วิศวกรรมไฟฟ้า ภาคพิเศษ คือ

ชื่อเต็ม (ไทย)
วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมไฟฟ้า)

ชื่อย่อ (ไทย)
วศ.บ. (วิศวกรรมไฟฟ้า)

ชื่อเต็ม (อังกฤษ)
Bachelor of Engineering (Electrical Engineering)

ชื่อย่อ (อังกฤษ)
B. Eng. (Electrical Engineering)

ไฟล์รายละเอียดหลักสูตร
วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (รายละเอียดหลักสูตรฉบับเต็ม)
วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (รายละเอียดหลักสูตรฉบับย่อ)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

น้องคิว สอบติวภาคพิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคเคมี มก.ค่าเทอมเลยสูงถึง 36,700 บาท ขณะที่ค่าเทอมภาคปกติอยู่ที่ 17,300 บาทเท่านั้น

           ดร.นีชนุร ภาชนะทิพย์ รองผู้อำนวยการสำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.)กล่าวถึงกรณีของน้องคิว นายอธิวัฒน์ วิทย์พิชิตชัย อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม ที่สอบติดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ภาคเคมีไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมงวดแรกจำนวน36,700บาท ว่า น้องคิว สอบได่้ในหลักสูตรภาคพิเศษ ซึ่งค่าเทอมนักศึกษาที่มีความต่างกันในระหว่างภาคปกติและภาคพิเศษ ว่าเนื่องจากภาคพิเศษจะจัดการเรียนการสอนนอกเวลา(ราชการ) เช่นจะเป็นเย็น-ค่ำ

          เพราะฉะนั้นการจ้างอาจารย์ผู้สอนจะจ้างในอัตราพิเศษ รวมถึงเรื่องห้องที่ใช้ในการเรียนมีอัตราค่าใช้จ่ายสูงกว่าในเวลาปกติ มหาวิทยาลัยบางแห่งไม่ได้รับเงินสนับสนุนในส่วนของภาคพิเศษจากภาครัฐ โครงการพิเศษจะเป็นโครงการที่ต้องดูแลตัวเอง ค่าใช้จ่ายในการศึกษาจึงสูงกว่าปกติ แต่การเรียนการสอนของหลักสูตรนั้นๆก็จะเหมือนกัน เนื้อหาเหมือนกัน

          อย่างไรก๋็ตามมหาวิทยาลัยมีทุนให้กับนักศึกษาที่ประสบปัญหาทางด้านการเงินจำนวนอยู่ปีละ 30 ล้าน  สำหรับนิสิตนักศึกษามีหลายประเภท เช่น กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.) ทุนทำงาน ทุนจากศิษย์เก่า ทุนขาดแคลนอย่างแท้จริง 

          โดยเมื่อนักศึกษาที่มีปัญหาในเรื่องของการเงินสามารถยื่นเรื่องให้กับมหาวิทยาลัยเพื่อมหาวิทยาลัยได้ช่วยเหลือ จะมีการตั้งคณะกรรมการจัดสรรทุนให้กับนักศึกษาเพื่อตรวจสอบและทำการช่วยเหลือ เช่น การดูภาพรวมของครอบครัว รายได้ของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง โดยปกติจะมีนักศึกษาที่ยื่นเรื่องขอทุนขาดแคลนอย่างแท้จริงประมาณ 10-20 % ต่อปี และมหาวิทยาลัยมีเงินจัดสรรให้กับทุนต่างๆนอกจากทุนนี้แล้วยังมีทุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกมากที่เข้ามาช่วยสนับสนุนนักศึกษา

         ดร.นีชนุร ภาชนะทิพย์

 สำหรับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีหลักสูตรวิชาในระดับปริญญาตรีกว่า 15 หลักสูตร ได้แก่ คณะประมง คณะวิทยาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ คณะสิ่งแวดล้อม คณะศึกษาศาสตร์ คณะเกษตร เป็นต้น

    อีกทั้งในปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีระบบการรับนักศึกษาหลากหลายมากขึ้น ทั้งมหาวิทยาลัยและคณะวิชาต่างๆ เปิดโครงการรับตรงและรับแบบโควตามากขึ้น เช่นเดียวกับการเปิดรับในระบบภาคพิเศษ การเปิดในประเภทดังกล่าวนั้นเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเรียนได้แข่งขันและมีสิทธิในการเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ตนเองสนใจ รวมถึงตามความสามารถของนักเรียนด้วย

        อนึ่ง ค่าเทอมภาคพิเศษกับภาคปกติจะต่างกันประมาณ 2  เท่า อาทิ คณะมนุษย์ศาสตร์ภาคปกติ 12,900 บาท ภาคพิเศษ34,700 บาท, วิศวกรรมศาสตร์ภาคปกติ 17,300 บาท ภาคพิเศษ 36,700 บาท ,เศรษฐศาสตร์ภาคปกติ 12,900 บาท ภาคพิเศษ 33,500 บาท ,อุตสาหกรรมเกษตรภาคปกติ 16,300 บาท ภาคพิเศษ 41,700 บาท และบริหารธุรกิจภาคปกติ 12,900บาท ภาคพิเศษ 34,700 บาท เป็นต้น

พี่เรียนวิศวะ เคมี ภาคพิเศษครับ จะตอบน้อง ดังนี้

***สิ่งที่เหมือนกัน***
1.การเรียนเหมือนกันทุกอย่าง ข้อสอบเดียวกัน ตัดเกรดร่วมกัน(ยกเว้นปี1 ข้อสอบคนละชุด)
2.จบมาภาคปกติกับภาคพิเศษ ก็คือวิศวะม.เกษตร เหมือนกัน การรับเข้าทำงาน เหมือนกันทุกประการครับ เพราะภาคพิเศษได้งาน ที่ปตท. ที่SCG ก้อเยอะ พอสมควร ฉะนั้น จบมาจะได้งานดีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาคปกหรือภาคพิเศษ แต่ขึ้นอยู่กับ "เกรดเฉลี่ย" มากกว่า
3.การทำกิจกรรมร่วมกันในคณะ ทำร่วมกันทุกอย่าง แต่ส่วนใหญ่ ภาคพิเศษ เปนแกนหลักในคณะ เช่น นายกฯสโมสรนิสิต เป็นภาคพิเศษมา 5 ปีติดต่อกันแล้ว
4.มีสังคมเดียวกัน เพราะ ที่นี่แบ่งเป็นโต๊ะกลุ่ม ซึ่งจะมีทั้งภาคปกติ และภาคพิเศษ

***สิ่งที่ต่างกัน***
1. ค่าเทอม
2. เวลาเรียน (เฉพาะปี1นะครับ) แต่พอปี2ภาคพิเศษ ส่วนใหญ่เรียนเช้า เช่น ภาคเคมี เรียนเช้าหมด เที่ยงก้อเลิกแล้ว
3. ภาคปกติจะเก่งเรื่องวิชาการ ตำราเรียน แต่ภาคพิเศษ เก่งเรื่องการนำเสนอ การติดต่อประสานงาน เช่นการพรีเซน์งาน ภาคพิเศษทำได้ดีกว่า
4. ภาคพิเศษ อาจารย์ "สอนละเอียด"กว่าภาคปกติ มากๆ

น้องเอาไปตัดสินใจดูแล้วกันครับ

ส่วนอันดับการเลือกเข้าภาควิชาตอนปี2นะครับ
1.เคมี
2.อุตสาหการ
3.เครื่องกล
4.วัสดุ
5.ไฟเครื่อง
6.ไฟฟ้า
7.สำรวจ