กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564

กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564

กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564
กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564


กฎบัตรการตรวจสอบภายใน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระดิ่ง ประจำปี 2564

ข่าว ณ. วันที่ 1 ต.ค. 2563 เวลา 16.03 น. โดย คุณ มนาเวศน์ สุวรรณพูล

ผู้เข้าชม 415 ท่าน

กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564
กฎบัตรการ ตรวจ สอบ ภายใน อบ ต. 2564
แผนผังเว็บไซต์Version ขั้นต่ำของ Browser IE9 / Firefox 3.5 / Chrome / Safari4 / Opera10

กฎบัตรการตรวจสอบภายใน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้บริหาร พนักงานส่วนตำบล ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ พนักงานจ้างทั่วไป และบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบและมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ สายบังคับบัญชา อำนาจหน้าที่ ตลอดจนความรับผิดชอบของหน่วยตรวจสอบภายในองค์การบริหารส่วนตำบลตะเคียนเลื่อนเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการประสานประโยชน์โดยรวมขององค์การบริหารส่วนตำบลตะเคียนเลื่อน

ข่าว ณ. วันที่ 19 มี.ค. 2564 เวลา 14.41 น. โดย คุณ สุรพล พันธ์มณี

ผู้เข้าชม 320 ท่าน

สวนดุสิตโพล สำรวจเรื่องอาหารไทย เอกลักษณ์ไทย มองเอกลักษณ์ คือ ความพิถีพิถัน ต้มยำกุ้ง นำตามด้วย ผัดไทย ห่วงการรักษารสชาติดั้งเดิม แนะภาครัฐดัน soft power ปชช.ช่วยส่งเสริม มองประชุมเอเปกช่วยหนุนค่อนข้างมาก
.
วันนี้ (27 พ.ย.) อาหารไทยเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ ครบรส สวยงาม เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ และจากการประชุม APEC 2022 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป กระแสของอาหารไทยก็ยังคงได้รับการชื่นชมพูดถึงอย่างแพร่หลาย โดยหวังว่า อาหารไทยจะเป็น Soft Power ที่จะมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจได้ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่องอาหารไทย เอกลักษณ์ไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,044 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 19-24 พฤศจิกายน 2565 สรุปผลได้ ดังนี้
.
1. ประชาชนคิดว่าเอกลักษณ์ของอาหารไทยคืออะไร
อันดับ 1ความพิถีพิถัน ประณีตสวยงาม 83.96%
อันดับ 2อาหารไทยมีประโยชน์ เป็นยา มีคุณค่าตามหลักโภชนาการ81.17%
อันดับ 3มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็น Soft Power มีต้นทุนทางวัฒนธรรม 75.98%
.
2. “5 อันดับ” เมนูอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์ไทย
อันดับ 1ต้มยำกุ้ง57.65%
อันดับ 2ผัดไทย33.17%
อันดับ 3ส้มตำ23.89%
อันดับ 4แกงเขียวหวาน22.11%
อันดับ 5แกงมัสมั่น13.23%
.
3. สิ่งที่เป็นห่วงหรือกังวลเกี่ยวกับอาหารไทย
อันดับ 1การรักษาสูตรต้นตำรับ รสชาติดั้งเดิม90.75%
อันดับ 2การรักษาคุณภาพของอาหารไทย วัตถุดิบของไทย 74.95%
อันดับ 3คนสนใจเรียนอาหารไทยลดลง ไม่มีผู้สืบทอด สานต่อ 68.02%
.
4. ประชาชนคิดว่าควรทำอย่างไรจึงจะรักษาเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้ได้
อันดับ 1ภาครัฐส่งเสริมอย่างจริงจัง ผลักดันเป็น Soft power 88.85%
อันดับ 2ปลูกฝังให้กับคนรุ่นหลังได้เห็นถึงคุณค่า ความสำคัญและสานต่อ 82.50%
.
อันดับ 3ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยช่วยกันรักษารากเหง้า เอกลักษณ์ของอาหารไทย77.31%
.
5. ใคร/หน่วยงานใด ที่จะช่วยส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นเอกลักษณ์ของไทยต่อไป
อันดับ 1ประชาชนคนไทยทุกคน 70.00%
อันดับ 2กระทรวงวัฒนธรรม 65.38%
อันดับ 3คนเก่าแก่ ปราชญ์ชาวบ้าน 63.37%
.
6. ประชาชนคิดว่าการประชุม APEC 2022 จะช่วยส่งเสริม “อาหารไทย...เอกลักษณ์ไทย” ไปสู่สายตาชาวต่างชาติได้มากน้อยเพียงใด
ค่อนข้างมาก 51.44% มากที่สุด 29.79% ค่อนข้างน้อย 17.43% น้อยที่สุด 1.34%
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/politics/detail/9650000112961
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

ช่วย 5 สาวไทยหนีนรกแดนว้า!เผยถูกหลอกทำงานเดือนละ 5 หมื่น ก่อนบังคับขายตัว-พอขัดขืนโดนซ้อมทารุณ

ท่าขี้เหล็ก/เชียงราย – “ปวีณา-ทหารไทย” รับตัวจากทางการเมียนมากลับไทยแล้ว 3 รออีก 2..สาวไทยถูกหลอกทำงานเขตเศรษฐกิจพิเศษว้า ชายแดนพม่า-จีน แลกเงินเดือน 5 หมื่น พอไปถึงโดนซ้อม-ให้อดข้าว บังคับขายตัว โชคดีมีจังหวะไลน์บอกพ่อแม่ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯประสานช่วยสำเร็จ

วันนี้ (27 พ.ย.65) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยตัวแทน พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีฝ่ายไทย พ.อ.อนุวัช ปัญญานันท์ รอง ผบก.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย ด่านตรวจคนเข้าเมืออง (ตม.) จ.เชียงราย พม.เชียงราย ได้รับตัวหญิงชาวไทยที่ถูกหลอกให้ไปค้าประเวณีในฝั่งรัฐฉาน ประเทศเมียนมา 3 คน ข้ามแดนกลับไทย

ซึ่งทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำตัวหญิงไทยทั้ง 3 คน อายุ 27 ปี 28 ปี และ 29 ปี (ตามลำดับ) เดินทางด้วยรถยนต์ผ่านสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ส่งตัวให้กับคณะฝ่ายไทย ที่จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ทั้งนี้การช่วยเหลือหญิงสาวชาวไทยดังกล่าว เกิดขึ้นหลังมีหญิงสาวจำนวน 5 คน ร้องทุกข์ว่าได้ถูกกลุ่มคนหลอกพาไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านแลกกับรายได้เดือนละ 50,000 บาท ทำให้ทั้งหมดหลงเชื่อและร่วมกับกลุ่มคนที่หลอกลวงลักลอบเดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ต่อมาทั้งหมดถูกส่งตัวไปอยู่ที่เมืองล็อกกิ่ง เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ห่างจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 400 กม. แต่กลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันตั้งแต่ต้น และถูกบังคับให้ค้าประเวณี หากขัดขืนไม่ยินยอมก็จะถูกทำร้ายร่างกายด้วย

ทั้งนี้ช่วงที่ทั้งหมดยังอยู่ที่เมืองล็อคกิ่ง ยังถูกบังคับให้เสพยาเสพติดด้วย ดังนั้นจึงตกอยู่ในภาวะที่ยากลำบากอย่างยิ่ง จึงได้ติดต่อทางอินเตอร์เน็ตไปยังมูลนิธิปวีณาฯ และทีบีซีฝ่ายไทย เพื่อให้ช่วยเหลือ กระทั่งทางทีบีซีฝ่ายเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับสหรัฐว้านำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือทั้ง 5 คน ออกมาได้สำเร็จ และได้ส่งมอบตัวกลับมายังฝ้่งไทยก่อน 3 คนดังกล่าว ส่วนอีก 2 คน อยู่ระหว่างเดินทางเพื่อส่งตัวกลับต่อไป

นางปวีณา กล่าวว่าหญิงสาวที่ถูกหลอกและร้องขอให้ช่วยเหลือมี 2 กลุ่ม รวมทั้งหมด 5 คน กลุ่มแรกคือ 3 คนที่ได้รับการช่วยเหลือส่งตัวกลับมาแล้วนั้น มีคนหนึ่งเล่นเฟซบุ๊กและพบการเชิญชวนให้ไปทำงาน จึงได้ชวนน้องสาวอีก 1 คนและเพื่อนอีก 1 คน รวม 3 คน เดินทางไปทำงานตามที่ถูกหลอกดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา แต่หลังจากไปถึงที่หมายก็ไลน์มาบอกพ่อแม่ว่า..ไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้และถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย ไม่ให้กินข้าว ฯลฯ จึงได้ติดต่อทางไลน์มาถึงในครอบครัว ซึ่งพ่อแม่ก็ติดต่อไปยังมูลนิธิให้ช่วยเหลืออีกทอดหนึ่ง

"เมืองล็อคกิ่งเป็นดินแดนห่างไกลและอยู่ติดชายแดนไทยจีน-เมียนมา ใช้ระยะเวลาเดินทางนาน 5 วัน เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในการปกครองของกลุ่มว้าที่ทหารเมียนมายังเข้าไปไม่ถึง เมื่อมูลนิธิฯประสานไปยังอธิบดีกรมการกงสุลแล้วพบว่าเป็นเรื่องยากลำบากแต่ได้รับคำแนะนำให้ประสานทหาร มูลนิธิและครอบครัวเหยื่อจึงบินตรงมาประสานกับ พ.อ.ณฑี ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง รวมทั้ง พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชีงราย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตำรวจแม่สาย ฯลฯ และหน่วงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ ซึ่งเราได้เปิดวีดิโอคอลให้ทั้ง 5 คน พูดเข้ามา ซึ่งตอนนั้นทางผู้แทนทหารเมียนมาที่ร่วมรับฟังด้วยขอใช้เวลาในการประสานช่วยเหลือจากวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา จนสามารถช่วยเหลือกลับมาได้ในที่สุด" นางปวีณา กล่าว

พ.อ.อนุวัช ปัญญานันท์ รอง ผบก.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง กล่าวว่าพื้นที่เมืองล็อคกิ่งหรือเล้าไก่อยู่ในรัฐฉานเหนือ เป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มว้าและมีนักลงทุนจากจีนเข้าไปลงทุนสถานท่องเที่ยวบันเทิงรวมถึงมีบ่อนคาสิโน เป็นเมืองที่กำลังเจริญเติบโตจึงมีความต้องการคนเข้าไปทำงาน แต่การเดินทางเข้าไปยากลำบากใช้เวลาหลายวัน

ด้าน พ.ต.อ.เขมชาติ กล่าวว่าขณะนี้ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ยังปิดอยู่ แต่กรณีช่องทางที่เปิดอก็ขอให้เดินทางออกไปตามช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านกรมการจัดหางาน และอย่าได้หลงไปกับคำหลอกลวงเรื่องรายได้สูง นอกจากนี้กรณีเป็นพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยนั้นหากเกิดปัญหาจะทำให้การช่วยเหลือจากรัฐไทยทำได้ยากจึงควรพิจารณาให้รอบด้านด้วย

สำหรับกรณีหญิงสาวทั้ง 5 คนดังกล่าวบางส่วนอาศัยอยู่ที่ จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะ 2 คนพี่น้อง ถูกหลอกให้ไปทำงานที่เมืองล็อคกิ่งเมื่อเดือนกันยายน 65 ที่ผ่านมา และสามารถติดต่อผ่านทางไลน์กลับมายังครอบครัวจนร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิปวีณาฯ ได้เมื่อเดือนตุลาคม ก่อนที่มูลนิธิฯจะประสานกองกำลังผาเมืองเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่เมียนมาช่วยเหลือ

กระทั่ง พ.อ.มิน มิน ทุน ผบ.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก และทีบีซี ได้แจ้งทหารของสหรัฐว้าให้ช่วยเหลือ แต่ช่วงนั้นกลุ่มหญิงสาวชาวไทยได้พากันหลบหนีออกจากสถานบันเทิงที่ถูกควบคุมตัวออกมาก่อน และโชคดีที่ไปพบกับเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาที่นอกเขตว้าพอดี ทำให้ทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือแล้วส่งตัวขึ้นเครื่องบินจากเมืองลาเฉียว ทางตอนเหนือของรัฐฉาน มายัง จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย ได้ในที่สุดดังกล่าว.

ที่มา : NEWS1