“หลวงพ่อจรัญ” แห่งวัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ให้ข้อคิดกับลูกศิษย์เสมอว่า “คนโกรธ คือ คนโง่ คนโมโห คือ คนบ้า” ยิ่งในยุคโควิด-19 ภาวะเครียด ภาวะกลุ้มใจ อารมณ์อ่อนไหวง่าย คนใจเย็นน้อยลง คนก้าวร้าวมากขึ้น หากเป็นเด็กๆ ค่อยอบรมกล่อมเกลาบ่อยๆ โอกาสจะใจเย็นยังพอหวังได้ แต่ถ้าคนเราโตขึ้นเป็นวัยรุ่น หนุ่มสาววัยทำงาน จนถึงผู้สูงอายุ เกิดเป็นนิสัยคนขี้โมโหแล้ว โดยทั่วไปจะแก้นิสัยดังกล่าวให้เย็นคงจะยาก แต่ยังพอมีหวัง หากผู้ใดตั้งใจฝึกฝนปฏิบัติลด “อารมณ์โมโห” ให้ย่อมทำได้ เพียงต้องตั้ง “สติ” มุ่งมั่นฝึกฝนทำให้ได้ เริ่มคิดก่อนพูด คิดก่อนทำ คิดก่อนตัดสินใจ ⦁ ยับยั้งคำพูดและการกระทำ ในยามที่ตัวเองรู้ตัวว่าโกรธ อารมณ์คำสั่งพลุ่งพล่านให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่าความคิดใดๆ คำพูดใดๆ การกระทำใดๆ หากมีขึ้นในยามโกรธ โมโห มันเป็นไปในทางก้าวร้าว ทำลายร้ายแรง อาจจะสะใจชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผลดี ⦁ ไตร่ตรองโทสะของความโกรธ ประโยชน์ของเมตตากรุณาย้อนอดีตที่เราเคยเกิดผลเสียเกิดอะไรบ้าง คิดซ้ำๆ ให้มากกว่าเรียกว่าอะไรไปบ้าง ทำให้ใครเสียใจกี่คน เสียเพื่อนกี่คน เสียโอกาสทำลายความสัมพันธ์เดิมๆ ดี ที่ผ่านมา 40 “มารยาทในสังคม” ประกอบด้วย : 5.ผู้มีมารยาทไม่บ้วนน้ำลาย หรือสั่งน้ำมูกลงบนถนน หรือสาธารณะใดๆ
ถ้าจำเป็นต้องสั่งน้ำมูก หรือบ้วนคายสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้สั่ง หรือบ้วนคายใส่ผ้าเช็ดหน้าของตน 10.ผู้มีมารยาทไม่ลืมที่จะส่งของซึ่งผู้อื่นได้สงเคราะห์ให้ตนยืม 15.ผู้มีมารยาทย่อมตรงต่อเวลาเสมอ 20.ถ้าผู้ทักทายมีฐานะเสมอกัน
หรือมีอายุไล่เลี่ยกันย่อมทักทายกันด้วยกิริยาอาการอย่างเดียวกัน 25.ในสังคมปัจจุบัน สุภาพสตรีได้รับการยกย่องอย่างมาก จึงควรประพฤติตนให้สมเกียรติที่ได้รับ 30.ผู้มีมารยาทไม่ใช้มือของตนแตะต้อง หรือหยิบอาหารที่ผู้อื่นจะบริโภค หรืออาหารที่เป็นของกลาง 35.มีดมีไว้สำหรับตัดอาหาร จึงจะนำไปใช้ตักอาหารเข้าปากไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้ใดใช้มีดส่งอาหารเข้าปาก ผู้นั้นเสียกิริยาอย่างมาก 40.เมื่อรับวาจาว่าจะทำสิ่งใดแล้ว และมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ซึ่งจะทำไม่ได้ ผู้มีมารยาทย่อมแจ้งให้ผู้ที่เอ่ยวาจาทราบ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร |