เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

ทำไมเราต้องทำกิจกรรม จิตอาสา

กระทู้คำถาม

จิตอาสา การพัฒนาสังคม (Social Development) อาสาสมัคร รัฐบาล

คือจิตอาสาเป็นวิชาบังคับในหลักสูตรการเรียนของเรา ซึ่งกิจกรรมที่เราเลือกทำโครงการคือ การเรียนรู้จิตอาสา ซึ่งเราอยากทราบความคิดเห็นที่ว่า ทำไมเราต้องทำจิตอาสา คือตอนนี้มองว่ามันถูกใช้ผูกโยงกับเรื่องความดี เพื่อเป็นเครื่องมือของสังคมที่รัฐไม่ดูแลเรื่องสวัสดิการและโครงสร้างพื้นฐาน เลยอยากรุ้มุมมองอื่นบ้าง

0

2

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

สมาชิกหมายเลข 5737323

สมาชิกหมายเลข 3569229 ถูกใจ, Synonym11 ถูกใจ

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา
สังคมส่วนรวม

โครงการจิตอาสา กลายเป็นอีกหนึ่งโครงการในการพัฒนาสังคมที่ดีมาก และกำลังได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ โครงการจิตอาสาอาจจะมาในรูปแบบที่แตกต่างกันไปอย่างเช่น การเก็บขยะในพื้นที่ท่องเที่ยว, การปลูกต้นไม้, การร่วมกันบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ เป็นต้น โครงการจิตอาสามีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไรบ้าง เรามาดูกัน

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา
สังคมส่วนรวม

หนึ่ง เป็นตัวอย่างการทำความดี

การสั่งสอนให้คนรุ่นใหม่กลายเป็นคนดี อยู่ร่วมกันในสังคมได้นั้น สิ่งที่สอนได้ดีสุดก็คือ การทำเป็นตัวอย่างให้เค้าดู โครงการจิตอาสานับว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ และตัวอย่างสำคัญของคนรุ่นใหม่ด้วย การทำให้เค้าเห็นว่าการร่วมกันทำความดีเป็นอย่างไร ได้อะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนรุ่นใหม่มองเห็น เข้ามาสัมผัส และซึมซับด้วยตัวเองแบบไม่ต้องพูดอะไรเลย ดั่งคำที่ว่าตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน

สอง สร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่

สังคมสมัยนี้ยอมรับเลยว่า น่ากลัวอยู่นะ มีข่าวร้าย ข่าวอาชญากรรม ข่าวน่ากลัว เกิดขึ้นให้เห็นทุกวันไม่ว่าจะเป็น ค้ายาเสพติด ฉกชิงวิ่งราว ขโมย ฆ่าแกง เห็นกันเยอะมาก จนทำให้คนยุคนี้มองว่าสังคมไม่น่าอยู่น่ากลัว การได้ทำโครงการจิตอาสาแบบนี้จะทำให้เราเห็นว่าแท้จริงแล้วสังคมไทยเรายังมีมุมดีอีกเยอะมาก การได้ออกมาทำอะไรร่วมกันเพื่อสังคมเป็นข่าวดี เป็นเรื่อราวที่สร้างขึ้นเพื่อสื่อสารต่อคนในสังคมเพื่อให้รู้สึกว่า สังคมเราน่าอยู่นะ ยังดีนะ

สาม ช่วยกันรักษา

เราเคยเจอข่าวที่ว่าสังคมไทยไม่สะอาด มีขยะเยอะมากหลังการจัดงานต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไร หากเราทำโครงการจิตอาสาเกี่ยวกับการเก็บขยะล่ะจะเป็นอย่างไร เราเชื่อว่าคนที่ไปเข้าโครงการจิตอาสาเก็บขยะ เวลาไปงานที่ไหน หรือ เที่ยวอะไร เค้าจะคิดทุกครั้งก่อนจะทิ้งเลยว่า สิ่งที่เราทำนั้นไม่ถูก ควรมองหาถังขยะกันซะมากกว่า หรือบางทีเราไปทำโครงการจิตอาสาเพื่อพัฒนาพื้นที่ อย่างทำความสะอาดทาสีกำแพงเมืองใหม่ บอกเลยว่าครั้งต่อไปที่เค้าคิดจะขีดเขียนอะไรลงไปก็คงต้องมียั้งบ้าง หรือ อาจจะเลิกทำพฤติกรรมเหล่านั้นไปเลยก็ได้

สี่ ส่งเสริมความสามัคคี

ถามว่าอะไรทำให้ชาติแข็งแกร่งที่สุด คำตอบก็คือ ความสามัคคีของคนในชาตินี่แหละไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไหนเลย ถ้าคนในชาติสามัคคีกันก็ยากที่ใครจะทำอะไรได้ ความสามัคคีเกิดจากการที่คนในชาติร่วมมือกันทำอะไรบางอย่าง ซึ่งโครงการจิตอาสาที่ทำพร้อมกันทั่วประเทศนี่แหละจะเป็นตัวกลางสำคัญในการส่งเสริมความสามัคคีของคนในชาติ จากข้อดีเหล่านี้หากใครว่างเราขอเชิญชวนออกมาทำโครงการจิตอาสากัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็สำคัญนะ

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

ปัจจุบันสังคมธุรกิจไทยในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ต้องประสบปัญหาต่าง ๆ มากมาย อันเกี่ยวเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม การไม่เข้าใจในตัวบทกฎหมายของบ้านเมือง และกระแสการเปลี่ยนแปลงทางโซเชียลมีเดียที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดการแข่งขันสูง

เจ้าของธุรกิจไทยส่วนใหญ่ยังเป็นคนรุ่นบุกเบิก (First Generation) ที่ยังไม่สันทัดทางภาษา และบ้างก็ไม่พยายามที่จะศึกษาเทคโนโลยีแบบใหม่ ๆ และไม่มีความรู้ในการพัฒนาเชิงรุกในการทำธุรกิจ (Innovative Driven Strategies) ฉะนั้นพวกเราที่พอมีความรู้ ความสามารถ และพอมีเวลาที่จะเอื้ออำนวย ควรช่วยกันออกมาเพื่ออาสาในการช่วยเหลือนักธุรกิจเหล่านี้ ได้เรียนรู้ พัฒนา ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมให้ธุรกิจดีขึ้น หรือชักจูงลูกหลานให้สืบสาน ต่อยอดธุรกิจของคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณปู่ย่า ตายายต่อไป

การสร้างจิตสำนึกเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและส่วนรวม จึงเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องการอย่างยิ่ง การแก้ปัญหาจากเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของสังคมนั้น ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ เพราะฉะนั้นเราทุกคนที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ที่อยู่ในสังคมทั้งหมด ต้องให้ความร่วมมือ โดย ออกมาจากกระดอง หรือโซนความสบายของตัวเอง (Comfort Zone) ที่อยู่อย่างสุขกาย สุขใจ ประสบผลสำเร็จในชีวิตการงาน การค้ากันแล้ว บ้างกลัวออกมาให้เปลืองตัวทำไม เพราะมีสิทธิ์ถูกวิพากวิจารณ์ ถูกด่า จากคนบางพวกตามสุภาษิตที่ว่า “มือไม่พาย ยังเอาเท้าราน้ำ” ถ้าคิดแบบนี้ชุมชนเราจะดีขึ้นได้อย่างไร ออกมาเถอะครับ มาแสดงความรับผิดชอบร่วมกัน เกื้อหนุนกัน เพื่อให้สังคมไทยเข้มแข็งขึ้น และมีคนไทยที่มีคุณภาพ ชุมชนไทยจึงจะมีประสิทธิภาพโดยรวม

ชุมชนไหนจะเข้มแข็งได้ ก็เพราะคนของเขาเข้มแข็ง มีศักยภาพ มีความรู้ มีความสามัคคี มีน้ำใจ มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมมาก ๆ ยอมเสียสละได้ทุกเมื่อ และผมเชื่อแน่ว่าการทำงานเป็นอาสาสมัครนั้น เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดและแก้ปัญหาของสังคมไทยได้ดี สร้างคนให้เห็นแก่ประโยชน์ของผู้อื่นและสังคมโดยรวม พร้อมที่จะอาสา โดยสละแรงกาย แรงใจ เวลา หรือทรัพย์สินเงินทอง เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม จึงเป็นที่มาของบทความของผมในวันนี้

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

อาสาสมัคร (Volunteer) ถือเป็นหัวใจขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (Non Profit Organization) และองค์กรต่าง ๆ เพราะหากไม่มีพวกเขาแล้วไซร้ องค์กรก็คงขาดพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม โดยอาสาสมัครทุกคนในทุกองค์กรมีเป้าหมายเดียวกัน คือการเสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ ด้วยจิตอาสา เพื่อต้องการให้สังคมของเขาพัฒนาได้ดีขึ้น ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะหลัง เกือบสิบปีมานี้ เราจะได้ยินแต่คำว่า “จิตอาสา” (Volunteer Spirit) เสมอ แทนคำว่า “อาสาสมัคร” แต่บางท่านอาจไม่รู้ว่ามันเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ผมจึงอาสาแชร์ข้อมูลที่ได้ค้นคว้ามา

อาสาสมัคร (Volunteer) หมายถึง ผู้ที่สมัครใจ และอาสาเข้ามาเพื่อช่วยเหลือ และทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน องค์กร และสังคม โดยสมัครใจ เพื่อการดูแล ป้องกัน แก้ปัญหา เพื่อพัฒนาสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นเงินหรือสิ่งอื่นใด ผลตอบแทนที่อาสาสมัครได้รับ คือ ความสุข ความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และสังคมโดยรวม ยกตัวอย่างเช่น การอาสาเข้ามาทำงานในสมาคม องค์กรต่าง ๆ การอาสามาเป็นนายก เป็นคณะกรรมการ หรือผู้สนับสนุนในหน้าที่ต่าง ๆ ที่ตนถนัด เป็นต้น

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

จิตอาสา (Volunteer Spirit/Mind) หมายถึง จิตแห่งการให้ความดีงามทั้งปวงแก่เพื่อนมนุษย์โดยเต็มใจ พร้อมจะเสียสละเวลา ให้ความช่วยเหลือ ร่วมมือ ลงแรง ร่วมใจ ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสังคม ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม ยกตัวอย่างเช่น การช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ การแยกขยะ แม้แต่การประหยัดน้ำปะปาหรือไฟฟ้าที่เป็นของส่วนรวม โดยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า หรือบางคนที่ลุกขึ้นมาทำความดีกันคนละนิด หรือใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มี เพื่อช่วยงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนหรือสังคมโดยรวม

อีกความหมายที่ผมชอบ จากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ โดยให้ความหมายจิตอาสาว่า คือการรู้จักเอาใจใส่ เป็นธุระและเข้าร่วมในเรื่องของส่วนรวมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ มีความสำนึกและยึดมั่นในระบบคุณธรรม และจริยธรรมที่ดีงาม ละอายต่อสิ่งผิด รับผิดชอบ เน้นความเรียบร้อย ประหยัด

สรุป จิตอาสา หรือ จิตสำนึกสาธารณะ เป็นการตระหนักรู้ตัว หรือเป็นจิตส่วนที่รู้ตัว รู้ว่าทำอะไร อยู่ที่ไหน เพื่ออะไร เป็นอย่างไรขณะที่ตื่นอยู่นั่นเอง เป็นจิตที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคม หรือความทุกข์ยากของผู้คน และปรารถนาเข้าไปช่วย ไม่ใช่ด้วยการให้ทาน ให้เงิน แต่ค้วยการสละเวลา แรง และ/หรือ สมอง เข้าไปช่วย ด้วยจิตที่เป็นสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่แค่ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนา ‘จิตวิญญาณ’ ของเราด้วย

ฉะนั้น อาสาสมัคร ไม่ว่าด้วยแรงจูงใจใด ๆ ในช่วงเริ่มต้น แต่หากขาดซึ่งความรักในสิ่งที่ทำด้วย “จิตอาสา” ในเวลาต่อมา… ผลงานที่ออกมาก็เป็นเพียงสิ่งที่เราทำสนุก ๆ เพื่อฆ่าเวลาที่ไม่รู้จะทำอะไรเท่านั้น ไม่มีคุณค่าใดเพื่อสร้างจิตวิญญาณและพัฒนาจิตสำนึกเพื่อสังคม

สังคมไทยในประเทศสหรัฐอเมริกานี้ ซึ่งมีคนไทยอยู่ไม่ต่ำกว่า 300,000 คน แต่ทำไมอาสาสมัครและจิตอาสาของเรามีน้อยเหลือเกิน แบบที่ทราบกันว่า คนไทยเป็นคนเก่งมาก แต่คนที่จะกล้าหาญออกมาอาสาช่วยเหลือสังคมนั้นน้อยมาก เราจึงเห็นแต่คนหน้าเดิม ๆ ที่ออกมาเป็นอาสาสมัคร/จิตอาสา ซึ่งบางครั้งอาสาสมัครส่วนหนึ่งก็เป็นอาสาสมัครด้วยความเกรงใจ ถูกขอใช้ชื่อเอาไปใส่ บางคนจึงมีชื่อติดอยู่ในสมาคมต่าง ๆ หลายสมาคม บางครั้งก็สงสัยว่า แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะเอาเวลาที่ไหนไปช่วยสมาคมได้จริง ๆ

จึงขอสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อรณรงค์ส่งเสริม “อาสาสมัคร ด้วยจิตอาสา” หรือ ‘อุดมการณ์ของอาสาสมัคร” เพื่อให้สังคมไทยมีจิตสำนึกในการออกมาแบบจิตอาสา ช่วยเหลือคนในสังคมของเรามากขึ้น ทุกคนต่างมีฝีมือ มีความสามารถเฉพาะตัว ที่สามารถนำออกมาแชร์แบ่งปัน ช่วยเหลือส่วนรวมได้ ผลตอบแทนของอาสาสมัคร คือ ได้รับความสุข ความภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ส่วนของจิตอาสา คือ การที่มีส่วนจากการให้ ที่เปี่ยมด้วยความเมตตา เพราะจิตอาสานั้น จะมุ่งเน้นในการให้มากกว่าการรับ ช่วยให้สังคมน่าอยู่ เป็นสังคมที่มีคุณภาพที่ทุกคนสามารถอยู่รวมกันได้ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

คุณลักษณะที่ดีของอาสาสมัคร

1. มีความประพฤติที่ซื่อตรง มีความคิด เป็นอิสระในการเลือกที่จะอาสาจะทำหรือไม่ทำตามความสามารถ ประสบการณ์ และความรู้หรือมีพรสวรรค์

2. มีความรับผิดชอบต่อตนเอง และต่อสังคม รวมทั้งการกระทำที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคล กลุ่มบุคคล และส่วนรวม

3. ไม่หวังรางวัล หรือผลตอบแทนเป็นเงินทอง และไม่ใช่เป็นภาระหน้าที่ การงานที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้วตามหน้าที่

4. ต้องมีความรักความปรารถนาที่จะให้ และมีจิตใจที่จะทำความดี เข้าใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมถึงการเสียสละเวลา โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ

เพราะ เหตุ ใด ประเทศไทย จึง ต้องมีจิตอาสา

พฤติกรรมหลักของอาสาสมัคร หมายถึงการที่บุคคลที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยสมัครใจและไม่หวังผลตอบแทน

  • ช่วยเหลือผู้อื่นโดยเข้าร่วมกิจกรรมบริการชุมชน ได้แก่การเข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และปฏิบัติงานบรรเทาทุกข์ผู้เดือดร้อน เมื่อมีโอกาส
  • ยอมเสียสละโดยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เสียสละเงิน เวลาเพื่อผู้อื่นและสังคม
  • มุ่งมั่นพัฒนาใฝ่หาความรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและเผยแพร่แก่ผู้อื่น และช่วยรณรงค์ให้ผู้อื่นเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครหรือจิตอาสาด้วยกัน

พฤติกรรมหลักของจิตอาสา/จิตสำนึกสาธารณะ หมายถึงการกระทำใด ๆ ที่มาจากใจบริสุทธิ์ เริ่มจากการคิดดี ทำดี เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ จากการที่เรามีจิตอาสามาก ๆ

  • งดเว้นการกระทำที่จะส่งผลทำให้เกิดความชำรุดเสียหายของทรัพย์สินส่วนรวม
  • มีส่วนร่วมดูแล และรักษาทรัพย์สินส่วนรวม
  • การเคารพสิทธิของผู้อื่นในการใช้ทรัพย์สินส่วนรวม
  • ใช้ชีวิตแบบ “มีแต่ให้” มากกว่า “เอาแต่ได้” 
  • คำนึงถึงสาธารณะมากกว่าความเป็นส่วนตัว ทำความดีเพราะเห็นคุณค่าของความดี

ทุกคนควรมีส่วนร่วม เผื่อแผ่ ดูแลสังคมไทย ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ร่วมกัน ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ทำดีให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่เพียงแต่รอดูว่าใครจะรับผิดชอบเรื่องอะไร แต่ควรต้องออกมามีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยกัน การจะเป็นจิตอาสา ไม่ได้จำกัดที่ วัย การศึกษา เพศ อาชีพ ฐานะ หรือข้อจำกัดใด ๆ ทั้งสิ้น หากแต่เราต้องมีจิตใจเป็น “จิตอาสา” ที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่น หรือสังคม เพียงเราแต่ละคนคิดและทำความดีกันคนละนิดเพื่อสังคม แล้วสังคมไทยเราน่าจะงดงามขึ้นอีกไม่น้อย

ขออนุญาตนำคำสอนของท่าน ว. วชิรเมธี ที่ว่า

อย่า… เป็นนักจับผิด

อย่า… มัวแต่คิดริษยา

อย่า… เสียเวลากับความหลัง

อย่า… พังเพราะไม่รู้พอ

โชคดีครับ

โดย คิด ฉัตรประภาชัย

จิตอาสามีความสําคัญต่อประเทศอย่างไร

ถามว่าอะไรทำให้ชาติแข็งแกร่งที่สุด คำตอบก็คือ ความสามัคคีของคนในชาตินี่แหละไม่ใช่อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ไหนเลย ถ้าคนในชาติสามัคคีกันก็ยากที่ใครจะทำอะไรได้ ความสามัคคีเกิดจากการที่คนในชาติร่วมมือกันทำอะไรบางอย่าง ซึ่งโครงการจิตอาสาที่ทำพร้อมกันทั่วประเทศนี่แหละจะเป็นตัวกลางสำคัญในการส่งเสริมความสามัคคีของคนในชาติ จากข้อดี ...

จิตอาสามีความสําคัญอย่างไร

จิตอาสา หรือจิตแห่งการเสียสละเปรียบเสมือนยาวิเศษ ที่ช่วยลดอาการของโรคเห็นแก่ตัว อีก ทั้งยังลดทอนตัวตนหรืออัตตาของคนเราลงได้เป็นอย่างดี จิตสาธารณะ คือ การตระหนักรู้ตน ที่จะทาสิ่งใดเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ลดปัญหาใน สังคม

เหตุการณ์ใดที่ทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศไทย รู้จักแนวคิดจิตอาสามากขึ้น

แนวคิดจิตอาสาเกิดขึ้นจริงจังและนํามาใช้กระทั่งรู้จักกันในประเทศไทยจากเหตุการณ์ประสบภัย คลื่นสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 ในครั้งนั้นมีอาสาสมัครจํานวนมากจากทั่วประเทศและทั่วโลกเข้า มาร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมต่างๆ เพื่อมาระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กู้ ศพ ทําความสะอาดบริเวณชายทะเล 4 ...

เพราะเหตุใดเราจึงต้องให้ความสําคัญกับเรื่องจิตสาธารณะ

– ทำให้เราเป็นคนที่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้เป็นอย่างดี และปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ดี – ทำให้เป็นที่รักใคร่จากผู้คนรอบข้าง และได้รับความเมตตา – ทำให้เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว คิดถึงส่วนรวมเป็นหลักมากกว่าประโยชน์ส่วนตน – ทำให้เป็นคนเข้าใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี