ณ ปัจจุบันนี้
เราคงปฏิเสธกันไม่ได้เลยนะครับว่า ได้มีการใช้งาน “ดวงตา” กันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ๆ เพราะเจ้ามือถือสมาร์ทโฟนเนี่ยแหละ ตัวดีเลย ที่ทำให้ต้องใช้ดวงตากันแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะไถล ๆ จ้อง ๆ เพื่อตามข่าวสาร, เล่นโซเชียล, ตามดราม่า, ช้อปปิ้งสินค้า, เล่นเกม หรืออื่น ๆ อีกเพียบ ยิ่งถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานกับหน้าจอคอมตลอดเวลาด้วยแล้วละก็ ยิ่งใช้งานดวงตาหนัก x2 เลยละครับ แล้วแบบนี้ จะไม่บำรุงดวงตากันสักหน่อย ก็ดูจะเป็นการใจร้ายต่อดวงตากันเกินไป เพราะฉะนั้น เริ่มหันมาทาน
“วิตามินบำรุงสายตา” หรือ “อาหารเสริมบำรุงสายตา” กันดีกว่า จะได้มีสุขภาพตาที่ดี และใช้งานกันได้ยาว ๆ ว่าแต่จะซื้อวิตามินบำรุงสายตายี่ห้อไหนดี? ก็ลองมาดูรีวิวของทั้ง 10 ยี่ห้อด้านล่างกันก่อนสิครับ
“วิตามินบำรุงสายตา” หรือ “อาหารเสริมบำรุงสายตา” มีอะไรบ้าง?จากงานวิจัยและผลการศึกษาต่าง ๆ ได้พบว่า อาหารเสริมบำรุงสายตาที่ได้ผลดี ช่วยบำรุงสายตาได้มีประสิทธิภาพ หลัก ๆ จะมีอยู่ 5 ตัวด้วยกันคือ วิตามิน A, ลูทีน, ซีแซนทิน, สารสกัดบิลเบอร์รี่ และกรดไขมัน Omega-3 ซึ่งจะมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ครับ วิตามิน Aจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยทำให้กระจกตาที่ครอบดวงตาอยู่มีความใส จึงช่วยให้เห็นภาพต่าง ๆ ได้ชัด ไม่ขุ่นมัว อีกทั้งวิตามิน A ยังเป็นส่วนประกอบของโปรตีน Rhodopsin ซึ่งเป็นโปรตีนที่พบได้มากในดวงตาของคนเรา และมีส่วนช่วยในการมองเห็นในสภาพเวลาที่มีแสงน้อยครับ อีกทั้งถ้าร่างกายขาดวิตามิน A มาก ๆ อาจจะส่งผลให้เกิดโรคดวงตา Xerophthalmia โดยในระยะเริ่มต้นจะส่งผลให้การมองเห็นในตอนกลางคืนแย่ลง และเมื่อมีอาการหนักขึ้น จะทำให้ท่อน้ำตาและดวงตาแห้ง แล้วอาจจะส่งผลให้เกิดการตาบอดในที่สุด เพราะฉะนั้น วิตามิน A จึงถือว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงสายตาที่มีความสำคัญมาก ๆ ส่วนปริมาณที่ควรทานนั้น ทางสถาบัน The Recommended Dietary Allowance (RDA) ของสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่า ผู้ชายควรทานที่วันละ 900 mcg ส่วนผู้หญิงควรทานที่วันละ 700 mcg ครับ ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทิน (Zeaxanthin)โดยสารทั้งสองจะได้จากการสกัดดอกดาวเรือง และจะอุดมไปด้วย “แคโรทีนอยด์” (Carotenoid) ซึ่งเป็นสารที่พบได้มากตรงบริเวณจอประสาทตาและเรตินาของดวงตา โดยแคโรทีนอยด์จะสามารถช่วยกรองแสงสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นแสงตัวร้ายที่สามารถก่อให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่น (oxidative stress) แล้วทำให้พวกสารอนุมูลอิสระทั้งหลายสามารถทำร้ายดวงตาของคนเราได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคต้อกระจก, โรคจอรับภาพเสื่อม และโรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related Macular Degeneration, AMD) ได้ด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีงานวิจัยได้ค้นพบว่า การทานลูทีนที่เข้มข้นถึง 15 mg 3 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถช่วยให้การมองเห็นทำได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญครับ สารสกัดบิลเบอร์รี่ (Bilberries Extract)จะอุดมไปด้วยสารกลุ่ม “แอนโธไซยาโนไซม์” (Anthocyanosides) ซึ่งมีคุณสมบัติของการเป็น Anti-Oxidant ชั้นยอด จึงช่วยปกป้องร่างกายรวมถึงดวงตาจากมลภาวะภายนอก, ขบวนการออกซิเดชันที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และสารอนุมูลอิสระได้ดี อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีน Rhodopsin (เหมือนวิตามิน A) จึงช่วยให้การมองเห็นในความมืดทำได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีงานศึกษาของผู้ที่ทานสารสกัดบิลเบอร์รี่วันละ 160–480 mg ได้ผลลัพธ์ว่า สามารถช่วยลดอาการตาแห้งและอาการตาล้าเนื่องจากการมองหน้าจอคอมเป็นระยะเวลานานได้ครับ กรดไขมัน Omega-3หลาย ๆ คนน่าจะเคยชินว่า Omega-3 นั้น จะช่วยในการบำรุงสมองมากกว่า แต่จริง ๆ แล้ว ก็ช่วยบำรุงดวงตาและสายตาเช่นกันนะครับ เพราะเยื่อหุ้มเซลล์ของเรตินาจะมีปริมาณของ DHA ที่สูงมาก ซึ่งการที่ร่างกายจะได้ DHA ก็มาจากการทานกรดไขมัน Omega-3 นั้นเอง อีกทั้ง Omega-3 ยังช่วยกระตุ้นให้ดวงตามีการผลิตน้ำตาเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยลดอาการตาแห้ง, ความรู้สึกไม่สบายตา และการมองเห็นไม่ชัดเป็นครั้งคราวได้ครับ แต่เนื่องจากราคาค่อนข้างแพง อาหารเสริมบำรุงสายตาหลาย ๆ ยี่ห้อ จะไม่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมเท่าไรครับ แล้วแบบนี้ จะเลือกซื้อวิตามินบำรุงสายตายังไงดี?แนะนำว่า ถ้าเป็นคนทานอาหารที่ไม่หลากหลาย ไม่ทานพวกผัก ผลไม้เท่าไรนัก ต้องเน้นยี่ห้อที่ให้วิตามิน A ก่อน แต่ถ้าคิดว่าร่างกายได้รับวิตามิน A มากพออยู่แล้ว ก็เลือกซื้อยี่ห้อที่ให้สารอาหารบำรุงสายตาอื่น ๆ ทดแทนได้ ส่วนคนที่ต้องทำงานกับหน้าจอคอมหรือมือถืออยู่บ่อยครั้ง แนะนำว่าต้องทานยี่ห้อที่มีความเข้มข้นของลูทีนสูง ๆ เพื่อป้องกันแสงสีฟ้า หรือถ้าไม่อยากคิดมาก ก็เลือกซื้อยี่ห้อที่มีสารอาหารเหล่านี้ครบทุกตัวก็เป็นไอเดียที่ดีครับ แต่ก็จะแพงนิดหนึ่ง และถ้าทานวิตามิน A, ลูทีน, ซีแซนทิน และสารสกัดบิลเบอร์รี่แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าดวงตาสุขภาพไม่ดีขึ้น ก็คงต้องทาน Omega-3 เพิ่มเติมครับ และหากเกิดอาการตาแห้งขึ้นแล้วละก็ ในเบื้องต้นขอแนะนำให้ใช้ “น้ำตาเทียม” ในการช่วยบรรเทาอาการตาแห้งครับ ถ้าสนใจอยากจะซื้อน้ำตาเทียมยี่ห้อไหนดีละก็ ขอฝากบทความด้านล่างด้วยครับ ตารางเปรียบเทียบรีวิว “วิตามินบำรุงสายตา” ยี่ห้อไหนดีถ้าเผื่อใครที่ไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด อยากอ่านแบบสรุปเนื้อหามาให้เลยมากกว่า หรืออยากเห็นอาหารเสริมบำรุงสายตาแต่ละยี่ห้อ มาวางเรียงเทียบกันไปเลยว่า ยี่ห้อไหนให้สารอาหารอะไรบ้างที่ช่วยบำรุงสายตา มีปริมาณเท่าไร และยี่ห้อไหนถูกสุด ก็กดเข้าไปดูตารางเปรียบเทียบที่ด้านล่างได้เลยนะครับ 1. วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อ Mediviss Luteinny
ราคาโดยประมาณ 490 บาท ต่อ 30 แคปซูล ถ้ากำลังมองหาวิตามินบำรุงสายตาดี ๆ สักยี่ห้ออยู่ล่ะก็ ขอแนะนำ Mediviss Luteinny ที่เป็นยี่ห้อของคนไทยกันเลยครับ โดยส่วนหนึ่งที่ยี่ห้อนี้น่าสนใจมาก ก็เป็นเพราะว่า มีสารอาหารบำรุงสายตาอย่าง “ลูทีน” ที่เข้มข้นสูงถึง 400 mg! เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าสูงมาก! และสูงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ ถึงขนาดพวกยี่ห้อของต่างประเทศที่ดัง ๆ ยังไม่มีความเข้มข้นของลูทีนได้สูงถึงขนาดนี้เลยครับ และนอกจากลูทีนแล้ว ยังเสริมด้วยเบต้า-แคโรทีนที่สูงถึง 300 mg และวิตามิน A อีก 3 mg ซึ่งทั้งสองก็จะมาช่วยให้ร่างกายมีวิตามิน A ที่เพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่า วิตามิน A ถือเป็นสารอาหารบำรุงสายตาที่สำคัญอันดับต้น ๆ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีสารสกัดจากบิลเบอร์รี่อีก 80 mg ที่อาจจะไม่ได้มีความเข้มข้นที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงใช้ได้ โดยรวม Luteinny จึงเป็นวิตามินบำรุงสายตาที่มีสารอาหาร ครบ จบ ในเม็ดเดียว และเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพของดวงตาแบบสุด ๆ เลยครับ
2. อาหารเสริมบำรุงสายตา ยี่ห้อ VISPRO (STRONKA)
ราคาโดยประมาณ 690 บาท ต่อ 30 แคปซูล โปรโมชั่น ซื้อ 2 กล่อง แถมฟรี 1 กล่อง ! คือบอกเลย ยี่ห้อ VISPRO (STRONKA) เป็นอาหารเสริมบำรุงสายตาที่น่าสนใจมาก เพราะทางแบรนด์ เขาได้คิดค้นและอ้างอิงส่วนผสมจากสูตร AREDS 2 ที่เป็นงานวิจัยของทางสถาบันดวงตา National Eye Institute จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสูตรที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากจอประสาทตาเสื่อมได้มากถึง 40% ทำให้ถ้าสังเกตที่สารอาหารแล้ว จะจัดหนัก จัดเต็ม จัดได้โหดกว่ายี่ห้ออื่น ๆ มาก ๆ ครับ! โดยสารอาหารก็จะมีทั้ง ผงบิลเบอร์รี่ที่สูงถึง 100 mg, ลูทีน 10 mg, ซีแซนทีน 2 mg และที่พิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ คือ มีน้ำมันปลา 231 mg ที่ให้ Omega-3 เพิ่มเสริมเข้ามาด้วย (ไม่ค่อยเจอในยี่ห้อทั่ว ๆ ไป) เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีวิตามิน C, E, สังกะสี และทองแดง เพิ่มเสริมเข้ามาอีกกกก โดยรวมจึงมีสารอาหารเยอะมากกก ทำให้นอกจากจะช่วยบำรุงสายตาและป้องกันแสงสีฟ้าได้ดีเป็นยี่ห้ออันดับต้น ๆ แล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงสมองและร่างกายในด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย ก็ทานเม็ดเดียว ได้ประโยชน์หลาย ๆ อย่างเลยครับ
3. วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อ RATINE
ราคาโดยประมาณ 999 บาท ต่อ 40 เม็ด สำหรับใครที่ต้องทำงานใช้สายตาในระหว่างวันเป็นระยะเวลานาน ๆ ต้องคอยจ้องมองเจ้าแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมอยู่เสมอ ๆ แล้วเริ่มรู้สึกว่า ตามีอาการปวดล้า ตาแห้ง หรือปวดตาแบบอื่น ๆ ต้องขอแนะนำวิตามินบำรุงสายตายี่ห้อ RATINE กันเลยครับ เพราะถ้าสังเกตจากตารางด้านล่าง จะเห็นว่า มีสารอาหารอย่าง ซีแซนทีน 3.5 mg ลูทีน 6 mg และสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ 25 mg ที่แต่ละตัว เด่นในเรื่องการบำรุงและป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอ ส่วนผสมต่าง ๆ ก็เป็นเกรดพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งมีการผลิตด้วยนวัตกรรมฟรีฟอร์มที่จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีด้วย โดยรวมตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องใช้สายตาอย่างหนักมาก ๆ เลยครับ
4. อาหารเสริมบำรุงสายตา ยี่ห้อ CHAME’ Collagen Tripeptide Plus Berry Lutien
ราคาโดยประมาณ 450 บาท ต่อ 10 ซอง สาว ๆ ยุคใหม่ หรือสาว ๆ วัยทำงานที่ต้องใช้สายตาอย่างหนัก น่าจะถูกใจอาหารเสริมบำรุงสายตาตัวนี้กันอย่างแน่นอน เพราะ CHAME’ Collagen Tripeptide Plus Berry Lutein นอกจากจะมีสารอาหารที่เน้นช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้ดูสวย ดูสุขภาพดีอีกด้วย โดยสารอาหารบำรุงดวงตาจะมีพวก สารสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่าง ๆ รวมถึงวิตามิน A กับเบต้าแคโรทีน เสริมด้วยลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการต่อสู้กับแสงสีฟ้าตัวร้าย อีกทั้งยังมีน้ำมันปลาที่จะช่วยบำรุงทั้งสมองและดวงตาเพิ่มเติมมาอีก คือสารอาหารบำรุงสายตาครบ จบ จัดเต็มมากครับ รวมถึงยังได้งานวิจัยรองรับประสิทธิภาพจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ว่าช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นสดใส และมีส่วนช่วยกรองแสงรังสีจากหน้าจอได้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีสารอาหารที่จะมาช่วยบำรุงผิวพรรณกันหลากหลายชนิดเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น คอลลาเจนช่วยบำรุงให้ผิวเต่งตึง, Coenzyme Q10 ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ, กรดแอสคอร์บิกหรือวิตามิน C ที่ได้ชื่อว่า วิตามินแห่งความงาม และสารอาหารอื่น ๆ อีกเพียบบบ (ดูสารอาหารทั้งหมดได้จากตารางด้านล่าง) และหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า มีสารอาหารที่เยอะขนาดนี้ ต้องมีความเข้มข้นที่น้อยกันแน่ ๆ แต่ CHAME’ ไม่! จัดความเข้มข้นมาให้อย่างจัดหนักมาก ส่วนตัวอาหารเสริมก็เป็นรูปแบบผงชงละลาย น้ำรสมิกซ์เบอร์รี่ที่มีรสชาติหวานอร่อย ดื่มง่ายแบบไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะไม่มีไขมัน ไม่มีน้ำตาล ให้สาว ๆ ต้องกังวลเด้อ ก็มีประโยชน์เยอะ บำรุงดวงตากันขนาดนี้ สงสัยสาว ๆ ต้องลองหาซื้อไปชงดื่มกันแล้วล่ะครับ
5. ใหม่! ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์® แบล็กเคอร์แรนท์ เอเอกซ์
ลดสูงถึง 46% เพียง 999.- จากปกติ 1,750 และ 2 ขวดเพียง 1,888.- จาก 3,500.- ถ้าพูดถึงเรื่องการใช้งานดวงตาของคนเราแล้ว ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นถึงวัย 20-30 ก็เป็นวัยที่ใช้สายตากันอย่างหนัก ไม่ว่าจะต้องใช้เรียน ทำงาน หรือดูหนัง ดูซีรีย์ จนพอไปถึงช่วงอายุ 40 ก็เริ่มพบปัญหาสุขภาพของดวงตา พออายุ 60 รู้ตัวอีกทีก็มีคอลเลคชั่นแว่นเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการใส่ใจดวงตาในระยะยาว ก็คงต้องดูแลกันสักหน่อยด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์® แบล็กเคอร์แรนท์ เอเอกซ์ จาก BRAND'S ที่เป็นสูตรอัปเกรด ที่ดีกว่า พรีเมี่ยมกว่าเดิม โดยมีสารอาหารที่จำเป็น ใส่ใจสายตาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ลูทีน, ซีแซนทีน และสารสกัดแบล็กเคอร์แรนท์ เท่านั้นยังไม่พอ ยังเหนือกว่า พิเศษกว่าใครด้วยส่วนผสมของแอสตาแซนธินและวิตามินเอ ที่ไม่มีในยี่ห้อไหน ๆ ครับ รวม ๆ แล้ว ทำให้แบรนด์® แบล็กเคอร์แรนท์ เอเอกซ์ ถือเป็นผลิตภัณฑ์เสริมที่มี 5 คุณประโยชน์ที่สำคัญต่อดวงตา จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่ต้องทำงาน ใช้สายตาอย่างหนัก คนที่ต้องมองหน้าจอนาน ๆ นานกว่า 9+ ชั่วโมง รวมถึงคนที่ต้องใช้งานดวงตาในเวลากลางคืนอีกด้วย และขอกระซิบบอกกันอีกนิดว่า ณ ตอนนี้ ถ้าซื้อแบรนด์®แบล็กเคอร์แรนท์เอเอกซ์ ลดสูงถึง 46% 1 ขวด เพียง 999.- จากปกติ 1,750 และ 2 ขวดเพียง 1,888.- จาก 3,500.- รีบหน่อย เพราะจำกัดเพียง 1,000 สิทธิ์ ในช่วงเวลา 1 กรกฎาคม 2565 – 31 กรกฎาคม 2565 เท่านั้น และยังส่งฟรีทั่วไทยอีกด้วย ก็ถ้าใครทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ แล้วยังไม่ค่อยเห็นผล ต้องลองแบรนด์® แบล็กเคอร์แรนท์ เอเอกซ์ ตัวนี้เลยครับ
6. วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อ Puritan's Pride Lutein
ราคาโดยประมาณ 235-649 บาท ต่อ 60-120 เม็ด Puritan's Pride อีกหนึ่งยี่ห้อขายอาหารเสริมที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา และมีขายอาหารเสริมกันหลายชนิดเอามาก ๆ ถ้าอยากได้อาหารเสริมบำรุงสายตาละก็ ต้องซื้อ Lutein ขวดสีส้มตัวนี้เลยครับ โดยทางแบรนด์ก็จะมีการแบ่งขายความเข้มข้นออกเป็น 2 แบบด้วยกันคือ ลูทีน 20 mg และ 40 mg ซึ่งความเข้มข้นของลูทีนก็จะชนะตัวขวดสีส้มของ 21st Century แบบขาดลอย แต่ก็ไม่มีสารอาหารเพิ่มเติมอื่น ๆ เสริมมาให้ จะเน้นแค่บำรุงดวงตาโดยเฉพาะครับ ส่วนราคาก็จะแพงตามความเข้มข้นของลูทีน แนะนำว่า ให้ลองซื้อแบบลูทีน 20 mg มาลองทานดูก่อน แต่ถ้ารู้สึกว่า สุขภาพของดวงตาไม่ค่อยดีขึ้น ยังคงแอบหาแห้ง ๆ อยู่ ก็คงต้องไปทานแบบ 40 mg แทนครับ
7. วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อ DHC Lutein
ราคาโดยประมาณ 319 บาท ต่อ 30 เม็ด เจออาหารเสริมบำรุงสายตาจากสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจไปสามยี่ห้อแล้ว คราวนี้ลองมาดูของเอเชียจากดินแดนปลาดิบกันบ้างกับ DHC Lutein ที่นอกจากจะมีความเข้มข้นของลูทีนที่สูงถึง 16 mg ต่อเม็ดแล้ว ยังให้วิตามิน E และสารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกด้วย (ดูได้จากตารางด้านล่าง) ซึ่งสารสกัดเหล่านี้ ก็จะอุดมไปด้วยแอนโทไซยานินและโครซีทิน ที่จะมาช่วยกันบำรุงสายตาเพิ่มเติม และยังช่วยให้การมองเห็นในตอนกลางคืนมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย ดูรวม ๆ แล้ว ก็ถือว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงสายตาอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าซื้อมาทานกันครับ
8. อาหารเสริมบำรุงสายตา ยี่ห้อ 21st Century Healthy Eyes
ราคาโดยประมาณ 150-280 บาท ต่อ 36-60 เม็ด 21st Century เป็นยี่ห้อขายอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกาที่มีวิตามินบำรุงสายตาที่น่าสนใจอย่างรุ่น Healthy Eyes โดยทางแบรนด์เขา ก็จะแบ่งออกเป็นสามสูตรด้วยกัน และมีสารอาหารที่แตกต่างกันไป (สามารถเช็คดูได้ที่ตารางด้านล่าง) โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
ถ้ายังไงไม่เคยทานวิตามินบำรุงสายตามาก่อน และไม่รู้จะเริ่มซื้อจากยี่ห้อไหนดี ก็เริ่มจากยี่ห้อนี้ ตัวสูตรธรรมดาขวดสีน้ำเงินก่อน ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีครับ
9. วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อ VISTRA Bilberry Extract Plus Lutein
ราคาโดยประมาณ 283 / 519 บาท ต่อ 30 / 60 เม็ด VISTRA เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อขายอาหารเสริมของคนไทยที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยม และมีขายอาหารเสริมกันหลากหลายมาก ๆ สำหรับอาหารเสริมบำรุงสายตาตัวที่น่าสนใจและมียอดขายดี ต้องยกให้กับ Bilberry Extract Plus Lutein ตัวนี้เลยครับ โดยมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาครบถ้วนถึง 4 ตัวด้วยกันคือ วิตามิน A ที่อาจจะน้อยไปนิด, ลูทีนมีความเข้มขนสูง, ซีแซนทีนนี้ก็เข้มข้นสูงเช่นกัน และมีความเข้มข้นกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อเอามาก ๆ สุดท้ายด้วยสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ที่จะให้แอนโธไซยาโนไซม์ตัวช่วยเรื่องการมองเห็นในเวลากลางคืน อีกทั้งนอกจากนี้ ก็ยังเสริมวิตามิน E มาอีก เรียกได้ว่า ทานแล้วบำรุงดวงตาแบบสุด ๆ แต่ราคาก็จะค่อนข้างแพงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ ตกเม็ดละประมาณ 10 บาท ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ก็ขอแนะนำครับ
10. อาหารเสริมบำรุงสายตา ยี่ห้อ Healthy Care Bilberry & Lutein
ราคาโดยประมาณ 520 บาท ต่อ 120 เม็ด Healthy Care เป็นยี่ห้อจากออสเตรเลียที่ขายอาหารเสริมที่น่าสนใจหลายตัวมาก ๆ และถ้าพูดถึงวิตามินบำรุงสายตาละก็ ต้อง Bilberry & Lutein ตัวนี้เลยครับ โดยถ้าดูจากสารอาหารและปริมาณที่ตารางด้านล่างแล้ว อาจจะไม่ใช่ยี่ห้อที่ให้สารอาหารที่หลากหลายและปริมาณมากที่สุด แต่ก็ค่อนข้างครบถ้วน และบำรุงสายตาได้ดีพอสมควร ส่วนราคาก็ไม่แพงมาก เวลาซื้อทีก็ได้ขวดค่อนข้างใหญ่ถึง 120 เม็ด ซื้อทีเดียวสามารถทานได้นาน ๆ เลยครับ และถ้ายังรู้สึกว่า ปริมาณสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตาต่อเม็ดนั้นน้อยเกินไป ก็ทานเพิ่มเป็น 2 เม็ดต่อวัน เช้าเย็นสิครับ
ก็จบไปแล้วกับการรีวิว “วิตามินบำรุงสายตา” / “อาหารเสริมบำรุงสายตา” ยี่ห้อไหนดี ถึง 10 ยี่ห้อด้วยกัน สนใจอยากจะซื้อยี่ห้อไหนไปทานเพื่อบำรุงสายตากันบ้างครับ? จากที่ดู ๆ มาเนี่ย ก็มีช่วงราคาที่ตั้งแต่ไม่แพงมากหลักร้อย ไปจนถึงเกรด Premium หลักพันเลยทีเดียว ยังไงก่อนซื้อก็ดูเงินในกระเป๋ากันด้วย ถ้าคิดว่า สายตายังดีอยู่ ไม่ได้ปวดตามากนัก และอยากจะทานเพื่อบำรุงสายตาเฉย ๆ ก็เริ่มลอง ๆ จากยี่ห้อราคาย่อมเยาก่อนก็ได้ จะได้เป็นการเซฟเงินด้วย แต่ถ้ามีงบละก็ ก็เอาตามที่สะดวกเลยครับ ยังไงก็ขอให้ได้อาหารเสริมบำรุงสายตาตัวที่ดี ตัวที่ถูกใจ ทานแล้ว สุขภาพดวงตาดีขึ้นกันด้วยครับผม |