. แบบประเมินความพึงพอใจของนกั เรียนท่ีมีต่อแบบฝึกทักษะคณติ ศาสตรเ์ รอ่ื
ง สมการ 4.1 กาหนดกรอบเนื้อหา แนวคิดและขอบข่ายโครงสรา้ งของคาถามด้านเนื้อหา ดา้ น 4.2 กาหนดเน้อื หา รูปแบบ วัตถปุ ระสงคข์ องแบบประเมนิ ตามกรอบในแตล่ ะดา้ น 19 วธิ ีการดาเนินการรวบรวมข้อมลู จากนนั้ ดาเนินการสอนตามแผนการเรยี นรูท้ ี่ได้จัดทาข้นึ และทาแบบทดสอบหลังเรยี น การวิเคราะหแ์ ละสถิติทีใ่ ช้ นักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา โดยใช้คา่ ร้อยละและ 2. วเิ คราะหห์ าคา่ รอ้ ยละความก้าวหน้าของการเรียน จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนเร่ือง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว ก่อนและหลังเรียน โดยผู้วิจัยใช้ร้อยละเพื่อเปรียบเทียบ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเร่ือง ของสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว 3. วิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อแบบฝึกทักษะ เร่ือง สมการเชิงเส้นตัว แปรเดียว สาหรับนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา โดย ใช้คา่ เฉล่ีย 3.1 ศึกษาเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจโดยสร้าง แบบ มาตราส่วนประมาณค่าแบบลิเคอร์ท (Likert Scale) โดยกาหนดระดับคุณภาพเป็น 5 ระดับ คือ 5, 4, 3, 2 และ 1 ดังน้ี 5 หมายถงึ พงึ พอใจมากทีส่ ุด เกณฑ์การประเมินคะแนนเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เรื่องสมการเชิง 4.50 – 5.00 หมายถึง พึงพอใจมากทส่ี ุด 20 3.2 จัดพิมพ์แบบสอบถามความพึงพอใจฉบับจริงเพ่ือใช้เก็บรวบรวมข้อมูลกับกลุ่ม 3.3 นาแบบสอบถามความพึงพอใจไปใช้กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ท่ีกาลังศึกษาอยู่ สถติ ิท่ใี ชใ้
นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ̅=∑ เม่ือ ̅ แทน ค่าเฉลย่ี 1.2 ร้อยละ (Percentage) (บุญชม ศรสี ะอาด. 2545 : 104) โดยใชส้ ตู ร P = x 100 เมือ่ P แทน ร้อยละ 1.3 คา่ รอ้ ยละความก้าวหน้า (พชิ ิต ฤทธจิ์ รญู , 2544, หน้า 79) โดยใช้สูตร ค่ารอ้ ยละความก้าวหนา้ = X2 X1 100 X2 แทน คะแนนเฉลีย่ หลังเรยี น X1 แทน คะแนนเฉลย่ี กอ่ นเรียน |