โดยปกติแล้วจะเห็นว่าถ้าเราใช้เครื่องพิมพ์บ่อย ๆ หรือใช้ทุกวัน หัวพิมพ์มักจะไม่ตัน การไม่ใช้เครื่องพิมพ์นานเกิน 5-10 วัน จะทำให้หัวพิมพ์บริเวณท่อหมึกแห้ง และส่งผลให้หัวพิมพ์ตันในที่สุด Show
วิธีแก้ไข : แก้ไขด้วยการล้างหัวพิมพ์ด้วยคำสั่งล้างหัวพิมพ์ 1-2 ครั้ง ก็กลับมาใช้ได้ปกติ 2. การอุดตันของสิ่งสกปรกหรือตะกอนสี การอุดตันของหัวพิมพ์อีกสาเหตุเกิดจาก มีสิ่งสกปรกในน้ำหมึกที่ใส่เข้าไป หรือตะกอนสีสะสมที่อยู่บนผิวตะแกรงกรองหมึกก่อนผ่านเข้าสู่หัวพิมพ์ ทำให้น้ำหมึกไหลผ่านเข้าสู่หัวพิมพ์ไม่ได้ หัวพิมพ์จึงไม่สามารถพ่นน้ำหมึกพิมพ์ออกมาได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้หัวพิมพ์ตัน วิธีการแก้ไข โดยส่วนใหญ่เครื่องพิมพ์ EPSON มักจะแก้ไขโดยการถอดหัวพิมพ์ออกมา แล้วทำการฉีดน้ำยาล้างหัวพิมพ์เข้าไป เพื่อล้างให้ช่องพ่นหมึกสะอาด แต่ความจริงแล้ววิธีนี้กลับจะยิ่งทำให้หัวพ่นอุดตันมากขึ้น เพราะตอนที่ฉีดล้างแรงฉีดจะทำให้สิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่กว่ารูพ่นหมึก ไหลทะลุผ่านแผ่นกรองเข้าไปในท่อพ่นหมึกแล้วไปอุดตันอยู่ที่รูพ่นหมึก ถ้าเราฉีดน้ำยาล้างเข้าไปซ้ำ ๆ แบบนี้ก็จะยิ่งทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปกอง และอุดตันอยู่ที่รูพ่นหมึกมากขึ้น ส่งผลให้หัวพิมพ์เกิดความเสียหาย จนไม่สามารถใช้งานได้อีก เครื่องปริ้นท์ แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะพวกที่เป็น Multifunction ทั้งหลาย แต่รู้ไหมว่า มันกลับเป็นอุปกรณ์ที่มีความเปราะบางกว่าที่คิด และมีความยุ่งยากในการดูแลเกินคาด ฉะนั้น Techhub วันนี้ ก็ขอแนะนำ ‘5 ข้ออย่าหาทำ’ สำหรับเครื่องปริ้นท์ประเภท ‘Inkjet’ ที่นิยมใช้กันมากที่สุด หากไม่อยากให้เครื่องปริ้นท์ประเภทนี้พังเร็ว ลองมาดูกันครับ 1. แช่เครื่องทิ้งไว้นานเกินไปเป็นปัญหา Basic เลยสำหรับเครื่องปริ้นท์ประเภท Inkjet ที่หากปล่อยไว้นาน ไม่เคยใช้งานหรือสั่งพิมพ์มันเลย ก็ย่อมส่งผลให้หัวพิมพ์เกิดแห้ง และสุดท้ายอุดตันจนใช้งานไม่ได้ในที่สุด ดังนั้นควรหมั่นใช้งานอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งจะเป็นการดี ทั้งนี้เครื่องปริ้นท์ส่วนใหญ่เป็นแบบติด Tank กันซะเยอะ ดังนั้นห้ามปล่อยให้แห้งเด็ดขาด ไม่งั้นได้ยกไปซ่อมทั้งเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องปริ้นท์ใหม่แน่ จุดนี้ก็มีเครื่องปริ้นท์บางรุ่น เช่น Canon PIXMA G3020 ที่เป็น Inkjet แบบติด Tank แต่สามารถถอดหัวเปลี่ยนพิมพ์ได้เลย ช่วยเพิ่มความสะดวกให้พอควร 2. เติมหมึกผิดรุ่นและแบรนด์เป็นข้อห้ามที่สำคัญมาก ๆ จำไว้เลยว่า ใช้เครื่องปริ้นท์รุ่นไหน ก็ควรเติมหมึกให้ตรงรุ่นนั้น ๆ เนื่องด้วยเครื่องปริ้นท์หลายรุ่น มักจะมีการใช้งานประเภทน้ำหมึกที่ไม่เหมือนกัน แม้จะเป็น Inkjet หรือใช้ 3 สีเหมือนกันก็ตาม ห้ามเติมผิดเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลให้ตัวเครื่องขัดคล่องจนพังได้ง่าย ๆ เลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้หมึกแบบไหนถึงตรงรุ่น จุดนี้ก็ดูง่าย ๆ สองจุดคือ หนึ่ง หมึกพิมพ์ต้องมาจากแบรนด์เดียวกับเครื่องปริ้นท์ สอง ดูรหัสของตัวหมึก ซึ่งตัวเครื่องปริ้นท์ที่ใช้จะมีบอกเองว่าต้องใช้หมึกรหัสอะไร ก็ใช้งานตามนั้นเลย 3. ฝืนใช้งานตอนหมึกใกล้หมดเครื่องปริ้นท์แบบ Inkjet จะใช้ ‘ความร้อน’ ในการพิมพ์นี้เอง ดังนั้นหากฝืนใช้งานตอนหมึกใกล้หมด จนสุดท้ายหมึกหมด ก็อาจส่งผลให้เกิดความร้อนมากเกินจนหัวพิมพ์เสียได้ ยังดีที่เครื่องปริ้นท์หลายรุ่นในปัจจุบัน จะมีฟีเจอร์ช่วยแจ้งเตือนเวลาพบหมึกในเครื่องใกล้หมด ทำให้เราสามารถเติมหมึกก่อนหมดได้ถูกเวลา 4. ปิดเครื่องผิดขั้นตอนทุกครั้งที่เวลาไม่ได้ใช้งานตัวเครื่องปริ้นท์แล้ว หากเราปิดเครื่องโดยกด OFF ตรงตามขั้นตอน ตัวหัวพิมพ์มันจะเลื่อนไปยังที่เก็บ หรือจุดพักหัวพิมพ์ของมันเองโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากเราไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ไม่ได้มีการปิดเครื่อง หรือชักปลั๊้กซะเลย ก็อาจทำให้น้ำหมึกจากหัวพิมพ์ไหลเรื่อย ๆ จนพังทั้งหัวพิมพ์และตัวเครื่องแน่นอน 5. ปล่อยให้ซับหมึกเต็มสำหรับข้อนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ‘ซับหมึก’ คืออะไร ส่วนนี้ก็คือฟองน้ำ ที่คอยช่วยซับหมึกตามชื่อเลย โดยทุกครั้งที่เราใช้งาน มันจะมีน้ำหมึกส่วนเกินเล็ก ๆ ที่จะไหลสะสมไปเรื่อย ๆ ไปยังถาดรองรับใต้เครื่อง แน่นอนว่าหากปล่อยให้ไว้นานจนเต็ม เครื่องอาจจะฟ้องและปิดการใช้งานไปเลย จนต้องเปลี่ยนฟองน้ำซับหมึก คำถามคือ เปลี่ยนยังไง ? เครื่องปริ้นท์หลายรุ่นก็เปลี่ยนเองได้ยากอีก สุดท้ายต้องยกไปส่งศูนย์ในที่สุด ยังดีที่มีเครื่องปริ้นท์บางรุ่นอย่าง Canon PIXMA G3020 สามารถถอดถาดซับหมึกเองได้ง่าย ๆ สามารถซื้อเปลี่ยนใหม่ได้เลย ไม่ต้องลำบากยกทั้งเครื่อง Facebook Comments
SHARE Previous articleใช้ได้จริง ร้านดังรับกระแสคริปโต ให้จ่ายเงินด้วยเหรียญดิจิตอล Next articleช้าไปหรือเปล่า ZOOM เพิ่มความปลอดภัย ให้ผู้ใช้ อัปเดตอัตโนมัติ @KBenZ จากคอลัมนิสต์ Comtoday สู่ Content Editor ใน Techhub และ Commart เมื่อก่อนอยากเป็นนักบินอวกาศ ปัจจุบันมีจักรวาล IT กับ PC และ Gaming หมุนรอบตัว Javascript ถูกปิดใช้งานในเบราว์เซอร์นี้ หน้านี้จำเป็นต้องใช้ Javascript แก้ไขค่าติดตั้งของเบราว์เซอร์ของคุณเพื่ออนุญาตให้เรียกใช้ Javascript ได้ โปรดดูเอกสารคู่มือของเบราว์เซอร์สำหรับคำสั่งเฉพาะ {} Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30U5 กำลังโหลด... ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า HP - ฐานความรู้
Z7_41I02JG0KOLGD0QK67BGRL1004 กำลังโหลด... ฝ่ายบริการลูกค้า ค้นหา
เลือกรุ่นผลิตภัณฑ์ของคุณHP สามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ HP และแนะนำวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว © Copyright 2022 HP Development Company, L.P. Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA3014 กำลังโหลด...
Z7_3054ICK0KGTE30AQO5O3KA30N0 กำลังโหลด... เครื่องพิมพ์ HP DeskJet, ENVY, OfficeJet - หมึกดำหรือหมึกสีไม่พิมพ์ออกมา ปัญหาคุณภาพการพิมพ์อื่น ๆ เอกสารนี้ใช้สำหรับเครื่องพิมพ์ HP DeskJet Ink Advantage 5645, ENVY 5640, 5642, 5643, 5644, 5646, 5660, 5661, 5663, 5664, 5665, 7640, 7643, 7644, 7645, OfficeJet 5740, 5741, 5742, 5743, 5744, 5745, 5746 และ 8040 e-All-in-One ซึ่งมีระบบ Neat คุณภาพเอกสารหรือภาพที่พิมพ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ขั้นตอนในเอกสารชุดนี้อาจสามารถช่วยแก้ไขปัญหางานพิมพ์เป็นรอยหรือซีดจาง สีขาดหาย หรือข้อความไม่ชัดเจน งานพิมพ์เลอะหมึก มีรอยหมึก หมึกเลอะ รวมทั้งปัญหาคุณภาพการพิมพ์อื่น ๆ บันทึก ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งไดร์เวอร์เครื่องพิมพ์ใหม่ (เฉพาะ Windows)หากไม่สามารถพิมพ์สีจากคอมพิวเตอร์ระบบ Windows ให้ถอนการติดตั้งและติดตั้งซอฟต์แวร์เครื่องพิมพ์ใหม่ ข้ามขั้นตอนนี้หากเครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์สีได้
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตลับหมึกพิมพ์ HP ของแท้HP ขอแนะนำให้ใช้ตลับหมึกแท้จาก HP เท่านั้น HP ไม่รับประกันคุณภาพหรือความน่าเชื่อถือของตลับหมึกที่ไม่ใช่ของ HP หรือตลับหมึกเติม หากคุณไม่ใช้ตลับหมึกแท้จาก HP ขั้นตอนในเอกสารชุดนี้อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ตรวจสอบความถูกต้องสำหรับตลับหมึกของคุณได้ตามคำแนะนำในหน้าเว็บ HP anti-counterfeit (การต่อต้านการปลอมแปลง) (ภาษาอังกฤษ) รายละเอียดตลับหมึก ทั่วโลก ตลับหมึกดำ HP 62 ดำ HP 62XL ดำ ตลับหมึกสี HP 62 สามสี HP 62XL สามสี จัดซื้อตลับหมึกเปลี่ยนแทนและอุปกรณเสริมอื่นๆ จาก HP Storeหรือผู้ขายปลีกในท้องถิ่น ขั้นตอนที่ 3: ปล่อยเครื่องพิมพ์ทิ้งไว้สักครู่ปัญหาคุณภาพการพิมพ์หลายอย่าง เช่น ข้อความสีดำไม่ชัดเจนหรือปัญหาสำหรับตลับหมึกที่ติดตั้งใหม่ ให้แก้ไขปัญหาผ่านกระบวนการให้บริการอัตโนมัติ คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไร คุณภาพการพิมพ์ควรจะเริ่มดีขึ้นในไม่กี่ชั่วโมง รอให้ระบบบริการอัตโนมัติดำเนินการเสร็จสิ้นไม่ไหวหากคุณไม่สามารถรอให้ส่วนบริการอัตโนมัติดำเนินการเสร็จสิ้น การทำความสะอาดตลับหมึกอาจแก้ไขปัญหาได้ การทำความสะอาดหัวพิมพ์ทำให้ต้องใช้หมึกมากกว่าระบบบำรุงรักษาอัตโนมัติ บันทึก
หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบกระดาษใช้คำแนะนำต่อไปนี้เพื่อให้แน่ใจว่ากระดาษที่คุณใช้เหมาะสมสำหรับงานพิมพ์ หากไม่เหมาะสม ให้ใส่กระดาษที่เหมาะสมลงในเครื่องลงไปใหม่
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบการตั้งค่าการพิมพ์ตรวจสอบการตั้งค่าการพิมพ์เพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่ตั้งไว้นั้นเหมาะสำหรับงานพิมพ์ของคุณ Windowsทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบค่าการพิมพ์สำหรับงานพิมพ์ของคุณ
Macตรวจสอบค่าการพิมพ์สำหรับงานพิมพ์ใน Mac ของคุณ
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบหมึกเลอะที่ด้านหลังของงานพิมพ์หากมีเลอะหมึกที่ด้านหลังของงานพิมพ์ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อแก้ไขปัญหา
หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบระดับหมึกพิมพ์โดยประมาณตรวจสอบระดับหมึกโดยประมาณจากแผงควบคุมเครื่องพิมพ์ บันทึก จากแผงควบคุมเครื่องพิมพ์ กดเลือกไอคอน Ink (หมึก) เพื่อแสดงระดับหมึกโดยประมาณในปัจจุบันขั้นตอนที่ 8: เปลี่ยนตลับหมึกที่หมึกเหลือน้อยหรือหมึกหมดเปลี่ยนตลับหมึกที่หมึกเหลือน้อยมากหรือหมึกหมด หรือข้ามไปขั้นตอนต่อไป
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 9: พิมพ์รายงานวินิจฉัยคุณภาพการพิมพ์ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อพิมพ์รายงานวินิจฉัยปัญหาคุณภาพการพิมพ์
ตัวอย่างรายงานวินิจฉัยปัญหาคุณภาพการพิมพ์ที่ไม่มีปัญหาอะไร ตัวอย่างรายงานวินิจฉัยปัญหาคุณภาพการพิมพ์ที่พบปัญหา ขั้นตอนที่ 10: ตรวจสอบบล็อคสีว่ามีความผิดปกติหรือไม่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของบล็อคสี
ขั้นตอนที่ 11: ทำความสะอาดตลับหมึกพิมพ์ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อทำความสะอาดตลับหมึกจากแผงควบคุมของเครื่องพิมพ์ บันทึก
หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 12: ตรวจสอบเส้นจัดเรียงตลับหมึกและบล็อคสีว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบเส้นจัดเรียงตลับหมึกและบล็อคว่ามีปัญหาหรือไม่
ขั้นตอนที่ 13: จัดเรียงเครื่องพิมพ์ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อจัดเรียงตลับหมึกพิมพ์จากแผงควบคุม
ขั้นตอนที่ 14: ทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ หัวฉีดพ่นหมึกอย่าใช้ขั้นตอนเหล่านี้หากหน้าทดสอบหรือผลงานพิมพ์ไม่มีแถบหมึกหรือคราบหมึกเลอะ หากพบคราบหรือรอยหมึกที่ผลงานพิมพ์ ให้ทำตามขั้นตอนนี้ตอไปเพื่อทำความสะอาดพื้นที่รอบ ๆ หัวฉีดจ่ายหมึก
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 15: เปลี่ยนตลับหมึกพิมพ์ที่มีปัญหาเปลี่ยนตลับหมึกที่มีปัญหาหากพบข้อผิดพลาดในรายงานวินิจฉัยปัญหาคุณภาพการพิมพ์ และหากขั้นตอนก่อนหน้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แม้ว่าตลับหมึกจะไม่ได้มีหมึกเหลือน้อยก็ตาม ตลับหมึกพิมพ์ที่มีปัญหาคือตัวที่พิมพ์แล้วพบปัญหาในรายงานวินิจฉัยคุณภาพการพิมพ์ตามขั้นตอนที่ระบุก่อนหน้าในเอกสารชุดนี้ หากคุณมีตลับหมึกหรือหัวพิมพ์ที่มีปัญหา ชิ้นส่วนเหล่านั้นอาจอยู่ภายใต้การรับประกัน ตรวจสอบการรับประกันสำหรับหมึกของคุณได้ที่ Printer and Page Yield Overview จากนั้นตรวจสอบรายละเอียดการรับประกันแบบจำกัดเงื่อนไขสำหรับวัสดุสิ้นเปลืองของคุณ
ทดลองพิมพ์งาน หากขั้นตอนเหล่านี้สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณไม่ต้องแก้ไขปัญหาใด ๆ อีก ขั้นตอนที่ 16: นำเครื่องพิมพ์ส่งซ่อมซ่อมหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ HP หากยังคงมีปัญหาอยู่หลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นทั้งหมดแล้ว ไปที่ ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ HP เพื่อนัดส่งเครื่องพิมพ์ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ หากคุณอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค คุณจะต่อสายตรงไปยังศูนย์บริการท้องถิ่นในพื้นที่ของคุณ ในการยืนยันสถานะการรับประกันของคุณ ให้ไปที่ การตรวจสอบการรับประกันผลิตภัณฑ์ HP อาจมีค่าบริการซ่อมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่อยู่ในประกัน บันทึก |