วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

Advertisement


ของใช้และของตกแต่งบ้าน เป็นสิ่งที่เราสามารถประดิษฐ์ขึ้นใช้ได้ โดยเลือกวัสดุที่หาง่ายหรือของเหลือใช้
เช่น กล่องใส่ขนม กระป๋อง กระดาษที่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับตนเองและครอบครัวได้


4.1 การประดิษฐ์กระป๋องใส่ของ
กระป๋องใส่ของ เป็นกระป๋องประดิษฐ์สำหรับวางเพื่อประดับตกแต่งบ้าน และสามารถใส่อุปกรณ์หรือของจุกจิกได้ เหมาะสำหรับวางในตู้ ห้องรับแขก ชั้นวางของที่ต้องการความสวยงาม ทำมาจากกระป๋องขนมและถุงกระดาษ
ที่ไม่ใช้แล้ว สามารถใส่ของได้ ทนทาน สวยงาม
1) วัสดุอุปกรณ์
1. กระป๋องเหลือใช้และกระดาษ
2. กาวลาเทกซ์
3. ยาขัดรองเท้าและแปรงขัด
4. กระป๋องหรือชามอ่าง
2. วิธีทำ
1. ฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆ ทากาวแล้วนำมาปิดบนกระป๋องให้ทั่ว
2. ทิ้งไว้ให้กาวแห้งและขัดด้วยยาขัดรองเท้า
3. นำกระดาษฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำให้พองและยุ่ย
4. ซ้อนเยื่อกระดาษขึ้นจากน้ำผสมกาวลาเทกซ์ให้เข้ากัน
5. นำกระดาษที่ทากาววางบนกระป๋อง แต่งลวดลายตามต้องการ
6. เมื่อกาวแห้งขัดด้วยยาขัดรองเท้าด้วยแปรงขัดบริเวณที่แต่งลวดลาย


4.2 การประดิษฐ์ที่แขวนเข็มขัด

ที่แขวนเข็มขัดเป็นงานประดิษฐ์จากเศษไม้ เป็นชิ้นงานที่สามารถทำได้ง่าย ใช้แขวนผนังขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดี เช่น ใช้แขวนเข็มขัด แขวนสร้อย คอ หรือสิ่งอื่นๆเมื่อประดิษฐ์เสร็จแล้วถ้าต้องการให้สวยงาม อาจจะขัดเงาด้วยการพ่นแลดเกอร์ หรือใช้สติ๊กเกอร์ที่เป็นลวดลายต่างๆ ปิดทับ เพื่อความสวยงาน

1) วัสดุอุปกรณ์
1. เศษไม้กระดาน
2. เลื่อย
3. กระดาษทราย
4. ตะปู
5. ห่วงหรือตะขอสำหรับแขวน

2) วิธีทำ
1. ตัดไม้กระดาน เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดตามต้องการ
2. ขัดไม้ให้เรียบด้วยกระดาษทราย
3. วัดระยะตำแหน่งที่ต้องการเจาะและทำเครื่องหมายตำแหน่งที่ต้องการเจาะโดยเจาะด้านบน 2 ตำแหน่ง ด้านล่างตามตำแหน่งที่ต้องการแขวน
4. ใช้ตะปูตอกให้เป็นรูเพื่อเป็นแนวนำตามตำแหน่งที่ได้ทำเครื่องหมายไว้
5. ขันห่วงตะขอแขวนให้แน่น

4.3 การประดิษฐ์ภาพประดับผนัง
ภาพแขวนผนัง สามารถทำได้จากวัสดุหลายชนิดขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ภาพแขวนผนังที่ประดิษฐ์ จากกระดาษแข็งสามารถทำได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ขณะทำจะต้องรู้จักออกแบบในขณะทากาว ถ้าภาพเปื้อนกาวเลอะเทอะ จะทำให้ภาพไม่สวยงาม

1) วัสดุอุปกรณ์

1. กระดาษและดินสอสำหรับใช้ออกแบบ
2. ผ้ากำมะหยี่สีดำ สำหรับทำพื้นกรอบขนาดตามต้องการ
3. กรรไกรตัดกระดาษ
4. กากเพชรสีเงิน สีทอง สีฟ้า หรือสีอื่นๆตามต้องการ
5. กระดาษเทาขาว ขนาดประมาณกว้าง 5 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว
6. ดิ้นทอง สำหรับทำกิ่งไม้ 2 เมตร
7. เชือกสีทอง หรือเชือกฝ้าย 2 เมตร
8. กาว
9. กรอบรูปขนาดตามต้องการ
10. เลื่อมสีทองและลูกปัดสีทองสำหรับทำเกสรประมาณ 30 อัน

2) วิธีทำ
1.ออกแบบภาพเป็นลวดลายแจกันใส่ดอกไม้ด้วยดินสอลงบนกระดาษ
2. ตัดชิ้นส่วนที่เป็นแจกัน 9 ชิ้น
3. ตัดกระดาษแข็งเป็นกลีบดอกไม้ ตามรูปแบบที่ได้ ออกแบบไว้
4 .นำแจกันทากาวให้ทั่วโรยด้วยกากเพชรสีทอง และนำกลีบดอกไม้ที่ตัดไว้ทากาวและโรยกากเพชรหลากสีตามต้องการ ทิ้งไว้ให้แห้ง
5.แจกันมาแต่งลวดลายโดยใช้เชือกสีทองทากาว ติดบริเวณขอบที่ต้องการตกแต่ง
6. ตกแต่งประดับภาพตามรูปแบบที่ได้ออกแบบไว้ ลงบนผ้าสักหลาด โดยใช้ดิ้นทองทากาวทำเป็นก้านดอก ใช้เสื่อมและปัดทากาวแต่งเกสร
7. ทิ้งจนกาวแห้ง
8. นำผ้าที่ตกแต่งแล้วใส่กรอบแขวนเพื่อตกแต่งผนังให้สวยงาม

5. สรุป
ในการตกแต่งบ้านให้สะอาด สวยงามและน่าอยู่จะต้องคำนึงถึงหลักการต่างๆ เช่น หลักความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความประหยัด เป็นต้น นอกจากนี้ในการจัดตกแต่งห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องน้ำและบริเวณอื่นๆของบ้าน ควรคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยในการทำกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่อย่างมีความสุข

ที่มา http://ecurriculum.mv.ac.th/techno/m4/sara1/ban/nangban/work/jb4.html

2.  ชนิดของวัสดุท้องถิ่น

            หลักในการออกแบบผลิตภัณฑ์วัสดุท้องถิ่นให้มีความสวยงามนั้นมีหลักสำคัญอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุท้องถิ่นที่สามารถนำมาประดิษฐ์ของใช้ต่าง ๆ นั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด  เราจึงควรรู้จักลักษณะชนิดและคุณสมบัติต่าง ๆ ของวัสดุแต่ละชนิดก่อน  เพื่อจะได้นำวัสดุมาใช้ได้เหมาะสมกับงาน  ชนิดของวัสดุท้องถิ่นที่ควรรู้จักมีดังนี้

            2.1  ไม้ไผ่

            ไม้ไผ่เป็นไม้ยืนต้นจัดอยู่ในตระกูลหญ้าชนิดใบเดี่ยวลักษณะใบเรียวแหลมลำต้นมีลักษณะเป็นปล้องสลับกับข้อไม้ไผ่ชอบขึ้นในเขตอบอุ่น  อากาศร้อน  และฝนตกชุก  เช่นประเทศไทย  พม่า  อินโดนีเซีย  เป็นต้น  ไม้ไผ่เป็นพืชที่เจริญเติบโตเร็ว  ชอบขึ้นในดินโปร่งร่วนดินทราย  หรือดินที่น้ำสามารถไหลถ่ายเทได้สะดวก  อากาศไม่หนาวจัดเกินไป  การแพร่พันธุ์ทำได้ 2 วิธี  คือ  การแพร่พันธุ์ด้วยเมล็ด  และการแพร่พันทางหน่อ

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์


                                                  ภาพที่ 1  แสดงกระเป๋าจากไม้ไผ่


ที่มา : สืบค้นจาก http://www.osotho.com/th/content/indexdetail.php [3 มิถุนายน 2552]

ไม้ไผ่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น หน่อไม้ไผ่นำมาทำอาหาร  ลำต้นไผ่สามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้เช่น นำมาสานเป็นภาชนะใส่ของจำพวกกระบุง กระจาด ตะกร้า  ชะลอม  เข่ง  ฯลฯ  หรือนำมาทำเครื่องเรือน  เช่น  ชุดเก้าอี้ไม้ไผ่  เป็นต้น

2.2  หวาย

            หวายเป็นไม้เลื้อยจำพวกตระกูลปาล์มมีลักษณะลำต้นกลมยาวและโตเสมอกันตั้งแต่โคนจนถึงปลาย  ไส้ตัน  กาบหุ้มคล้ายต้นหมาก ที่กาบและก้านใบมีหนาม  ผิวเกลี้ยงเหนียวเป็นมัน
ใบคล้ายใบจาก  มีหนามตามริบใบ  หวายเจริญงอกงามขึ้นเองตามธรรมชาติ  มีมากในภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา  ดงดิบ  น้ำตก  ชอบขึ้นในบริเวณพื้นที่เป็นดินร่วนชุ่มชื้น  ไม่ชอบดินทราย  หรือดินที่มีกรวดหิน

หวายมีอยู่ตามป่าทั่วไปในเขตร้อนของทวีปเอเชีย  เช่น  ประเทศไทย  ศรีลังกา  ฟิลิปปินส์  เป็นต้น  ในประเทศไทยไม่มีการปลูกหวาย  แต่หวายจะขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติ  มีมากทางภาคใต้ในแถบจังหวัดชุมพร  ตรัง  พังงา  สุราษฏ์ธานี  นครศรีธรรมราช  และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมากตามป่าในจังหวัดอุบลราชธานี

หวายเป็นวัสดุท้องถิ่นอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้  ส่วนมากเราใช้หวายทำเป็นเครื่องจักสานประกอบเครื่องจักสานไม้ไผ่  แต่ก็มีการนำหวายมาทำเครื่องจักสานโดยตรงหลายอย่าง  เช่น  ตะกร้า  กระเป๋า  ฝาชี  ถาดผลไม้  เก้าอี้  เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

  ภาพที่ 2  แสดงเก้าอี้จากหวาย

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.praphansarn.com/new/forum_post.asp [4 มิถุนายน 2552]


2.3  มะพร้าว

            มะพร้าวเป็นไม้ยืนต้นในตระกูลปาล์ม  ลักษณะของใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงติดกันเป็นแถวอยู่สองข้างของทางมะพร้าว  มีลำต้นเป็นรูปทรงกระบอก  ส่วนโคนต้นจะใหญ่กว่าตอนปลายชอบขึ้นในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย  อากาศอบอุ่นหรือค่อนข้างร้อน  และมีปริมาณน้ำฝนมากเพียงพอหรือริมฝั่งทะเลที่น้ำทะเลเข้าถึง  เช่น  ประเทศไทย  มาเลเซีย  อินเดีย  ละตามหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก

            ในประเทศไทยนั้นมะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างหนึ่งของไทยมีการปลูกมากในภาคกลาง  และภาคใต้  โดยเฉพาะจังหวัดตามชายทะเล  เช่น  ประจวบคีรีขันธ์  ชุมพร สุราษฎ์ธานี  นครศรีธรรมราช  เป็นต้น  มะพร้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิต  เนื่องจากเป็นพืชที่เราไม่ต้องดูแลรักษามาก  แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า  กล่าวคือ  นอกจากใช้บริโภคแล้ว  ส่วนต่าง ๆ ของมะพร้าวยังสามารถนำมาประดิษฐ์ของใช้ที่มีประโยชน์ได้  เช่น  รากใช้สานตะกร้า  ลำต้นนำมาใช้ในการก่อสร้าง  ใบนำมาสานเป็นภาชนะใส่ของหรือทำของเล่น  เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

                                         ภาพที่ 3  แสดงโคมไฟจากกะลามะพร้าว

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.info.pattaya.go.th/km/sociawelfare/Doclib7.aspx [5 มิถุนายน 2552]

2.4  ไม้เนื้ออ่อน

            ไม้เนื้ออ่อน  คือ  ไม้ที่มีเนื้อไม้สีอ่อนหรือสีซีด  มีน้ำหนักเบา  มีความแข็งแรงน้อย  และมีความทนทานน้อย  ไม่ค่อยทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ  หรือการกัดแทะของแมลง  เช่น  ปลวก มอด  เหมาะสำหรับนำมาใช้งานชั่วคราวหรืองานในร่ม  ไม้เนื้ออ่อน  ได้แก่  ไม้ฉำฉา  ไม้ยาง  ไม้กระบาก  ไม้สัก  เป็นต้น  บางชนิดพบได้ป่าดิบชื้นบริเวณทิวเขาในภาคเหนือ  คาบสมุทรภาคใต้  ทิวเขาทาง ด้านตะวันตก  และทิวเขาด้านตะวันออกของอ่าวไทย  เช่น  ไม้ยาง  ไม้กระบาก  บางชนิดพบในป่าเบญจพรรณที่มีลักษณะเป็นป่าโปร่ง  เช่น  ไม้สัก  เป็นต้น  ไม้เนื้ออ่อนเป็นไม้ที่หาได้ง่าย  และมีราคาไม่แพง

            ไม้เนื้ออ่อนสามารถนำมาแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ทำเป็นภาพประดับฝาผนังหรือนำมาทำเครื่องเรือน  เช่น  โต๊ะ  เก้าอี้  ชั้นวางของ  เป็นต้น

                                                              ภาพที่ 4  แสดงเก้าอี้ไม้เนื้ออ่อน

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.dhas.com/main/product/product/detailhead.html [5 มิถุนายน 2552]

2.5  ย่านลิเภา

            ย่านลิเภาเป็นพืชประเภทเถาวัลย์  มีลักษณะเป็นเถา  ลำต้นจะโตประมาณก้านไม้ขีดหรือหลอดกาแฟ  เมื่อโตเต็มที่จะยาวประมาณ  2 วา  ใบของย่านลิเภาจะเป็นใบเล็ก ๆ และหยิกงอชอบขึ้นอยู่ตามชายป่าละเมาะ และจะเลื้อยเกี่ยวพันอยู่กับต้นไม้อื่น ๆ แต่จะขึ้นเกาะอยู่เหนือต้นไม้อื่นจึงทำให้มองเห็นได้ง่ายย่านลิเภามีมากในแถบจังหวัดภาคใต้ของไทยโดยเฉพาะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

            คุณสมบัติพิเศษของย่านลิเภา  คือ  มีลำต้นเหนียวทนทาน  จึงเหมาะที่จะนำมาสานเป็นภาชนะเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น  เชี่ยนหมาก  พาน  กล่องยาเส้น  กล่องใส่ของ  กระเป๋าถือ  เป็นต้น  หรือนำมาใช้ผูกรัดสิ่งของก็ได้

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

ภาพที่ 5  แสดงกล่องหมากพระราชทาน รัชกาลที่  5


ที่มา : สืบค้นจาก  http://www.mnh.si.edu/treasures/thaiversion/005.htm [5 มิถุนายน 2552]

2.6  ใบลาน

            ลานเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง  มีลักษณะคล้ายต้นตาล  จัดเป็นไม้          ยืนต้นขนาดกลาง  ลำต้นตรงและแข็ง สูงประมาณ 10 เมตร มีใบออกรอบลำต้นเป็นชั้น ๆ                  ยาวประมาณ  2 - 3  เมตร  ใบมีลักษณะคล้ายพัด  พบได้ทั่วไปทางภาคกลาง  และภาคใต้ทางแถบชายฝั่งด้านตะวันออก เช่น  นครศรีธรรมราช  สงขลา  พัทลุง  เป็นต้น  เรานิยมนำใบลานมาสานเป็นหมวกงอบ  หรือนำมาสานเป็นของเล่นให้เด็ก  เช่น  การสานเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ

                                                    ภาพที่ 6  แสดงหมวกจากใบลาน

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.elibrary.sacict.net/th/products/detail.php [5 มิถุนายน 2552]


2.7  ผักตบชวา

            ผักตบชวาจัดเป็นพืชน้ำประเภทใบเลี้ยงเดี่ยวลอยน้ำเจริญงอกงามโดยไม่ต้องอาศัย
รากยึดเกาะ  มีชื่อเรียกในแต่ละท้องถิ่นไม่เหมือนกัน เช่น ผักปอด สวะ ผักโรค ผักตบชวา
ผักยะวา ผักอีโยก เป็นต้น
 ซึ่งประเทศไทยมีผักตบชวามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยเจ้านาย
ในสมัยนั้นได้ตามเสด็จไปประเทศอินโดนีเชีย  พ.ศ.
2444  ได้เห็นผักชนิดนี้ออกดอกสีม่วงสวยงามอยู่ทั่วไปจึงได้นำเอาพันธุ์ผักตบชวามายังประเทศไทยเพียงเล็กน้อย  ใส่อ่างดินเลี้ยงไว้หน้าวังสระประทุมจนกระทั่งออกดอกสวยงามและเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนล้นกระถางประกอบด้วยในช่วงนั้นเกิดน้ำท่วมวังสระประทุมทำให้ผักตบชวาล่องลอยกระจัดกระจายออกไปตามที่ต่าง ๆ            ผลิตภัณฑ์หลัก  ผลิตภัณฑ์ที่ตลาดมีความต้องการมาก จัดเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการผลิตของผู้ผลิต  เช่น  กระเป๋า  ตะกร้า  เป้  ในรูปแบบต่าง ๆ

            ผลิตภัณฑ์รอง  ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ  ที่ตลาดมีความต้องการรองลงไป  คือ  กรอบรูป  หมวก รองเท้า  ของชำร่วย  และโคมไฟ  เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์

                                                     ภาพที่ 7  แสดงตะกร้าจากผักตบชวา

ที่มา : สืบค้นจาก  http://www.phrae.ru.ac.th/index.php [5 มิถุนายน 2552]

2.8  เปลือกข้าวโพด

            ข้าวโพด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ซีเมส์ (Zea mays) เป็นพืชตระกูลเดียวกับหญ้ามีลำต้นสูง โดยเฉลี่ย 2.2 เมตร ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้น 0.5-2.0 นิ้ว ถิ่นกำเนิดก็คือ ได้มีการขุดพบซังข้าวโพดและซากของต้นข้าวโพดที่ใกล้แม่น้ำในนิวเม็กซิโก (แถบอเมริกาใต้) และปัจจุบันนิยมปลูกแพร่หลายในแถบอเมริกา แคนาดา ฯลฯ สามารถปลูกได้ในสภาพที่ภูมิอากาศแตกต่างกันมาก ๆ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์ เพราะสามารถนำมาเลี้ยงสัตว์ได้ทั้งต้น ใบ และเมล็ด

นอกจากนี้ เปลือกข้าวโพด สามารถนำไปประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆได้อีกมากมาย  เช่น ตุ๊กตา  กระเป๋า  ครอบกล่องกระดาษทิชชู  พัด  ดอกไม้จันทน์  กระทง  เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์


                                                ภาพที่ 8  แสดงกระทงจากเปลือกข้าวโพด

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.oknation.net/blog/2007.htm [6 มิถุนายน 2552]


2.9  เกล็ดปลา

            เกล็ดปลาทุกชนิดมีคุณสมบัติในการดูดสีและกลิ่น จึงสามารถนำมาย้อมสีและอบกลิ่นหอมได้ เกล็ดปลาที่เหมาะสำหรับทำสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ควรเป็นเกล็ดปลาที่มีพื้นผิวสาก ลักษณะของเกล็ดปลาที่มีผิวสาก ขอบเกล็ดบางใส มีสันเป็นแกนหนา พื้นผิวเกล็ดมีลักษณะสากมือเมื่อสัมผัส เนื่องจากมีหนามเล็ก ๆ โดยเฉพาะบริเวณแกนกลางของเกล็ด หนามที่ผิวเกล็ดช่วยให้เกล็ดดูดซึมสีและกลิ่นได้ดีติดทนนาน ส่วนสันที่เป็นแกนหนา ช่วยให้เกล็ดปลามีคุณสมบัติในการคงรูปทรงเกล็ดปลาที่อยู่ในกลุ่มนี้  และมีปริมาณมากพอที่จะนำมาทำในเชิงการค้า  ได้แก่ เกล็ด              ปลากระพง  ปลาครืดคราด ปลากระบอก เป็นต้น

            นอกจากนี้เกล็ดปลายังสามารถนำมาทำงานประดิษฐ์ประเภทต่าง ๆ ได้  เช่น  เครื่องประดับดอกไม้  ของชำร่วย  เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์


                                                    ภาพที่ 9  แสดงดอกไม้เกล็ดปลาประดับกล่องทิชชู

  ที่มา : สืบค้นจาก http://www.rattaphoom.go.th/modules/otop/index.php [6 มิถุนายน 2552]

2.10  ตะโก

            ไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 15 เมตร เปลือกต้นสีดำแตกเป็นสะเก็ด หน้าใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันรูปไข่กับหรือรูปป้อม ๆ กว้าง 2.5-7 ซม. ยาว 3 - 12 ซม. โคนใบสอบเป็นรูปลิ่ม ปลายใบโค้งมน ป้าน เว้าเข้าใบเกลี้ยงด้านล่าง เมื่อใยยังอ่อนอยู่มีขนบ้าง เส้นใบมี 6 - 8 คู่ เห็นได้ชัดทางด้านล่าง เส้นกลางใบสีแดงเรื่อ ๆ เมื่อใบแห้ง ดอก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่คนละต้น ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อเล็ก ๆ ตามง่ามใบ ช่อหนึ่ง ๆ มีประมาณ 3 ดอก มีขนนุ่ม กลีบรองกลีบดอกและกลีบดอกมี 4 กลีบ  กลีบดอกยาว 8 - 12  มม.  เชื่อมติดกันเห็นรูปเหยือกน้ำหรือรูปป้อม ๆ ปลายแยกเป็นแฉกเล็ก ๆ  ส่วนดอกเพศเมียออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ กลีบรองดอก และกลีบดอกเหมือนดอกเพศผู้แต่ใหญ่กว่าผล  มีลักษณะกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.52.5  ซม. เมื่อผลอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง ขนร่วงง่าย โคนและปลายผลมักบุ๋ม

ใบตะโกสามารถนำมาทำเป็นใบบางเพื่อประดิษฐ์ดอกไม้  เป็นเครื่องประดับ  หรือเป็นโคมไฟ เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนหรือในท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์


                                               ภาพที่ 10  แสดงดอกไม้ประดิษฐ์จากใบตะโก

ที่มา : สืบค้นจาก http://www.takesa1.go.th/ydbwtk/ebook/index.html [7 มิถุนายน 2552]

วัสดุในโรงเรียนหรือท้องถิ่นใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ทำงานประดิษฐ์ได้

ที่มา :https://www.pexels.com วัสดุธรรมชาติที่หาได้ภายในโรงเรียนหรือในท้องถิ่น ที่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นของใช้และของตกแต่ง ภายในบ้านได้เช่น กิ่งไม้ใบยาง กะลามะพร้าว ไม้ไผ่ปอสา เปลือกหอย ใยบวบ ใบลาน เกล็ดปลา เป็นต้น

วัสดุในโรงเรียนที่สามารถนำมาทำงานประดิษฐ์ได้ มีอะไรบ้าง

1.1 วัสดุในโรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นเศษวัสดุและวัสดุเหลือใช้ เช่น กระดาษ ขวดน้ำพลาสติก ขวดนม ริบบิ้น ไหมพรม ด้าย เศษผ้าแผ่นซีดี ลังกระดาษ ซึ่งวัสดุเหล่านี้สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นของใช้ ของตกแต่งได้มากมาย เช่น โคมไฟจากขวดน้ำพลาสติก ที่วางโทรศัพท์เคลื่อนที่จากกระดาษ

วัสดุที่ใช้ในการประดิษฐ์มีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ที่จําเป็นในงานประดิษฐ์ ได้แก่ ไม้บรรทัดเหล็ก ไม้บรรทัดพลาสติก ดินสอ ยางลบ กระดาษเปล่า กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรตัดโลหะ คัตเตอร์ มีดโต้ มีดจักตอก มีดเจียน มีดแกะสลัก เลื่อยฉลุ เลื่อยรอ ค้อนและตะปู คีมจับ คีมจับและคีมตัด สว่านมือ สว่านไฟฟ้า เข็มมือ เข็มร้อยมาลัย ด้าย พู่กัน แปรง เกรียง แบบหรือแม่พิมพ์ ...

วัสดุที่มีในท้องถิ่นมีอะไรบ้าง

วัสดุในท้องถิ่น หมายถึง วัตถุตามธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น เช่น ผักตบชวา ใบตาล กระบอกไม้ไผ่.
อุปกรณ์ที่ใช้วัด ได้แก่ สายวัด ตลับเมตร ไม้บรรทัด.
อุปกรณ์ที่ใช้ตัด ได้แก่ กรรไกร เลื่อย มีด.
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเจาะ สว่านมือ สว่านไฟฟ้า.
อุปกรณ์ที่ใช้ในการขึ้นรูปทรง ได้แก่ ค้อน ไขควง คีม.