Windows Server 2012 R2 คือ

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เบราว์เซอร์นี้ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไป

อัปเกรดเป็น Microsoft Edge เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะล่าสุด เช่น การอัปเดตความปลอดภัยและการสนับสนุนด้านเทคนิค

การสิ้นสุดการสนับสนุน SQL Server 2012 และ Windows Server 2012/2012 R2

  • บทความ
  • 11/17/2022
  • 2 นาทีในการอ่าน

ในบทความนี้

              

Windows Server 2012 R2 คือ
               โปรดไป ที่นี่ เพื่อค้นหาวงจรการใช้งานผลิตภัณฑ์ของคุณ

SQL Server 2012 จะถึงจุดสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 12 กรกฎาคม 2022 และ Windows Server 2012/2012 R2 จะถึงจุดสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 10 ตุลาคม 2023 หลังจากวันที่นี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัย การอัปเดตที่ไม่ใช่ด้านความปลอดภัย การแก้ไขข้อบกพร่อง หรือการสนับสนุนทางเทคนิคอีกต่อไป

Microsoft ขอแนะนําให้ลูกค้าโยกย้ายแอปพลิเคชันและปริมาณงานไปยัง Azure เพื่อทํางานได้อย่างปลอดภัย อินสแตนซ์ที่จัดการแล้วของ Azure SQL ได้รับการจัดการอย่างสมบูรณ์และอัปเดตอยู่เสมอ (PaaS) ลูกค้ายังสามารถยกและเปลี่ยนเป็น Azure Virtual Machines รวมถึง Azure Dedicated Host, Azure VMware Solution และ Azure Stack (Hub, HCI, Edge) เพื่อรับการอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมอีก 3 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ลูกค้าที่ต้องการโซลูชันภายในองค์กรอาจอัปเกรดเป็น Windows Server 2022 และ SQL Server 2019 ได้ ลูกค้าที่มีสิทธิ์ที่มี Software Assurance ภายใต้ Enterprise Agreement อาจซื้อ ESU สําหรับ Windows Server 2012/2012 R2 และ SQL Server 2012 ด้วยได้

หมายเหตุ

การอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติม (ESU) ของ SQL Server 2008/R2 และ Windows Server 2008/R2 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 12 กรกฎาคม 2022 และ 10 มกราคม 2023 ตามลําดับ ลูกค้าที่ต้องการเวลาเพิ่มเติมในการอัปเกรดอาจโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของตนบน Azure อีกครั้งเพื่อรับ ESU เพิ่มฟรีอีกหนึ่งปี

โปรดไปที่นี่เพื่อดูแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

  • วางแผนการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows Server 2012/2012 R2 และ SQL Server 2012 ของคุณ
  • ดาวน์โหลดแผ่นข้อมูลของการอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติม
  • ทําความเข้าใจวิธีการส่ง Extended Security Updates ของ SQL Server
  • ทำไมต้องทําให้ทันสมัยด้วย Microsoft

บทความนี้เป็นรายละเอียดการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 แบบ Server Core Installation ครับ ซึ่ง Server Core นั้นเป็นโหมดที่ไม่มีระบบติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ดังนั้นการตั้งค่าและการจัดการ Server Core จะต้องใช้บรรทัดคำสั่ง, Windows PowerShell หรือการจัดการจากระยะไกลโดยใช้เครื่องมือ Microsoft Management Console (MMC), Server Manager หรือ Remote Server Administration Tools (RSAT) เป็นต้น (บทความนี่ยังไม่ลงลึกเกี่ยวกับการจัดการครับ)

ดาวน์โหลด Windows Server 2012 R2 ได้ที่ไหน?
ก่อนเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง ผมขอแนะนำช่องทางการดาวน์โหลด Windows Server 2012 R2 เพื่อให้คนที่ยังไม่มีตัวติดตั้งได้ทำการดาวน์โหลดมาทดลองใช้งานกันได้ ดังนี้ครับ

สำหรับการดาวน์โหลด Windows Server 2012 R2 นั้น ถ้าคุณเป็นผู้ดูแลระบบไอทีของหน่วยงานที่ซื้อซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์แบบ Volume License (VL) และได้รับสิทธิ์การเข้าถึงซอฟต์แวร์ดังกล่าว คุณสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมถึง Windows Server 2012 R2 ได้จากเว็บไซต์ Microsoft Volume License Service Center (VLSC) โดยไฟล์ที่ดาวน์โหลดนั้นจะเป็นไฟล์อิมเมจไอเอสโอ (ISO image)

สำหรับผู้สนใจทั่วไป คุณสามารถดาวน์โหลด Windows Server 2012 R2 เวอร์ชันทดลองใช้งาน 180 วัน (นับจากวันเปิดใช้งานครั้งแรก) ได้จากเว็บไซต์ Microsoft Technet – Windows Server 2012 R2 (180-day trial) โดยจะต้องเตรียมบัญชีไมโครซอฟท์ (Outlook หรือ Hotmail) สำหรับใช้ในการลงชื่อเพื่อเข้าระบบดาวน์โหลด โดยให้คุณต้องเลือกดาวน์โหลดรูปแบบไฟล์ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน ดังนี้

  • ไฟล์อิมเมจไอเอสโอ (ISO image) สามารถนำไปใช้ทำการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์จริงและคอมพิวเตอร์เสมือน
  • ไฟล์ฮาร์ดดิสก์เสมือน (VHD)  เป็นระบบที่ติดตั้ง Windows Server 2012 R2 ไว้ล่วงหน้า และต้องการแพล็ตฟอร์มเสมือน เช่น Hyper-V ในการรันระบบ

ทั้งนี้ ในกรณีที่ดาวน์โหลดไฟล์อิมเมจไอเอสโอเพื่อนำไปใช้ทำการติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์จริงนั้น คุณจะต้องทำการเบิร์นลงแผ่นดีวีดีหรือ สร้างแฟลชไดรฟ์ USB สำหรับติดตั้ง Windows ก่อนจึงจะสามารถนำไปใช้ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่ถ้าคุณวางแผนที่จะติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) คุณสามารถนำไปใช้ได้ทันทีครับ

หมายเลขผลิตภัณฑ์สำหรับติดตั้ง Windows Server 2012 R2
การติดตั้ง Windows Server 2012 R2  นั้นไม่ต้องใช้หมายเลขผลิตภัณฑ์ แต่การเปิดใช้งานนั้นต้องใช้หมายเลขผลิตภัณฑ์ โดยลูกค้า VL สามารถดูหมายเลขผลิตภัณฑ์ได้จากเว็บไซต์ VLSC ส่วนคนที่ใช้เวอร์ชันทดลองใช้งาน 180 วันนั้นหมายเลขผลิตภัณฑ์จะฝังอยู่ไว้ในตัวมาเรียบร้อยแล้ว

ความต้องการระบบของ Windows Server 2012 R2
Windows Server 2012 R2 มีความต้องการระบบฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำดังนี้

  • โปรเซสเซอร์: 1 GHz 64-บิต
  • หน่วยความจำ: อย่างน้อย 512 MB
  • ฮาร์ดดิสก์: พื้นที่ฮาร์ดดิสก์อย่างต่ำ 32 GB

ความต้องการระบบอื่นๆ:

  • การ์ดเครือข่าย Gigabit 10/100/1000Base-T
  • ไดรฟ์ DVD (ในกรณีต้องการติดตั้งระบบปฏิบัติการจากแผ่นดีวีดี)
  • จอภาพความละเอียด 1024×768 หรือสูงกว่า
  • แป้นพิมพ์, เม้าส์ และอินเทอร์เน็ต (ในกรณีที่คุณต้องการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต)

ข้อมูลด้านบนเป็นเพียงความต้องการระบบขั้นต่ำสำหรับใช้ในการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 นะครับ ถ้าหากมีการติดตั้งหน้าที่และบทบาทจะต้องใช้หน่วยความจำ, พื้นที่ฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนะครับ

การติดตั้ง Windows Server 2012 R2 (Server Core Installation)
เมื่อเตรียมชุดติดตั้ง Windows Server 2012 R2 เสร็จแล้ว เราก็พร้อมสำหรับลงมือทำการติดตั้ง Server Core ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ

อ่านวิธีการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 (Server with a GUI)

1. ทำการเริ่มต้นเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยชุดติดตั้ง Windows Server 2012 R2 จากนั้นบนหน้า Windows Setup ให้เลือกภาษาที่ต้องการ และตั้งค่าอื่นๆ ตามความต้องการ เสร็จแล้วคลิก Next เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป ในที่นี้ผมเลือก:

  • Language to install: English
  • Time and currency format: English (United States)
  • Keyboard or input method: US

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 1

2. บนหน้า Windows Setup ดังรูปประกอบด้านล่างให้คลิก Install Now เพื่อเริ่มการติดตั้ง Windows Server 2012 R2

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 2

3. บนหน้า Windows Setup ดังรูปประกอบด้านล่างเลือกติดตั้ง Windows Server 2012 R2 Standard (Server Core Installation) x64 แล้วคลิก Next เพื่อดำเนินการติดตั้ง Server Core ในขั้นตอนถัดไป

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 3

4. บนหน้า License terms ให้อ่านข้อตกลงการใช้งานเสร็จแล้วให้คลิกเช็คบ็อกซ์ I accept the license terms จากนั้นคลิก Next เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 4

5. บนหน้า Which type of installation do you want? ดังรูปด้านล่างให้เลือกเป็น Custom: Install Windows only (advanced)

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 5

6. บนหน้า Where do you want to install Windows? ให้เลือก Hard Disk หรือ Partition ที่ต้องการติดตั้ง (ในที่นี้ผมเลือกติดตั้งบน Drive 0) เสร็จแล้วคลิก Next เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไป

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 6

7. ระบบจะเริ่มทำการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 Server Core โดยจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ คือ Copying Windows files, Getting files ready for installation, Installing features, Installing updates และ Finishing up ให้รอจนการติดตั้งแล้วเสร็จ

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 7

หลังจากดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ Windows จะทำการเริ่มต้นระบบใหม่ดังรูปที่ 8

ทิป: ขั้นตอนนี้เราสามารถทำการเริ่มต้นระบบใหม่ทันทีโดยการคลิก Restart now

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 8

8. เมื่อระบบพร้อมใช้งาน Windows จะแจ้งให้ทำการตั้งรหัสผ่านดังรูปที่ 9 ให้คลิก OK จะปรากฏหน้าต่างดังรูปที่ 10

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 9

บนหน้าต่างดังรูปที่ 10 ให้ทำการป้อนรหัสผ่าน 2 ครั้ง ในช่อง New password และ Confirm password เสร็จแล้วคลิกไอคอนลูกศรหรือกดปุ่ม Enter จะได้หน้าต่างดังรูปที่ 11 จากนั้นคลิก OK เพื่อลงชื่อเข้าระบบ Windows Server 2012 R2 Server Sore จะได้หน้าต่างคอมมานด์พร้อมท์ดังรูปที่ 12

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 10

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 11

Windows Server 2012 R2 คือ

รูปที่ 12

สำหรับการติดตั้ง Windows Server 2012 R2 แบบ Server Core คงมีขั้นตอนเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วเรายังไม่สามารถนำเซิร์ฟเวอร์ไปใช้งานได้ในทันที แต่จะต้องทำการตั้งค่าระบบให้กับเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้รองรับกับวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้งานก่อน เช่น การตั้งชื่อเซิร์ฟเวอร์ (Computer Name) การตั้งค่าที่อยู่ไอพี (IP Address) การเพิ่มบทบาทและหน้าที่ (Roles and Features) เป็นต้น ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ ที่นี่

สามารถชมวิดีโอ “ติดตั้ง Windows Server 2012 R2 (Server Core Installation)” ได้จากลิงค์ด้านล่างครับ

ประวัติการปรับปรุง:
7 ธันวาคม 2558: เพิ่มวิดีโอ “ติดตั้ง Windows Server 2012 R2 (Server Core Installation)”

แหล่งข้อมูล
Microsoft

Share This
by

Windows Server 2012 R2 คือ