ค่าตรวจสภาพรถกระบะ 4 ประตู

ตรวจสภาพรถยนต์

การขับขี่รถบนท้องถนน ความพร้อมของรถเป็นสิ่งสำคัญ และต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี ยิ่งใครที่ต้องขับขี่รถทุกวันหรือเดินทางไกลบ่อยยิ่งสมควร ตรวจสภาพรถ เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เอง และผู้ที่คนที่ร่วมเส้นทาง หากรถมีปัญหาจะได้นำไปแก้ไขได้ทัน และไม่ควรนำรถที่สภาพไม่พร้อมใช้งานออกมาวิ่งบนท้องถนน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

การตรวจสภาพรถยนต์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเกิดความปลอดภัย รวมทั้งผู้ที่ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆด้วย ซึ่งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 รถที่ต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเสียภาษี คือ

1 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุกรใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

2 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป

3 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป

4 รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป

สถานที่ตรวจสภาพรถ

ผู้ขับขี่สามารถนำรถยนต์เข้าไปตรวจสภาพก่อนการยื่นต่อภาษี ได้ที่

1 สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก

2 ยกเว้น

  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม จะต้องตรวจสภาพที่ ตรอ. หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้
  • รถของส่วนราชการ บุคคลในคณะผู้แทนการทูต คณะผู้แทนทางกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ฯลฯ จะตรวจสภาพที่ ตรอ. หรือหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้
  • รถที่มีการดัดแปลงสภาพ รถที่เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์ รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ รถที่ขาดต่ออายุทะเบียนเกิน 1 ปี ฯลฯ ให้นำรถไปตรวจสภาพ ร หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก

ระยะเวลาที่จะต้องนำรถไปตรวจสภาพ

การตรวจสภาพรถ เจ้าของรถสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี

อัตราค่าตรวจสภาพรถ

1 รถจักรยานยนต์ ราคา คันละ 60 บาท

2 รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท

3 รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท

ในการไปตรวจสภาพรถนั้น เจ้าของรถต้องนำรถคันที่จะตรวจสภาพและคู่มือรถไปแสดงขอรับการ ตรวจสภาพรถยนต์ เมื่อผ่านเกณฑ์การตรวจ สถานตรวจสภาพรถก็จะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถตาแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด  แต่ถ้ารถไม่ผ่านการตรวจสภาพ สถานตรวจสภาพรถ จะแจ้งข้อบกพร่องที่เป็นเหตุให้รถนั้นไม่ผ่านการตรวจสภาพให้เจ้าของทราบ เพื่อให้เจ้าของรถนำไปแก้ไขข้อบกพร่อง และนำรถเข้ามาตรวจสภาพใหม่

หากเจ้าของรถนำรถที่แก้ไขแล้วไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพเอกชนแห่งเดิมภายใน 15 วัน จะเสียค่าตรวจใหม่ในอัตราครึ่งหนึ่งของค่าบริการที่กำหนดไว้ แต่หากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่สถนตรวจสภาพรถเอกชนแห่งอื่นจะเสียค่าบริการเต็มอัตรา

รถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ไม่สามารถรับรับตรวจสภาพได้ 

เป็นรถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้ ได้แก่

1รถที่เปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแปลงตัวรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือทะเบียนรถ เช่น เปลี่ยนเครื่องยนต์ เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง ฯลฯ

2 รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่อง เช่น ไม่ปรากฏตัวเลข ตัวเลขชำรุด หรือมีร่องรอยการแก้ไข ขูดลบ หรือลบเลือน จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้

3 รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้ชั่วคราวหรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดไปไว้

4 รถเก่าที่มีเลขทะเบียนเป็นทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001 ซึ่งรถดังกล่าวต้องเปลี่ยนรถใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี

5 รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับการถูกโจรกรรมแล้วได้คืน

6 รถที่ได้สิ้นอายุภาษีประจำปี ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี

ดังนั้น เจ้าของรถเมื่อใกล้ครบกำหนดการต่อภาษีรถยนต์ ควรนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ ซึ่งกฏหมายกำหนดให้ต่อภาษีได้ก่อนวันครบอายุไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน เพื่อไม่มีปัญหาในการต่อภาษีล่าช้า ควรรีบไปทำการต่อภาษีรถยนต์ก่อนถึงวันครบกำหนด และควรนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพก่อนยื่นต่อภาษีด้วย เพราะตามกฎหมาย ถ้าไม่มีใบรับรองกการตรวจสภาพรถยนต์ก่อน ก็ไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ได้เช่นกัน  เมื่อกฎหมายให้ระยะเวลาล่วงหน้าแล้ว ก็ไม่มีข้ออ้างกับคุณตำรวจแล้วนะคะ รีบไปดำเนินการให้เรียบร้อยจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง หวังว่าบทความ การตรวจสภาพรถยนต์ คงมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อยนะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีจ้า

เรียบเรียงบทความโดย EasyInsure

 227,212 total views,  3 views today

สำหรับคนที่ใช้รถใหม่ การตรวจสภาพรถยนต์อาจไม่ใช่เรื่องที่คุณคุ้นเคยหรือจำเป็นเท่าไหร่ แต่สำหรับผู้ที่ใช้รถเริ่มเก่าแล้ว จะต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รถจะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับรถ, ผู้โดยสาร, ผู้ขับขี่รถคันอื่น ๆ และคนเดินถนน มาดูกันว่ารถกี่ปีต้องตรวจสภาพ แล้วเราจะเสียเงินเท่าไหร่

ตรวจสภาพรถ กี่ปีต้องตรวจ นับยังไง

ตามกฎหมายได้กำหนดให้รถทุกคันที่มีอายุรถเกิน 5-7 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก จะต้องทำการตรวจสภาพรถ ก่อนต่อภาษีรถยนต์ โดยแบ่งออกตามประเภทคือ

ค่าตรวจสภาพรถกระบะ 4 ประตู

  • ตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ ที่อายุเกิน 5 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
  • รถบรรทุก อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
  • ตรวจสภาพรถก่อนภาษีประจำปีหมดอายุได้ 3 เดือนล่วงหน้า

แล้วนับปีอย่างไร?

  • มอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียนปี 2560 ต้องตรวจสภาพรถตั้งแต่ปี 2565
  • รถยนต์ รถบรรทุกที่จดทะเบียนปี 2558 ต้องตรวจสภาพรถตั้งแต่ปี 2565

ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ทุกคันต้องต่อภาษี และมีป้ายวงกลม (ป้ายภาษี) มาแปะที่รถ ดังนั้นถ้าไม่ตรวจสภาพรถ ก็จะไม่สามารถต่อภาษีได้ (ข้อมูลรถส่วนบุคคล)

ตรวจสภาพรถที่ไหน ราคาเท่าไหร่

การตรวจสภาพรถสามารถทำได้ทุกที่ ที่มีสัญลักษณ์ ตรอ. (ยกเว้นรถดัดแปลงต้องไปกรมขนส่ง) ใช้เวลาไม่นานถ้าไม่มีคิวก็ประมาณ 10-20 นาทีก็ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีเรทราคาเท่ากันทั่วประเทศคือ

ค่าตรวจสภาพรถกระบะ 4 ประตู

  • ตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์ ราคา 60 บาท
  • รถยนต์น้ำหนักไม่เกิน 1600 กิโลกรัม 150 บาท
  • รถยนต์น้ำหนักเกิน 1600 กิโลกรัม 200 บาท

อย่างไรก็ตามทางกรมการขนส่งทางบกได้ประกาศว่าจะเปิดตรวจสภาพรถฟรีกว่า 20 รายการ ตั้งแต่ วันนี้ จนถึง 15 เม.ย. 2565 เนื่องในโอกาสของเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหลายคนอาจเดินทางไกลและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การตรวจสภาพรถจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางในช่วงเทศกาล

ตรวจสภาพรถแล้ว ต่อภาษีที่ไหน เท่าไหร่

เมื่อตรวจสภาพผ่านแล้ว ก็จะสามารถนำผลตรวจไปขอต่อภาษีกับกรมขนส่งได้เลย เช่นที่ จตุจักร / สวนผัก / กรมขนส่งจังหวัด หรือไปต่อภาษีวันเสาร์อาทิตย์ที่บิ๊กซี หรือเสียเงินฝากตัวแทนต่อภาษีก็ได้

อัพเดท: ล่าสุดจ่ายภาษีรถออนไลน์ได้แล้วที่ eservice.dlt.go.th หลังตรวจสภาพรถผ่าน 

ค่าตรวจสภาพรถกระบะ 4 ประตู

ค่าตรวจสภาพรถกระบะ 4 ประตู

  • ต่อภาษีรถยนต์เสาร์อาทิตย์ที่ไหนได้บ้าง

โดยตามกฎหมาย พ.ร.บ.รถยนต์ ปี พ.ศ. 2522 กำหนดค่าภาษีรถจักรยานยนต์ตามประเภทและการใช้งานไว้ดังนี้

  1. รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ส่วนบุคคล ภาษีรถจักรยานยนต์ คันละ 100 บาท
  2. รถจักรยารนตอร์ (มอเตอร์ไซค์) สาธารณะ ภาษีรถจักรยานยนต์ คันละ 100 บาท
  3. รถพ่วงของรถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล ภาษีรถมอเตอร์ไซค์ คันละ 50 บาท
  4. รถพ่วงนอกเหนือจากข้อ 3. ภาษีรถมอเตอร์ไซค์ คันละ 100 บาท
  • ต่อพรบ รถจักรยานยนต์ ราคาเท่าไหร่

ตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ไม่ต่อภาษีได้ไหม

ไม่ได้ หากคุณไม่ต่อภาษีและถูกจับจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 11 ที่ให้รถทุกคันแสดงแผ่นป้ายครบถ้วน ให้นำไปแก้ไขและกลับมาตรวจที่เดิมได้

ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี ไป ตรอ. ได้ไหม

รถกลุ่มนี้จะไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ.ได้ จะต้องไปตรวจสภาพรถที่กรมขนส่งเท่านั้น

ตรวจสภาพรถที่เปลี่ยนสี ดัดแปลง ทำไง

รถกลุ่มนี้จะไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ.ได้ จะต้องไปตรวจสภาพรถที่กรมขนส่งเท่านั้น

ตรวจสภาพรถ4ประตูกี่บาท

ตรวจสภาพรถ มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

ค่าตรวจสภาพรถกระบะกี่บาท

ราคาค่าบริการ ตรวจสภาพรถ (1) รถยนต์ (รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้) ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท (2) รถยนต์ (รถเก๋ง รถกระบะ รถตู้) ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท (3) รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ Big Bike คันละ 60 บาท

ตรวจสภาพรถราคากี่บาท

รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท รถยนต์ที่มีน้ำรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

ตรวจสภาพรถเอกชน กี่บาท

อัตราค่าตรวจสภาพ รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท