การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

‘ใช้งานตลอดเวลาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนะ’

‘ใช้แบบนี้มา 10 ปีแล้วยังไม่เห็นจะเกิดอะไรขึ้นเลย’

‘เดี๋ยวอาทิตย์หน้าค่อยเรียกคนมาตรวจแล้วกัน’

เคยมีความคิดเหล่านี้บ้างไหม? เพราะใช้งานไฟฟ้ามานาน เครื่องใช้บางชิ้นก็ใช้มาเกือบสิบปี ไม่เคยเกิดปัญหาอะไรขึ้น  พอมีคนเตือนให้ตรวจสอบระบบไฟก็ลืมทุกที

เซฟไทยเชื่อว่า สิ่งที่ถูกใช้งานทุกวันและอยู่รอบตัวตลอดเวลา อาจทำให้บางครั้งผู้คนก็มักเผลอมองข้ามการใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัยออกไป

ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นจากการใช้งานอย่างไม่ปลอดภัยได้

เซฟไทยจึงขอแนะนำ 10 วิธีง่าย ๆ ในการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย

จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง มาดูกัน!

1. หมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบต่าง ๆ ภายในบ้านอยู่เป็นประจำ หากพบเจอความเสียหายจะได้สามารถแก้ไขได้ทัน

2. เช็ดมือให้แห้งก่อนเปิด-ปิดสวิตช์ไฟ การแขวนผ้าเช็ดมือในห้องน้ำช่วยได้เยอะเลย

3. ติดตั้งสายดิน และเต้ารับ 3 รู ที่รองรับขาปลั๊ก 3 ขาได้ หากจะใช้ปลั๊กพ่วงก็ให้เลือกที่ได้มาตรฐานรับรอง และมี 3 รูเช่นเดียวกัน

4. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เก็บไว้นาน ๆ เมื่อจะนำมาใช้งาน อย่าลืมตรวจสอบสภาพการใช้งานให้เรียบร้อยก่อน เพราะการไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมสภาพ จึงควรตรวจสอบระยะเวลาการรับประกัน

5. ไม่ควรเปิดสวิตช์ปลั๊กไฟทิ้งไว้ข้ามคืน เพียงเพราะคิดว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาใช้งานอีก เพราะเป็นการปล่อยให้กระแสไฟฟ้าไหลตลอดเวลา

6. จัดหาอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ควรมีไว้เผื่อยามฉุกเฉิน เช่น เครื่องป้องกันไฟดูด หรือไขควงเช็กไฟรั่ว

7. การเสียบปลั๊กหรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรจับที่หัวเต้าเสียบเพื่อป้องกันการเกิดสายไฟขาดจากภายใน

8. ควรสอดส่องภายในบ้านและบริเวณโดยรอบของตัวบ้านว่ามีสิ่งกีดขวางบริเวณสายไฟหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น กิ่งไม้ที่เอนเอียงไปใกล้ หรือแม้แต่สัตว์ที่มาทำรังบริเวณหม้อแปลง หากพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทันที

9. คอยแบ่งปันความรู้และข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าให้แก่สมาชิกในบ้านเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

10. ให้ระลึกถึงเสมอว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากไม่ระมัดระวัง จึงไม่ควรประมาทและมีสติทุกครั้งขณะใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ

รู้แบบนี้แล้ว เซฟไทยหวังว่าเพื่อน ๆ จะเอาวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อการเพิ่มความปลอดภัยที่มากขึ้นนะครับ

ด้วยความห่วงใยจาก เซฟไทย

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

          วิธีประหยัดไฟในบ้าน บอกลาบิลค่าไฟแพง มาดูกันสิว่าเราสามารถช่วยประหยัดไฟด้วยวิธีประหยัดในบ้านได้อย่างไรบ้าง               

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

         

 สิ้นเดือนทีไรก็มีบิลค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระยาวเป็นหางว่าว หลัก ๆ ก็ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์มือถือ แต่มีใครเคยสังเกตตัวเลขบนบิลค่าใช้จ่ายเหล่านี้บ้างไหมเอ่ย ว่ามันมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะค่าไฟ ฉะนั้นมัวแต่นิ่งดูดายไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ เรามาช่วยกันลดค่าไฟในบ้าน ด้วยวิธีประหยัดไฟในบ้านต่อไปนี้กันดีกว่า

1. ลดการใช้แอร์

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

         

บ้านไหนที่มีแอร์ก็ควรเปิดใช้แอร์เท่าที่จำเป็น เช่น เปิดในวันที่รู้สึกร้อนมากจริง ๆ อีกทั้งควรเปิดแอร์ในอุณภูมิที่พอเหมาะ โดยเปิดแอร์ที่ 25 องศาก็พอ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่นอนไม่หลับหากไม่เปิดแอร์ ก็เปลี่ยนมาเปิดแอร์ช่วง 1- 2 ชั่วโมงแรกก่อนจะนอนหลับก็ได้ ตั้งเวลาปิดแอร์เอาไว้ให้เรียบร้อย และอย่าลืมสำรวจประตูหน้าต่าง และช่องโหว่ทุกช่องในห้องนอนก่อนด้วย เพียงแค่นี้ก็ช่วยประหยัดไฟได้เยอะแล้วล่ะ

2. เว้นระยะห่างการใช้งานเครื่องดูดฝุ่น

          ถ้าบ้านคุณไม่ได้เลี้ยงสัตว์ และปกติก็ไม่ค่อยมีฝุ่นมากมายเท่าไรนัก ก็สามารถเว้นระยะห่างการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นจากดูดฝุ่นทุกสัปดาห์ เป็นดูดฝุ่น 2- 3 ครั้งต่อเดือนก็ได้ วิธีนี้ก็ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟให้คุณได้เยอะเช่นกันค่ะ

3. ถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

เพียงแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการตัดกระแสไฟเลยซะทีเดียว เพราะตราบใดที่ปลั๊กยังเสียบอยู่กับเต้ารับ ตราบนั้นก็ยังคงมีกระแสไฟไหลวนเพื่อให้คุณเปิดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดย ทันที โดยเฉพาะคนที่ชอบเปิดโหมดพักหน้าจอคอมพิวเตอร์ไว้เอา เพียงแค่ 1 ชั่วโมงก็สูญเสียกระแสไฟไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้วนะจ๊ะ และในเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานออกทุกครั้งด้วยจะดีที่สุด


4. เลือกใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์

          หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์มีราคาแพงกว่าหลอดไฟชนิดอื่นก็จริง แต่หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นส์สามารถช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟชนิดอื่นถึง 75% เลยทีเดียว แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีความทนทานมากพอสมควรเลยด้วยนะ อย่างนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า ควรต้องเลือกใช้ไฟแบบไหนถึงจะประหยัดไฟ และคุ้มค่าเม็ดเงินมากกว่า

5. ซักรีดเสื้อผ้าในคราวเดียว

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

         

เครื่องซักผ้า และเตารีดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟ มากเช่นกัน ดังนั้นหากคุณจะซักรีดเสื้อผ้า ก็ควรซักรีดเสื้อผ้าคราวละมาก ๆ ครั้งเดียว หรืออย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดไฟได้อีกมากโขเลยล่ะค่ะ อ๊ะ ! คนที่ชอบรีดเสื้อผ้าทุกเช้า ควรเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน ๆ เลยนะจ๊ะ

6. ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ให้น้อยลง

          บรรดาเครื่องปั่น เตาไมโครเวฟ กระทะไฟฟ้า รวมไปถึงเตาอบ จัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทฟุ่มเฟือย ที่กินไฟฟ้าไม่น้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นหากเป็นไปได้ลองลดความถี่การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ดู แล้วมาเปรียบเทียบจากค่าไฟปลายเดือนกันดีกว่า

7. จัดการตู้เย็นให้สะอาดและเป็นระเบียบ

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

         

ใครที่ชอบสะสมของกินไว้ในตู้เย็นวันละนิดวันละหน่อย แต่สุดท้ายก็ลืมทิ้งไว้ให้เน่าเสียคาตู้เย็น รู้ไหมคะว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขในบิลค่าไฟพุ่งสูง ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังทำให้ตู้เย็นของคุณสกปรก เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรีย ส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายได้ง่าย ๆ อีกด้วยนะ

8. เมินที่โกนหนวดไฟฟ้าและแปรงไฟฟ้า

          ลำพังแค่แปรงสีฟันธรรมดา และมีดโกนหนวดแบบปกติก็สามารถทำความสะอาดช่องปากและใบหน้าของคุณได้หมดจดมาก พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อย่างที่โกนหนวดไฟฟ้า และแปรงไฟฟ้าเลยสักนิด แถมยังช่วยประหยัดไฟที่ต้องชาร์จแบตให้คุณได้อีกเยอะเลยด้วยจ้า

9. ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งาน

การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ประหยัด ถูกต้อง และปลอดภัย ควรทําอย่างไร

         

หลายคนชอบเปิดไฟทั่วบ้าน เพราะอยากให้บ้านดูสว่างไสว แต่หากได้เห็นบิลค่าไฟตอนสิ้นเดือนแล้วก็คงตกใจน่าดูใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นก็ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้งานจะดีกว่า แล้วออกจากบ้านทุกครั้งก็ควรเดินสำรวจให้รอบบ้านด้วยว่า มีไฟดวงไหนที่เปิดค้างอยู่หรือเปล่า ค่าไฟในบ้านจะได้ไม่พุ่งสูงมากนัก


10. ลงทุนติดตั้งเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว

          สำหรับคนที่ขี้หลงขี้ลืมขนาดหนัก อาจจะลงทุนครั้งใหญ่กับการติดตั้งเซ็นเซอร์จับสัญญาณการเคลื่อนไหวไว้รอบ ๆ บ้านก็ได้ ตัวเซ็นเซอร์นี้จะช่วยเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ๆ ในบ้านเวลาที่มีคนเดินเข้ามา และอยู่ในห้องนั้น แต่หากตัวเซ็นเตอร์จับการเคลื่อนไหวของคนไม่ได้ ก็จะจัดการปิดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อัตโนมัติ เจ๋งแถมช่วยประหยัดไฟได้อีกเนอะ

          ใครที่กำลังกังวลกับค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็ลองทำตามวิธีประหยัดไฟที่เราแนะนำกันได้นะคะ รับรองว่าถ้ามีวินัยในการใช้ไฟได้ครบทั้ง 10 ข้อนี้ ค่าไฟในบ้านคุณจะลดลงอย่างฮวบฮาบเลยล่ะ

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีควรเลือกอย่างไร

1. ควรทราบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พบเห็นนั้น กินไฟมากน้อยเพียงไร 2. มีความเหมาะสมในการใช้งานหรือไม่ 3. สะดวกในการใช้สอย คงทน ปลอดภัยหรือไม่ 4. ภาระการติดตั้ง และค่าบำรุงรักษา

เราควรเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีลักษณะอย่างไรจึงประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า

1. ดึงปลั๊กของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ 2. ใช้ปลั๊กพ่วงสำหรับเสียบปลั๊กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างพร้อมกัน เมื่อเลิกใช้งานแล้วก็ดึงปลั๊กพ่วงและปิดสวิตช์ทีเดียว 3. จัดบ้านเปิดรับอากาศบริสุทธิ์ เพื่อรับลมธรรมชาติและระบายอากาศให้ปลอดโปร่ง ช่วยลดการใช้งานเครื่องปรับอากาศ

นักเรียนมีหลักในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร เพื่อความประหยัดและปลอดภัย

เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ของบ้านหรือห้องของคุณ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออย่าลืมวัดโต๊ะ ชั้นวางของ ที่จะใช้ตั้งอุปกรณ์ หรือวัดขนาดพื้นที่ที่ต้องการวาง เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากต้องซื้ออย่างอื่นเพิ่มในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น

การประหยัดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทคอมพิวเตอร์ควรทำอย่างไร

8 วิธีประหยัดค่าไฟของคอมพิวเตอร์.
ปิดจอภาพเมื่อไม่ได้ใช้งาน10 นาที.
ถอดปลั๊กเมื่อเริ่มใช้งาน.
ตั้ง Screen server..
ตั้งที่ระบายความร้อนได้ดี.
เลือกใช้คอมที่มีสัญลักษณ์ energy star..
เปิดระบบประหยัดพลังงานในเครื่อง.
ควรซื้อจอที่ขนาดไม่ใหญ่เกินไป.
ใช้อุปกรณ์ที่เป็น Green technology เช่น SMART NETCOM..