อารยธรรมตะวันตก (Western Civilization)มีแหล่งกำเนิดในดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia ในภาษากรีก หมายถึง ดินแดนระหว่างแม่น้ำ 2 สาย) หรือแถบลุ่มแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีส (Tigris-Euphrates) ในตะวันออกใกล้ (ปัจจุบันคือ ประเทศอิรัก) และลุ่มแม่น้ำไนล์ ในประเทศอียิปต์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ปัจจุบันดินแดนทั้งสองแห่งนี้จัดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่าอาณาจักรซูเมอร์(Sumer) หรือชีนาร์(Shinar) ที่ปรากฏชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิล เป็นอู่ของอารยธรรมที่มีความเก่าแก่กว่าอียิปต์ กำเนิดเมื่อประมาณ 3,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของสมัยประวัติศาสตร์ ดังความเห็นของนักประวัติศาสตร์ว่า “ประวัติศาสตร์เริ่มขึ้นที่ซูเมอร์” (History begins at Sumer) เนื่องจากชาวซูเมเรีย(Sumerian) เป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อบันทึกเรื่องราวต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็น “หลักฐาน” สำคัญหรือหัวใจในการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ และการแบ่งเส้นเวลาออกเป็น “สมัยก่อนประวัติศาสตร์” และ “สมัยประวัติศาสตร์ SumerianAchievements The Invention of Writing The Sumerians made one of the greatest cultural advances inhistory. They developed cuneiform, theworld’s first system of writing. But Sumerians did not have pencils,pens, or paper. Instead, they used sharp tools called stylusesto make wedge-shaped symbols on clay tablets. Earlier written communication hadused pictographs, or picture symbols. Eachpictograph represented an object, suchas a tree or an animal. But in cuneiform,symbols could also represent syllables, orbasic parts of words. As a result, Sumerianwriters could combine symbols to expressmore complex ideas such as “joy” or “powerful.” Sumerians first used cuneiform to keepbusiness records. A scribe, or writer, wouldbe hired to keep track of the items peopletraded. Government officials and templesalso hired scribes to keep their records. Becoming a scribe was a way to move upin social class. Sumerian students went to school tolearn to read and write. But, like today,some students did not want to study. ASumerian story tells of a father who urgedhis son to do his schoolwork: “Go to school, stand before your ‘school-father,’ recite your assignment, open yourschoolbag, write your tablet . . . After you havefinished your assignment and reported to yourmonitor [teacher], come to me, and do notwander about in the street.” –Sumerian essay quoted inHistory Begins at Sumer, by Samuel Noah Kramer In time, Sumerians put their writingskills to new uses. They wrote works onhistory, law, grammar, and math. Theyalso created works of literature. Sumerianswrote stories, proverbs, and songs. Theywrote poems about the gods and aboutmilitary victories. Some of these were epics,long poems that tell the stories of heroes. Later, people used some of these poems tocreate The Epic of Gilgamesh, the story of alegendary Sumerian king. ความสำเร็จของชาวซูเมอร์ การประดิษฐ์อักษรเขียน ชาวซูเมอร์สร้างความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างหนึ่ง คือ การพัฒนาอักษรรูปลิ่ม (cuneiform) เป็นระบบการเขียนระบบแรกของโลก แต่ชาวซูเมอร์ไม่มีดินสอ ปากกา หรือกระดาษ พวกเขาใช้เครื่องมือแหลคมที่เรียกว่า เหล็กจาร ทำสัญลักษณ์รูปลิ่มบนแผ่นดินเหนียวแทน การติดต่อสื่อสารที่เขียนขึ้นในยุคแรกใช้อักษรสัญลักษณ์ หรือสัญลักษณ์ภาพ ภาพสัญลักษณ์แต่ละภาพใช้แทนวัตถุ เช่น ต้นไม้หรือสัตว์ แต่ในอักษรรูปลิ่ม สัญลักษณ์อาจจะแทนส่วนหนึ่งของคำพูด หรือส่วนพื้นฐานของคำด้วย เป็นเหตุให้นักเขียนชาวซูเมอร์อาจจะรวมสัญลักษณ์เข้าด้วยกันเพื่ออธิบายความคิดที่สลับซับซ้อน เช่น “ความสนุกสนาน” หรือ “มีอำนาจมาก” ครั้งแรกชาวซูเมอร์ใช้อักษรรูปลิ่มเพื่อเก็บบันทึกทางธุรกิจ อาลักษณ์หรือนักเขียนอาจจะรับจ้างบันทึกเหตุการณ์ที่ผู้คนค้าขายกัน ข้าราชการและวิหารยังได้จ้างอาลักษณ์ให้เก็บรักษาบันทึกเหตุการณ์ของตนเองไว้ด้วย การเป็นอาลักษณ์เป็นวิถีทางที่จะเลื่อนขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงในชนชั้นทางสังคม นักเรียนนักศึกษาชาวซูเมอร์จะไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ อ่าน และเขียน แต่นักศึกษาบางคนไม่ต้องการศึกษาเล่าเรียนเหมือนทุกวันนี้ เรื่องราวของชาวซูเมอร์ได้เล่าเรื่องพ่อผู้กระตุ้นเตือนให้บุตรของตนทำการบ้านว่า “ไปโรงเรียนเถิด ไปยืนเบื้องหน้า ‘พ่อครู’ ของลูก ท่องการบ้านของลูกให้ครูฟัง จงเปิดกระเป๋านักเรียนของลูกเถิด จงเขียนหนังสือบนกระดานของลูกเถิด....หลังจากลูกทำการบ้านเสร็จแล้วให้ไปรายงานครูของลูก มาหาพ่อเถิด และอย่าไปเที่ยวเร่ร่อนบนถนน” - บทความของชาวซูเมอร์ อ้างใน ประวัติศาสตร์เริ่มขึ้นที่ซูเมอร์ โดย ซามูเอล โนอาห์ คราเมอร์ ในไม่ช้าชาวซูเมอร์ก็ใส่ทักษะการเขียนให้กับวิธีการใช้ใหม่ ๆ พวกเขาได้เขียนผลงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ กฎหมาย ไวยากรณ์ และคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้สร้างผลงานทางวรรณคดีอีกด้วย ชาวซูเมอร์ ได้เขียนนวนิยาย สุภาษิต และเพลง ตลอดจนบทกวีเกี่ยวกับเทพเจ้าและชัยชนะของทหาร บทกวีเหล่านี้บางอย่างก็เป็นมหากาพย์ ซึ่งเป็นบทกวียาวเล่าเรื่องราวของวีรบุรุษ ต่อมา ผู้คนก็ใช้บางบทสร้างเป็น มหากาพย์กิลกาเมช ซึ่งเป็นเรื่องราวตำนานกษัตริย์ซูเมอร์
|