แบบงาน คือภาษาทางวิศวกรรมภาษาหนึ่งที่ผู้ทำงานใช้สื่อสารข้อมูลในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ออกแบบ และผู้ใช้แบบ แบบผลิตภัณฑ์ใช้เป็นการสื่อสารระหว่างองค์กรที่ทำการซื้อขาย ใช้เป็นข้อตกลงด้านคุณสมบัติและคุณภาพผลิตภัณฑ์ แบบสั่งงานยังคงใช้สื่อสารการทำงานภายในองค์กรเพื่อให้ทำงานได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าด้วย การศึกษาการ เขียนแบบเครื่องกลพื้นฐาน
จึงมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เป็นการกำหนดมาตรฐานที่ใช้เป็นข้อตกลงในการเขียนแบบ อ่านแบบ เพื่อให้การสื่อสารถูกต้องตรงกันระหว่างผู้ออกแบบ และผู้ใช้แบบ ประเทศใหญ่ๆ ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมจึงมักออกมาตรฐานเป็นของตัวเอง เพื่อใช้สื่อสารในการขยายธุรกิจไปในประเทศอื่นๆ ที่ไปลงทุน ตัวอย่างมาตรฐานในต่างประเทศ มาตรฐานในประเทศไทย คือ มอก. แต่มาตรฐานที่พบส่วนใหญ่คือ มาตรฐานญี่ปุ่น เยอรมัน และมาตรฐานสากล ISO ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ในประเทศไทย มาตรฐาน DIN476 ได้กำหนดขนาดกระดาษไว้ 7 ขนาด คือ A0, A1, A2, A3, A4, A5, และ A6 การเลือกใช้กระดาษควรพิจารณาการบอกรายละเอียดให้ครบในแบบสั่งงาน
รูปขนาดกระดาษ A0 ; 841 x 1189 mm
แบบฟอร์มการเขียนแบบเครื่องกลบนกระดาษขนาดต่างๆ ต้องมีกรอบโครงร่าง(Frame) กรอบชื่อแบบ(Title Block) ใช้กำหนดรายละเอียดของแบบ 1 เส้นกรอบ(Frame) ใช้กำหนดขอบพื้นที่กระดาษเขียนแบบเครื่องกล โดยเส้นกรอบควรมีความหนาไม่น้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร ระยะห่างระหว่างขอบของกระดาษ และกรอบควรกำหนดให้อยู่ในช่วง 10 – 20 มิลลิเมตร หรือมากกว่ากรณีใช้สำหรับเข้าเล่มในบางด้าน 2 บล็อกชื่อแบบ (Title Block) ในกรอบบนกระดาษเขียนแบบเครื่องกลต้องสร้างบล็อกสำหรับระบุข้อมูลสำคัญไว้ขวามือด้านล่าง ดังนี้ ชื่อแบบ, หมายเลขแบบ, ชื่อบริษัทหรือองค์กร, ผู้เขียน, ผู้อนุมัติ, วันที่เขียนแบบ, สเกล, และเทคนิคการฉายภาพ เป็นต้น สเกลของแบบสเกล (Scale) คือ สัดส่วนระหว่างขนาดรูปในแบบต่อขนาดจริงของชิ้นงาน การเขียนแบบจากชิ้นงานส่วนมากจะไม่สามารถเขียนเท่าขนาดจริงได้ จากสาเหตุชิ้นงานมีขนาดใหญ่ หรือเล็กเกินไป ต้องการแสดงรายละเอียดชิ้นงานจึงต้องขยายรูปเพื่ออธิบาย เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านแบบ ตัวเลขในแบบจึงใช้ตัวเลขขนาดจริงในการบอกขนาดเสมอ และกำหนดสเกลที่เป็นอัตราส่วนของรูปในแบบกับชิ้นงานในกรอปชื่อแบบแทน หลักในการใส่สเกล
การแสดงสเกล
สเกลแนะนำ (JIS B 0001-2000)
เส้นและตัวอักษรความแตกต่างของเส้นแต่ละชนิดมีความจำเป็นต่อการสื่อสารของแบบเครื่องกลเป็นอย่างมาก การใช้เส้นผิดในบางกรณีอาจทำให้ผู้ใช้แบบสับสน และปฏิบัติตามไม่ตรงกับผู้ออกแบบ ความหนาของเส้นความหนาของเส้นอาจแบ่งได้ 3 ชนิด คือ เส้นบาง เส้นหนา และเส้นหนาพิเศษ โดยมีอัตราส่วนความหนาเป็น 1 : 2 : 4 เช่น ใช้ความหนา 0.13 : 0.25 : 0.50 มิลลิเมตร
การใช้งานของเส้นในการเขียนแบบ
ตัวอักษรข้อมูลที่สำคัญของแบบเครื่องกลส่วนใหญ่คือตัวอักษรที่กำหนดค่าต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ไว้ในแบบที่ทำการสื่อสารการกำหนดค่าหรือขนาดต่างๆ ดังนั้นตัวอักษรจึงต้องกำหนดให้มีมาตรฐานที่ทำให้อ่านได้ชัดเจน มาตรฐาน ISO กำหนดให้อักษรมีความสูงอักษรตัวใหญ่ 2.5, 3.5, 5, 7, 10, 14, 20 และอักษรตัวเล็ก (7/10)คูณกับความสูงตัวอักษร และช่องว่างระหว่างอักษร 0.1คูณกับความสูงตัวอักษร ช่องเว้นวรรค 0.6คูณกับความสูงตัวอักษร กรณีอักษรเอียงกำหนดไว้ 15 องศา เครื่องมือที่ใช้ในการเขียนแบบ
การเขียนแบบในอดีตต้องใช้การเขียนแบบด้วยมือ จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างมากจึงจะได้แบบที่มีขนาดและสเกลที่ถูกต้อง แต่ในปัจจุบันมีการใช้คอมพิวเตอร์ในการเขียนแบบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่ามาก อุปกรณ์เขียนแบบด้วยมืออุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการเขียนแบบด้วยมือ ได้แก่ โต๊ะเขียนแบบ ไม้บรรทัด วงเวียน สเกล บรรทัดองศา แผ่นเทมเพลตสำหรับเขียนรูปทรงมาตรฐาน แผ่นกันลบ แปรงปัดฝุ่น เป็นต้น อุปกรณ์เขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์การเขียนแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD ; Computer Aided Design) อุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนแบบซึ่งในปัจจุบันมีอยู่หลายบริษัทให้บริการ สรุปการศึกษาการ เขียนแบบเครื่องกลพื้นฐาน มีความสำคัญมากสำหรับการเขียนแบบเครื่องกล และผู้ใช้แบบที่ต้องทำความเข้าใจเพื่อการสื่อสารที่ไม่มีข้อผิดพลาด เช่นมาตรฐานการเขียนแบบ เส้นและตัวอักษร สเกลของแบบ แบบฟอร์ม ขนาดกระดาษ รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนแบบ ที่ต้องเข้าใจและใช้ได้อย่างชำนาญเหมือนภาษาพูดที่ใช้สื่อสาร ก็จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง https://en.wikipedia.org/wiki/Mechanical_systems_drawing#Assembly_drawing เข้าสู่ระบบ |