ออก กํา ลังกา ย เกิน 1 ชม.

ธรรมชาติออกแบบให้ร่างกายมนุษย์ต้องมีการเคลื่อนไหว และออกกำลังเป็นประจำ แต่ด้วยสมัยนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้เราออกกำลังกายกันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเมื่อร่างกายมีการออกกำลังน้อยมาก ๆ เป็นเวลานานจะทำให้สมรรถภาพของร่างกายเราค่อย ๆ เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ

ส่วนใครได้ทำงานที่ได้ออกแรงเยอะ ๆ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่สำหรับพนักงานออฟฟิตส่วนใหญ่ ถือว่าใช้แรงกันน้อยมาก กล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็จะลีบเล็กลง, ร่างกายไม่กระปรี้กระเปร่า, ไขมันสะสมมาก สรุปง่าย ๆ ว่า สุขภาพจะค่อย ๆ อ่อนแอลงเรื่อย ๆ นั่นเอง

ดังนั้นเราจึงควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อรักษาสมรรถภาพของร่างกายเราไว้ โดยควรออกวันละสัก 1 ชั่วโมง รวมกันได้ทั้งการคาร์ดิโอ (วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ) ออกแบบเน้นสร้างกล้ามเนื้อ (เวทเทรนนิ่ง, วิดพื้น, โหนบาร์) หรือการยืดหยุ่น (โยคะ, พิลาทิส)

โดยหากใครสามารถออกกำลังได้ 3-4 วันต่อสัปดาห์ จะดีมาก เป็นการเพิ่มสมรรถภาพของร่างกาย สุขภาพจะแข็งแรงขึ้น หัวใจและกล้ามเนื้อได้พัฒนา ส่วนใครที่ทำได้มากกว่านั้น ถือว่าเข้าขั้นเสพติดการออกกำลังกาย คือถ้าไม่ออกแล้วจะรู้สึกผิด ซึ่งลุงขอแสดงความยินดีด้วยเพราะคุณจะมีความแข็งแรง และกระปรี้กระเปร่าในแบบที่น้อยคนในโลกจะได้สัมผัส

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายมากไปก็ไม่ดี โดยเฉพาะการออกแบบหนัก ๆ เช่น เวทเทรนนิ่ง, ต่อยมวย, วิ่งสปีด, การออกหนัก ๆ แบบนี้ ควรมีวันพักบ้าง สัก 1-2 วัน ต่อสัปดาห์จะดีมาก เพราะการออกกำลังกายหนัก ๆ จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงในวันถัดไป (แต่ถ้าได้พักจะกลับมาแข็งแรงขึ้นอย่างมาก)

ส่วนถ้าเป็นออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เล่นโยคะ, เดินเร็ว, ว่ายน้ำเล่น, ก็ออกทุกวันได้เลย

ตามปกติแล้วการออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม 2 ครั้งต่อวัน ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนักกีฬา แต่กับคนทั่วไป การจัดสรรเวลาเพื่อออกกำลังกายให้ได้วันละครั้งก็เป็นเรื่องยากเย็นแล้ว มีบ้างบางคนที่สามารถทำได้เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอีกช่วงเวลาหนึ่งของวันจะมีแต่ประโยชน์เท่านั้น เพราะยังมีข้อเสียด้วยหากไม่ระวัง

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวัน

จากการศึกษาในปี 2017 ที่เผยแพร่ใน International Journal of Obesity ระบุว่าการใช้เวลาไปกับการนั่งๆ นอนๆ หรืออยู่เฉยๆ เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และลงพุง ฉะนั้นหากคุณต้องเลี่ยงสองสิ่งนี้ ก็แค่ลุกออกมากำลังกายแค่นั้นแหละ

นอกจากนี้การเพิ่มช่วงเวลาออกกำลังกายในแต่ละวันไม่ได้ให้แต่ประโยชน์ต่อหัวใจและขนาดรอบเอวเท่านั้น โดย Brandon Mentore นักโภชนาการกีฬาและโค้ชด้านความแกร่งและการปรับสภาพของร่างกายได้อธิบายว่า การออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวันส่งผลดีต่อการเพิ่มสมรรถนะโดยรวมของร่างกาย ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเร่งความเติบโตของกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแกร่งด้วย

Mentore ยังบอกอีกว่าจำนวนการฝึกซ้อมเป็นปัจจัยสำคัญต่อทุกระดับเป้าหมายที่ต้องการ เช่น เพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน, เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ และผลลัพธ์ที่ออกมาที่ทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น หรืออาจพูดได้ว่าเมื่อโปรแกรมการฝึกถูกต้อง การฝึก 2 ครั้งต่อวันจะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น

ข้อเสียของการออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวัน

เอาล่ะ การออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวัน ช่วยให้คุณได้เรียกเหงื่อมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น แต่การเพิ่มปริมาณการฝึกก็เสี่ยงต่อการออกกำลังกายที่มากเกินไปด้วยเช่นกัน หากดูแล้วว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นการสร้างความเครียด แม้ว่าความเครียดที่เกิดขึ้นนี้จะกระตุ้นการปรับตัวของร่างกายที่ทำให้สุขภาพด้านต่างๆ ดีขึ้น แต่การเพิ่มความเครียดให้แก่ร่างกายมากเกินไปก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ โดย Mentore ได้บอกว่าการออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวัน อาจส่งผลเรื่องของความล้าให้แก่ระบบกล้ามเนื้อและประสาท เพิ่มโอกาสในการบาดเจ็บ รบกวนรูปแบบการนอน หยุดยั้งระบบเผาผลาญ รวมทั้งอาการอื่นๆ อีกหากไม่มีการฟื้นฟูอย่างเพียงพอ

คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวัน

ผู้ที่ออกกำลังกาย 2 ครั้งต่อวันย่อมคาดหวังถึงการไปถึงเป้าหมายที่เร็วขึ้น ซึ่งการจะบรรลุผลนั้นได้ต้องมีการวางแผนอย่างฉลาดและเหมาะสม Mentore ได้ให้คำแนะนำ ดังนี้

- หากเป็นการออกกำลังกายที่หนักระดับปานกลางขึ้นไปควรมีเวลาห่างแต่ละช่วงอย่างน้อย 6 ชม. ซึ่งหมายความว่าหากออกกำลังกายครั้งแรกตอน 8 โมงเช้า เวลาเร็วที่สุดที่ควรจะออกกำลังกายครั้งต่อไปคือบ่าย 2 โมง แต่หากออกกำลังกายที่มีระดับความเข้มข้นสูงขึ้นก็ควรจะต้องเว้นระยะเวลาให้นานขึ้น

- ออกกำลังกายโดยที่มีความหนักหรือออกแรงมากในช่วงแรกของวัน แล้วลดความหนักลงในขณะออกกำลังกายช่วงที่สอง ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถทำตามตารางที่ต้องการได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยให้มีการฟื้นฟูหลังการออกกำลังกายครั้งแรก

- ใช้เวลาในการออกกำลังกายช่วงแรกนานกว่าช่วงที่สอง

- รับประทานทั้งสารอาหารและดื่มน้ำล่วงหน้าในระหว่างการออกกำลังกายแต่ละช่วง เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกายอีกครั้ง และถือเป็นการช่วยเสริมการฟื้นฟูทั้งระหว่างและหลังแต่ละช่วงการออกกำลังกาย

- หากเป็นไปได้ควรมีการงีบหลับช่วงสั้นๆ ในระหว่างวันเพื่อให้มีการพักและฟื้นฟูร่างกาย

- สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรออกกำลังกายหลายครั้งต่อวันมากเกินกว่า 2 วันติดกันในตารางการฝึก โดยควรจัดให้มีวันพักหลังวันฝึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายของคุณปรับตัวกับรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ แล้วค่อยๆ เพิ่มวันในการออกกำลังกายให้มากขึ้น

- เพิ่มการรับแคลอรีและสารอาหารในวันพักเพื่อประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกาย และควรมั่นใจว่ามีการจัดการเรื่องการนอนพักผ่อนและความเครียดที่ดี โดยอาจมีการนวดหรือการทำสมาธิด้วย

ออกกําลังกาย1ชั่วโมง แคลอรี่