ข้อใดเป็นการออมเพื่อความมั่นคง

1. เริ่มจากการลงทุนในตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นกรศึกษาหาความรู้ ทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานและใช้ชีวิต ส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในอาชีพ รวมถึงความรู้ทางด้านการวางแผนการเงิน ไปจนถึงเรื่องสุขภาพร่างกายที่ต้องรักษาให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ  เพราะสิ่งเหล่านี้หมายถึงโอกาสในการหารายได้ต่อไป

2. สร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบ

การได้ทำอาชีพหรือหารายได้จากสิ่งที่ตัวเองชอบ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเรามีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากกว่า และอยู่กับสิ่งที่ชอบได้นานกว่า รวมทั้งมีความสนใจที่จะหาความรู้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ได้ไม่ยากด้วย

3. กำหนดงบค่าใช้จ่ายและเงินออม

ในแต่ละเดือนควรบันทึกว่าเราใช้จ่ายไปมากน้อยเท่าไรกับเรื่องอะไรบ้าง อาจจะเป็นการใช้จ่ายเพื่อตัวเอง หรือเพื่อครอบครัว ซึ่งการบันทึกรายจ่ายนั้นเพื่อให้เห็นชัดเจนว่าเราใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ และสามารถวางแผนการเงินต่อไปได้ไม่ยาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้านหรือค่าผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ค่าอาหาร และค่าผ่อนรถหรือค่าเดินทาง ควรควบคุมให้ไม่เกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน ที่สำคัญคือส่วนเงินออมเพื่ออนาคตและงบฉุกเฉิน ควรตั้งไว้ที่ 10-20% ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกิน 30% ต่อเดือน เป็นต้น ทั้งนี้จำนวนสัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่างๆ นี้ สามารถยืดหยุ่นไปตามแผนการใช้ชีวิตในแต่ละคนได้

4. ใช้สอยอย่างประหยัด

เมื่อเราทำงานได้สักพัก โอกาสในการสร้างรายได้ก็มีมากขึ้น แต่เมี่อรายได้มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราควรสร้างหนี้กับของใช้ฟุ่มเฟือยมากขึ้น หรือใช้ชีวิตที่หรูหราจนเกินพอดี กล่าวคือใช้ได้แต่ให้เหลือเงินที่ควรนำมาออมเพิ่มและลงทุนเพิ่มเพื่อให้งอกเงยขึ้น เพราะจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้เร็วขึ้น

5. ตั้งงบฉุกเฉิน

ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน หากเกิดความเจ็บป่วยของสุขภาพ หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงควรมีการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเป็นงบฉุกเฉินที่เอามาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คาดคิดเหล่านี้ เพราะจะช่วยให้ลดความกังวลไปได้มากและช่วยให้เรามีเวลาคิดและจัดการชีวิตต่อไปได้ โดยจำนวนเงินที่ควรตั้งเป็นงบฉุกเฉิน ควรมีอย่างน้อยสำหรับอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประมาณ 6-12 เดือน รวมทั้งประกันสุขภาพและอุบัติเหตุก็ต้องทำไว้ เพราะหากเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจะได้ไม่กระทบกับเงินที่เราเก็บไว้ใช้ในอนาคตและไม่เป็นภาระกับคนใกล้ชิด

6. เคลียร์หนี้สิน

หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และคิดดอกเบี้ยสูง เช่น เงินกู้ยืมส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ควรรีบชำระให้หมด และพยายามอย่าสร้างหนี้สินประเภทนี้อีก ควรใช้จ่ายภายในงบประมาณที่กำหนดในแต่ละเดือน โดยหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเงินออมออกก่อน เพราะหากไม่รักษาวินัยทางการเงินให้ดี การสร้างความมั่นคงทางการเงินคงเป็นไปได้ยาก

7. วางแผนเกษียณ

หลายคนคิดว่าทำไมต้องรีบเตรียมเงินสำหรับไว้ใช้ในวัยเกษียณ เพราะมันอีกตั้งยาวไกล จริงๆ แล้วการเริ่มต้นแต่เนิ่นๆ จะทำให้เราเป็นอิสระทางการเงินได้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเงินที่สะสมได้จากการออมและลงทุน ได้ดอกผลมาก็นำลงทุนเพิ่ม เงินก้อนเล็กก็จะค่อยๆ กลายเป็นเงินก้อนโตขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนที่ทำงานประจำ หลายบริษัทจะให้สิทธิพนักงานเข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเอาไปใช้ในยามเกษียณ ขอให้เราออมในสัดส่วนที่สูงสุดเท่ากับสัดส่วนที่บริษัทจะสมทบให้ หรือหากไม่ไหวที่สูงสุด แต่อย่างน้อยก็ควรต้องเข้าร่วมกองทุนเพื่อเก็บออมไว้ และหากย้ายบริษัท ก็ให้โอนไปบริษัทใหม่และสะสมต่อไป ไม่ควรนำออกมาใช้ก่อนกำหนด นอกจากนี้ ยังมีประกันชีวิตแบบบำนาญที่เป็นเครื่องมือช่วยออม และวางแผนสำหรับการเกษียณที่ให้ผลประโยชน์แน่นอนเมื่อเกษีย ทั้งนี้ ประกันชีวิตประเภทนี้ยังให้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรอีกด้วย

จุดมุ่งหมายในการออมทรัพย์ การออมทรัพย์เป็นการสะสมอำนาจซื้อไว้ในปัจจุบันเพื่อใช้จ่ายในอนาคต การออมทำได้ไม่ยากเพียงกำหนดจุดมุ่งหมาย ของการออมว่าเป็นการออมทรัพย์ระยะสั้นหรือระยะยาว

1. การออมทรัพย์เพื่อประโยชน์ระยะสั้น เช่น การออมเพื่อซื้อสิ่งของที่มีราคาแพงเกินกว่ารายได้ที่ได้รับหรือเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายจะจ่ายได้ เป็นการซื้อที่ไม่อาจจัดเป็นการซื้อที่จะซื้อได้ทันที ต้องเก็บออมเงินให้ได้เท่าจำนวนตามที่ต้องการก่อนจึงจะซื้อได้

2. การออมทรัพย์เพื่อประโยชน์ระยะยาว เป็นการออมทรัพย์อย่างมีวัตถุประสงค์ที่ แน่นอน เช่น การอมทรัพย์เพื่อไว้ใช้เมื่อสูงอายุหรือเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ หรือออมทรัพย์เพื่อการศึกษาระดับสูงของบุตรหลานหรือเก็บเพื่อซื้อบ้าน,ที่ดิน,ที่อยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนทำกิจการ การออมทรัพย์เพื่อประโยชน์ระยะยาวเป็นการออมทรัพย์เพื่อต้อง การความมั่นคงทางการเงินซึ่งจะมีการใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานกว่าการออมทรัพย์เพื่อประโยชน์ระยะสั้น เช่น เมื่อเกษียณอายุราชการหรือพ้นจากการทำงานเมื่อสูงอายุโดยมีการวางแผนที่จะใช้เงิน ดอกผลจากการออมในการดำรงชีวิต

จำนวนเงินที่ควรออม ปกติควรจะเก็บออมประมาณร้อยละ 10 ของรายได้ที่ได้รับแต่มิใช่เป็นกฎตายตัวจำนวนเงินออม จะมากน้อยเท่าไรขึ้นอยู่กับรายได้และความรับผิดชอบของครอบครัวต่อสมาชิกในครอบครัว รายได้ที่ได้รับจะใช้จ่ายเฉพาะตัวก็สามารถเก็บออม ได้ในอัตราสูงเมื่อรายได้เปลี่ยนแปลงก็จะมีผลต่อการอออม ด้วยการออมจะทำได้ง่ามสำหรับคนโสดหรือครอบครัวที่ไม่มีลูกที่ต้องเลี้ยงดู

การสร้างเงินออม การออมเงินบางคนทำได้ง่ายบางคนทำได้ยากการออมเงิน ในครอบครัวสมาชิกทุกคนต้องร่วมมือกันในการวางแผนการออมเงิน และช่วยกันออมเงินคนละเล็กละน้อย เมื่อรวมหลาย ๆ คนเงินออมของครอบครัวก็จะมากขึ้นแนวปฏิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเงินออมมีดังนี้

1. เริ่มต้นการออมทันทีที่มีรายได้ การออมควรเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเพราะเริ่มต้นเร็วเท่าไรเงินออมยิ่งมากขึ้นเท่านั้นการออมเริ่มต้นตั้งแต่มีคำว่า ประหยัด อยู่ในใจเสมอและมีการวางแผนการใช้จ่าย เมื่อจะจ่ายเงินซื้ออะไรต้องคิดอย่างดีมีเหตุผลและซื้อของให้ตรงกับการใช้งานการสร้างเงินออมควรให้เงินออมสร้างรายได้ โดยการนำเงินออมนั้นไปฝากธนาคารหรือสถาบัน การเงินซึ่งให้ดอกเบี้ยเงินฝาก จะทำให้เงินฝากมีเพิ่มขึ้นถ้าฝากเงินเร็วที่สุดเท่าไรก็จะมีเงินออมมากขึ้นเท่านั้น

2. มีการกำหนดจำนวนเงินออม ควรมีการตัดสินใจ ว่าจะมีการออมเท่าไรควรเริ่มต้นการออม ด้วยจำนวนที่น้อยที่สามารถจะออมได้และค่อยเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น

3. เก็บออมอย่างสม่ำเสมอ แต่ละครั้งที่มีรายได้ต้องวางแผนการใช้จ่ายที่รัดกุมและเป็นไปได้ตามสภาพรายได้และความรับผิดชอบของครอบครัว โดยการเก็บเงินส่วนที่เป็นเงินออมทันที ที่ได้รับรายได้มาก่อนขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอน ที่สำคัญที่ทำให้มีเงินออมถ้าทำได้จนเป็นนิสัยการออมเงินก็ไม่ยากและผู้ออมก็จะเกิดความภาคภูมิใจ

4. ตั้งจุดประสงค์ในการออม ว่าจะออมเพื่ออะไรต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนเพื่อจะได้วางแผนกันเงินทุกครั้งที่มีรายได้ การกันเงินไว้แต่ละเดือนเป็นการชะลอการใช้จ่าย เพื่อสะสมไว้ใช้จ่ายเมื่อถึงเวลาตามที่ตั้งจุดประสงค์ไว้ไม่ต้องกู้ยืมเงินให้เสียดอกเบี้ย

5. มีการวางแผนการใช้จ่ายที่รัดกุมและเป็นไปได้ตามสภาพของครอบครัว

การออมเงินต้องถือว่าเมื่อกันเงินออมไว้แล้วต้องมีเงินพอ ที่จะใช้จ่ายให้สมาชิกในครอบครัวมีความสุขตามสมควร ต้องรู้จักเลือกซื้อของที่ราคาประหยัดเหมาะสมกับฐานะของตน

มีเงินติดตัวไว้เท่าที่จำเป็นใช้ ไม่ควรพกเงินติดตัวมากเกินความจำเป็นต้องใช้เพราะอาจจะทำให้มีการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ถ้ามีเงินเพียงเท่าที่จำเป็นใช้หากมีค่าใช้จ่ายนอกแผนเกิด ขึ้นจะมีเวลาคิดวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนเพราะไม่สามารถจ่ายเงินซื้อได้ทันที

มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินออม นอกจากเงินออมต้องปลอดภัยแล้วควรต้องมีการเพิ่มรายได้จากการออม การฝากเงินกับธนาคาร การซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการออมจะได้ดอกเบี้ยด้วย

สร้างพันธะในการออมถ้าไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้ การฝากเงินที่ต้องทำสัญญากับธนาคารจะเป็นการบังคับตนเองให้สามารถออมทรัพย์ได้ เพราะมีสัญญาว่าจะต้องส่งเงินกับธนาคารทุกเดือนเมื่อถึงกำหนดตามสัญญาก็จะได้ดอกเบี้ยเงินฝากด้วย

สถาบันออมทรัพย์ การเก็บเงินไว้กับตัวหรือที่บ้านไม่เกิดประโยชน์หรือเงินได้เพิ่มขึ้นและอาจไม่ปลอดภัย อาจมีการสูญหายถูกโจรปล้นวิธีการที่ปลอดภัย กว่าการนำเงินไปให้ผู้อื่นกู้ยืมเพราะอาจถูกโกงได้ คือการนำเงินฝากสถาบันออมทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่น ธนาคาร บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ออมทรัพย์

ข้อควรพิจารณาในการเลือกสถาบันออมทรัพย์ การออมทรัพย์ควรนำไปฝากในสถานที่ปลอดภัยและได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินออมไปฝากเก็บ การนำเงินไปฝากกับสถาบันใดต้องพิจารณาในเรื่องต่อไปนี้

ความปลอดภัยของเงินออมที่นำไปฝาก สถาบันที่ให้บริการ ต้องเก็บรักษาเงินของเราให้ปลอดภัย ต้องมีความซื่อสัตย์ฐานะการเงินมั่นคงและอยู่ในความควบคุมของรัฐ เช่น ธนาคาร การซื้อพันธบัตรรัฐบาล

ความสะดวกรวดเร็วในการถอนเงินหรือฝากคืนได้ทันทีที่ต้องการ การนำเงิน ไปฝากกับสถาบันใดควรพิจารณาว่า ถ้าต้องการใช้เงินเมื่อไรสามารถถอนเงินที่ฝากคืนได้ทันทีที่ต้องการ

มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินที่ฝาก การออมไม่ควรเก็บเงินไว้เฉย ๆ ควรนำเงินไปฝากไว้กับสถาบัน ที่จะให้ผลตอบแทนกับจำนวนเงินที่นำไปฝากซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

การประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการฝาก ถอนเงิน การเลือกฝากกับสถาบันการเงิน ใดควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปใช้บริการ ควรเลือกสถาบันการเงินที่สุดวก เสียเวลาและค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

การกำหนดจุดประสงค์ในการฝากเพื่อใช้ประกอบ การพิจารณาว่าจะเลือกฝากกับสถาบันไหนในแบบใดจะฝากกับธนาคาร เพื่อประโยชน์ระยะสั้น ระยะยาว แล้วนำเงินไปฝากตามระยะเวลาที่ใช้ผู้บริโภคที่ฉลาดจะไม่ออมทรัพย์ กับสถาบันการเงินเดียวในรูปแบบเดียวควรฝากในหลายสถาบันหลายรูปแบบ เพื่อความปลอดภัย และสะดวกในการถอนรวมทั้งผลตอบแทน จากเงินฝาก ซึ่งผู้บริโภคต้องมีแผนการออมเงินที่แน่ชัดมีการวิเคราะห์และเลือกฝากเงินในรูปแบบที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุด

การฝากเงินกับธนาคาร ธนาคารเป็นสถานที่ให้บริการรับฝากเงินที่ปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ธนาคารทุกแห่ง ในประเทศไทยอยู่ในความควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นธนาคารทุกแห่งจะให้ความปลอดภัยและรับผิดชอบแก่เงินฝากได้เท่าเทียมกันบริการที่เกี่ยวกับการรับฝากเงิน ได้แก่ การฝากประเภทออมทรัพย์ ฝากเงินประเภทประจำ

การซื้อพันธบัตรรัฐบาล การออมอีกวิธีหนึ่งคือ การนำเงินออมไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลการขายพันธบัตรรัฐบาลเป็นวิธีการระดมทุนวิธีหนึ่งของรัฐบาล โดยการกู้เงินจากประชาชนแล้วออกพันธบัตรให้เป็นหลักฐานการกู้ยืม และให้ผลประโยชน์ตอบแทนในลักษณะดอกเบี้ยซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าวิธีอื่น นอกจากจะได้ดอกเบี้ยแล้วยังไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา เพราะรัฐบาลถือว่าเป็นการช่วยชาติอีกวิธีหนึ่ง

การซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นวิธีการออมทรัพย์เพื่อประโยชน์ระยะยาว มีจุดประสงค์ที่แน่นอนให้ประโยชน์แก่ผู้ซื้อกรมธรรม์ คือให้ความคุ้มครองและเป็นหลักประกัน ของครอบครัวทั้งในขณะมีชีวิตอยู่หรือเมื่อตายไปแล้ว

ขอบคุณเว็บไซต์ : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongrungja&month=08-12-2009&group=16&gblog=4

 

ข้อใดเป็นการออมเพื่อความมั่นคง