แผนการ สอน เรื่อง ส่วนประกอบของพืช ม 1

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรับปรุง

เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ (A)

ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคุณภาพ 0
21

นักเรียนมีความ ส่งงานตรงตามท่ี ส่งงานช้ากว่ากำหนด สง่ งานช้ากวา่ กำหนด สง่ งานชา้ กว่ากำหนด

รับผดิ ชอบในภาระงาน กำหนด (อาทิตย์ทีน่ ัด 1-2 วนั 3 วัน มากกว่า 3 วันหรอื ไม่

ทคี่ รูมอบหมาย และส่ง ส่งงาน) ส่ง

งานไดใ้ นเวลาท่ีกำหนด

(3 คะแนน)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คุณภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรับปรุง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 16

เรอ่ื ง การลำเลยี งในพืช ชัน้ ม.1/2 .

ผลการประเมนิ ตามแบบประเมนิ
-นกั เรยี นจำนวน......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............ มผี ลการประเมินดา้ น K ในระดับ …….......
-นกั เรยี นจำนวน......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. มผี ลการประเมินด้าน P ในระดับ ……......
-นกั เรยี นจำนวน..........คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............. มีผลการประเมินดา้ น A ในระดับ …….....

ปญั หาท่พี บจากการสอนในคาบเรยี น
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
...................................................................................................................................................................... ..............
การแก้ไขปญั หาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ............................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
ผลการแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. .......................................................
ข้อเสนอแนะในการสอนครัง้ ถัดไป
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................... .............................................

ลงชอื่ .....................................................................
(นางสาวนุสรนิ ทร์ อิ่นคำ) .

นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู

ความคิดเหน็ ของผพู้ ่เี ลีย้ ง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
(ว21101) และมคี วามคิดเหน็ ดังน้ี

1. เป็นหนว่ ย/แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ได้นำเอาทกั ษะกระบวนการเรียนรู้

ท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญใช้ในการสอนอย่างเหมาะสม
ทย่ี ังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป
3. เปน็ หนว่ ย/แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี นำไปใชใ้ นการสอนไดจ้ ริง

ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….…………….……
….……………………………………………………………………………………………………………………….………….………………...........
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................................

(นางพชั รา ภริ ะกันทา) .

ครูพีเ่ ลี้ยง .

................../................./..................

ใบงานที่ 3.2

เรอ่ื ง การลำเลียงน้ำและแร่ธาตขุ องพืช

ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนวาดภาพและบรรยายท่อลำเลียงไซเล็ม

ท่อไซเล็ม (xylem) เป็นท่อลำเลียงน้ำ ที่มี

ลักษณะกลวงยาว ประกอบไปด้วยกลุ่มเซลล์ที่ไม่มี

ชวี ติ เช่น เวสเซล เทรคดี เป็นต้น บริเวณผนังเซลล์จะ

มีช่องว่าง เรียกว่า พิธ ส่งผลใหเ้ กิดการลำเลยี งน้ำไป

ยังเซลล์ที่อยู่ข้าง

เคี ยง

เรียกว่า พิธ ส่งผลเรียกว่า พิธ ส่งผลเรียกว่า พิธ

ตอนท่ี 2 ส่งผลได้

คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนพิจารณาภาพท่กี ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี

1. นักเรียนคดิ วา่ น้ำเขา้ สู่ลำต้นผา่ นทางขนรากได้อยา่ งไร
2. พชื จะนำแร่ธาตทุ ี่อยูภ่ ายในดินไปใชไ้ ด้อยา่ งไร
3. จากรูป กระบวนการคายน้ำมีความเกย่ี วขอ้ งอยา่ งไรกับกระบวนการลำเลยี งสาร

ใบงานท่ี 3.2 เฉลย

เร่ือง การลำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุของพชื

ตอนท่ี 1
คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวาดภาพและบรรยายท่อลำเลียงไซเลม็

ท่อไซเล็ม (xylem) เป็นท่อลำเลียงน้ำ ที่มี
ลักษณะกลวงยาว ประกอบไปด้วยกลุ่มเซลล์ที่ไม่มี
ชวี ิตเช่น เวสเซล เทรคดี เป็นต้น บรเิ วณผนังเซลลจ์ ะ
มีช่องว่าง เรียกว่า พิธ ส่งผลให้เกดิ การลำเลยี งน้ำไป
ยงั เซลล์ท่ีอยขู่ ้างเคยี งได้

ตอนที่ 2
คำช้ีแจง : ให้นักเรียนพิจารณาภาพทก่ี ำหนดให้ แล้วตอบคำถามต่อไปนี้

1. นกั เรยี นคดิ ว่าน้ำเขา้ สลู่ ำต้นผา่ นทางขนรากได้อยา่ งไร นำ้ จะออสโมซิสเขา้ สู่เซลล์ขนราก
2. พืชจะนำแร่ธาตทุ ี่อยู่ภายในดนิ ไปใช้ได้อย่างไร พชื จะนำแรธ่ าตุที่อย่ภู ายในดนิ ไปใชใ้ นรูปของสารละลาย โดยจะ
แพรเ่ ขา้ สู่เซลลข์ นรากดว้ ยกระบวนการแอคทีฟทรานสปอร์ต
3. จากรปู กระบวนการคายน้ำมคี วามเกย่ี วข้องอยา่ งไรกับกระบวนการลำเลียงสาร กระบวนการคายน้ำทำให้เกดิ
แรงดงึ จากการคายน้ำ สง่ ผลใหน้ ำ้ ออสโมซสิ เขา้ สเู่ ซลลข์ นรากมากขึ้น

แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1/2
วชิ าวิทยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน เร่อื ง การลำเลยี งในพชื

ลำดับ ชื่อ-สกุล ความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะ รวม ผลการประเมิน
33 3 9 ผ่าน ไมผ่ ่าน
1 เด็กหญิงลกั ขณา ทาเกิด
2 เดก็ ชายเทพพิทักษ์ โสภณ
3 เด็กหญิงณิชากร บวั สวุ รรณ
4 เดก็ ชายฉัตรเมธี โสภาวนั
5 เด็กหญิงวณิ นี ชุ มาลัยจรูญ
6 เด็กชายบญุ มี ทรงชัยเจริญ
7 เด็กชายพิชัยยทุ ธ โชคขจรไพศาล
8 เดก็ ชายภูบดนิ ทร์ ป่ินหยา่
9 เด็กชายวิทวัส ชัยศรี
10 เดก็ ชายนมิ ติ อุดมไพศาลศักดิ์
11 เดก็ หญงิ พมิ พ์มาดา สรุ ยิ ะ
12 เดก็ หญิงชลธิชา ครี มี าลยั
13 เด็กหญิงมาลี แซล่ ี
14 เดก็ หญิงขวญั ชนก วิวฒั น์พรไชย
15 เดก็ ชายณฐั วัชร แซ่หาง
16 เดก็ ชายกฤษณกนั ณฑ์ จนั ทร์อินทร์
17 เด็กชายณฐั ภัทร พชิ ชาพงศ์

**หมายเหตุ ผา่ นเกณฑ์คะแนนรวมไม่ตำ่ กว่า 5 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไม่ผา่ น………………….คน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
เวลาท้งั หมด 21 ชว่ั โมง
รายวชิ าวิทยาศาสตร์ เวลา 3 คาบ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง การดำรงชวี ติ ของพืช ผู้สอน นางสาวนสุ รนิ ทร์ อิ่นคำ
แผนท่ี 17 เร่ือง การเจรญิ เติบโตของพชื
สอนวนั ท่ี 25 สงิ หาคม 2564

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสมั พันธ์ของโครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนษุ ยท์ ่ที ำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพนั ธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทำงานสัมพันธ์กัน รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ดั
ม.1/14 อธบิ ายความสำคญั ของธาตุอาหารบางชนิดท่ีมผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตและการดำรงชวี ติ ของพืช
ม.1/15 เลอื กใช้ป๋ยุ ทีม่ ธี าตอุ าหารเหมาะสมกบั พืชในสถานการณ์ท่ีกำหนด

สาระสำคญั
พืชสามารถผลิตอาหารได้จากกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับพืช เพื่อใช้ใน

การเจริญเติบโต เช่น การเพิ่มจำนวนเซลล์ การขยายขนาดของเซลล์ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเซลล์ไปทำ
หน้าที่เฉพาะต่าง ๆ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว และพืชใบเลี้ยงคู่ มีลักษณะที่แตกต่างกัน เนื่องจากขั้นตอนการเจริญเติบโต
ของรากและลำต้นในพืชทั้งสองชนิดแตกต่างกัน นอกจากนี้พืชต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นหลายชนิดสำหรับการ
เจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ติ ของพชื

สาระการเรยี นรู้
- พืชตอ้ งการธาตุอาหารที่จำเป็นหลายชนิดในการเจรญิ เติบโตและการดำรงชีวติ
- พชื ตอ้ งการธาตุอาหารบางชนดิ ในปริมาณมาก ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซยี ม แคลเซยี ม แมกนีเซียม

และกำมะถนั ซ่ึงในดนิ อาจมไี ม่เพยี งพอสำหรับ การเจรญิ เตบิ โตของพชื จึงต้องมีการใหธ้ าตุอาหารในรปู ของปุ๋ยกับพืชอย่าง
เหมาะสม

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญของธาตุอาหารบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการ
ดำรงชวี ติ ของพืชได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นกั เรียนสามารถเลือกใช้ปุ๋ยท่ีมธี าตอุ าหารเหมาะสมกับพชื ได้
ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
นักเรยี นมีความรบั ผดิ ชอบในภาระงานทค่ี รูมอบหมาย และส่งงานไดใ้ นเวลาทก่ี ำหนด

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการสื่อสาร
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ตั้งใจทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 : ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) (10 นาที)

1. ครแู จ้งผลการเรยี นรูใ้ หน้ ักเรยี นทราบ
2. ครใู ชค้ ำถามกระต้นุ ความคดิ ของนกั เรยี นว่า “สง่ิ ใดบา้ งที่บ่งบอกวา่ พืชมีการเจรญิ เติบโต”

(แนวคำตอบ : การงอกเมลด็ การขยายขนาดของลำต้น การแตกใบและผลดั ใบ เป็นต้น)
ขน้ั ที่ 2 : ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (80 นาท)ี

1. ครใู ห้ความรู้เก่ียวกับ เร่ือง “การเจรญิ เติบโตของพชื ” แกน่ ักเรียน โดยใชส้ ือ่ คลปิ วิดีโอการเจริญเติบโต
ของพืช วิทยาศาสตร์ ม.1 คลิปวิดีโอธาตุอาหารมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชอย่างไร และใช้หนังสือวิชา
วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 (อจท.) หน้า 58-61

(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=uyjnRKjWHGk)
(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=V1y-ATAngaI)

2. ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรม โดยมขี ั้นตอนดงั ตอ่ ไปนี้
2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม จากนั้นครู ครูแจกเมล็ดถั่วเขียวให้กับนักเรียนแต่ละกลุม่

พร้อมกบั แจกใบงานท่ี 3.3 เร่ือง การเจรญิ เตบิ โตของพชื ให้กบั นักเรียน
2.2 ครแู จกอุปกรณก์ ารเพาะเมล็ดถั่วเขยี ว ดงั น้ี
- ขวดพลาสตกิ
- กระดาษทิชชู
2.3 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มปลูกต้นถั่วเขียว และศึกษาการเจริญเติบโตของพืชในหนังสือเรียน

วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หนา้ ที่ 58 แลว้ ให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.3 เรอ่ื ง การเจริญเตบิ โตของพชื ในตอนท่ี 1
3. ครูถามคำถามเกร่นิ นำว่า จากการทน่ี ักเรียนเพาะเมลด็ ถ่วั เขยี ว นกั เรียนคิดวา่ ปจั จัยใดบ้างทีม่ ผี ลต่อการ

เจริญเตบิ โตของพืช
(แนวคำตอบ น้ำ แสง ดนิ แร่ธาตุ อณุ หภมู ิ เปน็ ต้น)

4. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า น้ำและแสงมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชอย่างไร
จากนั้นให้นกั เรยี นแลกกระดาษคำตอบกบั เพ่ือน แล้วตรวจคำตอบของเพือ่ นจากการอภปิ รายรว่ มกันระหวา่ งครูกับ
นกั เรยี น

(แนวคำตอบ น้ำช่วยใหแ้ รธ่ าตทุ ่ีอยใู่ นดนิ ละลายน้ำอยใู่ นรูปของสารละลาย ทำให้พชื ดดู ซมึ นำไปใช้
ประโยชน์ได้ และแสงเป็นปจั จยั สำคญั ท่พี ชื ใชส้ ังเคราะห์แสง เพอ่ื ผลิตอาหารไว้ใชส้ ำหรับการเจริญเติบโต ยกเวน้
ในกรณีการงอกของเมล็ด)

5. ครนู ำภาพต้นไมช้ นดิ เดยี วกนั แตเ่ จรญิ เตบิ โตในภูมิภาคทีต่ า่ งกัน แล้วตัง้ คำถามจากภาพ ดังน้ี
- จากภาพต้นไม้ 2 ตน้ มีความแตกตา่ งกนั หรอื ไม่
(แนวคำตอบ แตกตา่ ง)
- นักเรียนคิดวา่ ปัจจยั ใดทที่ ำใหต้ น้ ไมช้ นดิ เดยี วกนั มลี กั ษณะการเจรญิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั
(แนวคำตอบ สภาพแวดลอ้ ม สภาพอากาศ และความอุดมสมบรู ณ์ของแร่ธาตใุ นดนิ )
- หากนักเรียนต้องการแกป้ ญั หาตน้ ไมใ้ นรูป ทข่ี าดแรธ่ าตุในดิน นักเรียนจะแกป้ ัญหาอยา่ งไร
(แนวคำตอบ ใช้ปุย๋ เพมิ่ แร่ธาตอุ าหารให้กับต้นไม้)

6. ครูให้นักเรียนศึกษาประเภทของปุ๋ย และข้อดี-ข้อเสียของปุ๋ยแต่ละประเภทจากหนังสือเรียน
วทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 59

7. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า “นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ว่าปุ๋ยเปรียบเสมือนกับ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสรมิ อยา่ งไร”

(แนวคำตอบ ปยุ๋ เปรียบเสมือนกับอาหารเสรมิ ท่รี ่างกายต้องการในเวลาทีธ่ าตุอาหารไมเ่ พียงพอต่อ
การเจริญเตบิ โต โดยป๋ยุ จะอุดมไปด้วยแรธ่ าตุอาหารตา่ ง ๆ ที่พืชต้องการ)

8. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง การเจริญเติบโตของพืช ในตอนที่ 2
ขน้ั ที่ 3 : อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (30 นาท)ี

1. ครสู ุ่มตวั แทนกลุม่ ออกมานำเสนอผลการเพาะเมลด็ ถั่วเขยี ว
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของกระบวนการเจริญเติบโตของพืชกับการ
เจริญเตบิ โตของต้นถ่ัวเขียว
ขนั้ ท่ี 4 : ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาท)ี
ครใู ห้นกั เรยี นทำใบงานที่ 3.3 เรือ่ ง การเจรญิ เติบโตของพชื
ข้นั ท่ี 5 : ขั้นประเมนิ (Evaluation) (10 นาท)ี
ครูประเมินผลการเรียนรูจ้ ากใบงาน 3.3 และประเมินการส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด โดยใช้เกณฑ์การ
ประเมนิ จากแผนการเรยี นรทู้ ี่ 17

ส่อื อปุ กรณ์การเรยี นรู้ และแหล่งการเรียนรู้
1) คลปิ วดิ ีโอ “การเจริญเติบโตของพชื วิทยาศาสตร์ ม.1”
(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=uyjnRKjWHGk)
2) คลปิ วิดีโอธาตุอาหารมผี ลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืชอยา่ งไร
(ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=V1y-ATAngaI)
3) หนังสือวิชาวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 (อจท.)
4) ใบงานที่ 3.3 เรื่อง การเจรญิ เตบิ โตของพชื

การวัดและการประเมนิ วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์ใชป้ ระเมนิ
ประเดน็ การประเมิน

ด้านความรู้ (K)

นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสำคญั ตรวจจากใบงานที่ 3.3 ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง การ ระดับคุณภาพ
ของธาตุอาหารบางชนดิ ท่ีมผี ลตอ่ เรอ่ื ง การเจริญเติบโต เจริญเติบโตของพืช ตอนท่ี พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
การเจรญิ เตบิ โตและการดำรงชีวติ ของพืช 1
ของพชื ได้

ด้านทกั ษะ (P)

นักเรยี นสามารถเลือกใช้ปุ๋ยที่มีธาตุ ตรวจจากใบงานที่ 3.3 ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง การ ระดับคุณภาพ
อาหารเหมาะสมกับพืชได้ เร่อื ง การเจริญเติบโต เจรญิ เตบิ โตของพชื ตอนท่ี พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ของพชื 2

ด้านคุณลักษณะ (A)

นกั เรียนมคี วามรบั ผิดชอบในภาระ ตรวจจากการสง่ งานใบ แบบบันทึกการสง่ งาน ระดบั คุณภาพ
งานทคี่ รมู อบหมาย และสง่ งานได้ใน งานที่ 3.3 พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เวลาท่กี ำหนด

เกณฑ์การประเมินด้านความรู้ (K)

ประเด็นการประเมิน 3 ระดบั คุณภาพ 0
21

นักเรยี นสามารถ นกั เรียนสามารถ นกั เรียนสามารถ นกั เรียนสามารถ นกั เรยี นไมส่ ามารถ

อธบิ ายความสำคัญ อธบิ ายความสำคัญ อธบิ ายความสำคัญ อธิบายความสำคัญของ อธิบายความสำคัญ

ของธาตุอาหารบาง ของธาตุอาหารบาง ของธาตุอาหารบาง ธาตุอาหารบางชนดิ ที่มี ของธาตุอาหารบาง

ชนดิ ทมี่ ีผลตอ่ การ ชนิดทมี่ ีผลตอ่ การ ชนดิ ท่มี ผี ลต่อการ ผลต่อการเจรญิ เตบิ โต ชนดิ ท่ีมผี ลต่อการ

เจรญิ เติบโตและการ เจริญเติบโตและการ เจรญิ เติบโตและการ และการดำรงชวี ิตของ เจริญเตบิ โตและการ

ดำรงชวี ิตของพืชได้ ดำรงชวี ิตของพืชใน ดำรงชวี ติ ของพืชในใบ พชื ในใบงานท่ี 3.3 ดำรงชีวติ ของพืชใน

(3 คะแนน) ใบงานที่ 3.3 ตอนที่ งานท่ี 3.3 ตอนท่ี 1 ตอนท่ี 1 ได้ถกู ต้อง มี ใบงานท่ี 3.3 ตอนท่ี

1 ไดถ้ ูกต้อง มี 3 ไดถ้ ูกตอ้ ง มี 2ประเดน็ 1 ประเดน็ ดังนี้ (ข้อใดก็ 1 ไดถ้ ูกตอ้ ง

ประเด็นดังน้ี ดงั น้ี (ขอ้ ใดก็ได้) ได)้

- ความสงู ของต้น - ความสงู ของต้น - ความสงู ของตน้

- จำนวนใบ - จำนวนใบ - จำนวนใบ

- ผลการทำกิจกรรม - ผลการทำกิจกรรม - ผลการทำกจิ กรรม

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทักษะ (P)

ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคณุ ภาพ
21 0
นกั เรยี นสามารถ นกั เรียนสามารถ นักเรียนสามารถ นกั เรยี นสามารถ นักเรยี นไมส่ ามารถ
เลอื กใช้ปยุ๋ ที่มธี าตุ เลือกใชป้ ุ๋ยท่ีมีธาตุ เลือกใชป้ ุย๋ ที่มธี าตุ
เลอื กใชป้ ยุ๋ ที่มีธาตุ เลอื กใชป้ ๋ยุ ที่มีธาตุ อาหารเหมาะสมกับ อาหารเหมาะสมกับ อาหารเหมาะสมกับ
พชื ในใบงานท่ี 3.3 พชื ในใบงานที่ 3.3 พชื ในใบงานท่ี 3.3
อาหารเหมาะสมกับพืช อาหารเหมาะสมกับ ตอนท่ี 2 ได้ถูกต้อง ตอนที่ 2 ไดถ้ กู ต้อง ตอนที่ 2 ไดถ้ ูกตอ้ ง
2-3 ข้อ 1 ขอ้
ได้ พืชในใบงานที่ 3.3

(3 คะแนน) ตอนท่ี 2 ได้ถกู ต้อง

4-5 ข้อ

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมินด้านความรู้ (A)

ประเด็นการประเมนิ 3 ระดบั คณุ ภาพ 0
21

นกั เรียนมีความ ส่งงานตรงตามที่ สง่ งานชา้ กว่ากำหนด สง่ งานช้ากว่ากำหนด ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในภาระงาน กำหนด (อาทติ ย์ทนี่ ัด 1-2 วนั 3 วัน มากกวา่ 3 วันหรอื ไม่

ท่คี รมู อบหมาย และส่ง สง่ งาน) สง่

งานได้ในเวลาท่ีกำหนด

(3 คะแนน)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดี
2 พอใช้
0 - 1 ปรับปรงุ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 17

เรอ่ื ง การเจรญิ เตบิ โตของพืช ช้ัน ม.1/2 .

ผลการประเมนิ ตามแบบประเมิน
-นักเรียนจำนวน......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............ มีผลการประเมนิ ดา้ น K ในระดับ …….......
-นกั เรียนจำนวน......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. มีผลการประเมนิ ด้าน P ในระดับ ……......
-นักเรียนจำนวน..........คน คิดเปน็ ร้อยละ.............. มผี ลการประเมินดา้ น A ในระดบั …….....

ปญั หาท่ีพบจากการสอนในคาบเรยี น
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................................ ............
.......................................................................................................................... ..........................................................
การแก้ไขปัญหาและอุปสรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................... ........................................................................................................... ......
ผลการแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
...................................................................................................................................................... ..............................
ขอ้ เสนอแนะในการสอนครง้ั ถัดไป
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ.....................................................................
(นางสาวนสุ รนิ ทร์ อ่ินคำ) .

นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู

ความคิดเหน็ ของผู้พ่เี ลีย้ ง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
(ว21101) และมคี วามคิดเห็นดงั นี้

1. เป็นหนว่ ย/แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้
2. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำเอาทกั ษะกระบวนการเรียนรู้

ท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญใช้ในการสอนอย่างเหมาะสม
ทย่ี ังไม่เน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป
3. เปน็ หนว่ ย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี นำไปใช้ในการสอนไดจ้ รงิ

ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….…………….……
….……………………………………………………………………………………………………………………….………….………………...........
................................................................................................................................................................ ....................
....................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................................

(นางพชั รา ภริ ะกันทา) .

ครูพ่เี ล้ยี ง .

................../................./.................

.

ใบงานท่ี 3.3

เรอื่ ง การเจรญิ เติบโตของพชื

ชื่อ…………………………………………………………………..…….…เลขท…ี่ ………………..……………ห้อง…….…………………………
ตอนที่ 1
คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนบนั ทึกผลการเจริญเตบิ โตของตน้ ถวั่ เขยี วภายใน 1 สปั ดาห์

ระยะเวลา (วัน) ความสูงของตน้ (cm) จำนวนใบ

0

2

4

7

ผลกจิ กรรมมคี วามเก่ียวขอ้ งอยา่ งไรกับกระบวนการเจริญเติบโตของพชื
___________________________________________________________________________

_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
_____________________________________________________________________________
ตอนท่ี 2
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นนำตน้ อ่อนของถัว่ เขียวไปเพาะลงในดินเปน็ เวลา 2 สปั ดาห์ แลว้ ตอบคำถามต่อไปนี้
1. ปจั จยั ใดมผี ลตอ่ การงอกของเมล็ดถั่วเขียว
_____________________________________________________________________________
2. น้ำมีความสำคัญตอ่ การเจริญของต้นถวั่ เขยี วอย่างไร
_____________________________________________________________________________
3. เม่ือนำต้นถวั่ เขยี วไปเพาะลงดิน นักเรียนคดิ ว่าในดนิ มีธาตุอาหารทีเ่ หมาะสมเพียงพอต่อการเจรญิ เติบโตของต้น

ถ่วั เขียวหรือไม่ อยา่ งไร
_____________________________________________________________________________
4. หากดนิ ทน่ี กั เรียนนำมาใชป้ ลูกตน้ ถวั่ เขียวไมร่ ่วนซยุ ไม่อ้มุ น้ำ นกั เรียนจะเลือกใช้ปุ๋ยประเภทใด
_____________________________________________________________________________
5. หากนกั เรยี นต้องการใหต้ ้นถ่วั เขยี วไดร้ บั ธาตอุ าหารในทันที นกั เรียนจะเลือกใชป้ ยุ๋ ประเภทใด
_____________________________________________________________________________

ใบงานที่ 3.3 เฉลย

เรื่อง การเจริญเตบิ โตของพืช

ตอนท่ี 1
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นบนั ทึกผลการเจริญเติบโตของตน้ ถัว่ เขียวภายใน 1 สปั ดาห์

ระยะเวลา (วนั ) ความสูงของต้น (cm) จำนวนใบ

0
2

4

7

อภปิ รายผลกิจกรรม
การเจรญิ ของต้นถ่วั เขยี วเกย่ี วขอ้ งกบั กระบวนการเจรญิ เตบิ โตต้งั แตไ่ ซโกตท่ีอย่ภู ายในเมลด็ เรมิ่ มกี ารแบ่งเซลล์

เพื่อเพม่ิ จำนวนเซลล์ ขยายขนาด จนกระทั่งเอ็มบริโอที่อยู่ภายในเมลด็ งอกออกมาเปน็ ตน้ อ่อนซึ่งเซลล์ท่ีอย่ภู ายใน
ตน้ ออ่ นจะยงั คงแบ่งเซลล์ ขยายขนาด และมีการเปล่ียนแปลงรูปร่างของเซลลไ์ ปทำหน้าทเ่ี ฉพาะ เช่น เนือ้ เย่ือ
ลำเลยี ง เซลลค์ ุมทีอ่ ยู่บริเวณใบ เป็นต้น
ตอนท่ี 2
คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนนำตน้ อ่อนของถั่วเขียวไปเพาะลงในดินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ แลว้ ตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. จงบอกปจั จยั ท่ีมีผลตอ่ การเจรญิ ของตน้ ถ่ัวเขยี วมาอย่างน้อย 2 ชนิด

นำ้ แสง ธาตุอาหารท่ีอยใู่ นดิน เปน็ ต้น
2. นำ้ มีความสำคัญต่อการเจรญิ ของต้นถั่วเขยี วอยา่ งไร

นำ้ ชว่ ยละลายแร่ธาตทุ ่อี ยูใ่ นดินใหอ้ ยใู่ นรปู ของสารละลาย ซ่ึงพืชสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
3. เมื่อนำตน้ ถว่ั เขียวไปเพาะลงดิน นกั เรียนคดิ วา่ ในดินมีธาตุอาหารที่เหมาะสมเพยี งพอต่อการเจริญเติบโตของตน้

ถ่ัวเขยี วหรอื ไม่ และมวี ิธแี ก้ไขอย่างไร
แล้วแตส่ ภาพดินในแต่ละบรเิ วณวา่ มคี วามอุดมสมบรู ณ์มากน้อยเพียงใด หากดนิ มีแรธ่ าตุไม่เพียงพอต่อการ
เจรญิ ของต้นถัว่ เขียว ต้นถวั่ เขียวจะมีลักษณะไม่สมบรู ณ์ เช่น ใบแคระ มีสเี หลือง ลำตน้ แกร็น เป็นต้น ซง่ึ เรา
สามารถแก้ปัญหาดว้ ยการเติมปุ๋ยใหด้ ินมธี าตุอาหารท่เี พียงพอต่อการเจรญิ เตบิ โต
4. หากดินทน่ี ักเรียนนำมาใชป้ ลูกต้นถ่วั เขียวไมร่ ว่ นซยุ ไม่อุ้มนำ้ นักเรยี นจะเลือกใชป้ ุย๋ ประเภทใด ปยุ๋ คอก
5. หากนักเรียนต้องการให้ตน้ ถ่วั เขียวไดร้ บั ธาตุอาหารในทันที นกั เรียนจะเลือกใชป้ ๋ยุ ประเภทใด
ปุ๋ยเคมี หรือป๋ยุ วทิ ยาศาสตร์

แบบประเมินผลการเรยี นรู้ของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1/2
วชิ าวิทยาศาสตรพ์ ้ืนฐาน เรอื่ ง การเจริญเติบโตของพชื

ลำดับ ชือ่ -สกุล ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะ รวม ผลการประเมนิ
33 3 9 ผา่ น ไม่ผา่ น
1 เด็กหญงิ ลกั ขณา ทาเกิด
2 เด็กชายเทพพทิ กั ษ์ โสภณ
3 เด็กหญิงณชิ ากร บัวสวุ รรณ
4 เดก็ ชายฉัตรเมธี โสภาวัน
5 เด็กหญิงวิณนี ุช มาลัยจรญู
6 เด็กชายบญุ มี ทรงชัยเจริญ
7 เดก็ ชายพิชยั ยทุ ธ โชคขจรไพศาล
8 เดก็ ชายภบู ดนิ ทร์ ปนิ่ หย่า
9 เดก็ ชายวทิ วสั ชยั ศรี
10 เดก็ ชายนิมติ อุดมไพศาลศกั ดิ์
11 เดก็ หญิงพิมพม์ าดา สรุ ยิ ะ
12 เด็กหญิงชลธชิ า คีรมี าลัย
13 เดก็ หญิงมาลี แซ่ลี
14 เด็กหญิงขวญั ชนก วิวัฒน์พรไชย
15 เดก็ ชายณฐั วชั ร แซ่หาง
16 เด็กชายกฤษณกันณฑ์ จนั ทรอ์ ินทร์
17 เด็กชายณฐั ภัทร พชิ ชาพงศ์

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 5 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไมผ่ ่าน………………….คน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 18 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
เวลาทง้ั หมด ชว่ั โมง
รายวิชาวิทยาศาสตร์ เวลา 3 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง การดำรงชวี ติ ของพชื ผู้สอน นางสาวนุสรนิ ทร์ อนิ่ คำ
แผนท่ี 18 เรื่อง การสืบพนั ธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศของพืช
สอนวนั ท่ี 1 กันยายน 2564

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสมั พนั ธข์ องโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนุษยท์ ี่ทำงานสมั พันธก์ นั ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสมั พันธ์กัน รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วัด
ม.1/11 อธิบายการสบื พนั ธแุ์ บบอาศัยเพศและไมอ่ าศยั เพศของพืชดอก
ม.1/16 เลือกวิธีการขยายพันธุ์พืชให้เหมาะสมกับความต้องการของมนุษย์ โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการ
สบื พันธ์ุของพืช
ม.1/18 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการขยายพนั ธุพ์ ืช โดยการนำความรไู้ ปใช้ในชีวติ ประจำวัน

สาระสำคัญ
การสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ เป็นการขยายพนั ธุข์ องพชื ท่ีไม่ได้มาจากการปฏิสนธริ ะหว่างสเปิร์มกับเซลล์

ไข่ ทำให้พืชต้นใหม่มีลักษณะคล้ายกับต้นเดิมทุกประการ โดยมนุษย์อาศยั หลกั การนีม้ าขยายพันธุ์พืช เพื่อให้พืชมี
ลักษณะตามที่ต้องการโดยการนำส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ราก ลำต้น และใบ เป็นต้น มาทำให้เกิดเป็นต้นใหม่
ได้แก่ การปักชำ การติดตา การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง เป็นต้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับต้นพืช หรือปรับปรุงพันธุใ์ หด้ ีขึ้น
นอกจากนี้พืชสามารถใชโ้ ครงสรา้ งพิเศษจากราก ลำตน้ และใบ ขยายพันธุ์ได้

สาระการเรยี นรู้
- การสบื พันธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ เปน็ การสบื พันธท์ุ ี่พชื ต้นใหม่ไมไ่ ดเ้ กดิ จากการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มกับเซลล์ไข่

แต่เกดิ จากสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช เชน่ ราก ลำตน้ ใบ มกี ารเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาขนึ้ มาเปน็ ต้นใหมไ่ ด้

- มนุษย์สามารถนำความรเู้ รื่องการสืบพนั ธ์ุ แบบอาศัยเพศและไม่อาศยั เพศ มาใช้ในการขยายพันธเ์ุ พอื่ เพ่ิมจำนวน
พืช เช่น การใช้เมล็ดที่ได้จากการสบื พันธุ์แบบอาศัยเพศมาเพาะเลีย้ ง วิธีการนีจ้ ะได้พืชในปริมาณมาก แต่อาจมีลกั ษณะท่ี
แตกต่างไปจากพ่อแม่ ส่วนการตอนกิ่ง การปักชำ การต่อกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นการนำ
ความรู้เรื่อง การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชมาใช้ในการขยายพันธุ์ เพื่อให้ได้พืชที่มีลักษณะเหมือนต้นเดิม ซึ่งการ
ขยายพันธุ์แต่ละวิธี มีขั้นตอนแตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของมนุษย์ โดยต้องคำนึงถงึ ชนิด ของ
พชื และลกั ษณะการสบื พนั ธุข์ องพืช

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นักเรียนสามารถอธบิ ายการสบื พนั ธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพชื ดอกได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นกั เรยี นเลอื กวิธกี ารขยายพนั ธ์พุ ืชให้เหมาะสมกบั ความตอ้ งการของมนษุ ย์ได้
ดา้ นคุณลักษณะ (A)
1) นักเรยี นตระหนักถึงประโยชนข์ องการขยายพันธพ์ุ ชื ได้
2) นกั เรียนมีความรบั ผดิ ชอบในภาระงานท่ีครมู อบหมาย และส่งงานไดใ้ นเวลาที่กำหนด

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการสอื่ สาร
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งม่ันต้งั ใจทำงานดว้ ยความเพยี รพยายาม

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขนั้ ที่ 1 : ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาท)ี

1. ครูแจง้ ผลการเรียนรูใ้ หน้ ักเรียนทราบ

2. ครใู ช้คำถามกระตุ้นให้นกั เรียนคิดว่า “สว่ นใดของพชื ที่มนุษยน์ ำมาใชข้ ยายพนั ธ์ุ”

(แนวคำตอบ : ลำตน้ ราก กิง่ เปน็ ตน้ )

ขน้ั ท่ี 2 : ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) (80 นาท)ี

1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง “การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืช” แก่นักเรียน โดยใช้สื่อคลิปวิดีโอ

การขยายพันธุ์พืชแบบไม่อาศัยเพศ ตอนที่ 1-2 วิทยาศาสตร์ ม.1 และใช้หนังสือวิชาวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

(อจท.) หนา้ 62-64

(ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=OqoXQhe9vig)

(ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=4RTtP5uzNVY)

2. ครใู ห้นักเรียนทำกจิ กรรม (จากคลิปวิดีโอ) โดยมีขัน้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี

2.1 ครใู ห้นักเรยี นแบ่งกล่มุ ออกเป็น 4 กลุ่ม แล้วสง่ ตวั แทนออกมาจบั ฉลากหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

- การปกั ชำ - การติดตา

- การตอนก่ิง - การทาบกง่ิ

2.2 ครูใหน้ ักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลวธิ แี ละขนั้ ตอนการขยายพนั ธุ์พืชตามหัวข้อที่แตล่ ะกลุม่ จับฉลากไดจ้ าก

หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 หน้าที่ 62-64 แลว้ สรุปใน A4 พร้อมกับเลือกต้นไม้มา 1 ชนดิ และขยายพนั ธ์ุ

ด้วยวธิ ีดงั กลา่ ว

ขนั้ ท่ี 3 : อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (30 นาที)

1. ครูสุ่มตวั แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลจากการขยายพันธ์ุพืชตามหวั ข้อทีจ่ บั ฉลาก พร้อมกับนำเสนอ

ขน้ั ตอนและวธิ ีการขยายพนั ธุ์ และนำตน้ ไมท้ ่ีได้รับการขยายพันธ์ดุ ว้ ยวิธีดังกล่าวมาแสดงหน้าชั้นเรียน

2. ครเู สริมความรแู้ ละเพ่ิมขอ้ มูลทนี่ กั เรยี นออกมานำเสนอ

ขน้ั ที่ 4 : ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)

ครใู หน้ กั เรียนใบงาน 3.4 การสืบพันธ์แุ บบไม่อาศัยเพศของพชื

ข้ันท่ี 5 : ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (10 นาท)ี

ครูประเมินผลการเรียนรูจ้ ากใบงาน 3.4 และประเมินการส่งงานตรงตามเวลาท่ีกำหนด โดยใช้เกณฑ์การ

ประเมินจากแผนการเรียนรู้ท่ี 18

สื่ออปุ กรณ์การเรียนรู้ และแหลง่ การเรยี นรู้
1) คลิปวิดีโอ การขยายพันธุพ์ ชื แบบไมอ่ าศัยเพศ ตอนที่ 1-2 วทิ ยาศาสตร์ ม.1
(ทม่ี า : https://www.youtube.com/watch?v=OqoXQhe9vig)
(ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=4RTtP5uzNVY)
2) หนงั สอื วิชาวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 (อจท.)

3) ใบงาน 3.4 การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศของพชื

การวัดและการประเมนิ วิธีการวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑ์ใชป้ ระเมนิ
ประเดน็ การประเมิน

ดา้ นความรู้ (K)

นักเรียนสามารถอธบิ ายการสืบพนั ธ์ุ ตรวจจากใบงาน 3.4 ใบงาน 3.4 การสบื พันธ์ุ ระดบั คุณภาพ
แบบไม่อาศยั เพศของพืชดอกได้ การสบื พันธแ์ุ บบไม่ แบบไม่อาศยั เพศของพืช พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ขอ้ 1
อาศยั เพศของพืช

ดา้ นทักษะ (P)

นักเรียนเลอื กวธิ ีการขยายพันธุพ์ ชื ให้ ตรวจจากใบงาน 3.4 ใบงาน 3.4 การสบื พันธ์ุ ระดับคุณภาพ
แบบไม่อาศัยเพศของพชื พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เหมาะสมกบั ความต้องการของ การสบื พันธ์แุ บบไม่ ขอ้ 2

มนุษยไ์ ด้ อาศัยเพศของพืช

ด้านคุณลักษณะ (A)

1) นักเรียนตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของ ตรวจจากใบงาน 3.4 ใบงาน 3.4 การสืบพันธ์ุ ระดบั คุณภาพ

การขยายพนั ธุ์พชื ได้ การสืบพันธุ์แบบไม่ แบบไม่อาศัยเพศของพืช พอใช้ ผ่านเกณฑ์

อาศยั เพศของพชื ข้อ 3

2) นกั เรยี นมีความรับผิดชอบใน ตรวจจากการส่งงานใบ แบบบันทึกการส่งงาน ระดบั คุณภาพ
ภาระงานท่คี รูมอบหมาย และส่งงาน งานท่ี 3.3 พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
ไดใ้ นเวลาที่กำหนด

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ (K)

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

3 21 0
นักเรียนไม่
นักเรียนสามารถ นักเรียนสามารถ นกั เรยี นสามารถอธบิ าย นกั เรียนสามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย
การสืบพนั ธ์ุ
อธบิ ายการสืบพันธุ์ อธิบายการสืบพันธุ์ การสืบพนั ธ์แุ บบไม่ การสบื พนั ธแ์ุ บบไม่ แบบไม่อาศัย
เพศของพชื ดอก
แบบไม่อาศยั เพศของ แบบไม่อาศยั เพศของ อาศยั เพศของพชื ดอกใน อาศัยเพศของพืชดอกใน ในใบงาน 3.4
ข้อ 1 ได้ถกู ตอ้ ง
พืชดอกได้ พชื ดอกในใบงาน 3.4 ใบงาน 3.4 ขอ้ 1 ได้ ใบงาน 3.4 ขอ้ 1 ได้

(3 คะแนน) ขอ้ 1 ได้ถูกตอ้ ง มี 3 ถกู ต้อง มี 2 ประเด็น ถกู ต้อง มี 1 ประเด็น

ประเดน็ ดังน้ี ดงั น้ี (ขอ้ ใดก็ได)้ ดงั น้ี (ข้อใดก็ได)้

- บอกความหมาย - บอกความหมาย - บอกความหมาย

ถูกต้อง ถกู ต้อง ถกู ต้อง

- มียกตวั อยา่ งพชื - มียกตัวอย่างพชื - มยี กตวั อย่างพืช

สืบพนั ธแ์ุ บบไม่อาศยั สืบพันธุ์แบบไม่อาศัย สืบพนั ธุ์แบบไม่อาศยั

เพศ เพศ เพศ

- มใี จความสมบรู ณ์ - มใี จความสมบรู ณ์ - มีใจความสมบรู ณ์

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คุณภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรบั ปรุง

เกณฑ์การประเมนิ ด้านทักษะ (P)

ประเดน็ การประเมิน 3 ระดับคุณภาพ 0
21

นักเรยี นเลือกวธิ ีการ นักเรียนเลือกวิธกี าร นักเรียนเลือกวิธีการ นักเรยี นเลือกวธิ ีการ นกั เรยี นไมส่ ามารถ

ขยายพนั ธุ์พืชให้ ขยายพนั ธ์พุ ืชให้ ขยายพนั ธุพ์ ืชให้ ขยายพันธพุ์ ืชให้ เลือกวิธกี าร

เหมาะสมกบั ความ เหมาะสมกับความ เหมาะสมกบั ความ เหมาะสมกบั ความ ขยายพนั ธ์ุพชื ให้

ต้องการของมนุษย์ได้ ตอ้ งการของมนษุ ย์ใน ตอ้ งการของมนุษย์ใน ต้องการของมนษุ ย์ใน เหมาะสมกบั ความ

(3 คะแนน) ใบงาน 3.4 ขอ้ 2 ได้ ใบงาน 3.4 ขอ้ 2 ได้ ใบงาน 3.4 ข้อ 2 ได้ ต้องการของมนุษย์ใน

ถกู ต้อง มี 3 ประเดน็ ถูกต้อง มี 2 ประเด็น ถูกต้อง มี 1ประเด็น ใบงาน 3.4 ข้อ 2 ได้

ดงั น้ี ดงั นี้ (ขอ้ ใดก็ได)้ ดงั นี้ (ขอ้ ใดก็ได)้ ถกู ต้อง

- วธิ กี ารขยายพนั ธ์ุ - วธิ ีการขยายพนั ธ์ุ - วธิ ีการขยายพนั ธ์ุ

แบบใด แบบใด แบบใด

- บอกเหตุผล - บอกเหตผุ ล - บอกเหตผุ ล

- มใี จความสมบูรณ์ - มใี จความสมบรู ณ์ - มใี จความสมบรู ณ์

คุณภาพคะแนน

คะแนน ระดบั คุณภาพ

3 ดี
2 พอใช้
0 - 1 ปรับปรงุ

เกณฑ์การประเมนิ ด้านความรู้ (A)

ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคณุ ภาพ 0
นกั เรียนตระหนักถงึ 21 นกั เรยี นไมต่ ระหนัก
นกั เรียนตระหนักถงึ ประโยชน์ของการ นักเรยี นตระหนักถงึ นักเรยี นตระหนักถึง ถึงประโยชน์ของการ
ประโยชน์ของการ ขยายพันธุพ์ ืชใน ประโยชนข์ องการ ประโยชน์ของการ ขยายพันธพุ์ ืชใน
ขยายพนั ธพุ์ ืชได้ ใบงาน 3.4 ขอ้ 3 ได้ ขยายพันธพ์ุ ืชใน ขยายพนั ธุพ์ ชื ใน ใบงาน 3.4 ขอ้ 3 ได้
(3 คะแนน) มีจำนวน 3 ข้อข้นึ ไป ใบงาน 3.4 ขอ้ 3 ได้ ใบงาน 3.4 ข้อ 3 ได้
มีจำนวน 2 ข้อ มจี ำนวน 1 ข้อ

นกั เรียนมคี วาม ส่งงานตรงตามท่ี ส่งงานชา้ กว่ากำหนด ส่งงานช้ากวา่ กำหนด สง่ งานช้ากวา่ กำหนด

รบั ผิดชอบในภาระงาน กำหนด (อาทติ ย์ทน่ี ัด 1-2 วัน 3 วัน มากกวา่ 3 วันหรอื ไม่

ทีค่ รมู อบหมาย และส่ง ส่งงาน) สง่

งานไดใ้ นเวลาที่กำหนด

(3 คะแนน)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคุณภาพ
4-6 ดี
2-3
0-1 พอใช้
ปรับปรงุ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18

เรือ่ ง การสืบพันธแ์ุ บบไมอ่ าศยั เพศของพืช ชัน้ ม.1/2 .

ผลการประเมินตามแบบประเมิน
-นกั เรียนจำนวน......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............ มผี ลการประเมินด้าน K ในระดบั …….......
-นกั เรยี นจำนวน......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............. มีผลการประเมินดา้ น P ในระดบั ……......
-นักเรียนจำนวน..........คน คดิ เปน็ ร้อยละ.............. มผี ลการประเมนิ ด้าน A ในระดับ …….....

ปญั หาทพี่ บจากการสอนในคาบเรยี น
..................................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
การแก้ไขปญั หาและอุปสรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................. ........................................................................................................... ............
............................................................................................................................. .......................................................
ผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................ ....................................
.............................................................................................. ................................................................................ ......
ข้อเสนอแนะในการสอนคร้ังถัดไป
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................ ............................................................................................ ............

ลงชือ่ .....................................................................
(นางสาวนสุ รนิ ทร์ อิ่นคำ) .

นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู

ความคิดเหน็ ของผพู้ เ่ี ลยี้ ง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
(ว21101) และมีความคิดเหน็ ดังนี้

1. เป็นหนว่ ย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ดีมาก ดี พอใช้
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำเอาทกั ษะกระบวนการเรียนรู้

ทเี่ น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญใชใ้ นการสอนอยา่ งเหมาะสม
ท่ียังไมเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
3. เป็นหน่วย/แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ นำไปใช้ในการสอนได้จรงิ

ควรปรับปรุงก่อนนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….…………….……
….……………………………………………………………………………………………………………………….………….………………...........
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .........................................................

(นางพัชรา ภริ ะกนั ทา) .

ครพู ่เี ลย้ี ง .

................../................./.................

ใบงานท่ี 3.4

เรื่อง การสืบพนั ธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศของพืช

คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นพิจารณาคำถามและตอบใหส้ มบรู ณ์

1. การสบื พันธุแ์ บบไมอ่ าศัยเพศของพชื คอื อะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ถ้านกั เรียนต้องการขยายพันธุ์แกว้ มังกร นกั เรียนจะเลือกวิธีการขยายพันธแุ์ บบใด เพราะเหตใุ ด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จงบอกข้อดี และข้อเสยี ของการสบื พนั ธ์แุ บบไม่อาศัยเพศของพืช มาอยา่ งน้อย 3 ข้อ
ข้อดี ข้อเสีย

1. …………………………………………………………………….... 1. ……………………………………………………………………....
2. ………………………………………………………………………. 2. ……………………………………………………………………….
3. ………………………………………………………………………. 3. ……………………………………………………………………….

ช่ือ………………………………………………………………………………………….ชั้น…………….ห้อง……………………

ใบงานที่ 3.4 เฉลย

เรอ่ื ง การสืบพนั ธุแ์ บบไมอ่ าศัยเพศของพืช

คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาคำถามและตอบให้สมบูรณ์

1. การสบื พนั ธ์ุแบบไมอ่ าศยั เพศของพืช คืออะไร
………………เป…น็…ก…า…รข…ย…า…ยพ…นั…ธ…์ุข…อง…พ…ืช…ท…่ีไม…่ไ…ดม้…า…จ…าก…ก…า…รป…ฏ…ิส…น…ธริ…ะ…ห…วา่…ง…สเ…ป…ิร์ม…ก…บั …เซ…ล…ล…ไ์ ข…่ …แต…เ่ …กดิ…จ…า…กส…่ว…น…ต…่าง…ๆ………
…ข…อ…ง…พชื……เช…น่ …ร…า…ก…ล…ำต…น้ …ใ…บ…ย…ก…ต…วั อ…ย…า่ …งพ…ชื …เ…ช…่น…ช…ม…พ…ู่ แ…ก…้วม…ัง…ก…ร …เม…ล…่อ…น…เป…น็ …ต…น้ ………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ถ้านกั เรียนตอ้ งการขยายพันธแุ์ ก้วมงั กร นักเรยี นจะเลอื กวธิ ีการขยายพันธ์แุ บบใด เพราะเหตใุ ด
………………น…ำ…ม…าข…ย…าย…พ…ัน…ธ…์ุโด…ย…ก…าร…ป…กั …ชำ……เพ…ร…าะ…เป…็น…ว…ิธ…ีทง่ี…า่ …ย…ท่ีส…ุด…ใ…ช…ต้ …้นท…นุ…ใ…น…กา…ร…ผ…ลติ…ต…่ำ…ไ…ม่ใ…ช…เ้ ค…ร…่ือง…ม…ือ…ม…าก…………
…แ…ล…ะ…พ…ืช…ท่ีไ…ด…้จา…ก…ก…าร…ป…ัก…ช…ำจ…ะ…ม…ลี กั…ษ…ณ…ะ…เห…ม…ือ…น…ต…น้ …เด…ิม…ทุก…ป…ร…ะ…กา…ร……………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. จงบอกข้อดี และข้อเสยี ของการสบื พันธ์ุแบบไม่อาศยั เพศของพืช มาอยา่ งน้อย 3 ข้อ

ขอ้ ดี ข้อเสยี

1. …ให…ผ้…ล…ต…รง…ต…า…มพ…ัน…ธ…ท์ุ …่ีต…้อง…ก…า…ร ………………………….... 1. …ต…้น…ไ…มแ่…ข…็ง…แร…ง…เพ…ร…าะ…ไ…ม…่มีร…า…ก…แก…้ว……………………....
2. …ให…ผ้…ล…เร…ว็ …ก…วา่ …ก…าร…ป…ล…กู …ด้ว…ย…เม…ล…็ด…………………………. 2. …ว…ธิ …กี …าร…เก…บ็ …ร…กั …ษา…แ…ล…ะย…้า…ย…พ…ัน…ธ์ุท…ำ…ได…ย้ …า…กก…ว…า่ ……….
3. …ใช…้ข…ย…าย…พ…ัน…ธ…ุ์พ…ืช…ที่ไ…ม…่ส…าม…า…รถ…ป…ล…กู …ดว้…ย…เม…ล…็ด…………. 3. …ส…นิ้ …เ…ปล…ือ…ง…ค่า…ใ…ชจ้…่า…ย…ใน…ก…าร…ป…ล…ูก…มา…ก…ก…วา่……………….

ชื่อ………………………………………………………………………………………….ชั้น…………….หอ้ ง……………………

แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1/2
วชิ าวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน เรื่อง การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศของพืช

ลำดับ ช่ือ-สกุล ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะ รวม ผลการประเมิน
ผ่าน ไมผ่ า่ น
1 เด็กหญงิ ลักขณา ทาเกิด 33 6 12
2 เดก็ ชายเทพพิทักษ์ โสภณ
3 เด็กหญงิ ณิชากร บวั สุวรรณ
4 เดก็ ชายฉัตรเมธี โสภาวนั
5 เดก็ หญงิ วณิ ีนุช มาลัยจรญู
6 เดก็ ชายบญุ มี ทรงชยั เจริญ
7 เดก็ ชายพิชัยยทุ ธ โชคขจรไพศาล
8 เด็กชายภูบดินทร์ ป่นิ หย่า
9 เดก็ ชายวทิ วัส ชยั ศรี
10 เดก็ ชายนมิ ิต อดุ มไพศาลศักด์ิ
11 เด็กหญิงพิมพม์ าดา สุริยะ
12 เด็กหญิงชลธชิ า ครี ีมาลัย
13 เดก็ หญิงมาลี แซ่ลี
14 เดก็ หญงิ ขวัญชนก วิวฒั น์พรไชย
15 เด็กชายณฐั วัชร แซ่หาง
16 เดก็ ชายกฤษณกันณฑ์ จนั ทรอ์ นิ ทร์
17 เด็กชายณฐั ภทั ร พชิ ชาพงศ์

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมไม่ตำ่ กว่า 6 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไม่ผา่ น………………….คน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 19 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
เวลาท้ังหมด 21 ช่วั โมง
รายวชิ าวิทยาศาสตร์ เวลา 3 คาบ
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง การดำรงชวี ิตของพืช ผู้สอน นางสาวนสุ รนิ ทร์ อน่ิ คำ
แผนที่ 19 เรอ่ื ง การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศยั เพศของพืช
สอนวันท่ี 8 กันยายน 2564

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องระบบตา่ ง ๆ ของสัตวแ์ ละมนุษยท์ ่ีทำงานสมั พนั ธ์กนั ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ท่ีทำงานสมั พันธก์ นั รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชวี้ ัด
ม.1/11 อธบิ ายการสบื พันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศยั เพศของพืชดอก

สาระสำคัญ
พืชดอกมีดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ภายในมีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม) และ

เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย (เซลล์ไข่) ซึ่งการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มกับเซลล์ไข่จะเกิดขึ้นภายในรังไข่ แล้วเจริญเป็นเมล็ดอยู่
ภายในผล เมื่อถึงเวลาขยายพันธุ์เมล็ดที่อยู่ภายในผลจะแตกออกและกระจายไปยังที่ต่าง ๆ เมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อม
และมปี ัจจัยท่เี หมาะสม เมลด็ จะงอกต้นอ่อนทม่ี ีลักษณะที่หลากหลาย หรอื แตกต่างไปจากต้นพ่อและต้นแม่

สาระการเรียนรู้
• ความหมายการสบื พนั ธ์แุ บบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช (sexual reproduction) เป็นการสืบพันธุ์ที่เกิดจากการปฏิสนธิ

ระหวา่ งสเปริ ์มกบั เซลล์ไขภ่ ายในดอก โดยพืชตน้ ใหมจ่ ะมีลกั ษณะท่ีหลากหลาย หรือแตกตา่ งไปจากต้นพ่อและต้น
แม่

• โครงสรา้ งของดอก ประกอบดว้ ย 4 สว่ นหลกั ดงั นี้
1. กลีบเลี้ยง เป็นส่วนที่อยู่นอกสุดของดอก มักมีสีเขียวคล้ายใบทำหน้าที่ห่อหุ้มส่วนที่อยู่ข้างในของดอกไว้

ในขณะทด่ี อกยงั ออ่ นอยู่ หรอื ทยี่ ังเปน็ ดอกตมู เพื่อป้องกนั อันตรายจากแมลง และศตั รู
2. กลีบดอก เป็นสว่ นทอี่ ยถู่ ัดจากกลีบเล้ียงเขา้ ไป มักมีสีสันสวยงามบางชนิดมกี ลน่ิ หอม ซึง่ สีสันท่สี ดใส และกล่ิน

หอมของดอกไมจ้ ะช่วยล่อแมลงใหม้ าตอม เพือ่ ช่วยในการผสมเกสร
3. เกสรเพศผู้ เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกลีบดอกเข้าไป เป็นอวัยวะสร้างเซลล์ สืบพันธุ์ตัวผู้ มักมีหลายอัน เกสรตัวผู้

แต่ละอนั ประกอบดว้ ย
3.1. กา้ นเกสรตวั ผู้ หรือก้านชูอบั เรณู มลี ักษณะเป็นก้านยาวๆ ทำหนา้ ทช่ี ูอบั
3.2. อับเรณูมีลักษณะเป็นกระเปาะ เป็นแหล่งสร้างและเก็บ"ละอองเรณู"ซึ่งภายในละอองเรณูจะมีเซลล์

สบื พนั ธเุ์ พศผอู้ ยู่
4. เกสรเพศเมยี เป็นสว่ นทอ่ี ย่ใู นสดุ คอื ตรงกลางดอก ทำหนา้ ทสี่ ร้างเซลล์สบื พนั ธต์ุ วั เมีย ท่ปี ลายยอดเกสรตัวเมีย

จะมีลักษณะเป็นขนและมีน้ำเหนียว ๆ เคลือบอยู่ เพื่อช่วยในการดักจับละอองเรณู และในน้ำเหนียว ๆ นี้จะมี " น้ำตาล
"เป็นองคป์ ระกอบอยู่ จะชว่ ยกระต้นุ ให้ละอองเรณเู กิดการงอกหลอด ซ่ึงเกสรตวั เมียประกอบดว้ ย

4.1. ยอดเกสรตวั เมยี อยู่ตรงสว่ นบนสุดของเกสรตัวเมีย เป็นสว่ นรองรบั ละอองเรณขู องเกสรตวั ผู้
4.2. ก้านชเู กสรตัวเมีย ทำหน้าทช่ี ูเกสรตัวเมีย
4.3. รังไข่ อยู่ส่วนล่างสุดของเกสรตัวเมีย มีลักษณะเป็นกระเปาะ ภายในมี " ไข่อ่อน " หรือ " ออวุล " ซึ่งมี
เซลลส์ ืบพันธุ์เพศเมยี อยู่

• ประเภทของดอก
แบง่ ตามองค์ประกอบของดอก ได้ 2 ประเภท ดังนี้
1. ดอกครบส่วน คือดอกไม้ที่มีองค์ประกอบครบทั้ง 4 ส่วน คือกลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย อยู่

ภายในดอกเดียวกันเชน่ ดอกบานบุรี ชบา กุหลาบ ตอ้ ยต่งิ ดอกบัวหลวง อัญชนั ผกั บ้งุ พริก มะเขอื
2. ดอกไม่ครบส่วน คือดอกไม้ที่ส่วนประกอบของดอกไม่ครบทั้ง 4 ส่วน ในดอกเดียวกัน เช่น ดอกมะละกอ ดอก

ตำลงึ ฟกั ทอง แตงกวา บวบ เฟ่อื งฟา้ กล้วยไม้ บานเย็น หน้าวัว
แบง่ ตามองคป์ ระกอบของเซลล์สบื พนั ธุ์ ได้ 2 ประเภท ดงั น้ี
1. ดอกสมบูรณ์เพศ หมายถึง ดอกที่มีองค์ประกอบครบ 4 ส่วน คือ กลีบดอกกลีบเลี้ยง เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย

ได้แก่ ดอกพรกิ ดอกกหุ ลาบ ดอกชบาดอกตอ้ ยตงิ่ ดอกมะเขอื ดอกพรู่ ะหง ดอกผกั บ้งุ ดอกบานบุรี ดอกมะลดิ อกชงโค ดอก
อญั ชนั ดอกมะแว้ง ดอกแค ดอกการเวก

2. ดอกไม่สมบูรณ์เพศ หมายถึง ดอกที่มีองค์ประกอบไม่ครบ 4 ส่วน ได้แก่ดอกมะพร้าว ดอกมะระ ดอกบวบ
ดอกฟักทอง ดอกตำลงึ ดอกมะละกอ ดอกข้าวดอกข้าวโพด ดอกตำลึง ดอกฟกั ทอง ดอกจำปา ดอกจำปี ดอกบานเย็น ดอก
เฟอ่ื งฟา้ ดอกมะยม ดอกมะเดอื่ ดอกตาล ดอกบวบ ดอกหญา้ ดอกแตงกวา

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการสืบพันธุ์แบบอาศยั เพศและไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอกได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
นกั เรยี นสามารถสังเกตกิจกรรมการทดลอง และบอกโครงสร้างและสว่ นประกอบของดอกได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบในภาระงานที่ครูมอบหมาย และส่งงานไดใ้ นเวลาทก่ี ำหนด

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการสอ่ื สาร
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นต้ังใจทำงานดว้ ยความเพียรพยายาม

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 : ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาท)ี

1. ครแู จง้ ผลการเรยี นร้ใู หน้ กั เรียนทราบ
2. ครูถามคำถามกระตุน้ ความสนใจนกั เรยี นวา่ พชื มอี วยั วะทใ่ี ช้สืบพนั ธห์ุ รือไม่ อวัยวะน้ันคืออะไร

(แนวคำตอบ : มี ดอกเปน็ อวัยวะสบื พนั ธข์ุ องพืช)
ขนั้ ท่ี 2 : ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) (80 นาท)ี

1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง “การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช (1)” แก่นักเรียน โดยใช้สื่อคลิปวิดีโอ
โครงสร้างทใ่ี ชใ้ นการสบื พนั ธขุ์ องพชื ดอก (1-2) และใช้หนงั สอื วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 (อจท.) หน้า 65

(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35543?fbclid=IwAR18tpyaM8J93VD
V1LuI0QCX0Lg4eeJbEqh5zYhIddOOppVIOLbfCoKHiK4)

(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35544?fbclid=IwAR3iGNSjtpRaiQc1D
B8VZRCkwXvPvCwVCu1KtYJMV5-Ypjj6aJg8Zm2K5nw)

2. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรม (จากคลิปวิดีโอ) โดยมีขนั้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี
2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทนกลุ่มออกมาจับฉลาก และ

รับดอกชบา หรือดอกพู่ระหงที่ครูเตรียมมาให้นักเรียนศึกษา โดยฉลากที่ครูนำมาให้นักเรียนสุ่ม ได้แก่ เกสรเพศผู้
เกสรเพศเมยี กลบี เลยี้ ง และกลีบดอก

2.2 ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มศึกษาองคป์ ระกอบของดอกไม้ตามฉลากทีต่ วั แทนกลุ่มจับได้
2.3 ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง ประเภทของดอกไม้ จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่
65
ขัน้ ที่ 3 : อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) (30 นาท)ี
1. ครูส่มุ นักเรยี นออกมานำเสนอองค์ประกอบของดอกไม้ พร้อมช้ีองค์ประกอบของดอกไม้
2. ครูให้แตล่ ะกลุ่มเล่นเกมตอบคำถามทายองค์ประกอบของดอกไมโ้ ดยมีกตกิ า ดังนี้
- ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาหน้าหอ้ ง 1 คน เพ่ือเขยี นคำตอบบนกระดาน โดยปากกาเขียนกระดาน
มเี พยี งแท่งเดยี ว ดังน้ัน ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ จะต้องทำหนา้ ทแี่ ย่งชิงปากกา
- สมาชิกท่ีเหลอื ทำหน้าทีร่ ะดมความคิด เพอ่ื บอกคำตอบให้กับตัวแทนกลุ่มในเวลาทจี่ ำกัดก่อนทค่ี รูจะ
ใหส้ ัญญาณกับตัวแทนเพือ่ มาแยง่ ชิงปากกา
- กลมุ่ ทีต่ อบผดิ จะไมม่ สี ทิ ธติ อบซำ้ อีก
- กลุ่มท่ีตอบได้มากทส่ี ุดจะถือวา่ กลุ่มนั้นเป็นฝ่ายชนะ
ขน้ั ท่ี 4 : ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที)
ครใู ห้นกั เรยี นใบงาน 3.5 เรื่อง โครงสร้างที่ใชใ้ นการสืบพันธ์ุของพชื ดอก
ข้ันท่ี 5 : ข้ันประเมนิ (Evaluation) (10 นาท)ี
ครูประเมินผลการเรียนรู้จากใบงาน 3.5 และประเมินการส่งงานตรงตามเวลาท่ีกำหนด โดยใช้เกณฑ์การ
ประเมินจากแผนการเรยี นรูท้ ่ี 19

ส่ืออปุ กรณ์การเรยี นรู้ และแหลง่ การเรียนรู้
1) คลิปวดิ ีโอ “โครงสรา้ งทใี่ ช้ในการสืบพันธขุ์ องพชื ดอก (1-2)”
(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35543?fbclid=IwAR18tpyaM8J93VD

V1LuI0QCX0Lg4eeJbEqh5zYhIddOOppVIOLbfCoKHiK4)

(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35544?fbclid=IwAR3iGNSjtpRaiQc1D
B8VZRCkwXvPvCwVCu1KtYJMV5-Ypjj6aJg8Zm2K5nw)

2) หนงั สือวิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เลม่ 1 (อจท.)
3) ใบงาน 3.5 เรอื่ ง โครงสรา้ งทใี่ ช้ในการสบื พนั ธุข์ องพชื ดอก

การวดั และการประเมิน วิธกี ารวัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑใ์ ช้ประเมนิ
ประเดน็ การประเมิน

ด้านความรู้ (K)

นกั เรยี นสามารถอธิบายการสืบพนั ธ์ุ ตรวจจากใบงาน 3.5 ใบงาน 3.5 โครงสรา้ งท่ีใช้ ระดับคุณภาพ
ในการสืบพันธ์ขุ องพืชดอก พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
แบบอาศัยเพศและไม่อาศยั เพศของ โครงสรา้ งทีใ่ ช้ในการ ตอนท่ี 1

พชื ดอกได้ สืบพันธขุ์ องพืชดอก

ดา้ นทักษะ (P)

นักเรยี นสามารถสงั เกตกจิ กรรมการ ตรวจจากใบงาน 3.5 ใบงาน 3.5 โครงสร้างท่ใี ช้ ระดับคุณภาพ
ในการสบื พนั ธุข์ องพืชดอก พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ทดลองและบอกโครงสร้างและ โครงสร้างท่ใี ช้ในการ ตอนท่ี 2

ส่วนประกอบของดอกได้ สืบพันธุ์ของพชื ดอก

ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)

นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบในภาระ ตรวจจากการสง่ งานใบ แบบบันทึกการสง่ งาน ระดับคุณภาพ
งานทค่ี รมู อบหมาย และส่งงานไดใ้ น งานที่ 3.5 พอใช้ ผ่านเกณฑ์
เวลาทีก่ ำหนด

เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ (K)

ประเดน็ การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

3 21 0
นกั เรียนไมส่ ามารถ
นกั เรยี นสามารถ นักเรียนสามารถ นกั เรยี นสามารถ นักเรียนสามารถ อธบิ ายการสืบพันธ์ุ
แบบอาศัยเพศและ
อธบิ ายการสืบพันธุ์ อธบิ ายการสบื พันธ์ุ อธบิ ายการสืบพันธุ์ อธิบายการสบื พันธุ์ ไม่อาศัยเพศของ
พืชดอกในใบงาน
แบบอาศยั เพศและไม่ แบบอาศยั เพศและไม่ แบบอาศยั เพศและไม่ แบบอาศยั เพศและไม่ 3.5 ตอนท่ี 1 ได้
ถูกต้อง
อาศัยเพศของพืช อาศัยเพศของพืชดอก อาศยั เพศของพืชดอก อาศยั เพศของพชื ดอก

ดอกได้ ในใบงาน 3.5 ตอนท่ี ในใบงาน 3.5 ตอนที่ ในใบงาน 3.5 ตอนที่

(3 คะแนน) 1 ไดถ้ ูกต้อง ทง้ั 3 ข้อ 1 ได้ถูกตอ้ ง 1 ไดถ้ ูกตอ้ ง

2 ขอ้ 1 ข้อ

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคุณภาพ

3 ดี

2 พอใช้

0 - 1 ปรับปรงุ

เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นทักษะ (P)

ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ

3 21 0
นกั เรยี นไมส่ ามารถ
นกั เรียนสามารถสงั เกต นักเรยี นสามารถ นกั เรยี นสามารถ นักเรยี นสามารถ สังเกตกจิ กรรมการ
ทดลอง และบอก
กิจกรรมการทดลอง สังเกตกจิ กรรมการ สังเกตกิจกรรมการ สงั เกตกิจกรรมการ โครงสรา้ งและ
ส่วนประกอบของ
และบอกโครงสรา้ งและ ทดลอง และบอก ทดลอง และบอก ทดลอง และบอก ดอกในใบงาน 3.5
ตอนท่ี 2 ได้ถกู ตอ้ ง
ส่วนประกอบของดอก โครงสร้างและ โครงสรา้ งและ โครงสร้างและ

ได้ ส่วนประกอบของ สว่ นประกอบของ ส่วนประกอบของ

(3 คะแนน) ดอกในใบงาน 3.5 ดอกในใบงาน 3.5 ดอกในใบงาน 3.5

ตอนท่ี 2 ได้ถกู ตอ้ ง ตอนท่ี 2 ไดถ้ กู ตอ้ ง ตอนที่ 2 ไดถ้ ูกต้อง

7-8 ขอ้ 4-6 ขอ้ 1-3 ขอ้

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคุณภาพ
3 ดี
2
พอใช้
0-1 ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การประเมินดา้ นความรู้ (A)

ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคุณภาพ 0
21

นักเรียนมีความ ส่งงานตรงตามท่ี สง่ งานช้ากวา่ กำหนด สง่ งานช้ากวา่ กำหนด ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในภาระงาน กำหนด (อาทิตย์ที่นัด 1-2 วนั 3 วัน มากกว่า 3 วันหรือไม่

ท่ีครูมอบหมาย และสง่ ส่งงาน) ส่ง

งานไดใ้ นเวลาที่กำหนด

(3 คะแนน)

คณุ ภาพคะแนน

คะแนน ระดับคณุ ภาพ

4 - 6 ดี

2 - 3 พอใช้

0 - 1 ปรับปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19

เร่อื ง การสบื พันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช (1) ชน้ั ม.1/2 .

ผลการประเมินตามแบบประเมนิ
-นักเรียนจำนวน......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............ มีผลการประเมินด้าน K ในระดับ …….......
-นักเรยี นจำนวน......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............. มีผลการประเมนิ ดา้ น P ในระดับ ……......
-นกั เรยี นจำนวน..........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.............. มีผลการประเมนิ ด้าน A ในระดับ …….....

ปญั หาทีพ่ บจากการสอนในคาบเรยี น
..................................................................................................................................................................... ...............
.................................................................................................................... ................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
การแก้ไขปญั หาและอปุ สรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................. ........................................................................................................... ............
............................................................................................................................. .......................................................
ผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................ ....................................
.............................................................................................. ................................................................................ ......
ข้อเสนอแนะในการสอนคร้ังถัดไป
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงช่อื .....................................................................
(นางสาวนุสรินทร์ อิ่นคำ) .

นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู

ความคิดเหน็ ของผพู้ เ่ี ลี้ยง

ได้ทำการตรวจสอบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
(ว21101) และมีความคิดเหน็ ดังนี้

1. เป็นหนว่ ย/แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ดีมาก ดี พอใช้
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำเอาทกั ษะกระบวนการเรียนรู้

ทเี่ น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญใชใ้ นการสอนอยา่ งเหมาะสม
ท่ียังไมเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
3. เป็นหน่วย/แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ นำไปใชใ้ นการสอนได้จริง

ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………….………….…………….……
….……………………………………………………………………………………………………………………….………….………………...........
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .........................................................

(นางพัชรา ภริ ะกันทา) .

ครูพ่ีเลีย้ ง .

................../................./.................

ใบงานที่ 3.5

เรอื่ ง โครงสรา้ งทใี่ ช้ในการสืบพนั ธขุ์ องพชื ดอก

ตอนท่ี 1 : ให้นกั เรยี นเขียนคำตอบลงในช่องว่างท่ีกำหนดใหด้ ้วยตนเอง
1. การสบื พนั ธุห์ มายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การสืบพันธุแ์ บบอาศยั เพศ (sexual reproduction) หมายถึง…………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การสบื พนั ธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศ (asexual reproduction) หมายถึง……………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของการสบื พันธุ์แบบอาศยั เพศและการสบื พันธ์แุ บบไม่
อาศัยเพศ โดยใช้แผนภาพต่อไปน้ี สว่ นที่เหมอื นกันให้เขยี นไวต้ รงกลางที่วงกลมทบั ซอ้ นกัน ส่วนทีแ่ ตกต่างกันให้
เขียนลงในส่วนของวงกลมที่ไมท่ ับซ้อนกนั

การสืบพนั ธแุ์ บบอาศัยเพศ การสืบพันธ์แุ บบไม่อาศยั เพศ

ชือ่ -สกุล…………………………………………………………………………………………………..ชัน้ ………………….เลขท…่ี ………………

ตอนท่ี 2 : ให้นักเรยี นตอบคำถามลงในช่องว่างให้ถกู ต้อง
1. ดอกครบส่วน หมายถึง……………………………………………………………………………………………………………………………

ตัวอยา่ งดอกครบส่วน ไดแ้ ก่……………………………………………………………………………………………………………………..
2. ดอกไม่ครบส่วน หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………………..

ตัวอย่างดอกไม่ครบส่วน ได้แก่………………………………………………………………………………………………………………….
3. ดอกครบสว่ น เปน็ ดอกสมบูรณ์เพศเสมอ ใช่หรือไม่ เพราะเหตุใด…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ดอกสมบรู ณ์เพศ เป็นดอกครบส่วนเสมอ ใชห่ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด…………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. องค์ประกอบใดท่ีทำหน้าท่ีหอ่ ห้มุ ดอก ขณะดอกยังไมบ่ าน…………………………………………………………………………..
6. ไข่ อยู่ในองค์ประกอบใดของดอก……………………………………………………………………………………………………………..
7. องคป์ ระกอบใดทำหน้าท่เี ป็นเซลล์สบื พนั ธุ์เพศชาย…………………………………………………………………………………….
8. ใหน้ กั เรียนเขียนส่วนประกอบของดอกไมใ้ ห้ถกู ต้อง

ภาพ ก ส่วนประกอบของดอก
ชอื่ -สกลุ …………………………………………………………………………………………………..ช้ัน………………….เลขท…ี่ ………………

ใบงานท่ี 3.5 เฉลย

เรอ่ื ง โครงสรา้ งที่ใช้ในการสืบพนั ธข์ุ องพืชดอก

ตอนที่ 1 : ให้นกั เรียนเขยี นคำตอบลงในช่องวา่ งทีก่ ำหนดให้ด้วยตนเอง
1. การสบื พนั ธ์หุ มายถงึ ………ก…า…รเ…พ…ิ่มจ…ำ…น…วน…ล…ูก…ห…ล…าน…ท…่มี …ีล…ัก…ษณ……ะเ…ห…มือ…น…เ…ดิม…ข…อ…งส…งิ่ …ม…ชี วี…ติ …โ…ด…ย…ที่ส…ง่ิ …ม…ีชีว…ิต…ร…ุ่น…ให…ม…่ท…ี่ .
…เ…ก…ดิ …ขน้ึ…น…จ้ี …ะ…ทด…แ…ท…น…ส…่งิ ม…ชี …วี …ติ ร…ุน่ …เก…่า…ท…่ีล…ม้ ห…า…ย…ต…าย…จ…าก…ไ…ป…ท…ำ…ให…ส้ …่งิ ม…ีช…วี …ติ …เห…ล…ือร…อ…ด…อ…ยใู่…น…โล…ก…ได…้โ…ดย…ไ…ม…ส่ ญู…พ…นั…ธ…ุ์ไป………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การสืบพนั ธุแ์ บบอาศัยเพศ (sexual reproduction) หมายถึง………เป…น็ …ก…าร…ส…บื …พ…นั …ธุท์ …ี่เ…กดิ…จ…า…กก…า…ร…ปฏ…ิส…น…ธ…ิ ……….
…ร…ะ…ห…ว่า…ง…ส…เป…ิร…ม์ ก…บั …เซ…ล…ล…์ไข…่ภ…า…ย…ใน…ด…อ…ก…โด…ย…พ…ชื …ต้น…ใ…ห…มจ่…ะ…ม…ลี …ักษ…ณ…ะ…ท…ี่ห…ล…าก…ห…ล…า…ย…ห…รือ…แ…ต…ก…ต่า…ง…ไป…จ…า…กต…น้ …พ…่อ…………
…แ…ล…ะ…ต…้นแ…ม…่ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การสบื พนั ธุแ์ บบไมอ่ าศยั เพศ (asexual reproduction) หมายถึง……เ…ป…็น…กา…ร…ข…ยา…ย…พ…ัน…ธุ์ข…อ…ง…พ…ืชท…ี่ไ…ม…่ได…้ม…า…จา…ก….
……ก…าร…ป…ฏ…สิ น…ธ…ิร…ะห…ว…่า…งส…เ…ปิร…์ม…ก…บั …เซ…ล…ลไ์…ข…่ แ…ต…เ่ ก…ดิ …จ…าก…ส…ว่ …นต…า่ …ง…ๆ…ข…อ…งพ…ชื……เช…น่ …ร…า…ก…ล…ำต…้น…ใ…บ…………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. ใหน้ กั เรียนเปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกตา่ งของการสบื พันธุแ์ บบอาศัยเพศและการสืบพนั ธุ์แบบไม่

อาศยั เพศ โดยใช้แผนภาพต่อไปนี้ สว่ นท่เี หมอื นกนั ให้เขยี นไว้ตรงกลางทว่ี งกลมทบั ซ้อนกัน ส่วนทแ่ี ตกตา่ งกนั ให้

เขยี นลงในส่วนของวงกลมที่ไมท่ ับซ้อนกัน

เกิดจากการปฏิสนธิ เกิดสิง่ มชี ีวติ ไม่ได้มาจากการ
ระหว่างสเปิร์มกบั เซลล์ ใหม่ และทำให้ ปฏสิ นธริ ะหว่างสเปิร์ม
ไขภ่ ายในดอก และตน้ กบั เซลลไ์ ข่ แตเ่ กดิ จาก
ใหมจ่ ะมีลักษณะที่ ไม่สูญพันธุ์
หลากหลาย ส่วนตา่ ง ๆ ของพชื
เชน่ ราก ลำต้น ใบ
และตน้ ใหม่มลี ักษณะ

เหมือนต้นพ่อแม่

การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศยั เพศ การสบื พนั ธแุ์ บบไม่อาศัยเพศ

ชอ่ื -สกลุ …………………………………………………………………………………………………..ชั้น………………….เลขท…่ี ………………

ตอนที่ 2 : ให้นกั เรยี นตอบคำถามลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง
1. ดอกครบส่วน หมายถึง……ด…อ…ก…ท…ี่ปร…ะ…ก…อบ…ด…้ว…ย…ก…ล…ีบ…เล…ี้ย…ง …กล…ีบ…ด…อ…ก…เก…ส…ร…ต…วั ผ…ู้ …แล…ะ…เก…ส…ร…ตัว…เม…ีย…………………………

ตัวอยา่ งดอกครบสว่ น ได้แก่……ด…อก…ช…บ…า…ด…อ…ก…ต้อ…ย…ต…่ิง…ด…อก…ก…ุห…ล…าบ……ด…อก…บ…า…น…บรุ…ี …ดอ…ก…ม…ะ…ลิ…ด…อก…อ…ญั …ช…นั …ด…อ…ก…ผ…ักบ…งุ้ ..
2. ดอกไมค่ รบส่วน หมายถงึ ……ด…อ…กไ…ม…ท้ …ี่ไม…่ม…ีก…ลีบ…เ…ล…้ียง…ก…ล…ีบ…ด…อ…ก…เก…ส…รต…ัว…ผ…ู้ แ…ล…ะ…เก…ส…รต…วั …เม…ีย…อ…ย…่า…งน…อ้ …ย…1…อ…ย…่า…ง …..

ตวั อยา่ งดอกไม่ครบส่วน ไดแ้ ก่……ด…อก…ต…ำ…ลงึ……ดอ…ก…ฟ…ัก…ท…อง…ด…อ…ก…บ…ว…บ……………………………………………………………….
3. ดอกครบสว่ น เป็นดอกสมบรู ณ์เพศเสมอ ใชห่ รือไม่ เพราะเหตใุ ด………ด…อ…กค…ร…บ…ส…่วน…เ…ป…็นด…อ…ก…ส…มบ…ูร…ณ…เ์ …พ…ศเ…ส…มอ……
…เ…พ…รา…ะ…ป…ระ…ก…อ…บ…ด้ว…ย…ก…ล…บี เ…ล…ี้ยง……กล…บี …ด…อ…ก…เก…ส…ร…ตวั…ผ…ู้ แ…ล…ะ…เก…ส…รต…ัว…เม…ยี …………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ดอกสมบรู ณ์เพศ เปน็ ดอกครบสว่ นเสมอ ใช่หรอื ไม่ เพราะเหตุใด………ด…อ…ก…สม…บ…ูร…ณ…เ์ พ…ศ…ไ…มเ่…ป…็น…ดอ…ก…ค…ร…บส…่ว…น………
……เส…ม…อไ…ป…เ…น…่ือง…จ…าก…ด…อ…ก…สม…บ…รู …ณ…เ์ พ…ศ……อา…จ…ม…ีเพ…ยี …งเ…ก…สร…ต…วั …ผแู้…ล…ะ…เก…ส…รต…วั …เม…ยี …แ…ต…่อ…า…จข…า…ด…กล…ีบ…เ…ลีย้…ง…ห…รือ…ก…ล…บี …ดอ…ก………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. องคป์ ระกอบใดที่ทำหนา้ ท่ีห่อหมุ้ ดอก ขณะดอกยังไมบ่ าน……ก…ล…ีบ…เล…ี้ย…ง ………………………………………………………..
6. ไข่ อยู่ในองค์ประกอบใดของดอก………ไข…่อ…ยใู่…น…อ…อว…ุล…อ…อ…ว…ุลอ…ย…ใู่ …นร…ัง…ไข…่ ซ…่งึ …อ…ยู่บ…ร…เิ ว…ณ…โ…ค…นเ…ก…สร…ต…ัว…เม…ีย…………………..
7. องค์ประกอบใดทำหนา้ ทเ่ี ปน็ เซลล์สบื พันธุเ์ พศชาย……ละ…อ…อ…งเ…ร…ณ…ู ซ…ึง่ …จะ…ก…ล…าย…เ…ปน็……sp…e…rm………………………………….

8. ให้นกั เรยี นเขียนส่วนประกอบของดอกไมใ้ ห้ถกู ต้อง

เกสรตวั ผู้ อบั เรณู ยอดเกสรตวั เมยี เกสรตวั เมยี

ก้านเกสรตัวเมยี

กา้ นชูอับเรณู รังไข่

กลบี ดอก

กลีบเลยี้ ง

ฐานรองดอก ออวลุ

ภาพ ก สว่ นประกอบของดอก

ช่ือ-สกุล…………………………………………………………………………………………………..ชน้ั ………………….เลขท…ี่ ………………

แบบประเมินผลการเรียนรขู้ องนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1/2
วิชาวิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน เรือ่ ง การสืบพันธแุ์ บบอาศัยเพศของพืช (1)

ลำดบั ช่ือ-สกุล ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะ รวม ผลการประเมนิ
33 3 9 ผา่ น ไมผ่ ่าน
1 เด็กหญิงลักขณา ทาเกดิ
2 เด็กชายเทพพิทกั ษ์ โสภณ
3 เด็กหญิงณชิ ากร บวั สุวรรณ
4 เดก็ ชายฉตั รเมธี โสภาวนั
5 เด็กหญิงวณิ นี ุช มาลยั จรญู
6 เด็กชายบุญมี ทรงชัยเจรญิ
7 เดก็ ชายพชิ ัยยุทธ โชคขจรไพศาล
8 เดก็ ชายภบู ดนิ ทร์ ป่ินหย่า
9 เดก็ ชายวิทวสั ชยั ศรี
10 เด็กชายนิมิต อุดมไพศาลศกั ด์ิ
11 เด็กหญิงพมิ พ์มาดา สุริยะ
12 เด็กหญิงชลธิชา ครี ีมาลัย
13 เดก็ หญิงมาลี แซ่ลี
14 เดก็ หญงิ ขวญั ชนก วิวฒั น์พรไชย
15 เด็กชายณฐั วชั ร แซห่ าง
16 เด็กชายกฤษณกนั ณฑ์ จันทรอ์ ินทร์
17 เดก็ ชายณฐั ภทั ร พิชชาพงศ์

**หมายเหตุ ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมไมต่ ำ่ กวา่ 5 คะแนน
ผา่ น……………………..คน
ไม่ผ่าน………………….คน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 20 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
เวลาท้ังหมด 21 ชั่วโมง
รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง การดำรงชีวติ ของพืช ผสู้ อน นางสาวนสุ รนิ ทร์ อน่ิ คำ
แผนท่ี 20 เร่อื ง การสืบพนั ธ์แุ บบอาศัยเพศของพชื (2)
สอนวนั ท่ี 15 กนั ยายน 2564

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้าและออกจาก

เซลล์ ความสมั พนั ธข์ องโครงสรา้ งและหน้าทข่ี องระบบตา่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนษุ ยท์ ท่ี ำงานสมั พันธก์ นั ความสัมพันธ์
ของโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสมั พนั ธ์กัน รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วดั
ม.1/12 อธิบายลกั ษณะโครงสร้างของดอกท่ีมีสว่ นทำใหเ้ กิดการถ่ายเรณู รวมทง้ั บรรยายการปฏิสนธิของพืชดอก
การเกดิ ผลและเมลด็ การกระจายเมลด็ และการงอกของเมล็ด

สาระสำคัญ
พืชดอกมีดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ภายในมีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม) และ

เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย (เซลล์ไข่) ซึ่งการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มกับเซลล์ไข่จะเกิดขึ้นภายในรังไข่ แล้วเจริญเป็นเมล็ดอยู่
ภายในผล เมื่อถึงเวลาขยายพันธุ์เมล็ดที่อยู่ภายในผลจะแตกออกและกระจายไปยังที่ต่าง ๆ เมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อม
และมีปัจจัยทเ่ี หมาะสม เมลด็ จะงอกต้นอ่อนทีม่ ลี ักษณะท่ีหลากหลาย หรือแตกต่างไปจากตน้ พ่อและต้นแม่

สาระการเรยี นรู้
ปฏิสนธิของพืชดอก

1. การถา่ ยละอองเรณู (pollination) คอื การท่ลี ะอองเรณูไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมยี ซึง่ การถา่ ย
ละอองเรณจู ะเกดิ ขน้ึ เมื่อดอกของพชื ชนิดนนั้ ๆ เจรญิ เตบิ โตเต็มท่ี และส่วนของอบั เรณูก็จะแตกออก ทำให้ละออง
เรณทู ่อี ยูภ่ ายในเคลือ่ นที่ออกสภู่ ายนอกตามแรงต่างๆ เช่น แรงดงึ ดดู ของโลก แรงในการสน่ั สะเทอื นของต้นไม้
แรงลม แรงดันน้ำ เปน็ ต้น และละอองเรณกู จ็ ะไปตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย

• ประเภทของการถ่ายละอองเรณูมดี ังนี้
- การถา่ ยละอองเรณูภายในดอกเดยี วกนั
- การถา่ ยละอองเรณคู นละดอกกนั แตอ่ ยู่ในต้นเดียวกัน
- การถา่ ยละอองเรณูข้ามต้น
2. การปฏิสนธิ (fertilization) เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นต่อจากการถ่ายละอองเรณู ซึ่งเมื่อละอองเรณูตกลง

บนยอดเกสรเพศเมีย ละอองเรณูจะเริ่มรับน้ำจากยอดเกสรเพศเมียด้วยวิธีการแพร่ (diffusion) จนมีปริมาณน้ำ
มากพอ (ละอองเรณูจะมีลักษณะพองขึ้น) ก็จะมีการแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นจนเกิดเป็นท่อหรือหลอด ( pollen tube)
งอกลงไปในกา้ นเกสรเพศเมียจนกระทง่ั ถงึ รังไข่

นิวเคลียส 2 ตัว ซึ่งจะเจาะเข้าสู่ภายในถุงเอ็มบริโอ (embryo sac) สเปิร์มนิวเคลียสตัวที่ 1 จะผสมกับ
เซลล์ไข่ได้ไซโกตซึ่งจะเจริญไปเป็นต้นอ่อน สเปิร์มนิวเคลียสตัวที่ 2 จะผสมกับโพลารน์ ิวเคลียสได้เอนโดสเปิร์มซึ่ง
เป็นอาหารสำหรับเลี้ยงต้นอ่อน เรียกวิธีการนี้ว่า การปฏิสนธิ (fertilization) และเป็นการปฏิสนธิ 2 ครั้ง ซึ่ง
เรียกวา่ การปฏสิ นธซิ ้อน (double fertilization)

การเจริญหลงั การปฏิสนธิ

• สว่ นประกอบของเมลด็
1. เปลือกหุ้มเมลด็ (seed coat) เป็นส่วนที่อยู่นอกสดุ ของเมลด็ เจริญเติบโตมาจากเนื้อเยือ่ ชั้นนอกสุดของออวลุ

ทำหนา้ ทปี่ ้องกนั อนั ตรายตา่ งๆ ใหแ้ ก่เอม็ บรโิ อท่ีอยภู่ ายในเมลด็ เชน่ ป้องกนั ไมใ่ หจ้ ุลนิ ทรีย์เข้าไปในเมล็ดซ่งึ จะทำให้เมล็ด
ไมส่ ามารถงอกได้ นอกจากนน้ั เปลอื กหมุ้ เมลด็ ยังมสี ารพวกไขเคลือบอยู่ทำใหล้ ดการสูญเสียนำ้ ไดด้ ้วย

2. เอม็ บรโิ อ (embryo) เปน็ สว่ นประกอบท่ีสำคญั ทีจ่ ะเจรญิ ไปเป็นต้นพืช ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังน้ี
2.1 รากแรกเกิด (radical)
2.2 ตน้ ออ่ น (caulicle)
2.3 ใบเล้ียง (cotyledon)

3. เอนโดสเปิรม์ (endosperm) เป็นเนื้อเยื่อท่ีมีอาหารสะสมไว้สำหรับการเจริญเตบิ โตของเอ็มบริโอ อาหารส่วน
ใหญ่เปน็ ประเภทแปง้ โปรตีน และไขมัน เมล็ดละหุ่ง เมล็ดละมดุ มเี อนโดสเปิร์มหนามาก ส่วนใบเลี้ยงมีลักษณะแบนบาง มี
2 ใบ สำหรับพืชพวกข้าว หญ้า จะมีใบเลี้ยงเพียงใบเดียว อาหารสะสมอยู่ในเอนโดสเปิร์ม เมล็ดพืชบางชนิดไม่มีเอนโด
สเปริ ์มเนือ่ งจากสะสมอาหารไวท้ ใ่ี บเลย้ี ง

• ปัจจัยในการงอกของเมลด็
1. น้ำ เป็นตัวทำให้เปลือกเมล็ดอ่อนตัว และเป็นตัวทำละลายอาหารสะสมภายในเมล็ด ที่อยู่ในสภาวะที่เป็น

ของแข็ง ให้เปล่ียนเป็นของเหลว และเคลอ่ื นทีไ่ ด้ ทำใหจ้ ุดเจริญของเมลด็ นำไปใช้ได้

2. แสง เมล็ดเมื่อเริ่มงอก จะมีทั้งชนิดท่ีต้องการแสง ชอบแสง และไม่ต้องการแสง ส่วนใหญ่เมลด็ เมื่อเริ่มงอก จะ
ไม่ต้องการแสง ดังนั้น การเพาะเมล็ดโดยทั่วไป จึงมักกลบดินปิดเมล็ดเสมอ แต่แสงจะมีความจำเป็น หลังจากที่เมล็ดงอก
แล้ว ขณะทเ่ี ป็นตน้ กล้า แสงทีพ่ อเหมาะจะทำให้ตน้ กลา้ แข็งแรง และเจรญิ เติบโตไดด้ ี

3. อุณหภูมิ อุณหภูมิที่เหมาะสม ช่วยใหเ้ มล็ดดูดน้ำได้เร็วขึน้ กระบวนการใน การงอกของเมล็ด เกิดขึ้นเร็ว และ
ช่วยให้เมล็ดงอกได้เร็วขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับพืชแต่ละชนิด จะไม่เท่ากัน พืชเมืองร้อน ย่อมต้องการอุณหภูมิสูง
กว่า พชื เมอื งหนาวเสมอ

4. ออกซิเจน เมอื่ เมล็ดเริ่มงอก จะเรมิ่ หายใจมากขึ้น ซึง่ ก็ตอ้ งใช้ออกซิเจน ไปเผาผลาญอาหารภายในเมลด็ ให้เป็น
พลังงานใช้ในการงอก ยิ่งเมล็ดที่มีมันมาก ยิ่งต้องใช้ออกซิเจนมากขึ้น ดังนั้น การกลบดินทับเมล็ดหนาเกินไป หรือใช้ดิน
เพาะเมลด็ ทีถ่ า่ ยเทอากาศไมด่ ี จะมีผลยบั ยงั้ การงอก หรอื ทำให้เมล็ดงอกชา้ ลง หรอื ไม่งอกเลย

• ลักษณะการงอกของเมล็ด แบง่ ออกเปน็ 2 แบบ คือ
1. การงอกที่ชูใบเลี้ยงขึ้นมาเหนือดิน (Epigeal germination) รากอ่อนงอกโผล่พ้นเมล็ดออกทางรูไมโครโพล์

(micropyle) เจริญสู่พื้นดินจากนั้น ไฮโปคอติล (hypocotyl) จะงอกและเจริญยดึ ยาวตามอย่างรวดเร็ว ดึงส่วนของใบเลี้ยง
(cotyldon) กบั เอพคิ อทิล (epicotyl) ขึน้ มาเหนอื ดนิ เช่น การงอกของพืชในเลี้ยงคู่

2. การงอกที่ฝังใบเลี้ยงไว้ใต้ดิน (Hypogeal germination) พบใน พืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชพวกนี้มีไฮโปคอติล
(hypocotyl) สั้น เจริญช้า สว่ นเอปิคอตลิ (epicotyl) และยอดออ่ น (plumule) เจริญยืดยาวได้อยา่ งรวดเร็ว เชน่ เมลด็ ข้าว
ขา้ วโพด หญ้า เปน็ ต้น

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรียนสามารถบรรยายการปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ด การกระจายเมล็ด และการ
งอกของเมลด็
2. นักเรียนสามารถวเิ คราะหป์ ัจจยั ท่ีมสี ่วนในการปฏสิ นธขิ องพืชดอกได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
นักเรียนสังเกตกิจกรรมการงอกของเมล็ด และสามารถจับคู่มีความสัมพันธ์ระหว่างก่อนปฏิสนธิ
กับหลังปฏิสนธิท้ายกิจกรรมได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
นกั เรียนมคี วามรับผิดชอบในภาระงานทค่ี รมู อบหมาย และสง่ งานไดใ้ นเวลาทก่ี ำหนด

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ

2. ความสามารถในการส่อื สาร
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมั่นตัง้ ใจทำงานด้วยความเพยี รพยายาม

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 : ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) (10 นาท)ี

1. ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรียน โดยการกลา่ วถงึ บทเรียนเรื่องโครงสรา้ งทใ่ี ช้ในการสืบพันธข์ุ องพชื ดอกที่นักเรียนได้
ทำการศึกษาแล้ว เพือ่ เชื่อมโยงเข้ากับบทเรียนท่จี ะทำการสอน

2. ครูแจ้งผลการเรยี นรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ
ขน้ั ท่ี 2 : ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) (80 นาที)

1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง “การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช (2)” แก่นักเรียน โดยใช้สื่อคลิปวิดีโอ
ปฏิสนธิของพืชดอก คลิปวิดีโอการเจริญหลังการปฏิสนธิ (1-2) และใช้หนงั สือวิชาวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 (อจท.)
หนา้ 66-69

(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35545?fbclid=IwAR2prep7Gst9sVlE7L
O57n2IRwoFV-QKTh8Z2_ccAapyNIUU7Fw7mOuz-0E)

(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35546?fbclid=IwAR33FafV3XZh2z5gE
JKhKfG7J79k0g3bnjoiZ7XeCFI24gNk-xjTVHGG-78)

(ที่มา : (ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35547?fbclid=IwAR1QcwF9vF
gvbcybeYDHD27NtY2OLUl82TqB7rNiLvodGgrdLpwNjpW19dQ)

2. ครูให้นกั เรียนทำกจิ กรรมเมล็ดงอกได้อยา่ งไร (จากคลปิ วิดีโอ) โดยมขี ั้นตอนดังตอ่ ไปน้ี
2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มสังเกตลักษณะภายนอกและภายใน

ของเมล็ดถั่วแดงและเมล็ดข้าวโพด โดยใช้ใบมีดโกนผ่าเมล็ดตามยาว บันทึกผลโดยการวาดภาพส่วนประกอบของ
เมลด็
ข้ันที่ 3 : อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) (30 นาที)

1. ครสู ุ่มตวั แทนนักเรียนออกมานำเสนอสว่ นประกอบของเมลด็ ถ่ัวแดงและเมล็ดข้าวโพด พร้อมบรรยาย
ถงึ ลักษณะภายนอก และภายในของเมล็ดถว่ั แดงและเมล็ดข้าวโพด

2. ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายเนื้อหาจากกิจกรรมเชอ่ื มโยงกับเนื้อหาในบทเรยี น
3. ครสู รปุ เนือ้ หาการเจรญิ หลงั การปฏิสนธิให้นักเรยี นฟงั
4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ซกั ถามข้อสงสัย เพ่ือสะทอ้ นความคิดของนักเรยี น
ขนั้ ที่ 4 : ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาท)ี
ครใู ห้นักเรยี นใบงาน 3.6 เร่อื ง ปฏิสนธขิ องพืชดอก
ข้ันท่ี 5 : ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) (10 นาท)ี
ครูประเมินผลการเรียนรู้จากใบงาน 3.6 และประเมินการส่งงานตรงตามเวลาที่กำหนด โดยใช้เกณฑ์การ
ประเมินจากแผนการเรยี นรู้ท่ี 20

สอ่ื อุปกรณ์การเรยี นรู้ และแหลง่ การเรยี นรู้
1) คลิปวิดีโอ “ปฏิสนธขิ องพชื ดอก”
(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35545?fbclid=IwAR2prep7Gst9sVlE7L

O57n2IRwoFV-QKTh8Z2_ccAapyNIUU7Fw7mOuz-0E)
2) คลปิ วิดีโอ “การเจริญหลังการปฏสิ นธิ (1-2)”
(ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35546?fbclid=IwAR33FafV3XZh2z5gE

JKhKfG7J79k0g3bnjoiZ7XeCFI24gNk-xjTVHGG-78)
(ที่มา : (ที่มา : https://www.dltv.ac.th/teachplan/episode/35547?fbclid=IwAR1QcwF9vF

gvbcybeYDHD27NtY2OLUl82TqB7rNiLvodGgrdLpwNjpW19dQ)
3) หนงั สือวิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 (อจท.)
4) ใบงาน 3.6 เร่อื ง ปฏสิ นธิของพชื ดอก

การวดั และการประเมนิ วธิ ีการวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑใ์ ชป้ ระเมนิ
ประเดน็ การประเมิน

ดา้ นความรู้ (K)

นกั เรียนสามารถบรรยายการปฏสิ นธิ ตรวจจากใบงาน ใบงาน ใบงาน 3.6 ปฏสิ นธขิ องพืช ระดบั คุณภาพ
ของพชื ดอก การเกดิ ผลและเมลด็ การ 3.6 ปฏสิ นธขิ องพืช ดอก ตอนท่ี 1 และ 4 พอใช้ ผ่านเกณฑ์
กระจายเมล็ด และการงอกของเมล็ด ดอก

นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ปจั จัยที่มี ตรวจจากใบงาน ใบงาน ใบงาน 3.6 ปฏสิ นธิของพืช ระดบั คุณภาพ

สว่ นในการปฏสิ นธิของพชื ดอกได้ 3.6 ปฏิสนธิของพชื ดอก ตอนที่ 3 พอใช้ ผ่านเกณฑ์

ดอก

ดา้ นทกั ษะ (P)

นักเรียนสงั เกตกจิ กรรมการงอกของ ตรวจจากใบงาน ใบงาน ใบงาน 3.6 ปฏสิ นธขิ องพชื ระดับคุณภาพ
เมลด็ และสามารถจับคมู่ ี 3.6 ปฏิสนธขิ องพืช ดอก ตอนที่ 2 พอใช้ ผ่านเกณฑ์
ความสัมพันธ์ระหวา่ งก่อนปฏสิ นธิ ดอก
กับหลงั ปฏสิ นธทิ ้ายกจิ กรรมได้

ด้านคุณลักษณะ (A)

นักเรียนมคี วามรับผดิ ชอบในภาระ ตรวจจากการสง่ งานใบ แบบบนั ทกึ การส่งงาน ระดับคุณภาพ
งานทค่ี รมู อบหมาย และส่งงานไดใ้ น งานที่ 3.6 พอใช้ ผา่ นเกณฑ์
เวลาท่ีกำหนด

เกณฑ์การประเมนิ ด้านความรู้ (K)

ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคุณภาพ 0
21

1) นักเรียนสามารถ นักเรยี นสามารถ นกั เรยี นสามารถ นักเรียนสามารถ นักเรยี นไมส่ ามารถ

บรรยายการปฏสิ นธิ บรรยายการปฏสิ นธิ บรรยายการปฏสิ นธิ บรรยายการปฏสิ นธิ บรรยายการปฏสิ นธิของ

ของพืชดอก การ ของพชื ดอก การ ของพชื ดอก การ ของพืชดอก การ พชื ดอก การเกิดผลและ

เกิดผลและเมล็ด การ เกิดผลและเมล็ด การ เกดิ ผลและเมล็ด การ เกดิ ผลและเมล็ด การ เมล็ด การกระจายเมล็ด

กระจายเมล็ด และการ กระจายเมลด็ และการ กระจายเมล็ด และการ กระจายเมล็ด และการ และการงอกของเมลด็ ใน

งอกของเมล็ด งอกของเมล็ดในใบ งอกของเมล็ดในใบ งอกของเมลด็ ในใบ ใบงาน 3.6 ตอนที่ 1

(3 คะแนน) งาน 3.6 ตอนท่ี 1 งาน 3.6 ตอนที่ 1 งาน 3.6 ตอนท่ี 1 และ 4 ได้อยา่ งถูกต้อง

และ 4 ได้อย่าง และ 4 ได้อย่าง และ 4 ได้อย่าง

ถกู ต้อง 9-11 ข้อ ถกู ต้อง 5-8 ข้อ ถกู ต้อง 1-4 ข้อ