จากบทความ การอ่านโน้ตดนตรีสากล(ทำความรู้จักกับหน้าตาของโน้ตดนตรี) ได้กล่าวถึงเรื่อง Time Signature ไว้คร่าวๆดังนี้ ลักษณะเป็นเลขสองตัวเรียงกันแนวตั้ง อยู่หลัง Clef และ Key Signature ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์บอกให้ทราบว่า แต่ละห้องของเพลงนั้นมีกี่จังหวะ การอ่านความหมายของ Time Signature Time Signature นั้น เลขตัวบนและเลขตัวล่างจะมีความหมายต่างกัน คือ - เลขตัวบน ทำหน้าที่บอกว่าตัวโน้ตที่ถูกกำหนดโดยเลขตัวล่างมีทั้งหมดกี่ตัวในหนึ่งห้อง - เลขตัวล่าง จะเอาไว้แทนค่าของตัวโน้ตที่จะเอาไปนับโดยเลขตัวบน กล่าวคือเลขถ้าตัวล่าง เป็นเลข 1 จะใช้โน้ตตัวกลม (มีค่า4จังหวะ) แทนค่า กล่าวคือเลขถ้าตัวล่าง เป็นเลข 2 จะใช้โน้ตตัวขาว (มีค่า2จังหวะ) แทนค่า กล่าวคือเลขถ้าตัวล่าง เป็นเลข 4 จะใช้โน้ตตัวดำ (มีค่า1จังหวะ) แทนค่า กล่าวคือเลขถ้าตัวล่าง เป็นเลข 8 จะใช้โน้ตตัวเขบ็ต1ชั้น (มีค่า1/2จังหวะ) แทนค่า กล่าวคือเลขถ้าตัวล่าง เป็นเลข 16 จะใช้โน้ตเขบ็ต2ชั้น (มีค่า1/4จังหวะ) แทนค่า และได้มีการยกตัวอย่างวิธีการอ่าน Time Signature ไว้เบื้องต้น ในโพสนี้เราจะพูดถึงรายละเอียดถัดมา คือ การจำแนกประเภท ของ Time Signature ประเภทต่างๆ อัตราจังหวะ (Meter) แบบต่างๆมีดังนี้ 1. Simple Time (อัตราจังหวะธรรมดา) 2. Compound Time (อัตราจังหวะผสม) 3. Complex Time (อัตราจังหวะซ้อน) อัตราจังหวะแบบ Simple Time และ Compound Time สามารถแบ่งย่อยได้อีก ตามจำนวนชีพจรจังหวะ (Beat) ที่มีในแต่ละห้อง หรือก็คือจำนวนครั้งที่เคาะจังหวะนั่นเอง - Duple Time อัตราจังหวะที่มี 2 Beat ใน 1 ห้อง - Triple Time อัตราจังหวะที่มี 3 Beat ใน 1 ห้อง - Quardruple Time อัตราจังหวะที่มี 4 Beat ใน 1 ห้อง เมื่อนำประเภทของ Meter และ Beat มารวมกันจะได้ Time Signature ประเภทต่างๆดังนี้ กลุ่ม Simple Time Simple Duple Time (อัตราจังหวะสองธรรมดา) ได้แก่ 2 2 2 Simple Triple Time (อัตราจังหวะสามธรรมดา) ได้แก่ 3 3 - นับโน้ตตัวดำ 1 ตัวเป็น 1 Beat 3 Simple Quardruple Time (อัตราจังหวะสี่ธรรมดา) 4 4 - นับโน้ตตัวดำ 1 ตัวเป็น 1 Beat 4 6 6 6 Compound Triple Time (อัตราจังหวะสามผสม) 9 9 9 Compound Quardruple Time (อัตราจังหวะสี่ผสม) 12 12 12 Common Time Alla Breve Time Signature ที่มักใช้ประจำ คือ Simple Time และ Compound Time เป็นส่วนใหญ่ ส่วน Complex Time จะไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอมากนัก BlackSwallowMusic |