Show ข้อมูลและการเก็บรวบรวมข้อมูล ความหมายของข้อมูล ประเภทของข้อมูล การจำแนกข้อมูลตามวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิซึ่งอาจทำได้โดยการสำมะโนหรือสำรวจสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไปมี 5 วิธีคือ http://www.vcharkarn.com/lesson/1506 อินเทอร์เน็ตนำเราสู่โลกแห่งการสื่อสารได้สะดวกและรวดเร็ว สามารถเข้าถึงข้อมูลและแหล่งข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งคลับบุคคลใกล้ชิด หรือว่าคนอื่น ทั้งที่อยู่ใกล้หรืออยู่ห่างไกลกัน เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนเครือข่ายที่เชื่อมโยงคนที่อยู่ในส่วนต่างๆของโลกเข้าด้วยกัน ข้อมูลและข่าวสารซึ่งมาจากทุกแห่งในโลกใบนี้ และมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่มีความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง ทันสมัย แล้วต้องกับความต้องการในการนำไปใช้งานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อาจได้จากการดำเนินการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ และ/ จัดให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับการนำเสนอหรือเผยแพร่ เพื่อให้สามารถนำสิ่งที่ได้รับไปใช้ในการตัดสินใจ ทบทวนความรู้ก่อนเรียนเขียนเครื่องหมาย / หน้าข้อความที่ถูกต้อง _____ ข้อมูลคือข้อเท็จจริงที่แสดงสถานะ หรือเหตุการณ์ต่างๆ_____ การคำนวณระยะทางจากบ้านมาโรงเรียนเป็นการประมวลผลอย่างหนึ่ง _____ การบันทึกรายการรับจ่ายในครอบครัวเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลลองทำดู ข้อมูลส่วนตัวของนักเรียน ประกอบด้วยข้อมูลใดบ้าง ข้อมูลเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างแพร่หลาย เราทุกคนต่างเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ข้อมูลในเวลาเดียวกัน เมื่อมองสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเช่นกิจกรรมที่ทำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันและเวลา จะพบว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เรา หรือบุคคลอื่นมีความสนใจนอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวิธีการรวบรวมข้อมูลให้เป็นแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่องทางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่สามารถเข้าถึงได้สะดวก และรวดเร็วทำให้ได้รับข้อมูลหลายรูปแบบและมีปริมาณมาก เพื่อให้นักเรียนสามารถจัดการกับข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม ในบทนี้นักเรียนจะได้สำรวจข้อมูลรอบตัวที่น่าสนใจ โดยการระบุข้อมูลที่จะสอดคล้องและเป็นประโยชน์ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง พิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล วางแผนในการวิเคราะห์ข้อมูล กำหนดวิธีการและเครื่องมือที่จะดำเนินการกับข้อมูล และนำเสนอผลที่ได้รับในรูปแบบที่น่าสนใจ และเข้าใจง่าย ข้อมูล (data) หมายถึง ความจริงที่อยู่ในรูปของตัวเลข ข้อความ ภาพ เสียง ข้อสังเกตที่รวบรวมมาจากเหตุการณ์หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้นิยามคำว่า ข้อมูล คือ “ข้อเท็จจริง หรือสิ่งที่ถือ หรือยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง สำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือการคำนวณ” ข้อมูล ประกอบด้วย แหล่งข้อมูล เป็นแหล่งกำเนิดของข้อมูล หรือเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล เช่น คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เหตุการณ์ ข้อมูลแบ่งตามลักษณะของการได้มา ดังนี้ การนำข้อมูลทุติยภูมิที่มีการจัดเก็บรวบรวมไว้แล้วนั้นมาใช้ อาจมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาน้อยกว่าการใช้ข้อมูลปฐมภูมิ อย่างไรก็ตามข้อมูลปฐมภูมิเป็นข้อมูลที่เป็นเหตุการณ์ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากแหล่งกำเนิด ขณะที่ข้อมูลทุติยภูมิเป็นข้อมูลที่ได้จากการอ้างอิงหรือส่งต่อกันมา ซึ่งเมื่อมีการอ้างอิงต่อเนื่องกันมาหลายทอดอาจทำให้ความจริงบางส่วนถูกบิดเบือนไปทั้งโดยเจตนา หรือไม่เจตนา ดังนั้นในการอ้างอิงข้อมูลทุติยภูมิจึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องและแหล่งที่มาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง การเรียนรู้เกี่ยวกับฮอร์โมนจะเริ่มต้นด้วยการกำหนดความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งนั้น คำถามจะช่วยให้สามารถกำหนดข้อมูลที่ต้องการใช้ในการตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่สนใจแล้ว ซึ่งพิจารณาแหล่งข้อมูลเพื่อทำการเก็บรวบรวมข้อมูล (data collection) ต่อไปข้อมูลและแหล่งข้อมูลจะเป็นสิ่งที่กำหนดวิธีการรวบรวมข้อมูล ข้อมูลแต่ละอย่างอาจต้องใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลที่แตกต่างกันไป วิธีการรวบรวมข้อมูล เช่น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล นอกจากนี้ในการสำรวจอาจมีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น โทรศัพท์ อุปกรณ์บันทึกเสียงและภาพ เครื่องนับจำนวน (clickers) เครื่องอ่านบาร์โค้ด (barcode reader) การรวบรวมข้อมูลจะต้องมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้อง เพื่อยืนยันว่ามาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และช่วยให้ผู้สนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมและที่สำคัญอย่างยิ่ง คือเป็นมารยาทที่เหมาะสมในการแสดงคำขอบคุณแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องหากนักเรียนต้องการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันนักเรียนจะรวบรวมข้อมูลใดได้บ้าง และจะใช้วิธีการและเครื่องมือใด สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการรวบรวมข้อมูล การรวบรวมและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แบบที่ 1 นักเรียนวางแผนสัมภาษณ์เพื่อเป็นรายบุคคล และต้องการคำตอบที่หลากหลาย จึงออกแบบตารางในการเก็บข้อมูล ดังนี้ แบบเก็บข้อมูล เพื่อนคนที่กีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน123123แบบที่ 2 นักเรียนวางแผนว่าจะสัมภาษณ์เพื่อนเป็นรายบุคคล และต้องการกำหนดคำตอบเบื้องต้นโดยพิจารณาจากกีฬาที่เพื่อนในห้องสามารถเล่นได้ 5 ประเภท จึงออกแบบตารางในการเก็บข้อมูลดังนี้ แบบเก็บข้อมูล **ในแบบเก็บข้อมูลนี้ ผู้เก็บข้อมูลอาจใช้วิธีเขียนเครื่องหมาย x ในช่องที่เพื่อนเลือก แบบที่ 3 นักเรียนวางแผนให้เพื่อนแต่ละคนส่งคำตอบมาให้ และต้องการกำหนดคำตอบเป็นกีฬา 5 ประเภทเท่านั้น นักเรียนจึงออกแบบฟอร์มการสำรวจ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ แบบสำรวจกีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน โปรดเขียนเครื่องหมาย x หน้าช่องว่างประเภทกีฬาที่คุณต้องการส่งเข้าเข่งขันมากที่สุด เลือกเพียง 3 คำตอบ_____ บาสเก็ตบอล _____ ปิงปอง _____ วอลเลย์บอล _____ ว่ายน้ำ _____ ฟุตบอล 2. การเตรียมข้อมูลก่อนการประมวลผล แบบเก็บข้อมูลที่นักเรียนได้มาจากการสัมภาษณ์ เพื่อนคนที่กีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน1231ฟุตบอลว่ายน้ำปิงปอง2วิ่งผลัดฟุตปองเทนนิส...สังเกตข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ จะเห็นว่าข้อมูลเพื่อนคนที่ 2 กีฬาที่ต้องการให้มีการจัดแข่งขัน ช่องที่ 2 ถูกบันทึกเป็นฟุตปอง ซึ่งอาจเกิดความผิดพลาดในการจดบันทึก โดยข้อมูลส่วนนี้จะนำไปใช้ในการประมวลผลไม่ได้ ดังนั้นต้องตัดรายการนี้ออกจากการประมวลผลได้ ดังตารางต่อไปนี้ เพื่อนคนที่กีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน1231ฟุตบอลว่ายน้ำปิงปอง2วิ่งผลัด-เทนนิส...จากเครื่องมือสัมภาษณ์ในแบบที่ 2 และเครื่องมือสำรวจแบบที่ 3 ถ้านักเรียนพิจารณาจะเห็นว่าครอบผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือ คำตอบของเพื่อนที่ได้อาจมีมากกว่า 3 คำตอบ แต่ถ้านักเรียนทำแบบสำรวจออนไลน์ โปรแกรมจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ตอบเลือกเกิน 3 คำตอบได้ 2) ปรับรูปแบบข้อมูล สมมติข้อมูลที่นักเรียนได้มาจากการสัมภาษณ์แบบที่ 1 มีดังนี้ เพื่อนคนที่กีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน1บอล, ว่ายน้ำ, ปิงปอง2วิ่งผลัด, เทนนิส3วอลเลย์บอล, เทนนิส, ฟุตบอล4วอลเลย์บอล, ว่ายน้ำ, ฟุตบอล5ว่ายน้ำ, ฟุตบอล, ปิงปอง6ปิงปอง, บาสเก็ตบอล, วอลเลย์บอลจากตารางจะเห็นว่า เพื่อนลำดับที่ 1 ประเภทกีฬาที่ต้องการคือ บอล ซึ่งผู้จดบันทึกอาจจะบันทึกแบบย่อที่หมายถึงฟุตบอล ถ้านำข้อมูลนี้ไปประมวลผล อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ผิดพลาด ดังนั้นต้องเปลี่ยนให้เป็นข้อมูลให้เป็นคำเดียวกันกับข้อมูลที่มีอยู่ก่อนนำไปประมวลผล ในที่นี้จะเปลี่ยนคำว่าบอล เป็น ฟุตบอล ดังตารางต่อไปนี้ เพื่อนคนที่กีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน1ฟุตบอล, ว่ายน้ำ, ปิงปอง2...1. นักเรียนต้องการเก็บข้อมูลเพื่อนในห้องไว้เพื่อติดต่อ นักเรียนจะเก็บข้อมูลใดบ้าง ไปโรงเรียน(ไป-กลับ)1832ซื้อก๋วย2012หยอดกระปุก157วันที่ 2ผู้ปกครองให้เงิน5057ซื้อดินสอกด1542ค่ารถโดยสารเดินทาง ไปโรงเรียน(ไป-กลับ)933ซื้อก๋วยเตี๋ยว2013หยอดกระปุก3010วันที่ 3ผู้ปกครองให้เงิน50...... ให้นักเรียนพิจารณาข้อมูลในบัญชี รายรัยรายจ่ายประจำวันในตาราง ว่ามีข้อมูลส่วนใดบ้างที่ผิดพลาด และสามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้หรือไม่ อย่างไร 3. ให้นักเรียนสำรวจข้อมูลพื้นฐานของเพื่อนในห้อง ดังนี้ เพื่อนคนที่วันเดือนปีเกิดน้ำหนักส่วนสูงให้นักเรียนพิจารณาข้อมูลที่รวบรวมมาได้ว่ามีข้อมูลใดที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเหตุใด การประมวลผลข้อมูล (data processing) หมายถึง กระบวนการที่กระทำกับข้อมูลที่รวบรวมไว้เพื่อให้ได้ข้อมูล หรือสารสนเทศที่อยู่ในรูปแบบที่ต้องการนำไปใช้ รูปแบบการประมวลผลข้อมูลที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เป็นการประมวลผลด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ในกระบวนการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ เราเรียกข้อมูลที่นำเข้าสู่การประมวลผลว่าว่าข้อมูลเข้า (input) และเรียกสิ่งที่ได้จากการประมวลผล (process) ว่าข้อมูลออกหรือผลลัพธ์ (output) ซึ่งผลลัพธ์นี้อาจถูกนำไปเป็นข้อมูลเข้าของกระบวนการอื่นได้รูป 5.1 กระบวนการประมวลผลข้อมูล การประมวลผลมีด้วยกันหลายวิธี โดยอาจเลือกใช้วิธีใดเพียงวิธีเดียว หรือหลายวิธีต่อเนื่องกัน วิธีประมวลผล เช่น การสำรวจกีฬาที่ต้องการส่งเข้าร่วมแข่งขันจากตัวอย่างที่ 5.1 นักเรียนใช้วิธีในการประมวลผล โดยการนับจำนวนการตอบของนักเรียนในห้อง เกี่ยวกับประเภทกีฬาที่ต้องการส่งเข้าแข่งขัน มีผู้ให้สัมภาษณ์ ทั้งหมด 50 คน โดยประมวลผลข้อมูลแล้วได้ดังนี้ 1. ถ้าครอบครัวของนักเรียนต้องการเดินทางไปพักผ่อนชายทะเลในช่วงวันหยุด 3 วันโดยมีงบประมาณจำกัดจำนวนหนึ่ง ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล และอธิบายวิธีการเลือกที่พัก และวิธีเดินทาง จากข้อมูลในตัวอย่างที่ 5.2 สามารถนำเสนอข้อมูลได้เป็นแผนภูมิแท่ง ดังนี้ ข้อมูลเกิดขึ้นตลอดเวลารอบตัว เราถูกคนเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ข้อมูลในเวลาเดียวกัน 1. ถ้าถูกสุนัขวิ่งไล่ นักเรียนจะทำอย่างไรให้บอกมา 3 วิธี การตัดสินใจจะเกิดขึ้นเมื่อมีหลายทางเลือก และแต่ละทางเลือกจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ การตัดสินใจจัดเป็นการประมวลผลอย่างหนึ่งที่ใช้การวิเคราะห์เชิงตรรกะในการประมวลผลลัพธ์ ว่าทางเลือกใดสามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างเหมาะสมที่สุด จากตัวอย่างที่ 5.2 จะเห็นว่านักเรียนมีเป้าหมายที่จะเล่นกีฬาที่จะส่งแข่งขัน โดยจะเลือกจากลำดับที่สูงสุด 3 ลำดับแรก พบว่าลำดับที่ 3 และ 4 มีคะแนนเท่ากัน จึงกำหนดทางเลือกได้เป็น 2 แบบดังนี้ ทางเลือกที่ 1 ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล ทางเลือกที่ 2 ฟุตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ จากทางเลือกทั้ง 2 แบบ นักเรียนจะเลือกแบบใด ประเด็นใดบ้างที่ช่วยตัดสินใจในการเลือกคำตอบที่ดี และเหมาะสมที่สุด สมมตินักเรียนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากประเด็นข้างต้น นักเรียนจึงต้องประเมินผลทางเลือกทั้ง 2 ทางเลือก เพื่อให้ได้ทางเลือกที่ดีที่สุดในการส่งกีฬาแข่งขัน เริ่มจากการกำหนดประเด็นในการพิจารณาในที่นี้กำหนดไว้ 2 ประเด็น คือ อยู่ในงบประมาณชุดกีฬาที่มีผู้สนับสนุน และแต้มสะสมถ้วยกีฬารวมมากที่สุดที่เป็นได้ แล้วกำหนดคะแนนเต็ม ในที่นี้คือ 10 คะแนน และให้คะแนนความสำคัญของแต่ละประเด็นเท่ากันจึงกำหนดคะแนนเต็มแต่ละประเด็นเป็น 5 คะแนน ตัวอย่างการให้คะแนนมีดังนี้ ประเด็นการพิจารณา(ประเด็นละ 5 คะแนน)ประเภทกีฬาที่จะส่งเข้าแข่งขันทางเลือกที่ 1 ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอลทางเลือกที่ 2 ฟุตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำอยู่ในงบประมาณ55แต้มสะสมถ้วยกีฬารวมสูงที่สุดที่เป็นไปได้54คะแนนรวม109 เกณฑ์ให้คะแนน ประเด็น “อยู่ในงบประมาณ” 5 หมายถึง ได้แต้มสูงสุดที่เป็นไปได้ 29-30 แต้ม 4 หมายถึง ได้แต้มสูงสุดที่เป็นไปได้ 27-28 แต้ม 3 หมายถึง ได้แต้มสูงสุดที่เป็นไปได้ 25-26 แต้ม 1 หมายถึง ได้แต้มสูงสุดที่เป็นไปได้ต่ำกว่า 25 แต้ม สังเกตว่า ทั้งสองประเด็นที่นำมาพิจารณานั้น ประเด็นแรก ทั้ง 2 ทางเลือกได้คะแนนเต็ม 5 เท่ากัน เนื่องจากค่าชุดกีฬาที่ใช้อยู่ในงบประมาณ เป็นดังนี้ กีฬาฟุตบอลวอลเลย์บอลบาสเก็ตบอลว่ายน้ำค่าชุดกีฬา (บาท)75 x 11 = 82575 x 6 = 45575 x 5 = 375375สำหรับประเด็นที่ 2 แต้มสะสมสูงสุดที่เป็นไปได้ของทางเลือกที่ 1 คือ 30 แต้ม (มาจากการได้เหรียญทองกีฬาทั้ง 3 ประเภทซึ่งเป็นประเภททีมทั้งหมดจะได้แต้มสะสม 3 x 10 = 30) และแต้มสะสมสูงสุดที่เป็นไปได้ของทางเลือกที่ 2 คือ 28 แต้ม (มาจากการได้เหรียญทองกีฬาทั้ง 3 ประเภทซึ่งเป็นประเภททีม 2 รายการและประเภทเดี่ยว 1 รายการจะได้แต้มสะสม 2 x 10 + 8 = 28) ดังนั้นคะแนนที่ให้แต่ละทางเลือกซึ่งเป็น 5 และ 4 ตามลำดับ 1. นักเรียนมีเงิน 50 บาท และต้องการรับประมานอาหารกลางวัน ซึ่งประกอบด้วยอาหารหลัก และขนมหวาน ปัจจุบันมีผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บนคลาวน์ (cloud-based service) จำนวนมาก ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก เราสามารถใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับข้อมูลตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลการประมวลผลข้อมูลจนถึงการนำเสนอข้อมูล นอกจากนี้ซอฟต์แวร์บนคลาวน์ยังมีความสามารถในการแบ่งปันและใช้งานร่วมกัน โดยผู้ใช้สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงเอกสารเดียวกัน ณ ขณะเดียวกัน ทำให้สมาชิกในกลุ่มเห็นข้อมูลที่ปรับปรุงล่าสุด แรกเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เป็นการสนับสนุนรูปแบบการทำงานร่วมกัน สะดวกต่อการทำงานประสานกัน แม้จะอยู่ห่างไกลกัน ตัวอย่างบริการซอฟต์แวร์บนคลาวน์ เช่น เมื่อสร้างแบบสอบถามเสร็จแล้ว ผู้ใช้สามารถส่งแบบสอบถามให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยการส่ง URL หรือ ลิงก์ของแบบสอบถามผ่านอีเมล์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเริ่มมีการตอบแบบสอบถามซอฟต์แวร์จะรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ และผู้สร้างสามารถติดตามผลการตอบแบบสอบถามได้ตลอดเวลา ผลจากการตอบแบบสอบถามจะถูกบันทึกในรูปของเอกสารหรือตารางทำงาน ทำให้สามารถนำไปวิเคราะห์และประมวลผลต่อไป ตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ เช่น Google forms 3. ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (spreadsheet) ใช้สำหรับสร้างและแก้ไขตารางทำงาน รวมถึงการประมวลผลข้อมูลในตาราง คำสั่งในการประมวลผล เช่น การหาค่ามากที่สุด/น้อยที่สุด การหาค่าเฉลี่ย การนับความถี่ และแสดงผลการเปรียบเทียบข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิวงกลม (Pie Chart) แผนภูมิเส้น (Line Chart) แผนภูมิแท่ง (Bar Chart) การแสดงผลลัพธ์อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย หนังสือถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล ซอฟต์แวร์ตารางทำงานนี้สามารถใช้วิเคราะห์ผลการสำรวจ แนะนำไปสู่ผลสรุปตามเป้าหมายของการสำรวจนั้นๆได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ตารางทำงาน เช่น Google Sheets และ Microsoft Excel ในชุด Office 3654. ซอฟต์แวร์นำเสนอ (Presentation) ใช้สำหรับสร้าง แก้ไข ตกแต่งแฟ้มนำเสนองาน โดยสามารถใส่ตารางข้อมูล แผนภูมิ รูปภาพ รูปวาด ภาพวีดีทัศน์ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ เกิดความน่าสนใจและสวยงาม เช่น Google Slides และ Microsoft PowerPoint ในชุด Office 365 ให้นักเรียนค้นหาเครื่องมือหรือบริการออนไลน์อื่นๆ ที่มีการใช้งานร่วมกัน ว่ามีบริการใดบ้างที่ไม่ซ้ำกับที่กล่าวมาแล้ว ข้อใด เป็นการพิจารณาความเหมาะสมของแหล่งข้อมูลความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล
ความสอดคล้องกับการใช้งาน (relevance) ควรตรวจสอบว่าข้อมูลเกี่ยวข้องกับปัญหาที่ต้องการหรือไม่ ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล (authority) พิจารณาความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล ผู้เผยแพร่มีความชํา นาญพอที่จะให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าวหรือไม่สามารถติดต่อผู้เผยแพร่ได้หรือไม่
แหล่งข้อมูลใดที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดแน่นอนว่าแหล่งข้อมูลที่ให้ข้อมูลได้น่าเชื่อถือมากที่สุด ก็ต้องเป็นแหล่งข่าวที่พบเจอกับเรื่องนั้นด้วยตัวเอง ใครจะรู้เรื่องดีไปกว่าเจ้าของเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม แม้การสัมภาษณ์เจ้าของเรื่องถือเป็นแหล่งข้อมูลชั้นต้นที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ก็ควรเก็บข้อมูลด้านอื่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดข้อมูลที่เอนเอียง ให้ได้ข้อเท็จจริงรอบ ...
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลมีกี่ประเภท3.การเก็บรวบรวมข้อมูล จะมีวิธีเก็บ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. เก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ และ 2. เก็บรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ
วิธีการปฏิบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิมีกี่วิธี อะไรบ้างวิธีเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ การเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิซึ่งอาจทำได้โดยการสำมะโนหรือสำรวจสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไปมี 5 วิธีคือ (1) การสัมภาษณ์ (2) การสอบถามทางไปรษณีย์ (3) การสอบถามทางโทรศัพท์
|