แผนการสอนหลักการ ตลาด 30200 1002

ยิวิ ช า ห ลั ก ก า ร ต ล า ดณ อาจารยจ นั ทรท พิ ย ชยั รกั ษ วทิ ยาลัยเทคโนโลยี อดุ มศกึ ษาพณิชยการ น ดี กั บ บ ท ใ ห ม ข อ ง ชี วิ ต ข อ ง คุ

1 แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ ชอ่ื วชิ า หลักการตลาด รหสั วชิ า 30200 – 1002 ทฤษฎี 2 ปฏบิ ตั ิ 2 หนว่ ยกิต 3 หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสงู พทุ ธศักราช 2563 ประเภทวชิ า บริหารธุรกิจ สาขาวชิ า การตลาด จดั ทาโดย อาจารยช์ ญากานท์ ทองอ่อน วิทยาลยั เทคโนโลยอี ดุ มศึกษาพณิชยการ สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษากระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2 คำนำ แผนการสอนรายวิชา หลักการตลาด รหัสวิชา 30200 - 1003 มีเน้ือหาตรงตามจุดประสงค์ รายวิชา มาตรฐานรายวิชา และคาอธบิ ายรายวิชา หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.) พุทธศกั ราช 2563 ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นวิชาสาขา การขายวิชาหนึ่งใน หมวดการตลาด เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านธุรกิจไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันและงานอาชีพของสังคม ปัจจุบัน โดยบูรณาการร่วมกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แผนการสอนรายวิชา หลักการตลาด แบ่ง ออกเป็น 5 แผนตามจานวนหน่วยการเรียนซึ่งมีอยู่ 5 หน่วย ประกอบด้วย ความรู้พ้ืนฐานด้านการตลาด แนวความคิดและหน้าที่ทางการตลาด ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค ส่วนประสมทางการตลาด เทคโนโลยีกับ การตลาดและจรรยาบรรณนักการตลาด พร้อมท้ังแบบฝึกหัดประจาหน่วยแบบทดสอบก่อน-หลังเรียนเพื่อ เสรมิ ทกั ษะความเขา้ ใจแกผ่ ูเ้ รียน รายวิชา หลักการตลาด เป็นแผนการสอนที่เอื้อประโยชน์ต่อการเรียนการสอน เป็นอย่างมาก การ จัดทาแผนการสอนในครั้งนี้ได้รับคาแนะนาจากการอบรมการเขียนแผนการสอนและได้รับคาแนะนา ปรึกษา จากฝ่ายวิชาการและหัวหน้าหมวด ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จึงขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนีด้ ้วย 18 พฤศจิกายน 2563

3 สำรบญั เร่ือง หน้ำ แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4 ตารางวเิ คราะหค์ าอธบิ ายรายวชิ าจุดประสงคร์ ายวิชา มาตรฐานรายวิชา 6 ตารางวเิ คราะห์หนว่ ยสมรรถนะ 8 ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร 9 แนวการสอน 12 แผนการสอนหน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด แนวความคดิ และหน้าที่ทางการตลาด 24 แผนการสอนหน่วยที่ 2 ตลาดและพฤติกรรมผู้บรโิ ภค 36 แผนการสอนหนว่ ยท่ี 3 สว่ นประสมทางการตลาด 54 แผนการสอนหน่วยท่ี 4 เทคโนโลยกี ับการตลาด 63 แผนการสอนหน่วยท่ี 5 จรรยาบรรณนกั การตลาด

4 หลักสตู รรายวิชา ช่ือวชิ า หลกั การตลาด รหสั วชิ า 30200 – 1002 ทฤษฎี 2ปฏิบัติ 2 หนว่ ยกิต 3 หลักสูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี ช้นั สูง สาขาวชิ าการตลาด 1. จุดประสงคร์ ายวชิ า 1.1 เขา้ ใจเก่ยี วกับหลักการตลาด 1.2 สามารถวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมทางการตลาดและพฤติกรรมผู้บรโิ ภค 1.3 สามารถกาหนดสว่ นประสมการตลาด 1.4 สามารถประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัลทางการตลาด 1.5 มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการดาเนินงานด้วยความรับผิดชอบ ช่ือสัตว์ สุจริต มีวินัย สนใจใฝ่รู้ มีความคดิ สร้างสรรคแ์ ละอนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม 2. สมรรถนะรายวชิ า 2.1 แสดงความร้เู กีย่ วกบั พืน้ ฐานการตลาด 2.2 วเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมทางการตลาดและพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคตามสถานการณ 2.3 กาหนดสว่ นประสมการตลาดตามหลักการ 2.4 ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ลั ทางการตลาด 3. คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการตลาด แนวความคิดทางการตลาด หน้าท่ีทางการตลาด การ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและกระบวนการตัดสินใจซ้ือ การแบ่งส่วนตลาด ตลาดเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์และการกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์ การกาหนดราคา การจัดจาหน่าย และ การส่งเสริมการตลาด เทคโนโลยดี จิ ิทัลทางการตลาด และจรรยาบรรณนักการตลาด

หน่วยท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ จานวนช่ัวโมง 5 1. 16 ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 2. 16 1-4 3. ความรูพ้ นื้ ฐานดา้ นการตลาด แนวความคิดและ 16 4. หน้าทีท่ างการตลาด 12 5-8 5. 8 9-12 ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค 4 13-15 สว่ นประสมทางการตลาด 72 16-17 เทคโนโลยกี ับการตลาด 18 จรรยาบรรณนักการตลาด 18 สอบปลายภาค รวมท้ังหมด

6 หนว่ ยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะประจาหนว่ ย ชอื่ หน่วย สมรรถนะ ทกั ษะ ความรู้ คุณลักษณะท่พี ึง 1.1 เขยี นความรู้พ้ืนฐาน ประสงค์ 1. ความรู้พ้นื ฐานดา้ น 1.1 อธบิ ายความรู้ ดา้ นการตลาด การตลาด แนวความคิด พ้ืนฐานดา้ นการตลาด แนวความคิดและหน้าท่ี 1.1 แสดงพฤติกรรม และหนา้ ที่ทางการตลาด แนวความคิดและหน้าที่ ทางการตลาดได้ ลักษณะนสิ ยั รอบรู้ รอบคอบ ซอื่ สตั ยส์ ุจริต ทางการตลาดได้ 2.1 วิเคราะห์ตลาดและ ขยัน อดทน แบ่งบัน พฤติกรรมผบู้ รโิ ภคได้ และความเป็น 2. ตลาดและพฤติกรรม 2.1 อธิบายตลาดและ ประชาธิปไตยและ 3.1 กาหนดสว่ นประสม หา่ งไกลยาเสพติด ผูบ้ รโิ ภค พฤติกรรมผ้บู ริโภคได้ ทางการตลาดได้ 2.1 มี ก า ร พั ฒ น า 3.สว่ นประสมทาง 3.1 อธิบายสว่ นประสม คุ ณ ธ ร ร ม จ ริ ย ธ ร ร ม การตลาด ทางการตลาดได้ ค่านิยม และคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ท่ีผู้สอน สามารถสังเกตเห็นได้ใน ด้ า น ค ว า ม มี ม นุ ษ ย สัมพันธ์ ความมี วินัย ความรับผิดชอบ ความ เช่ือมั่นในตนเอง ความ ส น ใ จ ใ ฝ่ รู้ ค ว า ม รั ก สามัคคี ความกตัญญู กตเวที 3.1 มีการพัฒนา คุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ทผ่ี ู้สอน สามารถสงั เกตเหน็ ได้ใน ดา้ นความมีมนุษย์ สัมพันธ์ ความมีวนิ ัย ความรับผิดชอบ ความ เช่ือมั่นในตนเอง ความ สนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามัคคี ความกตญั ญู กตเวที

4.เทคโนโลยีกับ 4.1 อธบิ ายเทคโนโลยี 4.1 ใชเ้ ทคโนโลยกี ับ 7 การตลาด กบั การตลาดได้ การตลาดได้ 4.1 แสดงพฤติกรรม ลกั ษณะนสิ ยั รอบรู้ 5. จรรยาบรรณนกั การ 5.1 บอกถึงจรรยาบรรณ 5.1 ปฏบิ ัติตาม รอบคอบ ซื่อสัตย์สจุ รติ ขยัน อดทน แบ่งปัน ตลาด นักการตลาดได้ จรรยาบรรณนกั การ และคามเป็น ประชาธปิ ไตย และ ตลาดได้ หา่ งไกลยาเสพตดิ 5.1 แสดงพฤติกรรม ลักษณะนสิ ัยรอบรู้ รอบคอบ ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ขยนั อดทน แบ่งปัน และคามเป็น ประชาธิปไตย และ หา่ งไกลยาเสพตดิ

8 พฤตกิ รรม ตารางวเิ คราะห์หลักสูตร วชิ าหลักการตลาด รหสั วิชา 30200 – 1002 หนว่ ยกิต 2-2-3 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 วิทยาลัยเทคโนโลยีอดุ มศึกษาพณชิ ยการ พุทธิพสิ ยั (40%) หนว่ ยการเรียนรู้ ความรู้ ความเ ้ขาใจ 1. ความร้พู ้นื ฐานด้านการตลาด นาไปใ ้ช แนวความคิดและหน้าที่ทางการ ิวเคราะ ์ห ตลาด ัสงเคราะห์ 2. ตลาดและพฤติกรรมผบู้ รโิ ภค ประเ ิมนค่า 3. ส่วนประสมทางการตลาด ทักษะ ิพ ัสย (40%) 4. เทคโนโลยกี ับการตลาด ิจตพิ ัสย (20%) 5. จรรยาบรรณนักการตลาด รวม ลา ัดบความสาคัญ สอบปลายภาค จานวน ่ัชวโมง รวม 541- - - 8 4 22 3 16 ลาดับความสาคญั 442 3- - 8 5 26 2 16 22- -- 2-3 -- - 10 5 19 4 16 211 -- --- -- 4 10 4 23 1 12 15 11 7 3- - 4 2 10 8 123 5- - - - - -4 4 40 20 100 - 72 4- - - - -

9 วทิ ยาลยั เทคโนโลยอี ดุ มศึกษาพาณชิ ย์การ ปรัชญา ปลูกฝังจริยธรรม เลศิ ลา้ วชิ าการ ชานาญทกั ษะ 1. รหัสและช่ือวชิ ำ แนวกำรสอน 3. สภำพรำยวชิ ำ 30200 – 1003 4. ระดับรำยวชิ ำ หมวดวชิ าชีพ วชิ าชีพสาขาวชิ า การตลาด 5. เวลำศึกษำ ปวส.พ.1 ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2563 เรียนทฤษฎี 2 และปฏิบตั ิ 2 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ ระยะเวลา 18 สัปดาห์ 6. หน่วยกติ รวมท้งั สิ้น 72 ชวั่ โมง ตลอดภาคการเรียน และควรมีเวลาศึกษานอกเวลา 7. คำอธิบำยรำยวชิ ำ เรียนอีก 1 ชว่ั โมงต่อสัปดาห์ 3 หน่วยกิต ศึกษาเก่ียวกบั ความรู้พ้ืนฐานการตลาด แนวความคิดทางการตลาด หนา้ ที่ทางการตลาด การ วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มทางการตลาด พฤติกรรมผบู้ ริโภคและกระบวนการตดั สินใจซ้ือ การแบง่ ส่วนตลาด ตลาดเป้าหมาย ผลิตภณั ฑ์และการกาหนดตาแหน่งผลิตภณั ฑ์ การกาหนดราคา การจดั จาหน่าย และ การส่งเสริมการตลาด เทคโนโลยที างการตลาด และจรรยาบรรณนกั การตลาด 8. จุดประสงค์รำยวชิ ำ 8.1 ดา้ นพุทธพสิ ัย 1. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจเก่ียวกบั ความรู้พ้นื ฐานการตลาด 2. เพื่อใหม้ ีทกั ษะในการกาหนดส่วนประสมการตลาด 3. เพอ่ื ใหม้ ีเจตคติและกิจนิสยั ที่ดีในการดาเนินงานการตลาด 8.2 ดา้ นทกั ษะพสิ ัย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั พ้นื ฐานการตลาด 2. วเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มทางการตลาดและพฤติกรรมผบู้ ริโภคตามสถานการณ์ 3. กาหนดส่วนประสมการตลาดตามหลกั การ 4. แสดงเจตคติและกิจนิสัยท่ีดีในการดาเนินงานการตลาด

10 8.3 ดา้ นจิตพสิ ัย 1. แสดงออกถึง ควำมรับผดิ ชอบ โดยเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนตรงเวลา เตม็ เวลา และครบถว้ น 2. แสดงออกถึง คุณลกั ษณะของนกั ศึกษาที่ดี โดยแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ถูกตอ้ งตามระเบียบขอ้ บงั คบั และธรรมเนียมปฏิบตั ิวา่ ดว้ ยการแต่งกาย 3. แสดงออกถึง ความมีวนิ ยั ในตนเอง โดยปฏิบตั ิงานที่ไดร้ ับมอบหมายดว้ ย ความประณีตเรียบร้อย สมบูรณ์และแลว้ เสร็จภายในเวลาท่ีกาหนด 4. แสดงออกถึง ความกระฉบั กระเฉงในการเรียน โดยมีส่วนร่วมในกิจกรรม การเรียนการสอน และศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง 9. กำรแบ่งเนื้อหำ แบ่งเป็ นออกเป็ น 4 หน่วยกำรเรียนรู้ 1. ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด แนวความคิดและหนา้ ท่ีทางการตลาด 2. ตลาดและพฤติกรรมผบู้ ริโภค 3. ส่วนผสมทางการตลาด 4. เทคโนโลยกี บั การตลาด 5. จรรยาบรรณนกั การตลาด 10. กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน 1. การทาแบบฝึกหดั การปฏิบตั ิกิจกรรม ตอบคาถาม การสาธิต การทดสอบ 2. กิจกรรมฝึกทกั ษะ การจดั กิจกรรมสัมมนา การนาเสนองาน 11. ส่ือกำรเรียนกำรสอน 1. หนงั สือเรียนวชิ า หลกั การตลาด อาจารย์ สิฏฐากร ชูทรัพย์ / ประอรรัตน์ กีรติผจญ 2. สื่อและสิ่งพิมพป์ ระเภทต่างๆ เช่น นิตยสาร หนงั สือพิมพฐ์ านเศรษฐกิจ หนงั สือพิมพผ์ ูจ้ ดั การ ฯลฯ 3. Internet, E-learning 12. กำรวดั ผลและกำรประเมนิ ผล แบง่ การประเมินผลไดด้ งั น้ี คะแนนระหวา่ งเรียน ร้อยละ 70 ทดสอบทฤษฎีคร้ังท่ี 1 ร้อยละ 10 ทดสอบทฤษฏีคร้ังท่ี 2 ร้อยละ 10 ทดสอบปฏิบตั ิคร้ังท่ี 1 ร้อยละ 10 ทดสอบปฏิบตั ิคร้ังท่ี 2 ร้อยละ 10 ผลงาน (เขียนแผนการตลาด) ร้อยละ 20 จิตพิสัย ร้อยละ 10

11 คะแนนขอ้ เขียนการทดสอบปลายภาค ร้อยละ 30 เกณฑผ์ า่ นรายวชิ า 60 % - การทางานที่มอบหมาย คะแนน ไม่ต่ากวา่ 80 % - เวลาเรียนไม่ต่ากวา่ 60 % - มีผลคะแนนท่ีทาไดท้ ้งั หมดตอ้ งไมต่ ่ากวา่ คะแนน หมำยถึง ค่ำระดับคะแนน 80-100 ดีเยย่ี ม 4.0 75 – 79 ดีมาก 3.5 70 – 74 ดี 3.0 65 – 69 ดีพอใช้ 2.5 60 -64 พอใช้ 2.0 55 – 59 อ่อน 1.5 50 -54 ออ่ นมาก 1.0 0 - 49 ตก 0.0 13. เอกสำรประกอบกำรเรียน หนงั สือเรียนวชิ า หลกั การตลาด อาจารย์ สิฏฐากร ชูทรัพย์ / ประอรรัตน์ กีรติผจญ - หนงั สือพิมพ์ - บทความ - ใบงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้ม่งุ เน้นสมรรถนะ 12 ช่ือวิชา หลักการตลาด หนว่ ยที่ 1 สอนครั้งที่ 1-4 ช่อื หน่วย ความรพู้ ้นื ฐานด้านการตลาด แนวความคดิ ชวั่ โมงรวม 16 และหน้าท่ีทางการตลาด 1. สาระสาคัญ ในยคุ ที่การดาเนนิ ธุรกิจการค้าในโลกปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างรนุ แรง โลกแห่งธรุ กจิ มีความแคบ ทุกที การดาเนินการค้า และการลงทุนมีเสรีและเปิดกว้างมากข้ึนประกอบกับกระแสโลกาภิวัตน์ การเข้ามามี บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่าย ทาให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาการค้าให้ ทันกับการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนตลอดเวลา โดยพยายามดาเนินกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับ ความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด บทบาทของการตลาดจึงทวีความสาคัญ สาหรับธุรกิจหรือ ผู้ประกอบการมากย่ิงข้ึน เน่ืองจากการตลาดเป็นตัวเชื่อม การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กรให้เกิด ประสิทธภิ าพสงู สุดที่จะกอ่ ใหเ้ กิดการตอบสนองความพึงพอใจสูงสดุ ให้กบั ผ้บู รโิ ภคนน่ั เอง 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. อธิบายความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาดได้ 2. อธบิ ายแนวความคดิ ทางการตลาดและหนา้ ทที่ างการตลาดได้ 3. แสดงพฤติกรรมลกั ษณะนสิ ยั รอบรู้ รอบคอบ ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ขยนั อดทน แบ่งปนั และ ความเป็นประชาธปิ ไตยและห่างไกลยาเสพติด 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้นักศกึ ษาสามารถ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความร้พู น้ื ฐานดา้ นการตลาดได้ 2. บอกถึงแนวความคิดทางการตลาดและหนา้ ทท่ี างการตลาดได้ ด้านทกั ษะ 1. เขยี นความรู้พืน้ ฐานด้านการตลาด แนวความคิดทางการตลาดและหน้าท่ที างการตลาดได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 1. เขา้ ชัน้ เรยี นตรงเวลา 2. แสวงหาความรู้ทงั้ ทางตรงและทางอ้อม 3. แก้ปญั หาและพัฒนาส่ิงใหมๆ่ จนบรรลผุ ลสาเรจ็ 4. ใชว้ สั ดุถูกต้องพอเพยี งและเหมาะสมกบั งาน 5. ปฏิบตั ิงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายเสร็จตามกาหนดโดยคานงึ ถึงความปลอดภัยของตนเอง และ ผู้อนื่

13 4. สาระการเรียนรู้ ความหมายของคาว่าตลาดและการตลาด ตลาด หมายถงึ สถานท่ีตลาดสนิ ค้า เกษตรกร ตลาดสินคา้ วยั รุน่ ตลาดค้าส่ง ตลาดค้าปลีก การตลาด หมายถงึ การดาเนินกิจกรรมทางธรุ กิจที่ได้จัดนาสินคา้ หรือบริการให้มีการ เคลือ่ นย้ายจากผผู้ ลิตไปยงั ผู้บรโิ ภคคนสดุ ท้าย ววิ ัฒนาการทางการตลาด การตลาดเกดิ ขน้ึ จากการที่มนุษยเ์ ริม่ รจู้ กั สือ่ กลางการแลกเปลยี่ น โดยแบ่งเป็นยคุ ได้ดังน้ี 1. ยุคหิน Stone Age ยคุ น้มี นุษยด์ ารงชีวติ ด้วยการลา่ สัตว์ อาศยั ตามถา้ เครอื่ งนุ่งหม่ จะใช้ใบไม้ ใบ หญ้า 2. ยคุ เลี้ยงสตั ว์ เป็นยุคท่ีมนุษย์เรม่ิ ร้จู ักการเล้ยี งสตั ว์แทนการล่า เพราะมนษุ ยม์ จี านวนเพ่ิมมากขน้ึ แต่ขาดแคลนสตั ว์ท่ีจะล่า จึงหนั มาเล้ยี งสตั วเ์ พอื่ บริโภคแทนการลา่ 3. ยุคเกษตรกรรม เป็นยุคทม่ี นุษยเ์ ร่ิมอาศัยอยู่เปน็ ทเ่ี ปน็ ทาง มีการรวมตัวเปน็ สงั คม ขณะเดยี วกัน รู้จกั การนาเอาโลหะมาใช้ทาจอบทาเสยี มเพ่ือใช้ในทางเกษตร ความสาคญั ทางการตลาด 1.มบี ทบาทต่อสังคม ประกอบดว้ ย 1.1 เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ 1.2 เกิดอาชีพต่าง ๆ 1.3 เพ่ิมมาตรฐานการครองชีพของประชากรให้สงู ขน้ึ 2. มบี ทบาทต่อระบบเศรษฐกิจ ประกอบดว้ ย 2.1 ทาให้ประชาชนมงี านทาและมีรายได้มากข้นึ 2.2 ทาใหป้ จั จัยการผลติ มกี ารหมุนเวยี น 2.3 ก่อให้เกดิ สภาพเงนิ เฟอ้ และเงนิ เฟ้อ 2.4 การแข่งขันทางการตลาดอาจทาให้ต้นทุนในสนิ ค้าและบรกิ ารสูงขนึ้ ลักษณะแนวคดิ ทางการตลาด มี 5 ประเภท 1. ความคดิ เก่ียวกับการผลิต 2 .ความคดิ เกย่ี วกับผลติ ภณั ฑ์ 3 .ความคดิ มุง่ การขาย 4 .ความคิดมุง่ การตลาด 5. ความคิดมุง่ การตลาดและสังคม แนวคดิ ทางการตลาดแบบเก่า หลังจากมีการปฏวิ ตั ิอุตสาหกรรมใหม่ๆ จานวนผผู้ ลติ ยงั มนี อ้ ยกว่าผบู้ ริโภคหรอื มีผู้บริโภคจานวน มากกว่าการผลิต ดงั น้ันสนิ ค้าท่ผี ลิตออกมาจึงขายไดห้ มด ลกั ษณะการตลาดแบบเก่าถูกกาหนดโดยผู้ผลิต คอื ไม่วา่ จะเปน็ คุณภาพสนิ ค้า ราคา รูปแบบ และปริมาณการผลิต ผู้ผลติ เปน็ ผู้กาหนดทัง้ ส้ิน แนวคิดทางการตลาดแบบใหม่ เมอ่ื ผผู้ ลิตมากขึ้นก็ทาให้สนิ ค้ามีมากเกนิ ความต้องการของผ้บู ริโภค (ผู้บรโิ ภคเป็นฝ่ายได้เปรยี บ) ยอดขายท่วั ไปตกตา่ นกั การตลาดจึงหันความสนใจไปผลติ สินคา้ ใหม้ ีความแตกต่างกันมากขึน้ ทาให้ผบู้ ริโภคมี

14 ทางเลือกมากขึ้น ดังนนั่ ผผู้ ลิตจงึ หนั มาสนใจกลุ่มผ้บู รโิ ภคมากข้ึน คือก่อนท่จี ะผลิตสินค้าออกสู่ตลาดจะต้อง ศึกษาตลาด สภาพแวดลอ้ มของตลาดก่อนการผลติ จริง โดยเฉพาะสินคา้ หรอื บริการจะตอ้ งตรงกบั ความ ตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภคเป็นสาคัญจงึ จะทาให้ขายไดห้ รอื ถอื ครองตลาดได้นาน กจิ กรรมและหน้าที่ทางการตลาด หน้าท่เี ปล่ียนแปลงความเป็นเจา้ ของและผลิตภัณฑ์ สินค้าจะเปลี่ยนมือหรอื แลกเปลยี่ นความเป็นเจ้าของไดน้ ั้นจะตอ้ งมกี ารซอื้ ขายแลกเปล่ียนเกดิ ข้ึน การซือ้ จะเกิดขน้ึ ไดต้ ่อเมื่อผูซ้ ื้อถกู ใจในสินคา้ หรือบรกิ ารของผูข้ าย สรปุ ได้ดังน้ี 1. การซอ้ื หนา้ ทกี่ ารซื้อประกอบดว้ ย 1.1 การพยากรณย์ อดขาย ในการซอ้ื สนิ ค้าหรือวตั ถุดบิ เข้าร้านคา้ ต้องนาข้อมูลท้งั หมดมาคาดการณ์ วา่ ควรจะเลือกซ้ือสนิ คา้ หรือบรกิ ารอะไร 1.2 เลอื กแหลง่ ซื้อ ผซู้ อ้ื จาเปน็ อยา่ งยิ่งท่ตี ้องมีความรูใ้ นสินค้าหรือวัตถดุ ิบทีจ่ ะซ้ือน้ัน 1.3 พิจารณาความเหมาะสมในการซ้ือ เปน็ การตรวจสอบสินค้าทผ่ี ้ขู ายเสนอขายว่ามีความ เหมาะสมตรงกบั ความต้องการซื้อหรอื ไม่ 1.4 ตกลงในการโอนกรรมสิทธ์ิ ผู้ซ้อื จะต้องพจิ ารณาในข้อตกลงท่ีไดป้ ระโยชน์มากทสี่ ดุ 2. การขาย เปน็ กิจกรรมท่สี าคญั อย่างหนง่ึ ท่ที าให้สนิ คา้ หรอื บรกิ ารและการเงินมีการหมนุ เวียนเปลยี่ น มือกันไปการขายประกอบดว้ ย 2.1 การสรา้ งความต้องการในการซ้อื ผขู้ ายจะต้องสร้างแรงจงู ใจในการซ้ือให้ไดเ้ สียก่อน 2.2 การแสวงหาผซู้ ื้อ ผ้ขู ายอาจจะมวี ธิ ีหาผ้ซู ้อื โดยคาดลูกค้าเป้าหมายเอาไว้ว่าลูกค้าเปา้ หมายของ ตนน้ันจะต้องมลี ักษณะเชน่ ใด 2.3 ตกลงเงอื่ นไขในการโอนกรรมสิทธ์ิ 2.4 นโยบายของบรษิ ัท เป็นส่วนสาคญั ในการดาเนนิ งานของธุรกิจนโยบายของธุรกจิ มกั มีความ สอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผู้บริโภคอยู่ 3. การวางแผนและพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ ระบบการตลาดปจั จุบนั มีการแข่งขนั กันมากขน้ึ ผู้บริหารจะต้องมี การวางแผนในการเลอื กกลยุทธ์ทางการตลาดวา่ จะทาอย่างไรถึงจะแย่งสว่ นแบง่ ทางการตลาดมาให้ไดม้ าก ท่สี ดุ 4.การจัดมาตรฐานและการแบ่งเกรดสนิ คา้ สว่ นสาคัญคือ สรา้ งความสะดวกสบาย หรือความ ประหยดั เวลาในการซ้ือของผู้บริโภคไดม้ าก หน้าทีเ่ ก่ียวกับการจดั จาหนา่ ยและการกกระจายสนิ คา้ หนา้ ท่กี ารจัดจาหน่ายและการกกระจายสนิ ค้าขอแยกอธบิ ายเป็นขอ้ ๆ ดังน้ี 1. การขนสง่ ควรพิจารณาตามความเหมาะสมของสนิ คา้ แตล่ ะประเภท แต่ละชนิดวา่ ควรใช้ ระบบ การขนสง่ ดว้ ยวธิ ใี ดจงึ จะรวดเรว็ ประหยดั เหมาะสมกบั สถานที่ทจี่ ะขนส่งไปดว้ ย 2. สถาบนั พ่อค้าคนกลาง คือการเลือกพอ่ คา้ คนกลาง และตวั แทนคนกลาง เป็นการเปล่ยี นมือใน สนิ ค้าหรอื บริการจากผผู้ ลติ ไปสผู่ บู้ รโิ ภค ดังนั้นผบู้ รหิ ารจงึ ควรเลอื กพ่อค้าคนกลางหรอื ช่องทางการจดั จาหนา่ ยใดท่ีใหบ้ ริการส่งสนิ ค้าถึงมือผบู้ ริโภคอยา่ งรวดเรว็ 3. การเกบ็ รักษาสนิ ค้า ชว่ ยให้สนิ คา้ นนั้ มคี ุณคา่ หรือมีคุณภาพมากย่ิงขึน้ หรอื มรี าคา จะตอ้ งเก็บไว้ให้ เหมาะสมกับปรมิ าณการผลิตหรอื การจัดจาหน่ายด้วยจงึ จะทาใหต้ น้ ทนุ ต่าลง หนา้ ทอี่ านวยความสะดวก และช่วยสนับสนุนทางการตลาด

15 1. การสนับสนุนทางการเงิน ในการดาเนินงานธรุ กิจนัน้ การเงนิ เป็นปจั จัยทสี่ าคัญมาก คอื เรม่ิ ดาเนินงาน ธุรกิจย่อมมรี ายจ่ายเกิดขึ้นทัง้ สน้ิ ดังนั้นผู้บริหารการตลาดจงึ จาเป็นอยา่ งย่ิงตอ้ งมีความชานาญในการจดั การ ทางการเงนิ วา่ จะลงทุนในทรัพย์สนิ ถาวรเทา่ ใด 2. หน้าทก่ี ารเสี่ยงภัย ในการดาเนินงานทางธรุ กจิ ปจั จุบนั มีความซับซ้อนมากข้ึน ไมว่ า่ จะเป็นการ คาดคะเนปริมาณการผลติ สามารถแบง่ ลักษณะภัยได้ 4 ทาง 3. ข่าวสารทางการตลาด 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน สอนครงั้ ท่ี 1-3 (ชั่วโมงท่ี 1- 12 ) 1. ช้แี จงรายละเอียดเกีย่ วกับหน่วยการเรยี นรูท้ ัง้ หมด การวัดและประเมินผลการเรยี น การบูรณา การค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ และข้อตกลงในการใช้หอ้ งเรยี น 2. ให้นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยท่ี 1 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การนาเข้าสู่บทเรียน 4. นาสนทนาและให้นักศกึ ษาดูภาพ เพ่ือ ให้นักศึกษาสงั เกตสิง่ ตา่ ง ๆ ในภาพพร้อมตอบคาถาม เพอื่ ทบทวนความรูเ้ ดมิ และนาเข้าส่บู ทเรียนเรือ่ ง ความเปน็ มาของความร้พู ื้นฐานดา้ นการตลาด แนวความคิดและ หน้าทที่ างการตลาด การเรยี นรู้ กลยทุ ธ์ (ใชว้ ิธีการสอนแบบบรรยาย) สัปดาห์ท่ี 1-16 1.ข้นั นา - ครูเร่ิมสอนโดยการยกตัวอย่าง ความเปน็ มาของความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาด แนวความคดิ และหนา้ ท่ีทางการตลาด ใหน้ ักศึกษาดูเปน็ ตวั อยา่ ง ครูและนักศึกษารว่ มกนั สนทนาถึง ความเปน็ มาของอาชีพ นักการตลาด เพอื่ นาเขา้ สูบ่ ทเรียนในหน่วยที่ 1 2.ขน้ั สอน - ครูเริ่มสอนและบรรยายเน้ือหาตามจุดประสงค์ในหน่วยท่ี 1 โดยครูผู้สอนสื่ออธิบายเนื้อหา ความรู้ประกอบไปดว้ ย ความเป็นมาของความร้พู ื้นฐานด้านการตลาด โดยครใู ชว้ ิธีการสอนแบบบรรยายถาม – ตอบ เพ่ือกระตุ้นให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเรียนและเพื่อพัฒนานักศึกษาให้กล้าแสดงออกที่จะตอบ คาถาม และโต้ตอบกับครูผู้สอนเพ่ือให้บรรยากาศในการเรียนเป็นไปอย่างราบรื่นและสร้างความเป็นกันเอง ระหว่างครูผสู้ อนกบั นกั ศึกษา 3. ขนั้ สรุป - ครูสรุปเน้ือหาที่สอนให้นักศึกษาฟังอีกคร้ังโดยให้นักศึกษาจดเน้ือหาท่ีสาคัญลงในสมุดบันทึก และเพื่อทดสอบความเข้าใจของนักศึกษาแต่ละคน ครูใช้วิธีการสุ่มเรียกถาม – ตอบเพื่อทดสอบ

16 ความรู้ที่นักศึกษาแต่ละคนได้รับ จะได้เป็นแนวทางในการพัฒนานักศึกษาท่ียังไม่เข้าใจ ครูจะได้ อธิบายให้ฟังอีกครง้ั หน่ึง สอนครั้งท่ี 4 (ชัว่ โมงท่ี 13-16 ) การเรยี นรู้ 1. แบ่งกลมุ่ นกั ศึกษากลมุ่ ละ 5 คนให้หมายเลขสมาชิกคนท่ี 1-5 แลว้ ศกึ ษาใบกิจกรรมท่ี 1.1 2. ครอู ธิบายขน้ั ตอนการทากจิ กรรมที่ 1.1 แลว้ ให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบกจิ กรรม 1.1 3. นักศึกษาร่วมกันสรุป ความสาคัญของบททาบและหน้าท่ีการตลาด ตามภาพตัวอย่างตามใบ กจิ กรรมท่ี 1.1 (หลกั ฐานการเรยี นรู้: การประเมินผลการจัดแสดงสินค้า ของกิจกรรมท่ี 1.1) 4. ครูสรปุ ความสาคญั ของบทบาทและหนา้ ทกี่ ารตลาด 5. ครูให้ความรู้เรอ่ื ง บทบาทและหน้าทกี่ ารตลาด โดยฉายสไลดป์ ระกอบรว่ มกับการซกั ถาม 6. แบ่งกลุ่มผู้เรียนกลุ่มละ 2-3 คน เพ่ือทากิจกรรมท่ี 1.2-1.4 ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรม และ ซักถามเพ่ือความเข้าใจในข้ันตอนการทากิจกรรม ขณะท่ีนักศึกษาทากิจกรรม ครูคอย สังเกตการณ์แก้ปัญหาฯ และปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายเสร็จตามกาหนดฯ พร้อมท้ังให้ คาแนะนาในการปฏิบตั งิ าน 7. ให้นักศึกษารวบรวมงานส่งกลุ่มละ 1 ชุด ครูเฉลยพร้อมท้ังให้แก้ไขข้อบกพร่อง จากน้ันให้ นกั ศกึ ษาทาส่งเปน็ รายบุคคล การสรปุ 8. ครูและนกั ศึกษารว่ มกนั สรุปบทเรยี น การบรู ณาการกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ความมีเหตผุ ล -นกั ศกึ ษามีความร้ใู นเรือ่ งความหมายและความสาคัญของการตลาด แนวความคิดทางการตลาด และการบริหารการตลาด บทบาทและหนา้ ที่การตลาด ส่ิงแวดลอ้ มทางการตลาด และสามารถ สามารถนาไปใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม ความพอประมาณ - นักศึกษาสามารถปฏิบตั กิ ิจกรรมในการเรยี นการสอนตามระยะเวลาทกี่ าหนด และประมาณตน อยู่ ในความเหมาะสม การมภี ูมคิ ้มุ กันในตัวที่ดี -นักศึกษารคู้ ุณคา่ และประโยชนใ์ นเรือ่ ง ความร้พู ้ืนฐานด้านการตลาด แนวความคดิ และหน้า ทที่ างการตลาด ครูมีแผนการสอนและสือ่ การสอนอยา่ งเป็นระบบ ทาให้การเรียนการสอน ราบรื่น

17 เงือ่ นไขความรู้ 1. นักศึกษาอธบิ ายความหมายและความสาคัญของการตลาดได้อยา่ งถูกต้อง 2. นักศึกษาสามารถบอกแนวความคิดทางการตลาดและการบรหิ ารการตลาดไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. นักศกึ ษาจาแนกและอธบิ ายบทบาทและหนา้ ทก่ี ารตลาดได้อย่างถูกต้อง 4. นกั ศึกษาอธิบายและจาแนกสงิ่ แวดล้อมทางการตลาดไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เง่อื นไขคุณธรรม - นกั ศึกษามวี ินยั ความสนใจใฝ่รู้ - นักศกึ ษามีความรักสามัคคี ความซ่ือสตั ย์ - นักศึกษาหา่ งไกลยาเสพติด การบูรณาการกับมาตรฐานสถานศกึ ษา 1. ด้านประชาธปิ ไตย - นกั ศกึ ษาสามารถแสดงความคดิ เห็น ได้อย่างอสิ ระ และมีความเป็นประชาธิปไตยในการ ฝกึ ปฏบิ ตั งิ าน 2. ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและความเป็นไทย - นกั ศึกษารู้รัก-รกู้ ตัญญู มีวินัย ความสนใจใฝร่ ู้ มมี นษุ ย์สมั พันธ์ อดทนอดกลนั้ ความซ่อื สัตย์สุจรติ มคี วามประหยัด ความรบั ผิดชอบ ห่างไกลยาเสพติดและกล้าแสดงออก 3. ด้านภมู คิ ้มุ กนั ภัยจากยาเสพตดิ - นกั ศึกษามีความรใู้ นเรื่องยาเสพติด ใช้เวลาวา่ งในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย และรู้จกั ฝึกฝน ตนเองให้เป็นพนักงานขายทด่ี ี รู้จกั การออกกาลงั กาย 6. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สื่อส่ิงพิมพ์ 6.1.1 หนังสอื เรยี นวิชา หลกั การตลาด 6.1.2 แบบทดสอบทา้ ยบท 6.1.3 แบบฝกึ หดั ท้ายบท 6.2 สอ่ื โสตทศั น์ - สอ่ื power point วิชา หลักการตลาด -ส่อื อินเตอร์เนต็ 7. หลกั ฐานการเรียนรูท้ ตี่ อ้ งการ 7.1 หลกั ฐานการเรียนรทู้ ่ีต้องการ 1. นกั ศึกษาสามารถแสดงความคดิ เห็นและตอบคาถามได้อยา่ งถูกต้อง 2. นักศึกษาสามารถทางานได้อยา่ งถูกต้อง 3. นกั ศึกษาสามารถนาเสนองานได้อย่างถูกต้อง 4. นักศกึ ษาสามารถทาแบบฝึกหัดได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 7.2 หลักฐานการปฏิบัติงานทีต่ อ้ งการ 7.2.1 แบบทดสอบทา้ ยบท 7.2.2 แบบฝึกหดั ท้ายบท

18 7.2.3 เอกสารงานกลุ่ม 7.2.4 สมดุ จดบนั ทึก 8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวชิ าอืน่ 8.1) วธิ ีการประเมิน 8.1.1 ครสู ังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนเป็นรายบุคคล 8.1.2 ตรวจแบบทดสอบท้ายบท 8.1.3 ตรวจสมดุ การบันทกึ การเรียนรแู้ ละแบบฝึกหดั 8.1.4 แบบประเมนิ รายบุคคลและรายกลุ่ม 8.2) เครื่องมือประเมนิ 8.2.1 แบบทดสอบท้ายบท 8.2.2 สมุดบนั ทกึ การเรียนรู้ 8.2.3 แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 8.1.4 แบบประเมนิ รายบุคคลและรายกลุ่ม การบรู ณาการกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1.ความมีเหตผุ ล - นักศึกษาเขียนรายละเอยี ดอยา่ งย่อในหวั เร่ือง ตามทก่ี าหนด - นักศึกษาเลอื กหัวข้อที่สอดคลอ้ งกับสภาพปัญหาในการทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ - นักศึกษา ศึกษาเอกสารท่ีเกย่ี วข้องสอดคล้องกับเรื่องที่ทา - นกั ศกึ ษาทาแบบฝึกปฏิบตั ิอย่างถูกต้องกับเรื่องท่ีทา 2.ความพอประมาณ - นักศึกษาทาแบบฝึกปฏิบัติเร่ืองความรู้พ้ืนฐานทางการตลาด แนวความคิดและหน้าที่ ทางการตลาด และนาเสนอแบบฝึกปฏบิ ัติด้วยวิธีการที่กาหนด - เลือกใช้เครื่องมือวัดและทาการวัดในการเก็บรวบรวมข้อมูล - เกบ็ รวบรวมข้อมูลและจัดทาข้อมูลอย่างเปน็ ระบบและเหมาะสม - ร่วมกนั ทาการสรุปผลความรู้ - นาเสนอแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 3.การมภี มู คิ มุ้ กันในตวั ที่ดี - นกั ศกึ ษามกี ารเตรียมความพร้อมแก้ปญั หาที่อาจเกิดขึน้ ในการทาแบบฝึกปฏบิ ัติ 4.เง่ือนไขความรู้ - นกั ศกึ ษามคี วามเขา้ ใจท่ถี กู ต้องในเร่ืองของความรพู้ นื้ ฐานทางการตลาด แนวความคดิ และ หนา้ ทที่ างการตลาด 5. เง่อื นไขคุณธรรม - นักศกึ ษามีระเบียบวนิ ยั ใฝห่ าความรู้ และรูจ้ กั ดารงตนโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

19 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง ความเป็นมาของอาชีพนักการตลาด และความสาคัญของบุคลิกภาพ กบั อาชพี นักการตลาด 9.2 ระหว่างเรียน ใบงานจาก แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จากหนังสอื เรยี นการจัดการแสดงสนิ ค้า หน่วยที่ 1 และ2 หนงั สอื เรยี นการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพนกั การตลาด เรยี บเรียงโดย สภุ าพร หลักหาญ 9.3 หลงั เรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง ความเปน็ มาของอาชีพนกั การตลาด และความสาคญั ของ บุคลกิ ภาพกบั อาชีพนกั การตลาด - แบบทดสอบ ย่อยคร้งั ที่ 1 ความเป็นมาของอาชพี นกั การตลาด และความสาคญั ของ บคุ ลิกภาพกบั อาชีพนกั การตลาด - แบบ สังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม ลกั ษณะนสิ ยั รอบรู้ – รอบคอบ ซ่อื สตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน แบ่งปนั และความเป็นประชาธปิ ไตย เกณฑ์การประเมนิ นกั ศึกษาผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 70% ขนึ้ ไป วัดผลสมั ฤทธจิ์ ากแบบประเมินผลการเรียนรู้ ร้อยละ 80 – 100 หมายถึง ผลการเรยี นดมี าก รอ้ ยละ 70 – 79 หมายถึง ผลการเรยี นดี ต่าว่าร้อยละ 70 หมายถึง ผลการเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์

20 ทดสอบยอ่ ยครงั้ ท่ี 1 การตลาดและความสาคัญของตลาด 10 คะแนน จงทาเครื่องหมายกากบาท (×) ลงหน้าข้อทถ่ี กู ตอ้ ง 1. การขายหมายถงึ ตัวเลอื กใด 6. กิจการใดที่ใหอ้ รรถประโยชน์ดา้ นราคากบั ลกู คา้ มาก ก. กิจกรรมในการแลกเปลย่ี นสนิ คา้ ระหวา่ งผผู้ ลติ ท่สี ุด กบั ผู้ซื้อ ก. ซเู ปอร์สโต เช่น แมคโคร ข. การพบปะระหวา่ งผซู้ อื้ กับผูข้ าย ข. รา้ นสะดวกซอ้ื เชน่ เซเวน่ อเี ลฟเวน่ ค. กิจกรรมทางการตลาด ค. ตลาดสดท่ัวไป ง. การตลาด ง. หา้ งสรรพสนิ คา้ 2. การตลาดกับการขายแตกตา่ งกนั อยา่ งไร 7. ตลาดกอ่ ใหเ้ กิดการจ้างงาน เปน็ ความสาคญั ของตลาดตอ่ ก. การตลาดเปน็ สว่ นหน่ึงของการขาย หน่วยใดมากทสี่ ดุ ข. การขายส่วนหนง่ึ ของการตลาด ก. องค์กรธรุ กจิ ค. การตลาดมงุ่ กาไรระยะยาว การขายมุ่งกาไรระยะ ข. ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศชาติ สนั้ ค. ผู้บรโิ ภค ง. การตลาดม่งุ เปน็ พนกั งานขาย การขายมุง่ ทล่ี ูกค้า ง. องค์การทไี่ ม่แสวงหาผลกาไร 3. การตลาดหมายถงึ อะไร 8. การตลาดทาให้มคี ณุ ภาพการดารงชีวิตทด่ี ขี ึ้นเปน็ ก. สถานทีซ่ ือ้ ขายสินคา้ ความสาคญั ของการตลาดตอ่ หน่วยงานใดมากท่ีสดุ ข. กลุ่มผ้ซู ้ือสินคา้ ทง้ั หมด ก. องคก์ รธุรกิจ ค. กระบวนการวางแผนและดาเนนิ การตาม ข. ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศชาติ แนวความคดิ การกาหนดราคา การจดั จาหน่าย ค. ผบู้ ริโภค และการส่งเสรมิ การตลาด ความคิด สินคา้ และ ง. องคก์ ารที่ไมแ่ สวงหาผลกาไร บริการเพื่อให้เกดิ การและเปลย่ี น ง. กล่มุ ผผู้ ลิตและผ้ขู ายสนิ ค้าท้ังหมด 9. ส่วนประสมทางการตลาด หมายถงึ ตวั เลือกใด ก. ปัจจัยทางการตลาดทธี่ ุรกจิ ควบคมุ ไมไ่ ด้ 4. ความหมายของการตลาด (Marketing) ในแงข่ อง ข. ผลิตภณั ฑ์ ราคา การจดั จาหน่าย การสง่ เสริม สังคมตรงกบั ตัวเลอื กใด การตลาด ก. การแลกเปลยี่ นสงิ่ ท่มี คี ณุ คา่ ตอ่ กนั ค. ตลาดเป้าหมาย ข. กจิ กรรมหน่ึงของการดาเนนิ ธุรกิจ ง. ตลาดคนกลาง ค. กจิ กรรมทกุ อยา่ งของธุรกจิ ง. ความอยดู่ กี ินดขี องประชาชนทวั่ ไป 10. ผลติ ภณั ฑ์โดยปกติ ไม่ รวมถงึ ตวั เลือกใด ก. การออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ 5. ร้านสะดวกซอ้ื กอ่ ให้เกดิ อรรถประโยชนใ์ ดแกผ่ ู้บโิ ภค ข. รูปแบบของผลติ ภณั ฑ์ มากทีส่ ดุ ค. สือ่ โฆษณาท่ใี ช้ ก. เวลา ง. ตราย่หี ้อ ข. สถานท่ี ค. ราคา ง. การเป็นเจา้ ของ

21 จงเลือกคำมำจำกด้ำนล่ำงมำใส่ให้ถูกต้อง ในเรื่องส่วนประสมทำงกำรตลำด (4 P’s) 1...................................... ส่วนประสมทางการตลาด 2.................................................... ตลาดเป้าหมาย .. - ................................................ - .................................................... - ............................................... - .................................................... - ............................................... - .................................................... - ................................................ - .................................................... .-3................................................................................................. 4...................................... - ชอ่ งทาง (Channels) -.......................................... - -.......................................... ...-................................................................................................ - การกระจายสนิ ค้า (Distribution) - ............................................... - ................................................ - ................................................ - ................................................ - ................................................ - ................................................ คาที่นาไปเตมิ ในชอ่ งสเี่ หลีย่ ม 1. รูปแบบรปู ทรง 2. คุณภาพตราสินค้า 3. ปา้ ยฉลากสญั ลักษณ์ 4. สีสนั บรรจุภณั ฑ์ 5. เง่ือนไขการขาย 6. การใหเ้ ครดติ 7. ขนาด ปริมาณ บริการ 8. การใหส้ ่วนลด 9. การคืนเงิน 10. การเลอื กคนกลาง 11. การรับประกันและการให้บรกิ าร 12. การเกบ็ รักษาและคลังสินคา้ 13. จานวนคนกลาง 14. การโฆษณา 15.การประชาสมั พนั ธ์ 16. การขนสง่ 17. การสง่ เสรมิ การขาย 18. การขายโดยใช้พนกั งาน 19. การตลาด

22 10. บันทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1) ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................. ............................................... .................................................................................................................... 2) ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................. ........................................... ........................................................................................ .................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................ 3) แนวทางการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. ............................................................... ........................................................................................................................................................................ .................... ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................

23 รายการตรวจสอบและอนญุ าตใหใ้ ช้ ควรอนญุ าตใหใ้ ช้ในการสอนได้ ควรปรับปรงุ เก่ยี วกับ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................. ....................................................................................................... ......... ลงช่ือ............................................................. (นางสาวพรนภสั ส์ ชนะสทิ ธ)ิ์ หวั หน้าหมวดการตลาด 18 พฤศจิกายน 2563 เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ ควรปรับปรงุ ดงั เสนอ อืน่ ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .................................................................................. .......... ลงช่ือ.......................................................... (นายสมภพ จนั ทราช ) หวั หน้าฝา่ ยวิชาการ 18 พฤศจิกายน 2563 อนุญาตให้ใช้ในการสอนได้ อ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .................................................................................... ........ ลงช่อื ............................................................. (นางกมรา สะเตโช) ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั เทคโนโลยีอุดมศึกษาพณิชยการ 18 พฤศจิกายน 2563

24 แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 2 ชอ่ื วิชา หลักการตลาด สอนคร้ังท่ี 5-8 ช่อื หน่วย ตลาดและพฤติกรรมผูบ้ รโิ ภค ชว่ั โมงรวม 16 1. สาระสาคญั ตลาด หมายถึง สถานที่ ที่ผู้ซื้อ ผู้ขายนัดพบเจอกันทาการแลกเปล่ียนสินค้าซึ่งกันและกัน ผู้บริโภค แต่ละคนจะมีชวี ิตอยรู่ ่วมกันเป็นครอบครวั และครอบครวั เป็นส่วนหนง่ึ ของสงั คม ซ่ึงแตล่ ะสังคมประกอบด้วย กลุ่มคนหลายกลุ่มที่จะมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ดังน้ันเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษากลุ่มผู้บริโภคดังกล่าวใน ตลาด จึงจาเป็นต้องแบ่งส่วนตลาดออกมาศึกษาในแต่ละส่วนของตลาดให้ทราบแน่ชัดคือการแบ่งส่วนตลาด ตามภูมิศาสตร์ ตามจิตวิทยา ตามพฤติกรรม ตามหลักประชากรศาสตร์ พฤติกรรมผู้บริโภคคือ กระบวนการ ตัดสินใจซื้อหรือใช้สนิ ค้าของผ้บู ริโภคซึ่งมีปัจจัยหลายประการท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค กระบวนการ ตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่ของผู้บริโภคก็มีหลายขั้นตอน นักการตลาดต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการ ตัดสินใจซ้ือของผู้บริโภคเพ่ือจะได้นามาวางแผนการตลาดให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่าง เหมาะสม 2. สมรรถนะประจาหน่วย 1.อธิบายตลาดและพฤติกรรมผู้บรโิ ภคได้ 2. แสดงพฤติกรรมลกั ษณะนิสยั รอบรู้ รอบคอบ ซ่อื สตั ย์สุจริต ขยัน อดทน แบง่ ปนั และความเป็น ประชาธปิ ไตยและห่างไกลยาเสพติด 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้นักศึกษาสามารถ ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคได้ 2. วเิ คราะหต์ ลาดและพฤตกิ รรมผู้บริโภคได้ ด้านทกั ษะ 1. เขียนลักษณะตลาดและพฤติกรรมผูบ้ ริโภคได้ ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. เข้าช้ันเรียนตรงเวลา 2. แสวงหาความรทู้ งั้ ทางตรงและทางอ้อม 3. แกป้ ญั หาและพฒั นาสิ่งใหม่ ๆ จนบรรลุผลสาเร็จ 4. ใชว้ สั ดถุ ูกตอ้ งพอเพยี งและเหมาะสมกบั งาน 5. ปฏิบัติงานท่ีได้รับมอบหมายเสรจ็ ตามกาหนดโดยคานึงถึงความปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ืน่

25 4. สาระการเรียนรู้ ตลาด หมายถึง สถานที่ ท่ีผู้ซื้อ ผู้ขายนัดพบเจอกันทาการแลกเปล่ียนสินค้าซึ่งกันและกัน ผู้บริโภค แตล่ ะคนจะมีชวี ิตอย่รู ่วมกนั เป็นครอบครวั และครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ซ่ึงแตล่ ะสงั คมประกอบด้วย กลุ่มคนหลายกลุ่มท่ีจะมีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ดังนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษากลุ่มผู้บริโภคดังกล่าวใน ตลาด จึงจาเป็นต้องแบ่งส่วนตลาดออกมาศึกษาในแต่ละส่วนของตลาดให้ทราบแน่ชัดคือการแบ่งส่วนตลาด ตามภมู ศิ าสตร์ ตามจติ วทิ ยา ตามพฤติกรรม ตามหลักประชากรศาสตร์ หลกั เกณฑ์การแบ่งส่วนตลาด การแบ่งส่วนตลาด การแบ่งส่วนตลาดสามารถแบ่งได้ 4 ลักษณะ ดังน้ี 1. แบง่ ตามตัวแปรผันทางภูมิศาสตร์ คือเป็นการแบ่งตลาดเปน็ อาณาเขตภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ฯลฯ ซึ่งแตล่ ะเขตจะมีความแตกต่างกนั ของผูบ้ ริโภค ในเรือ่ ง เขตภมู ภิ าค เขตเมือง ความ หนาแน่นเขตชมุ ชน และเขตภมู อิ ากาศ 2. แบง่ ตามตัวแปรผันเชงิ ประชากร คอื การแบง่ กลุ่มผ้บู ริโภคไปตาม อายุ เพศ รายได้ การศกึ ษา ศาสนา เช้ือชาติ 3. แบง่ ตามตวั แปรผันทางจิตวทิ ยา คอื การแบ่งผู้บริโภคตามบุคลิกภาพลกั ษณะของผบู้ รโิ ภคแต่ละ บุคคลหรอื แต่ละกลุ่ม ดงั นี้ ชนช้นั สังคม วิธกี ารดาเนินชวี ิต บคุ ลิกภาพ 4. แบง่ ตามตัวแปรผันเชิงพฤติกรรม คือการแบ่งตามการได้รบั ประโยชน์ของลูกค้า โอกาสในการซอื้ สถานภาพในการซื้อ อัตรา การใช้สินค้า ความภกั ดี ดงั นี้ 2.1 ผลประโยชน์ผู้บริโภคสว่ นมากมักจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าทใ่ี ห้ผลตอบแทนโดยตรงกบั ความ ตอ้ งการของเขามากที่สดุ 2.2 โอกาสซ้ือการซื้อสนิ ค้าของผู้บริโภคนน้ั ขึน้ อยกู่ ับสถานการณ์หรอื สภาพแวดลอ้ มของตวั ผู้บรโิ ภค วา่ มีลักษณะเปน็ เชน่ ไร? 2.3 สถานภาพในการดาเนินวิถีชีวติ ของมนุษยน์ ้ันจะมีการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมตา่ งๆไปตาม สถานภาพหรอื เหตุการณ์ที่เกิดขน้ึ ตลอดเวลา 2.4 อตั ราการใช้ คือการแบง่ ส่วนตลาดตามปริมาณการใช้ เชน่ ใช้มาก ใชน้ อ้ ย ใชป้ านกลาง 2.5 ความภกั ดี คือพฤติกรรมการแสดงออกถึงความภกั ดีในตรายีห่ ้อของผลติ ภณั ฑ์ใดผลติ ภณั ฑ์ 2.6 ความพร้อม ผบู้ ริโภคแตล่ ะคนจะมีความพร้อม และการตระหนักในการซื้อใชแ้ ตกตา่ งกัน 2.7 ปัจจัยทางการตลาด แต่ละกจิ การจะมปี ัจจัยทางการตลาดแตกตา่ งกันในด้านราคา คุณภาพ การให้บรกิ ารแก่ผู้บริโภค ลกั ษณะและความสาคญั ของตลาดแตล่ ะประเภท ลกั ษณะของตลาดแต่ละประเภท ลกั ษณะของตลาดทวั่ ๆไปสามารถแบ่งได้ 2 ลักษณะคือ 1. ตลาดผู้บริโภค คอื กลมุ่ ผซู้ ื้อทซี่ ื้อสินคา้ ไปเพื่อใช้เป็นคนสุดท้ายและมไิ ดน้ าไปขายตอ่ หรือนาไป ผลิตตอ่ ซ่ึงมีลักษณะดังน้ี - มีเส้นอปุ สงค์เปน็ เสน้ ตรง

26 - กลุ่มผ้ซู ้ือมจี านวนมาก - ลักษณะของสินคา้ ทซ่ี อื้ ขายมักเป็นสินคา้ ท่ีใหป้ ระโยชนโ์ ดยตรงแก่ผูบ้ ริโภค - การตัดสินใจในการซ้อื ไม่ค่อยจะมีเหตุผลไม่มรี ะเบียบแบบแผนทแี่ นน่ อนบางครัง้ ซื้อไม่ ต้ังใจซอ้ื - โอกาสในการซอ้ื 2. ตลาดธรุ กจิ คือตลาดผู้ผลติ สินค้าหรอื บริการ ใหก้ บั ผใู้ ช้ทางอตุ สาหกรรม หรือตลาดผู้บรโิ ภคก็ ได้ และจะต้องเป็นการขายสินคา้ หรือบริการ ทีม่ ิไดน้ าไปใชเ้ ปน็ คนสดุ ท้ายหรอื ใช้ส่วนตัว 2.1 กลุ่มผู้บรโิ ภคในตลาดธรุ กจิ ประกอบดว้ ย 1) เปน็ ผผู้ ลิตซง่ึ เป็นผู้ซื้อวตั ถดุ ิบหรืออปุ กรณใ์ นการผลิตตา่ งๆเพือ่ นามาใช้ในการผลติ สนิ คา้ 2) เปน็ พ่อคา้ ส่ง ตวั แทนจาหน่ายและพ่อค้าปลีก 3) เป็นเกษตรกร หรืออุตสาหกรรมให้บริการ หรอื กิจการรบั เหมาก่อสร้างหรือหน่วยงาน 2.2 ลักษณะตลาดธรุ กิจหรือตลาดอุตสาหกรรม 1) เปน็ กล่มุ ผซู้ ้อื น้อยรายและขายให้กับผ้ผู ลิตหรือตลาดอตุ สาหกรรม/ตลาดธรุ กิจ 2) ผูซ้ ้อื ตอ้ งการสนิ คา้ หรือกลุ่มวตั ถดุ ิบจานวนมาก จะมกี ารวางแผนก่อนการซ้ือ มักซ้ือ จานวนมากและนานๆ ซื้อครัง้ 3) ผซู้ ื้อมักอยู่กนั เปน็ กลมุ่ 4) มคี วามต้องการในสินคา้ หรือบรกิ ารแบบต่อเนอื่ งกนั 5) เป็นตลาดทมี่ ีความตอ้ งการไม่ยดื หย่นุ เมือ่ เทียบกบั ตลาดผ้บู รโิ ภค คือมคี วามต้องการใน การซอื้ วตั ถดุ ิบหรืออุปกรณ์ในการผลติ ไม่ผันแปรไปตามราคาเหมอื นตลาดผู้บรโิ ภค ตลาดตามสภาพการแขง่ ขัน แบง่ ออกเป็น 4 ลกั ษณะ คือ 1.ตลาดแข่งขนั สมบูรณ์ มีลกั ษณะดังน้ี 1.1 มีผู้ซอื้ และผขู้ ายจานวนมาก 1.2 มสี นิ คา้ หรอื บริการลักษณะคลา้ ยคลงึ กนั 1.3 มีผูซ้ อ้ื และผู้ขายตา่ งกร็ ขู้ า่ วสารข้อมูลในตลาดเปน็ อย่างดี 2.ตลาดกึ่งแข่งขนั กง่ึ ผกู ขาด มีลักษณะดังนี้ 2.1 ผู้ซอ้ื และผู้ขายจานวนมาก 2.2 มีสินคา้ ลกั ษณะแตกต่างกัน 2.3 การกาหนดราคาแตกตา่ งกนั 2.4 ผผู้ ลติ รายใหญจ่ ะเขา้ มาแข่งขันทาได้ยาก 3. ตลาดผู้ขายน้อยราย 3.1 มีจานวนผู้ขายไม่มาก 3.2 มสี ินคา้ เหมือนหรอื แตกต่างกันก็ได้ 3.3 ผขู้ ายรายใหมไ่ มม่ โี อกาสเกดิ ข้ึนไดเ้ ลย 4.ตลาดผกู ขาดโดยสมบูรณ์ 4.1 มีผผู้ ลิต ผู้ขายรายเดียว โดยมากผกู ขาดโดยรัฐบาล 4.2 ลกั ษณะของสินค้าเดน่ กว่าผผู้ ลติ รายอืน่ ๆ 4.3 ผูข้ ายมีอานาจในการกาหนดราคาเอง 4.4 สินค้ามคี วามยืดหยนุ่ น้อย

27 พฤตกิ รรมการซื้อของผู้บรโิ ภคในตลาดแต่ละประเภท แรงจูงใจและมลู เหตกุ ารซ้ือของผบู้ รโิ ภค แรงจงู ใจในการซ้ือของผู้บริโภค การจดั กลมุ่ ผบู้ ริโภคทีเ่ กยี่ วกับแรงจงู ใจของมนุษย์นั้น Maslow นกั จติ วิทยาชาวอเมรกิ ัน ไดล้ าดับขนั้ ความตอ้ งการของมนุษยเ์ อาไว้ 5 ขนั้ ตอนประกอบดว้ ย 1. ความตอ้ งการทางกาย เปน็ ความตอ้ งการของขั้นพ้ืนฐานของมนษุ ย์ และจะขาดเสียไมไ่ ด้ 2. ความตอ้ งการความปลอดภัย คอื ความต้องการความปลอดภัยของมนุษยม์ ักแสดงออกในรูป การเกบ็ สะสมทรัพย์สนิ หรอื อาหารไวร้ ับประทานในอนาคต 3. ความตอ้ งการรกั และเป็นเจา้ ของมนุษย์ยังมีความต้องการมีความสัมพนั ธ์และความรกั กับคนอื่นอีก ด้วย 4. ต้องการเป็นท่ียอมรับและยกย่องคือมนุษย์ต้องการให้บุคคลอื่นมองดูตนเองว่ามีคุณค่าสูง ตอ้ งการชอ่ื เสยี งเกยี รตยิ ศ และต้องการมอี สิ รภาพ ความมน่ั ใจในตนเอง 5. ความต้องการเข้าใจและรู้จักตนเองคือความต้องการความสมบูรณ์ในส่ิงที่ตนเองคิดว่ามี ความสามารถที่จะทาไดผ้ ลท่ไี ดค้ ือ ความพงึ พอใจอนั สูงสุด แรงจงู ใจและมลู เหตุการซ้อื ของผบู้ รโิ ภค ประกอบด้วยปัจจยั ดังตอ่ ไปน้ี 1. แรงจูงใจเกิดจากสนิ ค้าและบริการ เป็นแรงจงู ใจในการซอ้ื ประกอบดว้ ย 1) แรงจงู ใจขั้นพ้นื ฐาน คือแรงจงู ใจข้ันพน้ื ฐานของมนษุ ย์ทม่ี ีความต้องการเหมือนๆ กนั มักเกิดจากภายในร่างกายเอง 2) แรงจงู ใจเจาะจงเลอื ก 2. แรงจูงใจทางอารมณ์ ในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้น สาเหตุการซ้ือมักเกิดจากความ พอใจซ้ือ , ความกลัว ,ความต้องการให้สังคมยอมรับ, ความเพลิดเพลิน,การแข่งขันดี, ต้องการ ความแปลกใหม่ ,ดารงเผา่ พันธ์ุ,ความภาคภูมใิ จ, 3. แรงจูงใจในการซ้ือท่ีมีเหตุผล คือสาเหตุของการซ้ือสินค้าหรือบริการของผู้บริโภค ขึ้นอยู่กับ ประโยชน์ ผลดี ผลเสียท่ีได้รับ ก่อนตัดสินใจซื้อมักมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบก่อน ซ้ือ ประกอบด้วย ความประหยัด , ความสะดวกสบาย, ความคงทนถาวร,มีการบริการติดตัว สนิ คา้ , ความมปี ระสทิ ธภิ าพของตัวสนิ ค้า, ไดท้ รัพย์สนิ เพม่ิ เติม 4. แรงจูงใจเกิดจากความนิยมศรัทธาหรือแรงจูงใจอุปถัมภ์ คือสิ่งจูงใจในการซื้อท่ีทาให้ผู้บริโภค ตัดสินใจซ้ือเฉพาะในร้านค้าใดร้านค้าหนึ่งโดยตรง อันสาเหตุการซื้ออาจเกิดจากร้านค้าน้ันขาย สินค้าท่ีมีคุณภาพดี หรือสะดวกต่อการซื้อ ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางนาน ประกอบด้วย ราคาเหมาะสม สถานที่ตงั้ รา้ นคา้ เหมาะสมกับผบู้ ริโภค มีการให้บริการดี มสี ินค้าหลายประเภท หลายชนดิ ให้เลอื ก ชื่อเสยี งของรา้ นค้า 5. แรงจูงใจในการซ้ือท่ีเกิดจากอิทธิพลของกลุ่ม สามารถแบ่งกลุ่มผู้บริโภคประเภทนี้ได้ 2 กลุ่ม คือ ผนู้ ากลมุ่ และผเู้ ลียนแบบกลุ่ม

28 กระบวนการซื้อ กระบวนการซ้ือ ในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริโภคน้ันจะมีรูปแบบหรือขั้นตอนของการ ตดั สินใจซอ้ื แบ่งการศกึ ษาตามหวั ข้อดงั ต่อไปนี้ 1. รูปแบบของการตัดสินใจซ้ือของผู้บริโภคสาเหตุในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคนั้นมักเกิดจาก ร่างกายได้รับตัวกระตุ้นผ่านระบบประสาทและประสาทยอมรับในตัวกระตุ้นนั้นจนเกิด แรงผลักดนั ให้เกิดการซอื้ หรอื ความต้องการสินค้า ซึ่งสามารถเขียนเป็นรปู แบบได้ดังนี้ รูปแบบการตัดสินใจซอื้ Stimulus Black Box ภายนอก ภายใน ลกั ษณะของผู้บริโภค ลักษณะการ Response ตดั สินใจ - เลอื กสินคา้ - เลอื กตราสนิ ค้า - 4 P’s -ความต้องการ - วฒั นธรรม - รับรู้ปญั หา - เลือกผู้ขาย - กลุม่ อ้างอิง ปัจจัย 4 หรอื - สังคม - เลือกเวลาซอื้ - คน้ หาขอ้ มลู - เลือกประมาณซือ้ - เศรษฐกิจ Basic Need - ปจั จัยสว่ นบคุ คล - ประเมินผล - เทคโนโลยี - ปัจจัยทางจติ วิทยา - ตดั สินใจ - กฎหมาย - ทศั นคต,ิ ค่านยิ ม - ความรู้สึกหลงั และ ซือ้ และใช้ การเมือง กลุ่มบุคคลที่มีรปู แบบในการตัดสนิ ใจซอื้ 1.ครอบครวั อานาจในการตัดสนิ ใจซอ้ื สนิ ค้าและบรกิ ารสว่ นใหญม่ าจากระบบครอบครัวเสียมาก 2.วฏั จักรชีวิตของบุคคล ในวงจรชีวติ ของมนษุ ย์ตง้ั แตเ่ กดิ จนถงึ วยั ชรา จะมกี ารเปลย่ี นแปลงการบรโิ ภคใน สินค้าหรอื บริการตามสถานภาพ ตามบุคลิกลกั ษณะ และอายขุ องผ้บู ริโภคดว้ ย เช่น -วยั หนุม่ สาว -ออกครอบครวั ใหม่ -ครอบครวั ทีม่ ีบตุ รยังเล็กอยู่ -ครอบครัวท่ีมีบตุ รโตแลว้ -ครอบครัวทีม่ ีบุตรเป็นผใู้ หญ่แล้ว -บุตรแยกครอบครัวแล้ว 3.ลกั ษณะการตัดสนิ ใจซอื้ ของกลุ่มผบู้ รโิ ภค -ผู้รเิ ร่ิม -ผู้นาหรอื ผูม้ อี ิทธิพล -ผู้ตัดสินใจซอ้ื -ผู้ซือ้ -ผู้ใช้

29 5. กิจกรรมการเรียนการสอน สอนครัง้ ที่ 5-8 (ชั่วโมงท่ี 17-32) 1. ช้แี จงรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยการเรียนรทู้ ั้งหมด การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น การบูรณาการ ค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ และข้อตกลงในการใช้หอ้ งเรียน 2. ให้นกั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยที่ 2 3. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ การนาเข้าสูบ่ ทเรียน 4. นาสนทนาและใหน้ ักศกึ ษาดูภาพ เพื่อ ใหน้ ักศึกษาสังเกตส่งิ ตา่ ง ๆ ในภาพพรอ้ มตอบคาถาม เพ่อื ทบทวนความร้เู ดมิ และนาเข้าส่บู ทเรยี นเรอ่ื ง ความรู้พน้ื ฐานเก่ยี วกับการตลาด และแนวความคดิ ทางการตลาด การเรียนรู้ กลยุทธ์ (ใชว้ ิธีการสอนแบบบรรยาย) สปั ดาห์ท่ี 5-8 1.ข้ันนา - ครูเรม่ิ สอนโดยการยกตัวอยา่ ง พฤติกรรมของผู้ซ้ือ ให้นักศกึ ษาดูเป็นตัวอยา่ ง - ครูและนักศึกษาร่วมกนั สนทนาถึง พฤตกิ รรมของผซู้ ื้อ เพือ่ นาเขา้ ส่บู ทเรยี นในหนว่ ยที่ 2 2.ขั้นสอน - ครูเร่ิมสอนและบรรยายเนื้อหาตามจุดประสงค์ในหน่วยท่ี 2 โดยครูผู้สอนสื่ออธิบายเนื้อหา ความรู้ประกอบไปด้วย พฤติกรรมของผู้ซื้อ โดยครูใช้วิธีการสอนแบบบรรยายถาม – ตอบ เพ่ือ กระตุ้นให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเรียนและเพื่อพัฒนานักศึกษาให้กล้าแสดงออกที่จะตอบ คาถาม และโต้ตอบกบั ครูผสู้ อนเพื่อให้บรรยากาศในการเรียนเปน็ ไปอย่างราบรื่น และสรา้ งความ เปน็ กันเองระหว่างครผู ูส้ อนกบั นักศกึ ษา การบูรณาการกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ความมีเหตผุ ล -นักศกึ ษามคี วามรู้ในเร่อื งประเภทและความหมายของตลาด การแบ่งสว่ นตลาดและการกาหนด ตลาด เปา้ หมาย พฤติกรรมผูบ้ ริโภคและปจั จัยท่มี อี ิทธิพลต่อกระบวนการตัดสนิ ใจซ้อื ของผู้ บรโิ ภค บทบาทของผูท้ เ่ี กีย่ วข้องกับการซ้ือสินค้าหรอื บรกิ าร และสามารถสามารถนาไปใชไ้ ด้ อย่างเหมาะสม ความพอประมาณ - นักศกึ ษาสามารถปฏิบตั กิ ิจกรรมในการเรยี นการสอนตามระยะเวลาท่ีกาหนด และประมาณตน อยู่ ในความเหมาะสม

30 การมีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวทดี่ ี -นกั ศึกษารู้คุณคา่ และประโยชนใ์ นเรอื่ ง ตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคครูมีแผนการสอนและ สื่อการสอนอยา่ งเป็นระบบ ทาให้การเรียนการสอนราบร่นื เง่ือนไขความรู้ 1. นกั ศึกษาอธบิ ายประเภทและความหมายของตลาดได้อยา่ งถกู ต้อง 2. นกั ศึกษาบอกการแบง่ ส่วนตลาดและการกาหนดตลาดเปา้ หมายได้อย่างถูกต้อง 3. นักศึกษาอธบิ ายพฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคและปจั จัยท่มี ีอิทธพิ ลต่อกระบวนการตัดสนิ ใจซอ้ื ของผ้บู รโิ ภคได้อยา่ งถกู ต้อง 4. นกั ศึกษานาเสนอบทบาทของผทู้ ่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การซือ้ สินค้าหรือบรกิ ารได้อยา่ งถูกต้อง เงือ่ นไขคุณธรรม - นกั ศกึ ษามีวินยั ความสนใจใฝ่รู้ - นกั ศึกษามีความรกั สามัคคี ความซ่ือสตั ย์ - นักศกึ ษาห่างไกลยาเสพตดิ การบรู ณาการกบั มาตรฐานสถานศกึ ษา 1. ดา้ นประชาธิปไตย - นักศึกษาสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้อยา่ งอสิ ระ และมีความเป็นประชาธิปไตยในการ ฝกึ ปฏิบตั งิ าน 2. ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและความเปน็ ไทย - นักศกึ ษารรู้ กั -รู้กตัญญู มวี ินัย ความสนใจใฝร่ ู้ มีมนษุ ยส์ ัมพันธ์ อดทนอดกลนั้ ความซ่ือสตั ย์สุจรติ มคี วามประหยดั ความรบั ผิดชอบ ห่างไกลยาเสพติดและกลา้ แสดงออก 3. ดา้ นภมู คิ มุ้ กันภัยจากยาเสพตดิ - นักศกึ ษามีความรูใ้ นเร่ืองยาเสพตดิ ใชเ้ วลาว่างในการทางานที่ไดร้ บั มอบหมาย และรู้จักฝกึ ฝน ตนเองให้เป็นพนักงานขายที่ดี รู้จกั การออกกาลังกาย 6. สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สื่อส่ิงพิมพ์ 6.1.1 หนงั สอื เรยี นวชิ า หลักการตลาด 6.1.2 แบบทดสอบทา้ ยบท 6.1.3 แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 6.1.4 ใบงานหน่วยท่ี 2 6.2 สือ่ โสตทัศน์ - สือ่ power point วิชา หลกั การตลาด - ส่อื อนิ เตอรเ์ น็ต 7. หลักฐานการเรียนรทู้ ่ตี อ้ งการ 7.2 หลกั ฐานการเรยี นร้ทู ีต่ ้องการ 1. นักศึกษาสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามได้อย่างถูกต้อง 2. นกั ศกึ ษาสามารถทางานได้อยา่ งถกู ต้อง

31 3. นักศึกษาสามารถนาเสนองานได้อยา่ งถูกต้อง 4. นกั ศึกษาสามารถทาแบบฝึกหัดได้อย่างถกู ต้อง 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัติงานทต่ี ้องการ 7.2.1 แบบทดสอบทา้ ยบท 7.2.2 แบบฝึกหัดทา้ ยบท 7.2.3 เอกสารงานกลมุ่ 7.2.4 สมุดจดบนั ทึก 7.2.5 ใบงานหน่วยที่ 2 8. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กับวิชาอ่นื การบูรณาการกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1.ความมเี หตุผล - นักศกึ ษาเขียนรายละเอียดอย่างยอ่ ในหัวเร่ือง ตามที่กาหนด - นักศึกษาเลือกหวั ขอ้ ทส่ี อดคลอ้ งกบั สภาพปญั หาในการทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ - นักศกึ ษา ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกบั เร่ืองท่ีทา - นักศกึ ษาทาแบบฝึกปฏิบัตอิ ย่างถกู ตอ้ งกบั เรอ่ื งท่ที า 2.ความพอประมาณ - นักศึกษาทาแบบฝึกปฏบิ ัติเร่ืองตลาดและผบู้ รโิ ภค และนาเสนอแบบฝกึ ปฏิบัติด้วยวธิ ีการท่ี กาหนด - เลือกใช้เครอ่ื งมอื วัดและทาการวดั ในการเก็บรวบรวมข้อมูล - เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และจดั ทาข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบและเหมาะสม - ร่วมกนั ทาการสรปุ ผลความรู้ - นาเสนอแบบฝึกปฏิบัติ 3.การมีภมู ิคมุ้ กันในตัวทด่ี ี - นักศกึ ษามีการเตรยี มความพร้อมแกป้ ัญหาที่อาจเกดิ ข้ึนในการทาแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 4.เง่ือนไขความรู้ - นกั ศกึ ษามคี วามเขา้ ใจท่ถี ูกตอ้ งในเรื่องของตลาดและผู้บรโิ ภค 5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม - นักศกึ ษามีระเบียบวนิ ัย ใฝ่หาความรู้ และรจู้ กั ดารงตนโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง ตลาดและผู้บริโภค 9.2 ระหว่างเรียน ใบงานจาก แบบประเมินผลการเรยี นรู้ จากหนังสอื เรยี นการจดั การแสดงสนิ ค้า หนว่ ยท่ี 1 และ2 หนงั สือเรียนหลักการตลาด เรยี บเรยี งโดย สภุ าพร หลกั หาญ

32 9.4 หลงั เรยี น - แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง ตลาดและผู้บริโภค - แบบทดสอบ ย่อยครงั้ ที่ 1 ความเป็นมาของตลาดและผบู้ รโิ ภค - แบบ สังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม ลกั ษณะนสิ ัยรอบรู้ – รอบคอบ ซอื่ สตั ย์ สุจรติ ขยนั อดทน แบ่งปัน และความเป็นประชาธิปไตย เกณฑ์การประเมิน นกั ศกึ ษาผ่านเกณฑ์การประเมิน 70% ข้นึ ไป วัดผลสมั ฤทธ์จิ ากแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ รอ้ ยละ 80 – 100 หมายถงึ ผลการเรยี นดมี าก ร้อยละ 70 – 79 หมายถงึ ผลการเรยี นดี ตา่ ว่ารอ้ ยละ 70 หมายถงึ ผลการเรียนไมผ่ ่านเกณฑ์

33 10. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1) ขอ้ สรุปหลังการจัดการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2) ปญั หาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................. ............. ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................. 3) แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................ .............................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

34 รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้ ควรอนุญาตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ ควรปรับปรุงเกย่ี วกับ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ............................................................. (นางสาวพรนภัสส์ ชนะสทิ ธ์)ิ หวั หนา้ หมวดการตลาด 18 พฤศจกิ ายน 2563 เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ ควรปรับปรุงดังเสนอ อนื่ ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................... ................................................................................................................ .......... ลงชื่อ............................................................. (นายสมภพ จนั ทราช ) หวั หนา้ ฝ่ายวชิ าการ 18 พฤศจกิ ายน 2563 อนุญาตใหใ้ ชใ้ นการสอนได้ อนื่ ๆ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. .................................................................................... ........ ลงชือ่ ............................................................. (นางกมรา สะเตโช) ผอู้ านวยการวทิ ยาลยั เทคโนโลยีอดุ มศึกษาพณิชยการ 18 พฤศจกิ ายน 2563

35 ใบงานหน่วยที่ 2 กรณีศึกษา ทุกวันนี้ผู้ประกอบการที่อยากจะเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ท่ีเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยน้ัน ก่อนอ่ืนคงต้องทาความรู้จักกับตลาดและลูกค้าเป้าหมายท่ีคาดว่าจะมา เป็นลูกค้าขององค์กรเสียก่อน การเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซ้ือสินค้าเป็นเร่ืองสาคัญต่อการ วางแผนกลยุทธท์ างการตลาดและการผลติ สนิ คา้ ก่อนสง่ ถึงมือผบู้ รโิ ภค และวัฒนธรรมเปน็ หนึ่งในหลายปจั จัยท่ี มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเพราะวัฒนธรรมเป็นผลรวมของการเรียนรู้ ความเช่ือ ค่านิยม ธรรมเนียม ปฏิบัติคุณธรรม กฎหมาย ความสามารถ อุปนิสัย ซึ่งจะกาหนดพฤติกรรมความต้องการของบุคคลในสังคมใด สังคมหนึ่ง โดยที่คนในสังคมยอมรับและเผยแพร่ต่อไป เช่น ครอบครัวชาวจีนนับถือเจ้าแม่กวนอิม จะไม่ รับประทานเน้ือวัว ชาวมุสลิมนับถือศาสนาอิสลามไม่รับประทายเน้ือหมู เด็กอเมริกันใส่ชุดไปรเวทไปเรียนได้ ในขณะที่เดก็ ไทยใส่ชดุ นกั เรียน คนไทยใช้ช้อนส้อม คนจนี ใช้ตะเกียบ จงอภิปรายคาถามตอ่ ไปนี้ 1. ปัจจยั ยอ่ ยต่างๆทส่ี ่งผลกระทบทาให้เกิดลักษณะความแตกตา่ งในสงั คมและวัฒนธรรม มี อะไรบ้าง 2. จงยกตวั อยา่ งวฒั นธรรมหลักที่มผี ลต่อการออกแบบผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องแต่งกาย 3. จงยกตวั อย่างวฒั นธรรมย่อยท่ีมตี อ่ การออกแบบผลิตภัณฑ์เคร่อื งแต่งกาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………..

36 แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 ช่ือวิชา หลักการตลาด สอนครง้ั ท่ี 9-12 ชื่อหน่วย ส่วนผสมทางการตลาด ชวั่ โมงรวม 16 1. สาระสาคัญ ผลิตภัณฑ์คือ ส่ิงท่ีธุรกิจสามารถนาเสนอให้แก่ตลาด ซ่ึงอาจเป็นสินค้าที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน เช่น บรกิ ารต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์จึงไม่ได้หมายถึงเฉพาะตวั ผลิตภณั ฑแ์ ต่รวมถึงองค์ประกอบอ่ืน ๆ ซึง่ สามารถสร้างความ พอใจให้แก่ผู้ซื้อ เช่น ส่วนประสมผลิตภัณฑ์ สายผลิตภัณฑ์ ตราสินค้า ฉลาก บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ราคาคือ มูลค่าของผลิตภัณฑ์ซ่ึงอาจเป็นเงินหรือผลิตภัณฑ์ หรือเป็นทั้งเงินและผลิตภัณฑ์รวมกันก็ได้ ในการกาหนด ราคาผลิตภัณฑ์มีปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกาหนดราคาหลายด้านท้ังปัจจัยภายในกิจการและภายนอกกิจการ การกาหนดราคาทาได้หลายวิธีข้ึนอยู่กับความพอใจของกิจการหรือลูกค้าการจัดจาหน่าย คือกระบวนการใน การเคล่ือนย้ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคคนสุดท้ายหรือผู้ใชอ้ ุตสาหกรรม ในกระบวนการเคลื่อนยา้ ย จะมีกลุ่มคนกลางทางการตลาดเข้ามาทาหน้าทจี่ าหนา่ ยสินค้าแทนผู้ผลิต ซ่ึงคนกลางในช่องทางการจาหน่ายมี 3 ประเภท คือ พ่อค้าคนกลาง ตัวแทนคนกลาง และคนกลางทาหน้าท่ีอานวยความสะดวกในการจัด จาหน่ายการส่งเสริมการตลาด เป็นกิจกรรมทางการตลาดท่ีใช้ในการชักจูงโน้มน้าวจิตใจลูกค้าให้เกิดความ ต้องการสินค้าหรือบริการ เคร่ืองมือที่ใช้ในการส่งเสริมการตลาดประกอบด้วย การโฆษณา การ ประชาสมั พันธ์ การส่งเสริมการขาย การขายโดยใช้พนกั งานขาย และการตลาดทางตรง 2. สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้ 2.1 แสดงความรู้เก่ียวกับผลติ ภณั ฑ์และการพัฒนาผลิตภัณฑใ์ หม่ การกาหนดราคาและองค์ประกอบ เก่ยี วกับราคา การจัดจาหน่าย การสง่ เสริมการตลาด ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2.2 นาเสนอผลิตภณั ฑแ์ ละการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อยา่ งถูกต้อง 2.3 ระบุและอธบิ ายการกาหนดราคาและองค์ประกอบเกี่ยวกบั ราคาได้อย่างถกู ต้อง 2.4 อธิบายชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยได้อยา่ งถูกต้องได้อย่างถูกต้อง 2.5 บอกวิธีการส่งเสริมการตลาดไดอ้ ยา่ งถูกต้องไดอ้ ย่างถูกต้อง 2.6 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะ นิสัยรอบรู้ รอบคอบ ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปนั ความเปน็ ประชาธิปไตย หา่ งไกลยาเสพตดิ ได้ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ นกั ศกึ ษาสามารถ ดา้ นความรู้ 1. อธบิ ายตลาดและพฤตกิ รรมผู้บริโภคได้ 2. วเิ คราะหต์ ลาดและพฤติกรรมผบู้ รโิ ภคได้

37 ด้านทักษะ 1. เขียนลกั ษณะตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคได้ ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. เขา้ ช้นั เรียนตรงเวลา 2. แสวงหาความรู้ทัง้ ทางตรงและทางอ้อม 3. แกป้ ญั หาและพฒั นาส่ิงใหม่ ๆ จนบรรลผุ ลสาเรจ็ 4. ใชว้ ัสดถุ ูกต้องพอเพยี งและเหมาะสมกบั งาน 5. ปฏบิ ัติงานทไี่ ด้รับมอบหมายเสร็จตามกาหนดโดยคานึงถึงความปลอดภยั ของตนเอง และผู้อ่ืน 4. สาระการเรยี นรู้ สว่ นประสมทางการตลาด 4 P’s ผลติ ภณั ฑ์ ความหมายของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ คอื สนิ ค้าหรือบริการ หรือองคป์ ระกอบ หรอื ส่งิ ท่ี คาดวา่ จะไดร้ บั จากตัวผลิตภณั ฑ์ทสี่ ามารถตอบสนองความพงึ พอใจของผู้บรโิ ภคไดส้ ูงสุด สว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์ ประกอบด้วย 1. ตวั ผลติ ภัณฑ์ คือสินคา้ ที่มีตัวตนสามารถจบั ต้องได้ และบริการทไ่ี ม่มีตัวตนจบั ต้องไม่ได้ 2. หบี ห่อ คอื สว่ นท่ใี ชบ้ รรจุสนิ ค้าเพ่ือมใิ ห้สนิ ค้าเกิดความเสียหาย และยังชว่ ยให้ผ้บู รโิ ภค สะดวกสบายตอ่ การใชด้ ว้ ย หบี ห่อหรอื บรรจุภณั ฑ์ท่นี ามาใชม้ ีอยู่ 4 ประเภทคือ 1) หบี ห่อเบอ้ื งตน้ เป็นตวั รองรับสนิ คา้ มิให้สินค้าเกดิ ความเสยี หายหรอื ตัวจากดั ขนาดสนิ ค้า ตามท่ตี ้องการ 2) หีบหอ่ รอง มีไวห้ อ่ หมุ้ ห่อเบื้องต้นอกี ครง้ั หนงึ่ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสวยงามและสรา้ งเอกลกั ษณ์ เฉพาะตัวใหก้ ับสนิ ค้า 3) หบี ห่อเพ่ือการขนสง่ เป็นหบี ห่อทีห่ ่อหุ้มหบี ห่อเพื่อใช้ในการลาเลียงจากท่ีหนึ่งไปอีกที่หนง่ึ 4) หบี หอ่ กล่มุ อนุรักษ์ เปน็ หีบหอ่ ท่เี น้นรูปลักษณห์ ตั ถกรรมพ้ืนบ้านของแตล่ ะภูมิภาคของ ประเทศ 3. ตราผลิตภณั ฑ์ ชว่ ยบ่งบอกให้ผบู้ รโิ ภคทราบวา่ ผลิตภณั ฑ์แตล่ ะชนิดแตกต่างกันอยา่ งไร ใคร เปน็ ผูผ้ ลติ คณุ ภาพเปน็ อย่างไร ตราผลิตภัณฑ์นนั้ จะมลี ักษณะเปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะตัวของผู้ เป็นเจ้าของตรา จงึ งา่ ยต่อการแยกและจดจา ตราผลติ ภัณฑ์ คอื ซ่ือหรอื คาพดู หรือเครือ่ งหมายหรอื ขอ้ ความหรือสญั ลกั ษณ์อย่างใดอยา่ งหนึ่ง หรือรวมกนั หลายๆอย่าง เพื่อให้สินค้าหรือบรกิ ารมคี วามแตกตา่ งจากคแู่ ข่งรายอ่นื ประกอบดว้ ย 1) เครือ่ งหมายการค้า 2) ชอ่ื ตราสนิ ค้า 3) เคร่อื งหมายรบั รองคณุ ภาพ 4) เครอ่ื งหมายตราสนิ คา้ บริษทั ผู้ผลติ สนิ คา้ สิทธบิ ตั รและลขิ สิทธิ์

38 ความหมายส่วนทเ่ี กีย่ วข้องกับผลิตภัณฑ์มีดังนี้ 1. สายผลิตภณั ฑ์ คอื ความสอดคลอ้ งเข้ากันในการใชห้ รอื ในการผลติ หรือมีช่องทางการจัดจาหนา่ ยเกย่ี วขอ้ ง กันอยา่ งใกลช้ ดิ ซึง่ มลี กั ษณะดังน้ี 1) ใช้บาบดั ความต้องการอย่างเดยี วกนั 2) ใช้ควบคูก่ ัน 3) มีผ้ใู ชเ้ ปน็ กล่มุ เดยี วกัน 2. รายการผลติ ภัณฑ์ คือผลติ ภัณฑ์ชนดิ ใดชนดิ หนง่ึ ในสายผลิตภณั ฑ์น้ันๆ 3. ความลกึ ของสายผลติ ภณั ฑ์ คอื จานวนรายการผลิตภัณฑใ์ นสายผลิตภณั ฑ์ของบริษัทหนึ่งๆที่เสนอขาย ให้กับกลุม่ ผ้บู รโิ ภคเป้าหมาย 4. ความกว้างของสายผลติ ภัณฑ์ คอื จานวนของสายผลติ ภณั ฑท์ ่ีแตกต่างกนั ในแตล่ ะบรษิ ทั มจี านวนมากหรือ นอ้ ยเท่าใด 5. ผลิตภัณฑป์ ระเภทแฟชน่ั ประกอบดว้ ย 3 ความหมาย คือ 1 1) สไตล์ คอื ลกั ษณะเฉพาะตัวของผลติ ภัณฑแ์ ตล่ ะชนิดวา่ มีลักษณะอย่างไร 2) แฟช่นั คอื สไตลท์ เ่ี ป็นทนี่ ิยมและยอมรับของคนกลมุ่ ใหญ่ในปัจจุบัน 3) เฟด คือสไตลท์ เี่ ป็นท่ียอมรบั ของคนกลุ่มย่อยหรือนยิ มเฉพาะ ประเภทของผลิตภณั ฑ์ 1. สินคา้ อุปโภค-บริโภค คือสนิ ค้าบรกิ ารทีผ่ ู้บรโิ ภคซอ้ื ไปเพ่ือใช้เป็นคนสุดท้าย 2. สินค้าอุตสาหกรรม คือเป็นสนิ คา้ ทีม่ ีความซบั ซ้อนมากกว่าสินคา้ ในตลาดผู้บริโภค เพราะซื้อสินคา้ ประเภทน้ีไปเพื่อผลิตเป็นสินคา้ สาเร็จรูปเพ่ือนาไปขายต่อ 3. บรกิ าร คือในการดาเนนิ งานทางธุรกจิ จะตอ้ งมรี ายจา่ ยในหลาย ๆดา้ นนอกจากวตั ถุดบิ เครื่องมือ ประกอบ ยังมบี ริการในรปู แบบต่าง ๆ ที่กิจการจาเปน็ ต้องใช้ เพื่อใหด้ าเนนิ กิจการบรรลุเป้าหมาย และเกดิ ประสิทธิภาพมากที่สุด แนวทางในการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ใหม่ วงจรชีวิตผลิตภณั ฑ์ ข้ันตอนของวงจรชีวิตผลิตภณั ฑ์ ประกอบด้วย 1. ข้ันแนะนาสินคา้ เข้าสูต่ ลาด เปน็ ระยะแรกของการนาสินคา้ ใหม่ออกสู่ตลาด ในระดบั น้ี ผูบ้ ริหารจะตอ้ งเสียค่าใช้จา่ ยสงู เม่ือเทยี บกบั รายได้ จดุ ม่งุ หมายในการสง่ เสรมิ การตลาด ระยะแรกคือ - เป็นการบอกกล่าวให้ผบู้ รโิ ภคทราบวา่ มีสนิ คา้ ใหม่อะไรบา้ งออกสตู่ ลาด - เพือ่ ใหผ้ ้บู ริโภคได้มีโอกาสทดลองใช้สนิ คา้ ใหม่ - เพ่ือใหม้ กี ารแจกจ่ายสินคา้ ไปตามชอ่ งทางการตลาดใหม้ ากทีส่ ุด ในขั้นแนะนาสินค้าเขา้ สูต่ ลาด นกั การตลาดควรดาเนินการดังนี้ 1) ตักตวงโดยฉบั พลัน โดยการต้งั ราคาสินค้าออกใหมใ่ หส้ ูง 2) ตักตวงอยา่ งชา้ ๆ โดยการต้ังราคาสนิ คา้ ออกใหม่ในราคาสงู แต่ใช้งบประมาณสนบั สนนุ ตลาด เพียงบางเบา 3) แทรกซึมตลาดอย่างฉับพลนั คือการนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในระดับราคาต่า

39 4) แทรกซึมตลาดอย่างช้าๆ คอื การนาผลติ ภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดในราคาต่า&ใชง้ บสนับสนุน ทางการตลาดบางเบา 2. ขนั้ เจรญิ เติบโต ผลิตภณั ฑ์เร่มิ เปน็ ท่ีสนใจของผ้บู ริโภคมากข้ึนทีละน้อยๆ จนกลายเปน็ ความ ต้องการประจา 3. ข้ันตลาดอ่ิมตัว หรอื ขน้ั ของการเจริญเตบิ โตเต็มที่ ในระยะนคี้ งมกี ารจดั จาหนา่ ยในปริมาณ เพิ่มขน้ึ แตเ่ พิ่มขน้ึ ในอัตราทล่ี ดลง ข้ันอ่ิมตวั อาจแบ่งได้ 3 ขน้ั ดงั น้ี 1) Growth Maturity 2) Stable Maturity 3) Decaying Maturity กลยุทธใ์ นขัน้ นที้ ี่ผบู้ รหิ ารควรทา คือ (1) ปรับปรุงเปลย่ี นแปลงตลาด (2) ปรับปรุงเปล่ยี นแปลงสินค้า (3) ปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงรปู แบบของสนิ ค้า (4) ปรบั ปรงุ พฒั นาสว่ นผสมทางการตลาดใหด้ ขี ึ้น 4. ข้ันตลาดตกตา่ หรือขน้ั ถดถอย ปริมาณการขายในระยะนี้เริ่มลดลงอย่างมาก จนค่าใช้จ่ายในการผลิตเทา่ กบั รายได้ทไ่ี ดร้ ับ ดงั น้นั นักการตลาดควรตัดสนิ ใจวา่ จะทาอยา่ งไรจึงจะเกิดผลดีแกอ่ งคก์ ารมากทสี่ ุด ดงั น้ี (1) ลดสายผลิตภณั ฑ์และคงไวเ้ ฉพาะผลติ ภณั ฑท์ ยี่ งั มีกาไร (2) ลดชอ่ งวา่ งทางการจดั จาหน่ายและคงไวเ้ ฉพาะชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทมี่ ีประสทิ ธิภาพ (3) หาบคุ คลอื่นมารบั ภาระแทน การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ใหม่ ลกั ษณะของผลติ ภัณฑ์ใหม่ - เป็นผลิตภัณฑท์ ่ีถูกสร้างสรรค์ในลกั ษณะทผ่ี ดิ ไปจากผลิตภัณฑ์อน่ื - สรา้ งสรรคผ์ ลติ ภัณฑ์ใหม่โดยการเปลยี่ นแปลงบางสิง่ บางอยา่ ง - ผลิตภณั ฑใ์ หม่แตเ่ กา่ ในความรสู้ ึกของผู้บรโิ ภค ดังนนั้ นักการตลาดจะต้องวางแผนการ ในการออกผลติ ภัณฑ์ใหม่อย่างรอบคอบ ก่อนการตัดสนิ ใจลงทนุ ดังน้ี (1) รวบรวมความคดิ (2) นาความคดิ จากการรวบรวมมากล่ันกรอง (3) นาความคดิ ทีผ่ ่านการกล่ันกรองแล้วมาวิเคราะห์เชงิ ธุรกิจ (4) เปลี่ยนสินคา้ ในความคิดมาเป็นผลิตภัณฑโ์ ดยแท้ (5) เม่อื สินค้าสาเรจ็ รปู แล้วนามาทดสอบตลาด (6) นาสินคา้ ท่ีปรบั ปรงุ แก้ไขข้อบกพร่องแลว้ การเพิม่ หรอื การลดสายผลิตภัณฑ์ เปน็ การพจิ ารณาผลิตภณั ฑ์ของตนเองตามผงั บีซจี ี 1. ผลติ ภณั ฑ์ทเ่ี ปน็ ดาวดวงเดน่ คอื ผลิตภัณฑ์กาลังได้รับความนิยมจากตลาดสงู มโี อกาสเจริญเตบิ โตมาก 2. ผลิตภัณฑ์จาเป็น กาลงั เจรญิ เติบโตกา้ วหน้า เปน็ ผลิตภณั ฑ์ทที่ ารายไดใ้ ห้กจิ การค่อนข้างสงู มีส่วนแบ่ง ทางการตลาดสูง แต่มีโอกาสก้าวหน้าลดลงผลิตภัณฑ์มีปญั หา เป็นการพัฒนาสนิ คา้ ออกสูต่ ลาดใน ระยะแรกๆ มองดูโอกาสก้าวหน้าสูง แต่ไมส่ ูงจริง เพราะมสี ภาพการแขง่ ขันค่อนข้างมาก

40 3. ผลติ ภัณฑ์ตกต่าหรือเกา่ ลา้ สมัย เป็นผลติ ภณั ฑ์ทม่ี ีผูบ้ ริโภคซอ้ื นอ้ ยลง และยงั กาไรอย่บู า้ งเล็กนอ้ ย สาเหตุในการเพิม่ สายผลิตภณั ฑ์ 1) เพอ่ื สรา้ งความเจริญก้าวหน้าใหก้ ับกจิ การ 2) ใช้ทรัพยากรทางธุรกิจได้รบั ประโยชนส์ งู สดุ หรือยัง 3) ธุรกจิ ได้รับความเช่ือถือจากมหาชนดีแลว้ หรือยัง 4) ใชช้ อ่ งทางการจัดจาหนา่ ยได้ประโยชนเ์ ตม็ ทีแ่ ลว้ หรอื ยงั สาเหตขุ องการพัฒนาผลติ ภัณฑใ์ หม่ทีล่ ้มเหลว 1. ผ้บู รหิ ารขาดประสบการณ์ ผูบ้ ริหารจะต้องทราบความเปน็ ไปของกลุ่มผู้บรโิ ภคอยู่ตลอดเวลา 2. สินค้าทผี่ ลติ ไมต่ รงกับความต้องของผู้บรโิ ภค เนื่องจากกลุ่มผูบ้ ริโภคมีพฤติกรรมเปล่ยี นแปลงไป ตลอดเวลา 3. ความกดดนั ด้านสงั คมและกฎหมาย ในปัจจุบันผบู้ ริโภคมคี วามฉลาดมากขึ้นในการบรโิ ภคสินคา้ 4. วงจรชีวติ ผลติ ภณั ฑม์ อี ายสุ นั้ 5. สภาวะเศรษฐกิจตกต่าโดยทัว่ ไป ราคาและองคป์ ระกอบเกยี่ วกบั ราคา ความหมายและความสาคญั ของราคา ราคา คอื มลู คา่ รวมของสนิ ค้าและบริการท่ถี กู ประเมนิ มลู ค่าออกมาในรูปจานวนเงินทผี่ ้บู ริโภคต้อง จา่ ยไปกับการซื้อขายผลิตภัณฑน์ นั้ ราคาตลาดคือ มลู คา่ รวมสนิ คา้ หรอื บรกิ ารในการซอื้ ขายสินคา้ หรอื บรกิ ารในขณะนั้น ความสาคญั ของการต้ังราคา มดี งั น้ี 1. เปน็ ตัวกาหนดปรมิ าณการขาย กาหนดกาไรของกจิ การตลอดจนเกดิ ความเจรญิ เติบโตของ ผลติ ภณั ฑ์ในวงจรชวี ิตผลติ ภณั ฑน์ น้ั ดว้ ย 2. เปน็ เครอื่ งมือช่วยในการหยง่ั ความต้องการของผู้บริโภค 3. ราคากับการสง่ เสริมการขาย มีความสัมพันธ์กนั มาก วตั ถปุ ระสงค์ของการกาหนดราคา การดาเนนิ งานทางธรุ กจิ นนั้ จะตอ้ งกาหนดนโยบายหลักและวัตถปุ ระสงคข์ องการดาเนนิ งานเอาไว้ อย่างชัดเจน เพื่อสะดวกต่อการปฏบิ ัตงิ านของพนักงานและงา่ ยต่อการประเมนิ ผลการทางานของธรุ กิจ วตั ถุประสงค์ขององคก์ ารธรุ กิจทั่วๆไป ประกอบดว้ ย 1. เพ่อื สร้างกาไรให้กิจการ สามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะดังนี้ 1) มุ่งกาไรสูงสุด 2) มุง่ ผลตอบแทนจากการลงทุน 3) มงุ่ กาไรพออยู่ได้ 2. เพ่อื ขายให้ได้ปรมิ าณมาก เปน็ จดุ มงุ่ หมายของธรุ กิจ 1) ต้องการสว่ นแบง่ ทางการตลาดมากข้ึน การตั้งราคาขายมักต้งั ราคาตา่ แตเ่ อากาไรแต่ นอ้ ย 2) ต้องการรกั ษาการถือครองทางการตลาด 3) ตอ้ งการสร้างภาพพจน์ใหก้ บั กิจการ 4) ตอ้ งการป้องกันการแขง่ ขัน

41 3. เพ่อื เสถียรภาพของราคา การม่งุ เสถียรภาพในดา้ นราคานี้มกั เปน็ การรักษาระดับราคาใดราคา หนึง่ ให้คงท่ีอยเู่ สมอ ราคาจะไมเ่ ปลยี่ นแปลงไปตามต้นทนุ หรืออปุ สงค์ของผูบ้ รโิ ภค กลยุทธร์ าคาและนโยบายราคา ผบู้ รหิ ารควรวางนโยบายไวอ้ ยา่ งแน่ชดั ว่าจะทาอย่างไร เพอื่ ผลการดาเนินงานเปน็ ไปอย่างดี มปี ระสิทธิภาพ กลยุทธแ์ ละนโยบายทค่ี วรพิจารณาประกอบดว้ ย กลยทุ ธก์ ารกาหนดราคา มี 2 ชนิด คือ 1 กาหนดราคาแบบนา้ ขึน้ ให้รีบตัก นกั การตลาดจะกาหนดราคาในข้ันแนะนาตลาดไวส้ ูง เพอื่ สร้างภาพพจน์ในสินคา้ หรือบรกิ าร สนิ คา้ ทเ่ี หมาะสมกบั วธิ กี ารตงั้ ราคาเช่นนี้ คอื (1) เปน็ สนิ ค้าท่ีมีความต้องการแบบไมย่ ดื หยนุ่ (2) เปน็ สินคา้ ทม่ี วี ิธีการผลิตที่คอ่ นขา้ งซบั ซ้อน (3) เป็นสนิ คา้ ทใี่ ช้เทคนิคการผลิตมากจนต้องเสียเวลาในการฝึกอบรมพนักงานช่างฝีมอื นาน (4) เปน็ สินคา้ ประเภทแฟชนั่ ขอ้ ดี 1. ลดการผิดพลาดในการประมาณยอดขาย 2. องคก์ ารธุรกจิ ได้เงนิ ทุนคืนรวดเร็วก่อนทจี่ ะเกิดคู่แขง่ ขัน 3. ช่วยวางตาแหน่งสินคา้ ใหอ้ ยู่ในระดับสูงขึ้น 4. ช่วยชดเชยการขาดทุนในภายหลัง ผลเสยี เมอื กิจการไดผ้ ลตอบแทนจากการลงทนุ สูง จึงมกั จะเรง่ เร้าใหเ้ กดิ ค่แู ขง่ ขันไดง้ า่ ย 2. กาหนดราคาแบบเจาะตลาด การตั้งราคาวธิ นี ้ี ก็จะกลับกันกับวิธีแรก คือนักการตลาดจะกาหนดราคาขายในชว่ งขนั้ แนะนาเข้าสตู่ ลาดในระดับราคาตา่ เพ่ือหวงั ครองตลาด ให้ไดม้ ากที่สดุ สนิ คา้ ที่ใชต้ ้งั ราคาโดยวิธนี ้ีควรมลี กั ษณะดังน้ี 1) เปน็ สินคา้ ท่มี ีความยืดหยนุ่ 2) ฝ่ายจัดการหรอื องค์การธรุ กิจต้องมีฐานทางการเงนิ ทดี่ ี 3) เปน็ สนิ ค้าท่ีไม่สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างผลิตภณั ฑไ์ ด้ สว่ นลดเงนิ สด ส่วนลดการคา้ และสว่ นลดปรมิ าณ นโยบายราคา นโยบายการกาหนดราคาทด่ี ี จะช่วยสง่ เสริมการขายใหม้ ีปรมิ าณสงู 1. การใหส้ ่วนลดและเงินช่วยเหลือ การใหส้ ่วนลดและเงินชว่ ยเหลอื จาทาใหร้ าคาสนิ คา้ ทผี่ ู้ขาย กาหนดไว้ลดต่าลง สว่ นลดดังกล่าวประกอบด้วย 1) ส่วนลดปริมาณ เปน็ การจูงใหผ้ ซู้ ้อื ๆสนิ คา้ มีปรมิ ากขึน้ ทั้งนผ้ี ้ขู ายจะไดไ้ ม่ต้องรับภาระใน การจดั เก็บรักษาสินค้า และยงั ชว่ ยประหยัดคา่ ใช้จ่ายในการจดั จาหน่าย 2) ส่วนลดการคา้ หรือเรียกอกี อยา่ งว่า ส่วนลดตามหนา้ ที การใหส้ ่วนลดประเภทนเี้ พ่ือเป็น สิ่งตอบแทนท่ีพ่อค้าคนกลางมีบทบาทเข้ามาช่วยในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 3) ส่วนลดเงินสด คือการใหส้ ว่ นลด โดยผู้ขายยอมหกั เงนิ จานวนหนง่ึ ออกจากราคาท่ีกาหนดไว้ ในใบอินวอยส์ ผู้ขายกาหนดสว่ นลดเงนิ สดมี 3 ลักษณะ

42 ช่องทางการจดั จาหนา่ ยสนิ ค้าอปุ โภคบริโภค ทีใ่ ช้กนั อย่มู ี 5 ช่องทาง 1.ผู้ผลติ ผูบ้ ริโภค 2. ผผู้ ลติ พ่อคา้ ปลกี ผู้บริโภค 3. ผู้ผลิต พ่อค้าส่งพ่อค้าปลกี ผู้บรโิ ภค 4. ผผู้ ลิต ตวั แทนคนกลาง พอ่ ค้าปลกี ผบู้ รโิ ภค 5. ผ้ผู ลิต ตัวแทนคนกลาง พอ่ ค้าสง่ พอ่ ค้าปลกี ผบู้ รโิ ภค ชอ่ งทางการจัดจาหน่ายสนิ ค้าอุตสาหกรรม มีอยู่ 4 ช่องทางคอื 1. ผู้ผลิต ผูใ้ ช้ทางอตุ สาหกรรม 2. ผู้ผลติ พอ่ ค้าสง่ ผใู้ ชท้ างอตุ สาหกรรม 3. ผู้ผลติ ตวั แทนจาหน่าย ผใู้ ช้ทางอุตสาหกรรม 4. ผู้ผลิต ตวั แทนจาหน่าย พ่อคา้ สง่ ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม การส่งเสรมิ การขายคือกจิ กรรมทางการตลาดท่ีมุ่งกระต้นุ หรือจงู ใจให้ผู้บริโภคหรอื พ่อค้าคนกลางซื้อ สินคา้ หรือบรกิ ารเพ่มิ มากขึ้น โดยใชก้ ลยุทธต์ า่ ง ๆ กระตนุ้ นอกเหนือจากการโฆษณา การประชาสัมพนั ธ์ การใช้ พนักงานขาย นอกจากนนั้ ยังมงุ่ กระตุน้ ให้พ่อคา้ คนกลางเพ่มิ ประสิทธภิ าพในการขายมากขนึ้ โดยมสี ่วนชว่ ยใน การจดั แสดงสินค้า ตกแตง่ ร้าน รวมท้ังกจิ กรรมอื่น ๆ ท่ชี ว่ ยในการขายใหม้ ากขน้ึ การสง่ เสรมิ การขายทีม่ ุ่งสผู่ ูบ้ ริโภค มดี งั น้ี 1.การให้ของตัวอย่าง 2.การใหค้ ูปอง 3.การให้เงินคนื 4.การใหส้ ่วนลด 5.การให้ของแถม 6.การให้แสตมป์การคา้ 7.การสง่ ชิงโชค การส่งเสรมิ การขายมงุ่ ส่คู นกลาง มีดงั น้ี 1.การใหส้ ว่ นลดพเิ ศษ 2.การโฆษณารว่ ม 3.การใหส้ นิ ค้าเปลา่ การส่งเสริมการขายท่ีมุ่งสู่ตัวพนักงานขาย มีดงั น้ี 1.การให้รางวลั 2.การประชุมการขาย 3.การใหส้ วัสดิการรปู แบบตา่ ง ๆ Direct Marketing การตลาดทางตรง หมายถึงการใชร้ ะบบการสื่อสารทางการตลาด กระตุ้นให้กลุ่มตลาดเป้าหมายแสดงการ ตอบสนองและสามารถวดั ปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบได้โดยตรง 1.การตลาดทางตรงเช่น ธรุ กิจขายสินคา้ ท่ัวไป บัตรเครดิต อินเตอร์เน็ต

43 2.การสอื่ สารการตลาดทางตรง เช่น การขายตรงทางไปรษณยี ์ การขายตรงทางทีวี การขายตรงทางโทรศัพท์ การขายตรงทางส่อื ส่ิงพิมพ์ 5. กิจกรรมการเรียนรู้ สอนคร้งั ท่ี 9-10 (ชั่วโมงท่ี 33-40) 1. ช้ีแจงรายละเอียดเก่ียวกบั หน่วยการเรียนรทู้ ้ังหมด การวัดและประเมินผลการเรียน การบูรณาการ ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ และข้อตกลงในการใช้ห้องเรยี น 2. ใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยที่ 3 3. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การนาเข้าสบู่ ทเรียน 4. นาสนทนาและให้นกั ศึกษาดูภาพ เพื่อ ให้นักศึกษาสงั เกตสิ่งต่าง ๆ ในภาพพร้อมตอบคาถาม เพื่อ ทบทวนความรู้เดมิ และนาเข้าสู่บทเรยี นเรอ่ื ง พฤติกรรมผู้บริโภค การเรยี นรู้ กลยุทธ์ (ใช้วิธกี ารสอนแบบบรรยาย) สัปดาห์ที่ 9-10 1.ข้นั นา - ครูเริม่ สอนโดยการยกตวั อยา่ ง ส่วนประสมทางการตลาด ให้นกั ศกึ ษาดูเป็นตัวอย่าง - ครูและนกั ศึกษารว่ มกันสนทนาถึง ส่วนประสมทางการตลาด เพอ่ื นาเขา้ ส่บู ทเรียนใน หนว่ ยที่ 3 2.ขน้ั สอน - ครูเร่ิมสอนและบรรยายเน้ือหาตามจุดประสงค์ในหน่วยท่ี 3 โดยครูผู้สอนส่ืออธิบายเนื้อหา ความรู้ประกอบไปด้วย เพ่ือให้รู้และเข้าใจผลิตภัณฑ์และแนวทางการผลิต ผลิตภัณฑ์ใหม่ การกาหนดราคาและองค์ประกอบเก่ียวกับราคา การจัดจาหน่ายการส่งเสริมการตลาด โดย ครูใช้วิธีการสอนแบบบรรยายถาม – ตอบ เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการเรียน และเพื่อพัฒนานักศึกษาให้กล้าแสดงออกที่จะตอบคาถาม และโต้ตอบกับครูผู้สอนเพื่อให้ บรรยากาศในการเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความเป็นกันเองระหว่างครูผู้สอนกับ นักศกึ ษา 3. ขั้นสรปุ - ครูสรุปเนื้อหาท่ีสอนให้นักศึกษาฟังอีกครั้งโดยให้นักศึกษาจดเนื้อหาท่ีสาคัญลงในสมุด บันทึก และเพื่อทดสอบความเข้าใจของนักศึกษาแต่ละคน ครูใช้วิธีการสุ่มเรียกถาม – ตอบ เพอ่ื ทดสอบความรู้ท่นี ักศกึ ษาแต่ละคนไดร้ ับ จะไดเ้ ป็นแนวทางในการพัฒนานักศึกษาที่ยังไม่ เขา้ ใจ ครจู ะไดอ้ ธบิ ายให้ฟังอกี คร้งั หน่ึง

44 สอนครัง้ ท่ี 11-12 (ช่ัวโมงท่ี 41-48 ) การเรียนรู้ 1. ใชก้ ลยุทธ์ Jigsaw: แบง่ กลุ่มนักศึกษากลุ่มละ 5 คนใหห้ มายเลขสมาชกิ คนที่ 1-5 แล้วศกึ ษาใบ กจิ กรรมท่ี 3.1 2. ครอู ธิบายขั้นตอนการทากจิ กรรมท่ี 3.1 แลว้ ใหน้ กั ศกึ ษาปฏบิ ตั ิตามใบกิจกรรม 3.1 3. นักศึกษาร่วมกนั สรุป การสรา้ งความประทับใจตอ่ ลูกคา้ ตามภาพตัวอยา่ งตามใบกิจกรรมที่ 3.1 (หลกั ฐานการเรยี นรู้: การสร้างความประทบั ใจตอ่ ลูกค้า ของกจิ กรรมที่ 3.1) 4. ครูสรปุ การสรา้ งความประทับใจตอ่ ลกู ค้า 5. ครูให้ความรูเ้ รอ่ื ง การสรา้ งความประทับใจตอ่ ลกู คา้ โดยฉายสไลด์ประกอบร่วมกบั การซักถาม 6. แบ่งกลุ่มผู้เรยี นกลุ่มละ 2-3 คน เพื่อทากิจกรรมที่ 3.2- 3.4 ครูอธิบายวิธีการทากิจกรรม และ ซักถามเพื่อความเข้าใจในขั้นตอนการทากิจกรรม ขณะท่ีนักศึกษาทากิจกรรม ครูคอย สังเกตการณ์แก้ปัญหาฯ และปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จตามกาหนดฯ พร้อมท้ังให้ คาแนะนาในการปฏบิ ตั ิงาน 7. ให้นักศึกษารวบรวมงานส่งกลุ่มละ 1 ชุด ครูเฉลยพร้อมทั้งให้แก้ไขข้อบกพร่อง จากนั้นให้ นกั ศึกษาทาสง่ เปน็ รายบคุ คล การสรุป 8. ครแู ละนกั ศกึ ษาร่วมกันสรปุ บทเรียน การบูรณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความมเี หตุผล -นกั ศกึ ษามคี วามรู้ในเรื่องผลิตภัณฑ์และการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ใหม่ การกาหนดราคาและองค์ ประกอบเกยี่ วกับราคา การจัดจาหนา่ ย การส่งเสริมการตลาด และสามารถสามารถนาไปใชไ้ ด้ อยา่ งเหมาะสม ความพอประมาณ - นักศึกษาสามารถปฏิบตั กิ ิจกรรมในการเรียนการสอนตามระยะเวลาทก่ี าหนด และประมาณตน อยู่ ในความเหมาะสม การมภี ูมิคุ้มกันในตัวทดี่ ี -นักศกึ ษารูค้ ุณค่าและประโยชนใ์ นเร่อื ง ส่วนผสมทางการตลาด ครูมีแผนการสอนและ สือ่ การสอนอย่างเป็นระบบทาให้การเรียนการสอนราบร่ืน เงื่อนไขความรู้ 1. นกั ศกึ ษานาเสนอผลติ ภัณฑ์และการพัฒนาผลิตภัณฑใ์ หมไ่ ด้ 2. นักศกึ ษาระบุและอธิบายการกาหนดราคาและองคป์ ระกอบเกี่ยวกับราคาได้ 3. นกั ศึกษาอธิบายชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยได้

45 4. นักศึกษาบอกวธิ กี ารสง่ เสริมการตลาดได้ เงื่อนไขคุณธรรม - นกั ศึกษามวี ินยั ความสนใจใฝ่รู้ - นักศกึ ษามีความรกั สามคั คี ความซ่ือสตั ย์ - นกั ศกึ ษาห่างไกลยาเสพตดิ การบรู ณาการกบั มาตรฐานสถานศึกษา ด้านประชาธิปไตย - นกั ศึกษาสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้อย่างอสิ ระ และมีความเปน็ ประชาธปิ ไตยในการ ฝึกปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและความเป็นไทย - นกั ศึกษาร้รู กั -รู้กตญั ญู มวี นิ ยั ความสนใจใฝร่ ู้ มมี นุษย์สมั พันธ์ อดทนอดกลั้น ความซอื่ สตั ย์ สจุ ริตมคี วามประหยดั ความรบั ผิดชอบ หา่ งไกลยาเสพตดิ และกลา้ แสดงออก ด้านภมู คิ มุ้ กันภยั จากยาเสพติด - นักศึกษามีความรูใ้ นเร่อื งยาเสพติด ใชเ้ วลาวา่ งในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย และรู้จกั ฝึกฝน ตนเองใหเ้ ปน็ พนักงานขายทด่ี ี รู้จกั การออกกาลังกาย 6. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สื่อสิง่ พมิ พ์ 6.1.1 หนงั สือเรยี นวชิ า หลักการตลาด 6.1.2 แบบทดสอบท้ายบท 6.1.3 แบบฝกึ หัดท้ายบท 6.1.4 รปู เล่มรายงาน 6.2 สือ่ โสตทัศน์ - สอ่ื power point วชิ า หลกั การตลาด - สือ่ อนิ เตอร์เนต 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ ) หลักฐานการเรยี นรูท้ ่ตี อ้ งการ 1. นักศึกษาสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามได้อย่างถกู ต้อง 2. นักศกึ ษาสามารถทางานได้อยา่ งถูกต้อง 3. นกั ศึกษาสามารถนาเสนองานได้อย่างถูกต้อง 4. นกั ศึกษาสามารถทาแบบฝึกหดั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง หลักฐานการปฏิบตั งิ านทตี่ อ้ งการ 1. แบบทดสอบท้ายบท 2. แบบฝึกหัดทา้ ยบท 3. เอกสารงานกลุม่ 4. สมุดจดบันทึก

46 8. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วิชาอืน่ การบูรณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 1.ความมีเหตผุ ล - นักศึกษาเขยี นรายละเอียดอยา่ งยอ่ ในหัวเร่ือง ส่วนประสมทางการตลาดตามทกี่ าหนด - นักศกึ ษาเลอื กหวั ข้อทส่ี อดคล้องกับสภาพปัญหาในการทาแบบฝึกปฏบิ ัติ - นกั ศกึ ษา ศึกษาเอกสารที่เก่ียวข้องสอดคล้องกบั เร่ืองทีท่ า - นกั ศกึ ษาทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิอย่างถกู ตอ้ งกับเรอ่ื งทีท่ า 2.ความพอประมาณ - นักศึกษาทาแบบฝึกปฏิบัติเร่ือง ส่วนประสมทางการตลาด และนาเสนอแบบฝกึ ปฏิบัติดว้ ย วิธีการท่ีกาหนด - เลือกใชเ้ ครอื่ งมือวัดและทาการวดั ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู - เกบ็ รวบรวมข้อมูลและจัดทาข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบและเหมาะสม - รว่ มกนั ทาการสรุปผลความรู้ - นาเสนอแบบฝึกปฏิบตั ิ 3.การมภี มู ิคุม้ กนั ในตัวทด่ี ี - นกั ศึกษามีการเตรยี มความพรอ้ มแก้ปัญหาท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ในการทาแบบฝึกปฏบิ ัติ 4.เง่ือนไขความรู้ - นกั ศกึ ษามีความเข้าใจทถ่ี ูกตอ้ งในเร่ืองของ สว่ นประสมทางการตลาด 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม - นกั ศกึ ษามีระเบียบวนิ ัย ใฝ่หาความรู้ และรจู้ กั ดารงตนโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 9. การวัดและประเมินผล ก่อนเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง ส่วนประสมทางการตลาด ระหว่างเรียน ใบงานจาก แบบประเมินผลการเรียนรู้ จากหนังสอื เรียนการจดั การแสดงสินค้า หน่วยท่ี 1 และ2 หนงั สอื เรยี นหลกั การตลาด เรียบเรียงโดย สภุ าพร หลักหาญ หลังเรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง ส่วนประสมทางการตลาด - แบบทดสอบ ยอ่ ยครงั้ ท่ี 1 ส่วนประสมทางการตลาด - แบบ สงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม ลักษณะนสิ ัยรอบรู้ – รอบคอบ ซือ่ สตั ย์ สุจริต ขยนั อดทน แบง่ ปนั และความเปน็ ประชาธิปไตย

47 เกณฑ์การประเมิน นักศึกษาผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ 70% ขึน้ ไป วัดผลสมั ฤทธจ์ิ ากแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ ร้อยละ 80 – 100 หมายถงึ ผลการเรียนดมี าก รอ้ ยละ 70 – 79 หมายถงึ ผลการเรยี นดี ต่าว่าร้อยละ 70 หมายถงึ ผลการเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์

48 10. บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1) ขอ้ สรปุ หลังการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................. 2) ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................... .......................................... ......................................................................................... ............................................................ ......................... ............................................................................................................................. ................................................. 3) แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

49 แบบทดสอบกอ่ นเรียน วิชา หลกั การตลาด รหสั วิชา 30200 - 1002 จงเลอื กคาตอบใหถ้ กู ต้องท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว 20 ข้อ 1. นักการตลาดท่ีดีต้องมมี มุ มองตอ่ ลูกค้าในลกั ษณะใดมากทสี่ ดุ ก. Customer behavior ข. Customer needs ค. Customer relations ง. Customer market ตอบ ข. 2. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ กลยทุ ธท์ างการตลาดโดยคลอบคลมุ ก. แผนการดาเนนิ งานทง้ั หมดเพือ่ ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคท์ างการตลาด ข. การบริการธรุ กิจโดยรวมของฝา่ ยการตลาด ค. วธิ กี ารและกระบวนการบริหารส่วนผสมทางการตลาด 4Ps ง. การตลาดแนวใหม่ Customer RelationshipMarketing ตอบ ก. 3. ข้อใดไม่ใช่ Marketing Process ก. การวิเคราะห์โอกาสทางการตลาด ข. การวิจยั และเลือกตลาดเป้าหมาย ค. การวิจยั และเลือกตลาดเปา้ หมาย ง. การตัดสินใจซ้ือของผ้บู รโิ ภค ตอบ ง. 4. ขอ้ ใดไมใ่ ชห่ ลกั เกณฑข์ องแนวความคิดทางการตลาด ก. แผนการตลาด ข. ยอดขาย ค. กาไร ง. ลกู ค้า ตอบ ก. 5. ขอ้ ใดเป็นแนวความคดิ การตลาดสมยั เกา่ ก. แนวความคิดมุ่งผลิตภณั ฑ์ ข. แนวความคิดมงุ่ การขาย ค. แนวความคดิ มุ่งการผลติ ง. แนวความคิดมุง่ การตลาดและสงั คม ตอบ ค. 6. ข้อใดเป็นแนวความคิดการตลาดสมยั ใหม่ ก. แนวความคิดมุง่ ผลติ ภัณฑ์ ข. แนวความคิดมุ่งการผลติ ค. แนวความคิดมงุ่ การตลาดและสงั คม ง. แนวความคิดมุง่ การขาย ตอบ ค. 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สิ่งแวดล้อม มหภาค Macro -environment ก. การเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ข. สภาวะเศรษฐกิจฟองสบแู่ ตก