ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

เมื่อเพื่อน ๆ ทำการอัพเดท Windows 10 เป็น Windows 11 แน่นอนครับหน้าตาของมันก็จะเปลี่ยนไปจากเดิมที่เราเคยใช้ ๆ กันอยู่ ทีนี้ละครับบันเทิงตรงที่หาเครื่องมือที่เคยใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ไม่ค่อจจะเจอเพราะหน้าจอ UI มันเปลี่ยนไปวันนี้ผมจะขอมาแนะนำวิธีตั้งค่า Sleep Mode หรือโหมดพักหน้าจอของ Windows 11 สำหรับคนที่ยังหาการตั้งตค่านี้ยังไม่เจอกันครับ

ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

1. เริ่มจากคลิกขวาที่หน้าจอเปล่า ๆ ของเครื่องเราได้เลยครับจากนั้นเลือกไปที่ Personalize

ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

2.มองหา Lock screen เพื่อกดเข้าไปต่อ

ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

3.จากนั้นให้ไปเลือกที่ Sceen timeout

ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

4.เลือกที่ Screen and sleep 

ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

5.ในขั้นตอนที่ 5 นี้เราจะสามารถกำหนดค่าได้ 2 แบบครับ
• แถวแรกหมายความว่า เมื่อเราเสียบปลั๊กคอมพิวเตอร์จะตั้งให้หน้าจอปิดต่อเมื่อไม่มีการขยับเม้าส์ภายในกี่นาทีหรือจะเลือกว่า Never เพื่อบอกว่าไม่ต้องปิดหน้าจอเราทุกกรณี
• เมื่อเราเสียบปลั๊กคอมพิวเตอร์ของเราจะเข้าสู่ Mode Sleep ภายในกีนาทีหรือ Never คือไม่ต้องให้ไปที่ Mode Sleep เลย

เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จครับหากใครเจอปัญหาที่ว่าไม่ใช้คอมซักพักแล้วต้องมาคอยกดปุ่มเปิดคอมตลอดเพื่อให้คอมเปิดใช้งานใหม่นั้นแสดงว่าคอมตนเองตั้งให้ให้อยู่ใน Mode Sleep ในระยะเวลาที่กำหนด ฉนั้นเพื่อน ๆ จะสามารถใช้วิธีที่ผมได้แนะนำนี้ไปแก้ไขปัญหานี้ได้ครับ ลองทำกันดูนะครับ

เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนขนาดข้อความ พื้นหลังเดสก์ทอป ขนาดไอคอน ภาพพักหน้าจอ และการตั้งค่าการแสดงผลเดสก์ทอปหรือการแสดงผลอื่นๆ ใน Windows 11

เปลี่ยนขนาดของข้อความ ความสว่างจอแสดงผล และความละเอียดหน้าจอ

คุณสามารถปรับขนาดข้อความและหน้าต่างเดสก์ทอปตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความละเอียดหน้าจอ นอกเหนือจากการตั้งค่าการแสดงผลอื่นๆ ได้อีกด้วย

หมายเหตุ:

ระหว่างการติดตั้ง Windows แบบปกติ โปรแกรมจะทดสอบการ์ดกราฟิกและแสดงขนาดและความละเอียดที่ดีที่สุดสำหรับการ์ดดังกล่าว

  1. ใน Windows ให้คลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก Display settings (ตั้งค่าการแสดงผล)

  2. ปรับ Display orientation (ทิศทางจอแสดงผล) ระหว่าง Landscape (แนวนอน) และ Portrait (แนวตั้ง) หรือพลิกกลับด้านโดยเลือกตัวเลือกจากเมนูดรอปดาวน์ Display Orientation (ทิศทางจอแสดงผล) จากนั้นคลิก Keep Changes (เก็บค่าการเปลี่ยนแปลง) หรือ Revert (เปลี่ยนกลับ)

  3. เปลี่ยนขนาดข้อความและขนาดหน้าต่างแอพโดยเลือกขนาดที่คุณต้องการจากเมนูดรอปดาวน์ Scale (ขนาด) ในส่วน Scale & Layout (ขนาดและเค้าโครง) การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

    ยกเลิกพักหน้าจอ windows 11

  4. การปรับความสว่างโดยการคลิกและลากแถบเลื่อนใน Brightness & color (ความสว่างและสี) การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

  5. การลดปริมาณแสงสีน้ำเงินที่มาจากจอแสดงผลทำโดยการเปิด Night light (ไฟกลางคืน)

  6. กําหนดเวลาไฟกลางคืนโดยคลิกที่ลูกศรทางด้านขวาของ Night light (ไฟกลางคืน) จากนั้นเปิด Schedule night light (กำหนดเวลาไฟกลางคืน)

  7. การเปลี่ยน Display resolution (ความละเอียดจอแสดงผล) เลือกความละเอียดจากเมนูดรอปดาวน์ จากนั้นคลิก Keep Changes (เก็บค่าการเปลี่ยนแปลง) หรือ Revert (เปลี่ยนกลับ)

    หมายเหตุ:

    ในกรณีส่วนใหญ่ HP ขอแนะนำให้ใช้ความละเอียดดั้งเดิมของจอภาพซึ่งกำกับเป็น Recommended (แนะนำ)

    หากคุณมีจอภาพมากกว่าหนึ่งจอ ให้คลิกที่จอภาพที่คุณต้องการปรับ จากนั้นทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำเพื่อปรับความละเอียด หน้าต่างยืนยันจะปรากฏขึ้นมา

เปลี่ยนพื้นหลังเดสก์ทอปใน Windows

คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบหรือภาพบนพื้นหลังหน้าจอ Start

  1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ท็อป แล้วคลิก Personalize (ปรับให้เป็นส่วนบุคคล)

  2. เปลี่ยนภาพที่แสดงในพื้นหลังโดยคลิกที่ Background (พื้นหลัง)

  3. เลือกภาพหรือสไลด์โชว์หรือคลิก Browse (เรียกดู) เพื่อเลือกภาพหรือสไลด์โชว์ที่ต้องการ

  4. การเปลี่ยนรูปแบบการแสดงภาพบนพื้นหลัง เลือก Fit (พอดี), Stretch (ยืด), Tile (ไทล์), Center (ตรงกลาง) หรือ Span (ขยาย) จากเมนูดรอปดาวน์ การเปลี่ยนแปลงจะมีผลในทันที

ปรับไอคอนเดสก์ทอป

เปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อปรับรูปลักษณ์ไอคอน แสดงไอคอนเดสก์ทอปที่สูญหาย และเพิ่มโฟลเดอร์หรือชอร์ตคัทไปยังเดสก์ทอป

ปรับขนาดของไอคอนเดสก์ทอป

คุณสามารถเปลี่ยนขนาดไอคอนจากเดสก์ทอป Windows

ในการเปลี่ยนขนาดของไอคอนเดสก์ทอป ให้คลิกขวาบริเวณที่ว่างบนเดสก์ทอป เลือก View (มุมมอง) จากนั้นคลิก Large icons (ไอคอนขนาดใหญ่), Medium icons (ไอคอนขนาดกลาง) หรือ Small icons (ไอคอนขนาดเล็ก)

หมายเหตุ:

คุณสามารถปรับขนาดไอคอนทั้งหมดได้พร้อมกันโดยคลิกที่พื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นกดค้างที่ปุ่ม ctrl และใช้ลูกกลิ้งเมาส์เพื่อปรับ

เปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอป

คุณสามารถเปลี่ยนชื่อไอคอนเดสก์ทอปได้

  1. คลิกขวาที่ไอคอนที่คุณต้องการเปลี่ยนชื่อ แล้วคลิกไอคอน Rename (เปลี่ยนชื่อ)

  2. พิมพ์ชื่อใหม่ จากนั้นกด Enter

แสดงไอคอนเดสก์ทอปที่หายไป

หากไอคอนเดสก์ทอปทั้งหมดหายไป คุณสามารถกู้คืนโดยใช้ขั้นตอนนี้

หากไอคอนเดสก์ทอปทั้งหมดหายไป ให้คลิกขวาบนส่วนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป เลือก View (มุมมอง) จากนั้นตรวจสอบว่าได้เลือก Show desktop icons (แสดงไอคอนเดสก์ทอป)

สร้างโฟลเดอร์ใหม่

หากต้องการนำโฟลเดอร์ใหม่ที่แสดงในเดสก์ทอป โปรดนำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. สร้างโฟลเดอร์ใหม่จากเดสก์ทอป Windows โดยคลิกขวาที่พื้นที่ว่างของเดสก์ทอป จากนั้นคลิก New (สร้าง) จากนั้นคลิก Folder (โฟลเดอร์)

  2. พิมพ์ชื่อของคุณในโฟลเดอร์ จากนั้นกด Enter

สร้างทางลัดใหม่ในเดสก์ทอป

จัดทำชอร์ตคัทใหม่ที่เดสก์ทอปโดยลากและวางแอพจากเมนู Start ไปยังเดสก์ทอป

หรือสามารถคลิกขวาบนพื้นที่ว่างบนเดสก์ทอป จากนั้นเลือก New (สร้าง) แล้วเลือก Shortcut (ชอร์ตคัท) จากนั้นทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อจัดทำชอร์ตคัท

เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของหน้าต่างและข้อความในคุณสมบัติต่างๆ ของ Windows

คุณสามารถปรับรูปลักษณ์ของ Windows ได้โดยเลือกสีข้อความ พื้นหลังข้อความ ขอบหน้าต่างและส่วนประกอบอื่นๆ ที่ต้องการ นอกจากนี้คุณสามารถเลือกแบบอักษรและขนาดอักษรสำหรับคุณสมบัติการทำงานต่าง ๆ ของ Windows เช่น รายการเมนู

  1. คลิกขวาที่พื้นที่ว่างของเดสก์ท็อป และเลือก

  2. จากหน้าต่าง Lock screen (หน้าจอล็อค) คุณสามารถเลือกตัวเลือกต่อไปนี้จากเมนูแบบดรอปดาวน์:

    • Windows spotlight: แสดงรูปภาพรายวันจาก Microsoft รวมถึงคำแนะนำและเคล็ดลับสำหรับการใช้ Windows

    • Picture (ภาพ): ช่วยให้คุณสามารถเลือกรูปภาพที่จะใช้เป็นพื้นหลังของคุณจากโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ

    • Slideshow (สไลด์โชว์): แสดงรูปภาพทั้งหมดในโฟลเดอร์ตามลําดับ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ที่คุณสามารถปรับสําหรับสไลด์โชว์ได้

การตั้งค่าการแสดงผลเพิ่มเติม

เปิดการตั้งค่าคุณสมบัติการแสดงผลขั้นสูงหรืออะแดปเตอร์การแสดงผลเพื่อดูโหมดเดสก์ทอป ตั้งอัตราการรีเฟรช หรือจัดการสีและการตั้งค่าขั้นสูงอื่นๆ

  1. คลิกขวาบนเดสก์ทอป แล้วเลือก Display settings (การตั้งค่าจอแสดงผล) เลื่อนรายการลง คลิกที่ Advanced display (การแสดงผลขั้นสูง)

  2. ในหน้าต่าง Advanced display (การแสดงผลขั้นสูง) ให้เลือกจอแสดงผลเพื่อดูค่าปัจจุบัน หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าการแสดงผลสำหรับจอภาพอื่น ให้คลิกที่หน้าจอหรือเลือกจากเมนูแบบดรอปดาวน์

เปลี่ยนภาพพักหน้าจอ

Windows ได้รับการโหลดมาพร้อมภาพพักหน้าจอจำนวนมากที่ให้คุณเลือก

  1. จาก Windows ให้ค้นหาและเปิด Change screen saver (เปลี่ยนภาพพักหน้าจอ) หน้าต่าง Screen Saver Settings (การตั้งค่าภาพพักหน้าจอ) จะปรากฏขึ้น

  2. เลือกภาพพักหน้าจอจากเมนู

  3. คลิก Settings (การตั้งค่า) เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่าสำหรับภาพพักหน้าจอที่เลือก (หากมีค่าให้เลือก)

  4. คลิก Preview (ตัวอย่าง) เพื่อดูการแสดงผลภาพพักหน้าจอที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เลื่อนเมาส์เมื่อคุณเสร็จสิ้นการดูตัวอย่างภาพพักหน้าจอ

  5. ระบุจำนวนนาทีในฟิลด์ Wait (รอ) นี่คือจำนวนนาทีที่ไม่ได้ใช้งานก่อนที่ภาพพักหน้าจอจะเปิดขึ้น

    หมายเหตุ:

    Wait time (เวลารอ) สำหรับภาพพักหน้าจอควรต่ำกว่าจำนวนนาทีก่อนที่คอมพิวเตอร์จะเข้าสู่โหมดสลีป

  6. หากต้องการขอข้อมูลล็อกอินเมื่อทำงานต่อ ให้เลือก On resume, display logon screen (เมื่อทำงานต่อ ให้แสดงหน้าจอล็อกอิน)

  7. คลิก OK (ตกลง) เพื่อบันทึกการตั้งค่าและปิดหน้าต่างการตั้งค่าภาพพักหน้าจอ

แก้ไขปัญหาภาพพักหน้าจอ

หากภาพพักหน้าจอไม่เปิดขึ้นมาหลังจากผ่านเวลาที่เลือกไว้ ปัญหาอาจเกิดจากการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บางตัว ใช้การตั้งค่า Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อป้องกันอุปกรณ์เหล่านี้จากการรบกวนภาพพักหน้าจอ:

  1. คลิกที่ไอคอน Search (ค้นหา) จากนั้นพิมพ์ว่า device manager ในช่องค้นหา

  2. คลิกที่ Device Manager (ตัวจัดการอุปกรณ์)

  3. ดับเบิลคลิกที่ประเภทอุปกรณ์ที่อาจรบกวนภาพพักหน้าจอ จากนั้นดับเบิลคลิกที่ชื่ออุปกรณ์เพื่อเปิดหน้าต่าง Properties (คุณสมบัติ)

    อุปกรณ์บางตัวที่มักรบกวนการทำงานของภาพพักหน้าจอได้แก่ออพติคอลเมาส์ (เมาส์และอุปกรณ์ชี้ตำแหน่ง) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ตั้งค่าเป็น "Always-on" (เปิดตลอด) (อะแดปเตอร์เครือข่าย) และระบบเสียงความละเอียดสูง (ตัวควบคุมเสียง วิดีโอ และเกม)

  4. คลิกแท็บ Power Management (การจัดการพลังงาน) และล้างกล่องทำเครื่องหมาย Allow this device to wake the computer (อนุญาตให้อุปกรณ์นี้ปลุกการทำงานคอมพิวเตอร์)

    หมายเหตุ:

    หากคุณตั้งค่าไม่ให้เมาส์ปลุกการทำงานของคอมพิวเตอร์ คุณสามารถปลุกคอมพิวเตอร์โดยการกด spacebar ที่แป้นพิมพ์

  5. คลิก OK (ตกลง) ปิดหน้าต่างใดๆ ที่เปิดอยู่ จากนั้นรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

  6. ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ และแฟลชไดรฟ์ USB

  7. เริ่มการทำงานของคอมพิวเตอร์อีกครั้งโดยเชื่อมต่อเฉพาะเมาส์ จอภาพ และแป้นพิมพ์

    หากวิธีนี้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสลีป/สแตนด์บาย แสดงว่าหนึ่งในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา เปลี่ยนอุปกรณ์ตัวหนึ่งและทดสอบดูว่าปัญหานี้ยังเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ดำเนินการเพิ่มและทดสอบอุปกรณ์ต่อไปจนกว่าคุณจะพบอุปกรณ์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา