เกลือ มีคุณสมบัติ อย่างไร ในการ ผลิตน้ำยาล้างจาน

เกลือ มีคุณสมบัติ อย่างไร ในการ ผลิตน้ำยาล้างจาน

น้ำยาล้างจาน หมายถึง ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ทำความสะอาดจาน ชาม รวมถึงภาชนะอื่นๆที่ใช้ในครัวเรือนเพื่อช่วยกำจัดคราบไขมัน และเศษอาหารให้ออกได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ยังใช้เพื่อทำความสะอาดในด้านอื่นๆ เช่น ใช้ทำความสะอาดภาชนะต่างๆ ใช้ทำความสะอาดมือเท้า เป็นต้น

ชนิดของน้ำยาล้างจาน
1. น้ำยาล้างจานจากพืช เป็นน้ำยาล้างจานที่ผลิตได้จากส่วนผสมของพืชเป็นหลัก เช่น น้ำมะกรูด น้ำมะนาว เป็นต้น มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตในภาคครัวเรือนเพื่อใช้เองหรือผลิตเพื่อการจำหน่ายขนาดเล็กเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน
2. น้ำยาล้างจานจากสารเคมี เป็นน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารเคมีเป็นหลัก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตมากในภาคอุตสาหกรรม
3. น้ำยาล้างจานจากสารเคมี และจากพืช เป็นน้ำยาล้างจานที่มีส่วนผสมของสารเคมี และสารสกัดจากพืชเป็นหลัก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิต และใช้มากในปัจจุบัน ทั้งในภาคอุตสาหกรรม และครัวเรือน

ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่มีการผลิต และใช้มากในปัจจุบันมักเป็นผลิตภัณฑ์จากสารเคมี และผลิตภัณฑ์จากสารเคมีมีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชเป็นหลัก มีลักษณะสีเหลืองหรือสีใสข้น ส่วนน้ำยาล้างจานจากพืชมักพบผลิต และมีการใช้น้อยที่สุด ซึ่งจะพบได้ในภายในครัวเรือนหรือเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน

เกลือ มีคุณสมบัติ อย่างไร ในการ ผลิตน้ำยาล้างจาน

ประโยชน์น้ำยาล้างจาน
1. ใช้ล้างทำความสะอาดคราบไขมัน คราบอาหารที่เปื้อนตามมือ เท้า หรือส่วนต่างๆของร่างกาย ยกเว้นบริเวณผิวบอบบาง เช่น ใบหน้า
2. ใช้ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเครื่องจักรต่างๆ
3. ใช้ล้างทำความสะอาดแก้ว กระจกหรือเครื่องตกแต่งต่างๆ
4. ใช้ล้างรถ
5. น้ำที่ใช้แล้วจากการล้างจานหรือภาชนะในครัวเรือนสามารถนำมารดต้นไม้หรือลานหญ้าเพื่อเพิ่มปุ๋ยฟอสฟอรัสได้

ส่วนประกอบของน้ำยาล้างจาน
ส่วนประกอบของน้ำยาล้างจานที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์จะประกอบด้วยสารเคมีในกลุ่มสารลดแรงตึงผิวที่ให้ประจุลบเป็นหลัก มีลักษณะลื่น เมื่อละลายน้ำจะมีฤทธิ์เป็นกรด และทำให้เกิดฟองจำนวนมาก สามารถแทรกซึมสู่พื้นผิวของภาชนะได้ดีทำให้คราบไขมัน และเศษอาหารหลุดออกได้ง่าย ส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่
1. Sodium Alkyl Benzene Sulphonate หรือ Linear Alkyl Benzene Sulphonate (น้ำยา N70) 12.8 – 14.4% w/w
2. Sodium Lauryl Ether Sulphate 3.5% w/w
3. Cocamidopropyl Betaine 0.5% w/w
4. สารสกัดจากพืช เช่น น้ำมะนาว น้ำมะกรูด

การผลิตน้ำยาล้างจาน
น้ำยาล้างจานสามารถเลือกซื้อใช้ตามผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดหรือผลิตใช้เองโดยใช้ส่วนผสมหลักดังกล่าวข้างต้น และประยุกต์ด้วยการผลิตใช้เองในครัวเรือนก็ได้ในสูตร ดังนี้

การผลิตน้ำยาล้างจาน 10 ลิตร จะใช้ส่วนผสม ดังนี้
1. Sodium Alkyl Benzene Sulphonate หรือ Linear Alkyl Benzene Sulphonate (น้ำยา N70) 1.2 – 1.5 กิโลกรัม
2. Sodium Lauryl Ether Sulphate 0.3-0.4 กิโลกรัม
3. น้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดที่ผ่านการกรอง และต้มฆ่าเชื้อ 1.0 กิโลกรัมหรือลิตร
4. เกลือ 0.05 กิโลกรัม หรือ 50 กรัม
5. น้ำต้ม (ลิตรหรือกิโลกรัม) จำนวนตามสูตร 10-(ข้อ 1)-(ข้อ 2)-(ข้อ 3)-(ข้อ 4)

เช่น 10-1.2-0.3-0.05-1.0 = 7.45 ลิตรหรือกิโลกรัม

วิธีใช้
เนื่องจากผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานที่จำหน่ายในปัจจุบันมักผลิตออกมาในรูปเข้มข้น ซึ่งใช้เพียงหยดสองหยดก็สามารถล้างจานหรือภาชนะได้หลายใบ โดยมักใช้ร่วมกับฟองน้ำล้างจานเพื่อทำให้เกิดฟอง ช่วยขจัดคาบ และกลิ่นคาวได้ง่าย

ข้อควรระวัง
1. ระมัดระวังไม่ให้สัมผัสกับตา เนื่องด้วยสารประกอบส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นกรด หากสัมผัสกับตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบตา ตาแดง ตาอักเสบได้ง่าย เมื่อสัมผัสให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
2. ห้ามรับประทาน และควรเก็บให้พ้นจากมือเด็กที่อาจหยิบจับได้ง่าย
3. ผู้ที่มีอาการแพ้ต่อสารเคมีได้ง่ายควรทดสอบโดยการละลายน้ำ และทาบางๆบนผิวหนัง หากเกิดอาการแพ้ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือให้สวมถุงมือก่อนใช้ทุกครั้ง

น้ำยาล้างจาน คือ น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมเฉพาะเพื่อขจัดคราบสกปรกจากอาหารให้ภาชนะเครื่องครัว มีความแตกต่างจากน้ำยาทำความสะอาดประเภทอื่น เนื่องจากต้องเน้นที่การขจัดคราบไขมันจากอาหาร และต้องปลอดภัยต่อการนำภาชนะมาบริโภคต่อ

คุณสมบัติของน้ำยาล้างจาน

  • ขจัดคราบได้สะอาดหมดจด
    คราบจากอาหารส่วนใหญ่ จะทำความสะอาดยากเพราะคราบไขมันจากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันจากพืช น้ำมันประกอบอาหาร หรือน้ำมันจากเนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่สามารถล้างด้วยน้ำเปล่าได้ เพราะน้ำและน้ำมันนั้นแยกชั้นกันชัดเจน น้ำยาล้างจานที่ดีจึงควรมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้หมดจด เพื่อประหยัดเวลาและประหยัดน้ำ ไม่ต้องล้างหลายรอบ
  • ล้างออกง่าย ไม่มีสารตกค้าง
    นอกจากสามารถล้างคราบสกปรก คราบไขมันจากอาหารได้แล้ว ตัวน้ำยาล้างจานเอง ต้องสามารถล้างออกง่ายด้วยน้ำสะอาด เพราะหากเหลือสารตกค้างหลงเหลือบนภาชนะ อาจทำให้หลงเหลือกลิ่น และสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
  • ไม่ทำร้ายผิว
    น้ำยาล้างจานเป็นผลิตภัณฑ์คู่ครัวของทุกๆ บ้าน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานบ่อยทุกมื้ออาหาร หากเราต้องใช้บ่อยๆ หรือล้างจานปริมาณมาก ควรสวมถุงมือเพื่อป้องกันผิวจากสารเคมี แต่ในบ้างครั้งอาจลืมหรือไม่สามารถควบคุมคนในบ้านให้สวมถุงมือได้ เพื่อความปลอดภัย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใส่สารเคมีที่เป็นอันตราย

ทำความรู้จักส่วนผสมในน้ำยาล้างจาน

ในน้ำยาล้างจาน อาจประกอบไปด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่นน้ำหอม น้ำ เกลือ สารทำความสะอาด โดยเฉพาะสารทำความสะอาด ประเภทลดแรงตึงผิว (surfactant) เพื่อปรับสภาพส่วนประกอบของน้ำและน้ำมัน ทำให้สารผสมกันได้ และถูกล้างออกจากภาชนะ  ในน้ำยาล้างจานแต่ละยี่ห้อ อาจใช้สารประเภทลดแรงตึงผิวหลายชนิดต่างกันไป และใช้ส่วนประกอบในสูตรต่างๆ  ในการผลิตเพื่อนำมาขายสู่ผู้บริโภค

หากเรามีความรู้ด้านสารเคมีเบื้องต้น ทำให้สามารถเลือกน้ำยาล้างจานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยต่อการใช้งาน ลองทำความรู้จักว่าพื้นฐานแล้ว สารเคมีตัวไหนที่เราควรเลือกใช้ และสารพิษจากน้ำยาล้างจานที่เราควรหลีกเลี่ยง

1. สารทำความสะอาดประเภทลดแรงตึงผิว (surfactant)

ควรเลือก ควรเลี่ยง
Linear Alkyl Benzene Sulfonate (LAS) เป็นสารลดแรงตึงผิว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ Dodecyl benzene sulfonates เป็นสารลดแรงตึงผิว มีพิษปานกลางหากสูดดมเป็นปริมาณมาก ระคายเคืองต่อผิวหนัง ย่อยสลายยากตามธรรมชาติ
Sodium Lauryl Ether Sulfate หรือ Sodium laureth sulfate (SLES) มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง มีฟอง ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวน้อย ปลอดภัยต่อการใช้เป็นสารทำความสะอาด Sodium lauryl sulfate (SLS) เป็นสารประเภทลดแรงตึงผิว ใช้ทำความสะอาดมีฟอง ชื่อคล้ายกับสาร SLES จึงทำให้หลายคนสับสนระหว่างสาร 2 ตัว แต่ SLS เป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวมากกว่าและมีราคาถูกกว่า น้ำยาทำความสะอาดบางยี่ห้อจึงใช้สารตัวนี้

2. สารสกัดจากผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด
สารสกัดจากผลไม้ เช่น มะนาว มะกรูด เลม่อน ช่วยดับกลิ่นคาว ช่วยปรับความกระด้างในน้ำยา และช่วยในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้

3. น้ำหอม
ในน้ำยาล้างจานอาจมีการเติมน้ำหอม เพื่อความหอมสดชื่นขณะล้างจานและทำให้ได้กลิ่นจากภาชนะและเครื่องครัวหากล้างไม่สะอาด จึงช่วยให้สังเกตได้ง่ายขึ้นว่าล้างสะอาดดีหรือยังมีสารตกค้างอยู่ แต่ขณะเดียวกันน้ำหอมก็สามารถเป็นสารที่เกิดอาการแพ้ได้ หากท่านใดที่แพ้น้ำหอมควรหลีกเลี่ยงน้ำยาล้างจานที่เติมน้ำหอม

4. เกลือ
ใช้เพิ่มความข้นหนืดในน้ำยาและช่วยในการทำความสะอาด

5. น้ำเปล่า
ทำให้น้ำยาชะล้างได้ง่ายขึ้นและเพิ่มปริมาณน้ำยาเพื่อเจือจางน้ำยา น้ำยาล้างจานที่มีการผสมน้ำเปล่ามากเกินไปจะทำให้ไม่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ลดลง

น้ำยาล้างจานเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำได้ภายในครัวเรือน น้ำยาล้างจานจากส่วนผสมธรรมชาติ และมีสูตรต่างๆ ในท้องตลาดมากมาย ราคาน้ำยาล้างจานจึงมีหลากหลาย ตั้งแต่ลิตรละ 20 บาท ถึงหลักร้อยบาท เมื่อเรารู้จักคุณสมบัติและวิธีเลือกส่วนผสมในน้ำยาล้างจานแล้ว เราจะสามารถเลือกน้ำยาล้างจานที่เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านเราได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อยี่ห้อแพงๆ ตามท้องตลาดและยังได้น้ำยาล้างจานที่ดีมาใช้งานอีกด้วย

สินค้าที่เกี่ยวข้อง :

เราใช้คุกกี้ในเว็บไซต์ของเราเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดโดยจดจำการตั้งค่าของคุณและเข้าชมซ้ำ ดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม การคลิก "ยอมรับ" แสดงว่าคุณยินยอมให้ใช้คุกกี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าไปที่ "การตั้งค่าคุกกี้" เพื่อให้คำยินยอมที่มีการควบคุม