Show
ค่าขนส่งกรณีขายของใน Shopeeค่าขนส่งกรณีขายของใน Shopee ปัจจุบันนี้ช่องทางการขายสินค้ายอดฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้นการขายสินค้าผ่าน Platform ไม่ว่าจะเป็น Shopee Lazada และคำถามยอดฮิตสำหรับประเด็นภาษีที่เกี่ยวกับการขายสินค้าผ่าน Platform ที่ผมได้รับ Inbox ก็คือเรื่องของ "ค่าขนส่ง" 1. ค่าขนส่งที่ลูกค้าจ่าย ถือเป็นรายได้ของใครระหว่างร้านค้ากับ Platform คำตอบคือเป็นรายได้ของร้านค้า เพราะทาง Platform ไม่ได้ออกใบเสร็จค่าขนส่งให้กับลูกค้าที่มาซื้อของ โยนหน้าที่ในการออกใบเสร็จค่าขนส่งให้เป็นหน้าที่ของร้านค้าดังนั้นค่าขนจึงเป็นรายได้ของร้านค้า เนื่องจากร้านค้าไม่ได้ประกอบกิจการขนส่งเป็นปกติธุรกิจ ดังนั้นค่าขนส่งที่ร้านค้าเรียกเก็บจากลูกค้าจึงต้องมีภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย (ไม่ได้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2. ค่าขนส่งที่ร้านค้าจ่ายให้กับบริษัทขนส่ง สามารถนำมาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวนภาษีเงินได้ของร้านค้าได้ 3. ค่าขนส่งที่ทาง Platform ช่วยออก ร้านค้าเมื่อได้รับเงินสนับสนุนค่าขนส่งจะต้องบันทึกเป็นรายได้เพื่อนำมารวมในการคำนวนภาษีเงินได้ เงินสนับสนุนที่ได้รับ ไม่ถือเป็นการขายสินค้าหรือให้บริการดังนั้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สมาคมนักบัญชีไทย >> https://www.facebook.com/nukbuncheethai กลุ่มบัญชีและภาษี >> https://www.facebook.com/groups/bunchee ขายของออนไลน์กับเรื่อง “ยื่นภาษี” VS “เสียภาษี”ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า ยื่นภาษี กับ เสียภาษี นั้นมีความหมายต่างกัน โดยยื่นภาษี หมายถึง การแสดงรายการต่อกรมสรรพากร ว่าเราเป็นผู้มีรายได้ ผู้ยื่นภาษีอาจจะเสียภาษีหรือไม่ก็ได้ ในกรณีที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด ก็ไม่ต้องเสียภาษี เสียภาษี หมายถึง การเสียเงินค่าภาษีให้รัฐบาล เมื่อเรามีรายได้และ “ยื่นภาษี” ไปแล้ว ปรากฏว่ารายได้ของเราหลังจากหักยอดลดหย่อนต่างๆ ถึงเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี เราก็ต้องเสียภาษีให้รัฐบาลตามกฎหมาย “ยื่นภาษี” ตอนไหน?แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าต้องยื่นภาษีหรือเปล่า? สำหรับคนที่ยังโสด หากมีรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ เดือนละ 5,000 บาทขึ้นไป หรือปีละ 60,000 บาทขึ้นไป เราก็ต้องยื่นภาษี ส่วนพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะช่องทาง Shopee Lazada facebook Line หรืออื่นๆ รายได้ของพ่อค้าแม่ค้าก็คือ เงินที่ขายของได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ นั่นเอง ส่วนคนที่แต่งงานมีครอบครัว เกณฑ์การยื่นภาษีข้างต้นจะใช้ไม่ได้แล้ว เพราะการคำนวณรายได้ต้องมาจากทั้งสามีและภรรยา หากคู่สามีภรรยาของเรามีรายได้รวมกันปีละ 120,000 บาทขึ้นไป ก็ต้องยื่นภาษี อย่างไรก็ตาม บางปีเราอาจจะขายของมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษี แต่บางปีเราก็อาจจะขายของดีมาก เราก็ต้องยื่นภาษีตามรายได้ของเรา ไม่ “ยื่นภาษี” มีโทษหรือไม่หากเราไม่ยื่นภาษีตามกฎหมาย และเมื่อโดนตรวจพบ เราอาจจะโดนโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท เมื่อโดนปรับไปแล้ว มาตรวจพบอีกว่ายอดที่ต้องยื่นวันนั้นต้องเสียภาษีด้วย เราก็จะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นอีก โดยเสียเพิ่มในอัตรา 1.5% ต่อเดือน แต่ถ้ายื่นรายได้แล้วไม่ต้องเสียภาษี ก็จะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกนั่นเอง ขายของออนไลน์ ไม่ยื่นภาษี กรมสรรพากรจะรู้หรือไม่?โดยปกติแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ทั้ง Shopee และ Lazada ได้มีการยื่นแสดงรายได้แก่กรมสรรพากรอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น รายรับค่าธรรมเนียมการขาย ค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมค่าบริการ ค่าขนส่ง และค่าธรรมเนียมอื่นๆ รวมถึงการแจกแจงว่ารายรับเหล่านี้มาจากร้านค้าใดบ้าง และแน่นอนว่าข้อมูลของร้านค้าที่ Shopee และ Lazada แจกแจงไปนั้น อาจมีชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ของพ่อค้าแม่ค้าติดไปด้วย ทีนี้หากกรมสรรพากรมาตรวจสอบร้านเราย้อนหลัง ก็สามารถรู้รายได้โดยประมาณของเราได้เช่นกัน
หากเราขายของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอื่นที่ไม่ใช่ Shopee / Lazada กรมสรรพากรก็ยังมีวิธีรู้รายได้ของเราอีกอยู่ดี เนื่องจากกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ธนาคารต่างๆ รวมถึงธุรกิจที่ให้บริการเกี่ยวกับ e-wallet ต้องส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร เป็นข้อมูลเกี่ยวกับยอดรวมของการฝาก และยอดรับโอนเงิน แล้วบัญชีไหนบ้างที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ?
หลักจากศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้ว หลายๆ คนอาจจะเริ่มต้นวางแผนทำรายรับ-รายจ่าย เพื่อที่จะได้รู้ว่าร้านของเราต้องยื่นภาษีหรือไม่ หากต้องยื่นภาษี มีค่าลดหย่อนอะไรบ้างที่สามารถนำมาหักออกจากรายได้ เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถรู้ได้ว่าในหนึ่งปี เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ หรือว่าไม่ต้องเสียเลย แนะนำให้ทำรายรับ-รายจ่ายทุกปี เพราะเราอาจมีรายได้ที่ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษีในปีนี้ แต่ปีหน้าอาจจะขายของดีโดยไม่รู้ตัว ทำให้พลาดที่จะยื่นภาษี เพราะคิดว่ารายได้คงไม่เยอะเหมือนปีที่ผ่านมา การตลาดปัง ยอดขายแน่น! พร้อมเปิดโลกกว้างไปกับ Lazada และ Shopee แม่ค้าออนไลน์ที่สงสัยว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในยุคที่การช็อปปิ้งออนไลน์เต็มไปด้วยผู้คนนับล้าน ที่นี่ Wynnsoft Solution มีคำตอบ! กับแพ็กเกจรับลงสินค้า Shopee และ Lazada ราคาเหมาจ่ายสุดคุ้มอ้างอิง: maekha.in.th ขายของ Shopee เสียภาษียังไงเมื่อผู้ขายมีรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ รายได้ในส่วนนี้จะถูกนำมาคำนวณภาษีโดยการ นำยอดเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจากการขายสินค้าบน Shopee ทั้งหมดก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนคูณด้วยอัตราภาษี 0.5%
Shopee จะส่งข้อมูลให้สรรพากรไหมผู้ขาย/ร้านค้า ที่จดทะเบียนเป็น“นิติบุคคล” ได้จ่ายค่าบริการต่างๆและ/หรือค่าขนส่งให้กับช้อปปี้ และช้อปปี้ เอ็กซ์เพรส ซึ่งถือเป็นรายได้พึงประเมินประเภทที่ 8 ตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฏากร ดังนั้น ร้านค้าจึงมีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายและนำส่งสรรพากรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ร้านขายของต้องเสียภาษีไหมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่มาทางนี้ ไม่ว่าเราจะขายอะไรก็ตามแต่ถ้ามีรายได้ยังไงก็ต้องยื่นภาษีนะ เพราะยังถือว่าเป็นบุคคลธรรมดาที่ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยจะเสียภาษีหรือไม่เสียภาษีนี้จะต้องขึ้นอยู่กับว่าเรามี "เงินได้สุทธิ" หรือ "กำไรสุทธิ" เมื่อหักค่าใช้จ่าย
ซื้อของต้องหัก ณ ที่จ่ายไหมโดยสรุปคือ หากเป็นสินค้าที่รวมค่าสินค้าและบริการในรายการเดียวแล้ว สินค้านั้น ๆ จะไม่สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ แต่หากมีการแยกค่าบริการออกมาเป็นรายการต่างหาก สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ เฉพาะรายการที่เป็นค่าบริการเท่านั้นค่ะ
|