Normal Show false EN-US /* Style Definitions */ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยด้านศิลปกรรมสมัยธนบุรี เนื่องจากสมัยธนบุรีเป็นราชธานีในระยะเวลาสั้นๆ และต้องตกอยู่ในภาวะสงครามตลอดเวลา ภูมิปัญญาแลละวัฒนธรรมด้านศิลปกรรมจึงมีอยู่บ้าง เช่น เรือ การต่อเรือเจริญมากเพราะมีการต่อเรือรบ เรือสำเภา ตลอดจนเรือกระบวนไว้ใช้ในราชการเป็นจำนวนมาก สถาปัตยกรรม กรุงธนบุรีเป็นยุคของการสร้างบ้านแปลงเมือง จึงมีการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก อาทิ พระราชวัง ป้อมปราการ กำแพงพระนคร พระอารามต่าง ๆ ลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยนี้ล้วนสืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ฐานอาคารจะมีลักษณะอ่อนโค้งดุจรูปเรือสำเภา ทรงอาคารจะสอบชะลูดขึ้นทางเบื้องบน ส่วนประกอบอื่น ๆ ของอาคารก็ไม่แตกต่างจากอยุธยามากนัก เป็นที่น่าเสียดายว่าสถาปัตยกรรมสมัยธนบุรีมักได้รับการบรูณะซ่อมแซมในสมัยหลังหลายครั้งด้วยกัน ลักษณะในปัจจุบันจึงเป็นแบบสถาปัตยกรรมในรัชกาลที่บูรณะครั้งหลังสุด เท่าที่ยังปรากฏเค้าเดิมในปัจจุบัน ได้แก่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ กำแพงพระราชวังเดิม พระตำหนักท้องพระโรง และพระตำหนักเก๋งคู่ในพระราชวังเดิมที่ได้รับอิทธิพลการก่อสร้างมาจากจีน พระอารามทั้งในพระนครและหัวเมืองที่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในรัชกาลนี้ล้วนแต่ได้รับการบรูณะใหม่ในรัชกาลต่อมาเช่นกัน ที่ยังแสดงลักษณะศิลปกรรมสมัยกรุงธนบุรี ได้แก่ พระอุโบสถและพระวิหารน้อย วัดอรุณราชวราราม พระอุโบสถและพระวิหารเดิมวัดราชคฤห์พระอุโบสถเดิมวัดอินทาราม ตำหนักแดง วัดระฆังโฆสิตาราม และพระอุโบสถวัดหงส์รัตนารามประณีตศิลป กรุงธนบุรีมีนายช่างผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างพร้อมมูล ทั้งช่างรัก ช่างประดับช่างแกะสลัก ช่างปั้นและช่างเขียน งานประณีตศิลป์ชิ้นสำคัญสมัยนี้ ได้แก่ ตู้พระไตรปิฎกลายรดน้ำ 4 ตู้ในหอวชิรญาณ ซึ่งได้มาจากวัดราชบูรณะ วัดจันทาราม และวัดระฆังโฆสิตาราม ช่างหล่อคนสำคัญปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า โปรดให้หลวงวิจิตรนฤมล ปั้นพระพุทธรูปให้ต้องตามพุทธลักษณะที่โปรดให้สอบสวน แล้วหล่อพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ยืนองค์หนึ่งปางสมาธิองค์หนึ่ง งานแกะสลัก ได้แก่พระแท่นบรรทมในพระอุโบสถน้อย วัดอรุณราชวราราม ในพระวิหารวัดอินทาราม และตั่งจากอำเภอแกลงจังหวัดระยอง ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพฯจิตรกรรม ภาพจิตรกรรมสมัยธนบุรีอาจดูได้จาก ตำราภาพไตรภูมิ (ฉบับหลวง) มีการวาดภาพเกี่ยวกับไตรภูมิหรือโลกทั้งสาม เพื่อปลูกฝังให้คนไทยเกิดความเชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ประพฤติกรรมดี ละเว้นความชั่ว ซึ่งเก็บรักษาอยู่ ณ หอสมุดแห่งชาติ และลวดลายรดน้ำที่ปรากฏบนตู้พระไตรปิฎกและภาพจิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ศิลปะธนบุรี หรือ ศิลปะกรุงธนบุรี หมายถึง ศิลปะในสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี (6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 – 6 เมษายน พ.ศ. 2325) ซึ่งมีไม่ค่อยมากนัก เพราะทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยกรุงธนบุรี และบ้านเมืองอยู่ในภาวะสงคราม ถึงกระนั้นก็พอมีงานศิลปะออกมาบ้าง ส่วนผลงานด้านสถาปัตยกรรมในสมัยธนบุรี ไม่มีผลงานดีเด่นที่พอจะอ้างถึงได้มากนัก สถาปัตยกรรม[แก้]สถาปัตยกรรมในสมัยกรุงธนบุรีนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินรับสั่งให้มีการก่อสร้างจำนวนไม่น้อย เพราะต้องฟื้นฟูบ้านเมืองในช่วงสงครามให้กลับมาโดยเร็ว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างบารมีและเป็นหน้าประวัติศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรมในยุคสมัยของพระองค์ จึงมีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น กำแพงพระนคร ป้อมปราการ พระราชวัง พระอารามต่าง ๆ สถาปัตยกรรมส่วนมากที่กล่าวมาล้วนสืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาทั้งสิ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ส่วนต่าง ๆ เช่น ฐานอาคารและรูปทรงอาคารจะไม่แตกต่างจากกรุงศรีอยุธยามากนัก สถาปัตยกรรมสมัยกรุงธนบุรีมักจะมีการบูรณะซ่อมแซมบูรณะ ไม่ว่าจะเป็นในยุคสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเอง หรือยุคสมัยต่อ ๆ มา ทำให้ไม่ค่อยเหลือเค้าโครงเดิม แต่ก็ยังมีสถาปัตยกรรมบางแห่งที่บูรณะแล้วยังปรากฏเค้าโครงเดิม เช่น ป้อมวิชัยประสิทธิ์ กำแพงพระราชวังเดิม พระตำหนักท้องพระโรงและพระตำหนักเก๋งคู่ในท้องพระโรงเดิม สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2310 ท้องพระโรงเป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาแต่ไม่มียอดปราสาท เดิมเป็นอาคารไม้ แต่สันนิษฐานว่ามีการบูรณะให้เป็นอาคารปูนในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ในพระราชวังเดิม[1] ส่วนวัดวาอาราม ที่ยังมีเค้าโครงเดิม ได้แก่ พระอุโบสถและพระวิหารน้อย วัดอรุณราชวราราม พระอุโบสถและพระวิหารเดิมวัดราชคฤห์ พระอุโบสถเดิมวัดอินทาราม ตำหนักแดงวัดระฆังโฆสิตาราม และพระอุโบสถวัดหงส์รัตนาราม[2] แผนผังการสร้างพระราชวังและวัดยังคงมีการรักษาขนบแบบกรุงศรีตอนปลาย มีอาคารขนาดไม่ใหญ่มาก สัดส่วนอาคารแคบยาว หน้าจั่วมีแบบมุขลดและแบบพรมพักตร์ หน้าบันทำเป็น 2 ชั้น ชั้นบนมีลวดลาย ชั้นล่างของหน้าบันมักฉาบเรียบและนิยมเจาะร่องหน้าต่าง 2 ช่อง ซึ่งได้แบบจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ประติมากรรม[แก้]มีการพบพระพุทธรูปสมัยกรุงธนบุรีอย่างน้อย 2 องค์ ในด้านรูปแบบยังไม่ปรากฏเอกลักษณ์ชัดเจน แต่เริ่มมีการสร้างพระพุทธรูปแทนตน โดยเปรียบเทียบส่วนที่เหมือนจากพุทธลักษณะ ส่วนเทคนิคยังคงใช้การหล่อสัมฤทธิ์เช่นสมัยกรุงศรีอยุธยา[3] จิตรกรรม[แก้]จิตรกรรมพระพุทธศาสนา มุ่งสอนประชาชนให้เข้าใจพระพุทธศาสนาจากเรื่องไตรภูมิ กล้าตีความโดยใช้สัญลักษณ์เพื่อถ่ายทอดเนื้อหา รูปแบบการใช้สี มีการใช้สีมากกว่าสมัยกรุงศรีอยุธยา มักใช้สีแดงเป็นหลัก บางครั้งยังพบการไล่น้ำหนักสี ลักษณะรูปแบบในงานถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกที่ดูเข้มแข็ง ชัดเจน จริงจัง แม้ว่าจะได้รับอิทธิพลจากกรุงศรีอยุธยาตอนปลายและอิทธิพลของต่างชาติแต่ความอ่อนช้อยของเส้นและรูปแบบปรากฏให้เห็น[3] จิตรกรรมในสมัยกรุงธนบุรีที่หลงเหลือมายังปัจจุบัน คือ ตำราภาพไตรภูมิ (ฉบับหลวง) ซึ่งเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติ ศิลปะประยุกต์และประณีตศิลป์[แก้]เครื่องเบญจรงค์สมัยกรุงธนบุรียังคงมีลวดลายแบบเดิม เช่น กระหนก เทพพนม นรสิงห์ นิยมชามทรงบัว การเคลือบภายในนิยมเคลือบขาวแทนสีเขียว ส่วนการผูกลายนั้นเป็นแบบเดียวกับกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่สะบัดพลิ้วเท่ากับของเดิม รูปแบบลวดลายเริ่มมีการประดิษฐ์ให้ห่างจากความจริง นิยมลวดลายเครือเถากระหนกแทรกและนิยมการเขียนลายแบบลดรูป ถือได้ว่าครั้งกรุงธนบุรี กรมช่างสิบหมู่มีความเจริญรุ่งเรือง[3] งานประณีตศิลป์ชิ้นสำคัญสมัยนี้ ได้แก่ ตู้พระไตรปิฎกลายรดน้ำ 4 ตู้ ในหอวชิรญาณ ซึ่งได้มาจากวัดราชบูรณะ วัดจันทาราม และวัดระฆังโฆสิตาราม อ้างอิง[แก้]
ภูมิปัญญาด้านศิลปกรรมในสมัยธนบุรีคืออะไรจิตรกรรม ภาพจิตรกรรมสมัยธนบุรีอาจดูได้จาก ตำราภาพไตรภูมิ (ฉบับหลวง) มีการวาดภาพเกี่ยวกับไตรภูมิหรือโลกทั้งสาม เพื่อปลูกฝังให้คนไทยเกิดความเชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ประพฤติกรรมดี ละเว้นความชั่ว ซึ่งเก็บรักษาอยู่ ณ หอสมุดแห่งชาติ และลวดลายรดน้ำที่ปรากฏบนตู้พระไตรปิฎกและภาพจิตรกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
วรรณกรรมใดที่เป็นภูมิปัญญาที่เกิดขึ้นในสมัยธนบุรีสมัยกรุงธนบุรียังมีวรรณกรรมอีกหลายเรื่องถูกประพันธ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลิลิตเพชรมงกุฎ และอิเหนาคำฉันท์ ประพันธ์ขึ้นโดย หลวงสรวิชิต (หน), กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ประพันธ์โดยเจ้าพระยาราชสุภาวดีและพระภิกษุอินท์, โคลงยอพระเกียรติพระเจ้ากรุงธนบุรี ประพันธ์โดยนายสวนมหาดเล็ก และนิราศกวางตุ้งหรือนิราศพระยามหานุภาพไปเมืองจีนครั้ง ...
สถาปัตยกรรมเด่นในสมัยธนบุรีคืออะไรมีความสําคัญอย่างไรสถาปัตยกรรม กรุงธนบุรีเป็นยุคของการสร้างบ้านแปลงเมือง จึงมีการก่อสร้างเป็นจำนวนมาก อาทิ พระราชวัง ป้อมปราการ กำแพงพระนคร พระอารามต่าง ๆ ลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยนี้ล้วนสืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ฐานอาคารจะมีลักษณะอ่อนโค้งดุจรูปเรือสำเภา ทรงอาคารจะสอบชะลูดขึ้นทางเบื้องบน ส่วนประกอบอื่น ๆ ของอาคารก็ไม่แตกต่างจาก ...
|