ประเทศสหรัฐอเมริกา(United States of America)สหรัฐอเมริกา (อังกฤษ: United States of America) โดยทั่วไปเรียก สหรัฐ (United States) หรือ อเมริกา (America) เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐ ประกอบด้วยรัฐ 50 รัฐ และหนึ่งเขตปกครองกลาง ห้าดินแดนปกครองตนเองสำคัญ และเกาะเล็กต่าง ๆ โดย 48 รัฐและเขตปกครองกลางตั้งอยู่ ณ ทวีปอเมริกาเหนือระหว่างประเทศแคนาดาและเม็กซิโก รัฐอะแลสกาอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ มีเขตแดนติดต่อกับประเทศแคนาดาทางทิศตะวันออกและข้ามช่องแคบเบริงจากประเทศรัสเซียทางทิศตะวันตก และรัฐฮาวายเป็นกลุ่มเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกกลาง ดินแดนของสหรัฐกระจายอยู่ตามมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียน ครอบคลุมเขตเวลาเก้าเขต ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศและสัตว์ป่าของประเทศหลากหลายอย่างยิ่ง Show
ภูมิศาสตร์อเมริกามีพื้นที่ขนาด 9.8 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 326 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลกและมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม และเป็นที่พำนักของประชากรเข้าเมืองใหญ่สุดในโลก การมีลักษณะแบบเมืองทะยานเกิน 80% ในปี 2010 และนำสู่มหภาค (megaregion) ที่เติบโตขึ้น เมืองหลวงของประเทศ คือ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และนครใหญ่สุดคือ นครนิวยอร์ก นอกจากนี้มีประชากรราว 318,892,103 คน (ประมาณการณ์โดย U.S. Census ณ เดือนมกราคม ปี 2557) สภาพภูมิอากาศสภาพอากาศโดยรวมในสหรัฐอเมริกา (USA) อยู่ในระดับปานกลางโดยมีข้อยกเว้นที่น่าสังเกต อะแลสกามีสภาพอากาศแบบทุนดราแบบอาร์กติกในขณะที่ฮาวายและฟลอริดาตอนใต้มีอากาศร้อนชื้น ทางตะวันออกของเส้นเมอริเดียนที่ 100 ลักษณะอากาศมีตั้งแต่ภาคพื้นทวีปชื้นทางเหนือถึงกึ่งเขตร้อนชื้นทางใต้ที่ราบใหญ่ทางตะวันตกของเส้นเมอริเดียนที่ 100 เป็นกึ่งแห้งแล้ง เขาทางตะวันตกส่วนใหญ่มีลักษณะอากาศแบบแอลป์ ลักษณะอากาศเป็นแบบแห้งแล้งในแอ่งใหญ่ ทะเลทรายในภาคตะวันตกเฉียงใต้ เมดิเตอร์เรเนียนในรัฐแคลิฟอร์เนียชายฝั่ง และภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้นภาคพื้นสมุทรในชายฝั่งรัฐออริกอนและรัฐวอชิงตัน และทางใต้ของรัฐอะแลสกา รัฐอะแลสกาส่วนใหญ่เป็นแบบกึ่งอาร์กติกหรือขั้วโลก รัฐฮาวายและปลายใต้สุดของรัฐฟลอริดามีลักษณะอากาศแบบเขตร้อน เช่นเดียวกับดินแดนที่มีประชากรอยู่อาศัยในทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก ในรัฐที่ติดอ่าวเม็กซิโกที่มีความเสี่ยงเกิดพายุเฮอร์ริเคน และทอร์เนโดส่วนใหญ่ของโลกเกิดในประเทศนี้ โดยเกิดในบริเวณตรอกทอร์เนโดแถบตะวันตกกลางและภาคใต้เป็นหลัก สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่มากสภาพอากาศและสภาพอากาศอาจแตกต่างกันไปตามฤดูกาล
โซนเวลาสหรัฐอเมริกาและดินแดนของตนดำเนินการภายใต้เขตเวลาเก้าโซนต่อไปนี้ (มีเพียงสี่เขตที่ใช้กับสหรัฐอเมริกาในภาคพื้นทวีป):
เวลาออมแสง (Daylight Saving Time)สหรัฐอเมริกาใช้เวลาออมแสง สุภาษิต “สปริงไปข้างหน้าถอยกลับ” ใช้กับเวลาออมแสง นาฬิกาจะตั้งล่วงหน้าหนึ่งชั่วโมงในวันอาทิตย์ที่สองของเดือนมีนาคมและย้อนกลับหนึ่งชั่วโมงในวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายน แอริโซนาฮาวายและดินแดนในอเมริกันซามัวกวมหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาเปอร์โตริโกและหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกาไม่เป็นไปตามเวลาออมแสง การเมืองการปกครองสหรัฐอเมริกาเป็นสาธารณรัฐตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลางซึ่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา (ประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล) รัฐสภาและอำนาจตุลาการแบ่งปันที่สงวนไว้ให้กับรัฐบาลแห่งชาติและรัฐบาลกลางแบ่งปันอำนาจอธิปไตยกับรัฐบาลของรัฐ รัฐและดินแดน (State and Territory)สหรัฐอเมริกา หรือ United States of America (USA) เป็นสหพันธรัฐที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตยอิงกับรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 50 รัฐ และ 1 เขตปกครองพิเศษ มีรายละเอียดดังนี้ รายละเอียด 6 ภูมิภาค ได้แก่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตะวันออกเฉียงใต้
มิดเวสต์
ตะวันตกเฉียงใต้
ทิศตะวันตก
แปซิฟิก
เขตการปกครอง
โครงสร้างทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพัฒนาสูง โดยมีเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกตามจีดีพีราคาตลาดอยู่ในอันดับต้น ๆ ในการวัดสมรรถภาพสังคมเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งรวมถึงค่าจ้างเฉลี่ยการพัฒนามนุษย์ จีดีพีต่อหัวและผลิตภาพต่อคนขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐถือว่าเป็นหลังอุตสาหกรรม (post-industrial) ซึ่งมีลักษณะที่บริการและเศรษฐกิจความรู้ครอบงำ แต่ภาคการผลิตยังมีขนาดใหญ่สุดอันดับสองของโลกแม้มีประชากรรวมเพียง 4.3% ของโลกแต่สหรัฐคิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของจีดีพีโลกและกว่าหนึ่งในสามของรายจ่ายทางทหารโลกทำให้เป็นชาติเศรษฐกิจและการทหารแนวหน้า สหรัฐเป็นประเทศการเมืองและวัฒนธรรมโดดเด่น และผู้นำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยี การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ช่วยให้นักอุตสาหกรรมโดดเด่นจำนวนมากเฟื่องฟูขึ้น นักธุรกิจใหญ่อย่างคอร์เนเลียส แวนเดอร์บิลท์, จอห์น ดี. ร็อกเกอะเฟลเลอร์และแอนดรูว์ คาร์เนกีนำความก้าวหน้าของชาติในอุตสาหกรรมรางรถไฟ ปิโตรเลียมและเหล็กกล้า การธนาคารกลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ โดยเจ. พี. มอร์แกนมีบทบาทเด่น ทอมัส เอดิสันและนิโคลา เทสลาทำให้ไฟฟ้ากระจายแพร่หลายสู่อุตสาหกรรม บ้านเรือนและสำหรับการให้แสงสว่างตามถนน เฮนรี ฟอร์ดปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ เศรษฐกิจอเมริกาเฟื่องฟูและกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก และสหรัฐได้สถานภาพมหาอำนาจ การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วนี้กอปรกับความไม่สงบทางสังคมและความเจริญของขบวนการประชานิยม สังคมนิยมและอนาธิปไตย สุดท้ายสมัยนี้สิ้นสุดลงด้วยการมาของสมัยก้าวหน้า (Progressive Era) ซึ่งมีการปฏิรูปสำคัญในสังคมหลายด้าน ซึ่งรวมทั้งสิทธิออกเสียงเลือกตั้งของสตรี การห้ามแอลกอฮอล์ การกำกับสินค้าบริโภค มาตรการป้องกันการผูกขาดที่มากขึ้นเพื่อประกันการแข่งขันและความใส่ใจความเป็นอยู่ของแรงงาน สกุลเงินเงินในสหรัฐอเมริกาเรียกว่าดอลลาร์ (รหัสสากลคือ ISO 4217 ใช้ตัวย่อว่า USD และสัญลักษณ์ $) ที่มาของคำว่า dollar สามารถนับย้อนไปได้เกือบห้าร้อยปี เมื่อวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1520 Bohemian Count Hieronymus Schlick (เช็ก: Jeroným Šlik z Passounu) ได้ริเริ่มการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่เรียกว่า “Joachimsthaler” โดยตั้งชื่อตามเหมือง Joachimsthal ที่เป็นแหล่งแร่เงินสำหรับผลิตเหรียญกษาปณ์นี้ (ภาษาเช็กปัจจุบันเรียกว่า Jáchymov) ในเวลาต่อมา “Joachimsthaler” ก็ถูกเรียกย่อลงเหลือเพียง “taler” หรือ “thaler” คำย่อนี้แพร่หลายไปทั่วยุโรปและบริเวณใกล้เคียง กลายเป็นคำในภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษาเช็กว่า tolar, ภาษาเดนมาร์กและภาษานอร์เวย์ว่า (rigs) daler, ภาษาสวีเดนว่า (riks) daler, ภาษาดัตช์ว่า (rijks) daalder, ภาษาเอธิโอเปียว่า ታላሪ (talari), ภาษาอิตาลีว่า tallero, ภาษาเฟลมิชว่า daelder, ภาษาเปอร์เซียว่า Dare, เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษก็กลายเป็น dollar เชื้อชาติชาวอเมริกันส่วนใหญ่หรือบรรพบุรุษของพวกเขาอพยพไปอเมริกาหรือสืบเชื้อสายมาจากคนที่ถูกนำมาเป็นทาสภายใน 5 ศตวรรษที่ผ่านมายกเว้นประชากรชาวอเมริกันพื้นเมืองและผู้คนจากฮาวาย เปอร์โตริโก กวมและหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ซึ่งกลายเป็นคนอเมริกันผ่านการขยายประเทศในศตวรรษที่ 19 นอกจากนี้อเมริกายังขยายเข้าไปในอเมริกันซามัว หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนาในศตวรรษที่ 20 แม้จะมีองค์ประกอบหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกาที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยึดถือร่วมกันยังสามารถเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมอเมริกันกระแสหลักซึ่งเป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่ได้รับมาจากประเพณีของชาวอาณานิคมในยุโรปเหนือและยุโรปตะวันตก ผู้ตั้งถิ่นฐานและผู้อพยพ นอกจากนี้ยังรวมถึงอิทธิพลของวัฒนธรรมแอฟริกัน – อเมริกันด้วย การขยายตัวไปทางตะวันตกได้รวม Creoles และ Cajuns of Louisiana และ Hispanos ทางตะวันตกเฉียงใต้เข้าด้วยกันและทำให้เกิดความใกล้ชิดกับวัฒนธรรมของเม็กซิโก การอพยพครั้งใหญ่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 จากยุโรปใต้และตะวันออกได้นำเสนอองค์ประกอบที่หลากหลาย การอพยพจากเอเชียแอฟริกาและละตินอเมริกาก็มีผลกระทบเช่นกัน หม้อหลอมทางวัฒนธรรมหรือชามสลัดพหุนิยมอธิบายถึงวิธีการที่ชาวอเมริกันรุ่นต่อรุ่นได้เฉลิมฉลองและแลกเปลี่ยนลักษณะทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้วชาวอเมริกันและคนเชื้อสายอเมริกันสามารถพบได้ในต่างประเทศ ชาวอเมริกันจำนวนมากถึงเจ็ดล้านคนคาดว่าจะอาศัยอยู่ในต่างประเทศและเป็นคนอเมริกันพลัดถิ่น ศาสนาจากการสำรวจปีค.ศ. 2014 ผู้ใหญ่ 70.6% ระบุตัวเองเป็นคริสต์ศาสนิกชนลดลงจาก 73% ในปีค.ศ. 2012 โปรเตสแตนต์นิกายต่าง ๆ คิดเป็น 46.5% ในขณะที่นิกายโรมันคาทอลิกคิดเป็น 20.8% เป็นนิกายเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุด ศาสนาอื่นนอกเหนือจากศาสนาคริสต์ที่รายงานทั้งหมดในปี 2014 มี 5.9% ศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ ศาสนายูดาห์ (1.9%), ศาสนาอิสลาม (0.9%), ศาสนาฮินดู, (0.7%) ศาสนาพุทธ (0.7%) การสำรวจยังรายงานว่าชาวอเมริกัน 22.8% ระบุตัวเองว่าอไญยนิยม, อเทวนิยมหรือไม่มีศาสนา เพิ่มขึ้นจาก 8.2% ในปีค.ศ. 1990 นอกจากนี้ยังมีชุมชน ยูนิทาเรียนยูนิเวอร์แซลิสต์, ศาสนาบาไฮ, ศาสนาซิกข์, ศาสนาเชน, ลัทธิชินโต, ลัทธิขงจื๊อ, ลัทธิเต๋า, ดรูอิด, พื้นเมืองอเมริกัน, วิคะ, มนุษยนิยม, และเทวัสนิยม วัฒนธรรมสหรัฐเป็นบ้านของหลายวัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์, ประเพณี และค่านิยมต่าง ๆ นอกเหนือจากประชากรอเมริกันพื้นเมือง ชาวฮาวายพื้นเมืองและชาวอะแลสกาพื้นเมือง อเมริกันหรือบรรพบุรุษของพวกเขาเกือบทั้งหมดตั้งรกรากหรือเข้าเมืองภายในห้าศตวรรษที่ผ่านมาวัฒนธรรมอเมริกันกระแสหลักเป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่แปลงมาจากประเพณีของผู้เข้าเมืองชาวยุโรปที่มีอิทธิพลจากแหล่งอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก เช่น ประเพณีที่ทาสจากทวีปแอฟริกานำเข้ามาการเข้าเมือง ล่าสุดจากเอเชียและโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากละตินอเมริกา เพิ่มการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เรียกว่าเป็นทั้งหม้อหลอมเป็นเนื้อเดียวกันและชามสลัดต่างชนิดกัน ในที่ซึ่งผู้อพยพและลูกหลานของพวกเขายังคงรักษาลักษณะทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น ภาษาแม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่มีภาษาราชการในระดับสหพันธรัฐ แต่ 28 รัฐได้ผ่านการออกกฎหมายกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการและถือว่าเป็นภาษาประจำชาติโดยพฤตินัย จากการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2000 ชาวอเมริกันมากกว่า 97% สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีและ 81% เป็นภาษาเดียวที่พูดที่บ้าน มากกว่า 300 ภาษานอกเหนือจากภาษาอังกฤษมีเจ้าของภาษาในสหรัฐอเมริกา – บางภาษาพูดโดยชนพื้นเมือง (ประมาณ 150 ภาษาที่มีชีวิต) และภาษาอื่น ๆ ที่ผู้อพยพนำเข้า การคมนาคมการคมนาคมในสหรัฐอเมริกาอำนวยความสะดวกทั้งทางถนน ทางอากาศ ทางรถไฟ และทางน้ำ (ทางเรือ) การเดินทางของผู้โดยสารส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยรถยนต์ในระยะทางสั้น ๆ และเครื่องบิน (หรือทางรถไฟในบางภูมิภาค) สำหรับระยะทางที่ไกลขึ้นตามลำดับจากมากไปหาน้อย สินค้าส่วนใหญ่เดินทางโดยทางรถไฟ รถบรรทุก ท่อหรือเรือ โดยทั่วไปแล้วการขนส่งทางอากาศจะใช้สำหรับสินค้าที่เน่าเสียและการขนส่งด่วนพิเศษเท่านั้น การขนส่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ระบบไฟฟ้าประเทศที่ใช้ : อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และญี่ปุ่น Type A ปลั๊กไฟแบบแรกจะเป็นแบบใบมีดเรียบแบน 2 ขา ตัวขาทั้งสองข้างถ้าเป็นในอเมริกาจะไม่เท่ากัน ฝั่งหนึ่งจะใหญ่กว่า แต่ถ้าเป็นของญี่ปุ่นขาทั้งสองข้างจะเท่ากัน ถ้าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นไปเสียบที่อเมริกาก็จะเสียบได้ แต่ถ้าเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอเมริกามาเสียบที่ญี่ปุ่นจะเสียบไม่ค่อยได้ เพราะขาด้านหนึ่งจะใหญ่กว่ากัน ซึ่งไม่เข้ากับเต้ารับนั่นเอง และถ้าสังเกตดี ๆ ในปลั๊กประเภทนี้จะมีรูเล็ก ๆ อยู่ที่ขาทั้งสองด้าน มีเอาไว้ล็อกกับปุ่มด้านในเต้ารับ ทำให้เสียบปลั๊กได้แน่นขึ้นนั่นเอง บ้านเราก็มีปลั๊กแบบนี้เช่นกัน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ก็นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น Type B ปลั๊กไฟประเภทนี้ก็มีการใช้อย่างแพร่หลายในอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และญี่ปุ่น มีลักษณะเป็นปลั๊ก 3 ขา โดยมีขาแบน 2 ขา และขากลม 1 ขา เจ้าขากลมนั้นจะยาวกว่าขาแบนทั้ง 2 ขา (ขากราวด์) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าถูกต่อไปยังสายดินก่อนที่จะมีการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้า สอบถามข้อมูลการบริการเพิ่มเติมติดต่อ ที่มา:
ข้อมูลประเทศสหรัฐอเมริกาาอเมริกา, ข้อมูลประเทศอเมริกา เพราะเหตุใดภาคตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ จึงมีประชากรหนาแน่น1. บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นได้แก่ ภาคตะวันออกของทวีป ซึ่งมีลักษณะภูมิ ประเทศเป็นที่ราบ มีอากาศอบอุ่นสบาย ได้รับอิทธิพลจากทะเล มีปริมาณฝนเพียงพอเหมาะแก่การ เพาะปลูก อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ เหล็ก ถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียมส่งเสริมอุตสาหกรรมให้ เจริญก้าวหน้า การคมนาคมขนส่งสะดวก
เพราะเหตุใดบริเวณชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือจึงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่าบริเวณอื่นเพราะเหตุใดบริเวณชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือจึงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่าบริเวณอื่น ก. เพราะเป็นเทือกเขาสูงและมีภูมิประเทศสวยงาม
บริเวณใดของทวีปอเมริกาเหนือที่มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่นบริเวณใดของทวีปอเมริกาเหนือมีประชากรอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นมากที่สุด ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ตอนกลางของประเทศ ทะเลสาบทั้งห้า รอบอ่าวเม็กซิโก ชายฝั่งตะวันตก แถบเมืองแซนแฟรนซิสโก ลอสแอนเจลิส ตอนกลางของประเทศเม็กซิโก หมู่เกาะอินดีสตะวันตก
ประชากรส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือสืบเชื้อสายมาจากที่ใดการแบ่งภูมิภาคของทวีปอเมริกาเหนือ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. แองโกลอเมริกา ได้แก่ ดินแดนที่อยู่ทางตอนเหนือของแม่น้ำรีโอแกรนด์ขึ้นไป ประกอบด้วยประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประชากรส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากชาวอังกฤษ
|