อายุการใช้งานน้ำมันเครื่องและวิธีการตรวจเช็ค น้ำมันเครื่องเมื่อถูกใช้งานจะเริ่มเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ เนื่องจากการสะสมของกรดที่เข้ามาทำลายด่างในน้ำมันเครื่อง การสะสมของน้ำ การปะปนกับฝุ่นผงที่เล็ดลอดมาจากไส้กรองอากาศ คราบเขม่าในการเผาไหม้ และเศษโลหะจากการสึกหรอของเครื่องยนต์ ดังนั้นน้ำมันเครื่องจึงต้องได้รับการเปลี่ยนถ่าย ก่อนที่คุณสมบัติในการหล่อลื่น และคุณสมบัติอื่นจะเสื่อมสภาพ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดกับเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องที่บรรจุอยู่ในแกลลอนวางขาย และยังไม่ได้เปิดใช้ จะมีอายุการคงสภาพอยู่ที่ 1-3 ปี ส่วนน้ำมันเครื่องที่เปิดฝาแล้ว จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-6 เดือน ส่วนน้ำมันเครื่องที่เปิดฝา แล้วไม่ได้ปิดฝาจะถือว่าใช้งานไม่ได้ จุดสังเกตว่าน้ำมันเครื่องเริ่มหมดสภาพ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งต้องมีการจดบันทึก วันที่ เดือน ปี และเลขกิโลเมตร ไว้ด้วยทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นการคำนวณกำหนดการเปลี่ยนถ่าย แต่เราเองยังสามารถสังเกตการณ์ทำงานที่เปลี่ยนไปของความหล่อลื่นน้ำมันเครื่องที่เริ่มเสื่อมสภาพได้ เช่น 1. เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น 2. อัตราเร่งแย่ลง อืดลงอย่างต่อเนื่อง 3. กินน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น 4. สีของน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป 5. น้ำมันเครื่องมีลักษณะข้นขึ้น หรือใสขึ้น กำหนดการเปลี่ยนถ่ายของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา กำหนดการเปลี่ยนถ่ายที่ 5,000 - 7,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ กำหนดการเปลี่ยนถ่ายที่ 7,000 - 10,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ มีอายุการใช้งานนับแสนกิโลเมตร แต่ด้วยอายุของไส้กรองน้ำมันเครื่อง จึงกำหนดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ที่10,000 -15,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ยังขึ้นอยู่กับ ลักษณะการใช้งาน ระยะเวลา และความพึงพอใจของผู้ใช้อีกด้วย ยิ่งเปลี่ยนบ่อย ก็จะยิ่งยืดอายุการใช้งานของเครื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะมาพร้อมกันค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รถไม่ค่อยได้ใช้งานต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไหม? การที่รถยนต์ใช้งานน้อย ไม่ว่าจะเป็นการจอดทิ้งไว้เป็นเดือน หรือขับใช้งานในเมือง ที่มีการจราจรหนาแน่น ทำให้ระยะที่ขับขี่น้อย ถือว่าน้ำมันหล่อลื่นทำงานหนัก เพราะการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จะเกิดการปนเปื้อนของน้ำในอากาศ ทำให้สารเพิ่มคุณภาพเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้น้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้น อีกทั้งการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น น้ำมันเครื่องก็ยังคงทำงานตลอดเวลาทั้งขณะรถติด และรถวิ่ง ดังนั้น จึงเป็นการควรที่จะพิจารณาระยะทางที่ขับขี่ ควบคู่ไปกับระยะเวลาที่เปลี่ยนถ่ายด้วย โดยเราควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือไม่ คู่มือรถแต่ละประเภทจะมีการระบุระยะทางที่ควรเปลี่ยนไส้กรอง แต่โดยทั่วไป เนื่องจากไส้กรองน้ำมันเครื่องมีราคาไม่แพง ผู้ใช้มักจะเปลี่ยนพร้อมๆกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อะได้ทำไปพร้อมๆกันทุกครั้ง ง่ายต่อการจำ และยังทำให้น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนใหม่ ได้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง สำหรับการตรวจสอบน้ำมันเครื่องควรจะเช็คอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อความแน่นอนในการขับรถ การเช็คระดับน้ำมันเครื่องให้ทำหลังจากดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลา 2 นาที เพื่อให้น้ำมันไหลลงด้านล่างของเครื่องก่อน และรถจะต้องจอดอยู่บนพื้นราบด้วย โดยวิธีการตรวจเช็คด้วยตนเอง สามารถทำได้ดังนี้ 1. ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องซึ่งจะอยู่ข้าง ๆ เครื่องยนต์ ส่วนตอนปลายจะมีลักษณะแบนประมาณ 2 นิ้ว ออกมาแล้วใช้ผ้าหรือกระดาษทิช ชู่ซับเช็คก้านวัดให้ไม่มีรอยน้ำมันเครื่องเดิมที่ติดขึ้นมา 2. เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องกลับเข้าที่จนสุด 3. ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาอีกครั้งหนึ่ง ตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องบนปลายก้านวัด ที่ก้านน้ำมันเครื่อง จะมีขีดบอกระดับ ให้ดูว่าน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่สูงสุดอยู่ที่ระดับไหน เช่น MAX หมายความว่า ยังไม่ต้องเติมน้ำมันเครื่อง MID หมายความว่า ให้เติมน้ำมันเครื่องเล็กน้อยให้ได้ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับกึ่งกลางของ MAX และ MID MIN หมายความว่า ต้องเติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับกึ่งกลางของ MAX และ MID 4. การเติมน้ำมันเครื่องให้เปิดฝาเครื่องยนต์ขึ้นมาแล้วเทน้ำมันเครื่องลงไป การเติมแต่ละครั้งให้ดูการวัดจากก้านวัด และที่สำคัญการเติมในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1.5-2 ลิตรเป็นอย่างมาก จนได้ระดับที่ต้องการ 5. เมื่อทำการตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่องเสร็จแล้ว ต้องเสียบไม้วัดระดับน้ำมันเครื่องลงที่เดิมให้สุด จนได้ยินเสียง ล็อค เป็นอันว่าใช้ได้
|