กลัวผลข้างเคียง การกินยามากโพสโดย Fon เมื่อ 1 พฤษภาคม 2542 00:00 กลัวผลข้างเคียง การกินยามาก ผู้ถาม บุญสุข/กรุงเทพฯ ผมมีเรื่องจะขอเรียนปรึกษาคุณหมอดังนี้ครับ คือ ภรรยาผมอายุ ๖๗ ปี เมื่อประมาณปี ๒๕๓๔ เธอประกอบอาชีพขายผลไม้ พอผลไม้เหลือก็กินจนเกินขนาด คือทุเรียน เกิดความดันเลือดสูง หลอดเลือดฝอยแตก ผมและลูกๆนำส่งโรงพยาบาล หมอผ่าตัดสมองช่วยชีวิตไว้ จึงรอดตาย แต่ก็ไม่สมประกอบ ขาข้างขวาไม่มีแรง และต้องกินยาแก้ความ ดันเลือดสูงตลอดมา คือ Baypress และ Betaloc เป็นประจำ ต่อมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๑ ภรรยาผมเกิดมีอาการเหนื่อย และเจ็บในทรวงอกอย่างรุนแรงมาก ผมเลยพาไปพบหมอตรวจอาการทราบว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ๓ คืน หมออนุญาตให้กลับบ้านมากินยาที่บ้าน หมอให้ยามากินประจำมากเหลือเกินครับ กินอยู่ ๓ เดือน อาการเหนื่อยและเจ็บในอกหายดีครับ แต่ต้องไปตรวจทุกๆเดือน ยาที่คุณหมอให้ภรรยาผมกินมี ดังนี้ครับ ๑. Sorbitrate ๒๐ มิลลิกรัม ครั้งละ ๒ เม็ด ก่อนอาหาร ๓ เวลา ๒. Aspent-M ครั้งละ ๑ เม็ด หลังอาหารเช้า ๓. Betaloc ๑๐๐ มิลลิกรัม ครั้งละครึ่งเม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น ๔. Cardil ๑๒๐ มิลลิกรัม ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน ๕. Lorazene ๐.๕ มิลลิกรัม ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน ๖. Mevalotin ๕ มิลลิกรัม ครั้งละ ๑ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน ๗. Senokot ครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๑ ครั้ง ก่อนนอน (ยาระบาย) ผมจึงขอความกรุณาคุณหมอช่วยอธิบายด้วยว่า ถ้ากินยาเหล่านี้ไปเรื่อยๆจะมีผลข้างเคียงหรือเกิดผลร้ายอะไรตามมาหรือไม่ แต่ปัจจุบันที่กินอยู่นี่ก็รู้สึกว่าอาการของภรรยาผมจะดีขึ้นมาก หน้าตาสดใส ช่วยตัวเองได้มาก ผู้ตอบ นพ.สมเกียรติ แสงวัฒนาโรจน์ ยาที่ใช้รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ความดันเลือดสูง หลายๆตัว มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ครับ แต่พบได้น้อย ไม่ว่าจะกินมานานเท่าใด แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นใน ๑-๒ เดือนแรกที่ได้รับยาหรือร่วมกับยาอื่นๆ ยาเหล่านี้มักจะถูกขับถ่ายออกทางอุจจาระ (โดยผ่านทางตับ) หรือปัสสาวะ (โดยผ่านทางไต) ดังนั้นถ้าการทำงานของตับและไตผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยสูงอายุอาจมีการทำงานของไตลดลง อาจจะทำให้ตัวยาในร่างกายมากขึ้นจนเกิดผลข้างเคียงได้ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะครับว่า กินยาไปนานๆแล้วจะสะสมในร่างกายจนเกิดเป็นพิษหรือผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา เพราะยาเหล่านี้ถูกขับถ่ายออกจากร่างกายตลอดเวลา เราจึงต้องกินยาเป็นประจำ ผมขออธิบายยาที่ภรรยาคุณกินอยู่ทีละตัว ดังนี้
การที่ภรรยาคุณเกิดความดันเลือดสูง หลอดเลือดฝอยแตก และหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ผมถือว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญที่ร่างกายเราบอกให้เจ้าของทราบว่า ที่ผ่านมามีการกินอยู่ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต อาจจะเกิดผลเสียร้ายแรงตามมาอีกได้ การรักษาที่ได้อยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ กล่าวคือ เจ็บหน้าอกก็ให้ยาขยายหลอดเลือด ความดันเลือดสูงก็ให้ยาลดความดัน ซึ่งเป็นการรักษาปลายเหตุ ต้นเหตุของโรคทั้ง ๓ ที่ภรรยาคุณเป็นนั้นเกิดจากการกินอยู่ เช่น กินอาหารไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด ความกังวล เป็นต้น การเปลี่ยนมากินอาหารมังสวิรัติ หรืออาหารแนวชีวจิต ร่วมกับการออกกำลังกาย ทำสมาธิ น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้อาการดีขึ้น และการป้องกันไม่ให้โรคหัวใจเป็นมากขึ้น ทำให้ยาที่ต้องกินลดน้อยลง ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดจากยาก็ลดลงตามไปด้วยครับ
|