หลักธรรมที่นำมาใช้ คือ สัปปุริสธรรม ๗ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
ได้แก่ รู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้ชุมชน รู้บุคคล - รู้เหตุ คือ รู้หลักความจริง รู้หลักการ รู้หลักเกณฑ์ รู้จักพิจารณาหาต้นตอของสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง เพื่อลงมือแก้ไขให้ถูกตามเหตุนั้น เช่น ปัญหาห้องน้ำของร.ร.มีกลิ่นรบกวน เกิดจากสาเหตุหลักคือ สภาพของบ่อเกรอะที่ใช้งานมานาน การไม่ช่วยกันรักษาความสะอาดหลังการใช้ห้องน้ำ เป็นต้น - รู้ผล คือ รู้จักผลที่จะเกิดขึ้นสืบเนื่องจากการกระทำ จึงต้องเลือกวิธีการปฏิบัติให้เกิดผลของการเปลี่ยนแปลง เช่น การรณรงค์ให้เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการรักษาความสะอาดห้องน้ำหลังการใช้ การทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ราดและล้างห้องน้ำเพื่อดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ - รู้ตน คือ รู้ภาวะ รู้ความสามารถ ความถนัด และคุณธรรมแล้วประพฤติให้เหมาะสมและรู้ที่จะแก้ไขปรับปรุงต่อไป ใช้หลักธรรมนี้สอนให้นักเรียนเตือนตนเองในสิ่งที่จะกระทำ ว่าเรามีความรู้เพียงพอหรือไม่กับสิ่งที่จะทำ ถ้ายังรู้ไม่พอ จะหาความรู้เพิ่มเติมได้จากใคร อย่างไร และการจะทำงานให้สำเร็จนั้นต้องอาศัยคุณธรรมอะไรบ้าง - รู้ประมาณ คือ ความพอดี เป็นการรู้จักประมาณในการใช้สิ่งต่าง ๆ เช่น การใช้เวลาสำหรับการเรียนและการทำกิจกรรม การใช้เงินงบประมาณที่ได้รับมาให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด โดยคำนึงถึงหลักเหตุผลในการตัดสินใจ - รู้จักกาล คือ รู้กาลเวลาอันเหมาะสม และระยะเวลาที่จะต้องใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ กระทำหน้าที่การงาน เช่น ให้ตรงเวลา ให้เป็นเวลา ให้ทันเวลา ให้พอเวลา ให้เหมาะเวลา ใช้หลักธรรมนี้เตือนนักเรียนให้กลับบ้านตรงเวลา เล่นให้เหมาะสมกับเวลา ทำงานให้ทันเวลา - รู้ชุมชน คือ รู้ที่จะประพฤติต่อชุมชนนั้นๆ ว่า ชุมชนนี้เมื่อเข้าไปหา จะต้องทำกิริยา จะต้องช่วยเหลืออย่างไร ใช้หลักธรรมข้อนี้กระตุ้นนักเรียนให้รู้ว่าควรช่วยเหลืองานอะไรในชุมชนบ้าง - รู้บุคคล คือ ความแตกต่างแห่งบุคคลว่า โดยอัธยาศัย ความสามารถ และคุณธรรม และรู้ที่จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นๆ ด้วยดี รู้ว่าควรเมื่อจะต้องประสานงานกับใคร ขอความร่วมมือจากใคร ต้องใช้คำพูดและวิธีการอย่างไร จึงได้ได้การมีส่วนร่วมของบุคคลหลายๆ ฝ่าย เพื่อให้งานสำเร็จ ๒) แนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักปรัชญาความพอเพียงเป็นหลักคิด และหลักปฏิบัติ ในการดำเนินชีวิต เพื่อนำไปสู่ความ พอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ของคนไทย สังคมไทย เพื่อให้ก้าวทันยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งประกอบด้วยหลัก ๓ ห่วง และ ๒ เงื่อนไข ได้แก่ (๒) หลักความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ เช่น การตัดสินใจเลือกใช้วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อดับกลิ่นรบกวนของห้องน้ำ ต้องให้หลักเหตุผลตามหลักวิชา ในการเลือกสูตรการทำน้ำหมักให้เหมาะกับคุณสมบัติเรื่องการดับกลิ่นห้องน้ำและคราบสกปรกต่างๆ ในห้องน้ำ จึงใช้มะกรูด มะนาว และมะปรี๊ด เป็นส่วนประกอบสำคัญ (๓) หลักการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง ความมีสติ ไม่ประมาท การใช้ปัญญาในการเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยน แปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ใช้หลักธรรมนี้เตือนใจนักเรียนให้รู้จักสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองในการวางแผนการทำงาน เช่น การเลือกบริเวณที่ตั้งถังน้ำหมักชีวภาพในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง เนื่องจากเราใช้ถังน้ำหมักขนาด ๒๐๐ ลิตร จำนวน ๒ ถัง ซึ่งเคลื่อนย้ายลำบาก จึงต้องเลือกตั้งไว้ในบริเวณที่สูง เพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากพื้นที่ของโรงเรียนเป็นที่ราบลุ่มต่ำ การสร้างทีมเยาวชนจิตอาสาชีวภาพดับกลิ่นให้ประกอบด้วยนักเรียนทั้งระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย เพื่อการดำเนินงานต่อไปในอนาคต จะได้มีการส่งต่องานระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินงาน (๔) เงื่อนไขความรู้ คือ ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ ใช้เงื่อนไขความรู้เป็นตัวนำในการตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ไขปัญหา ว่าควรใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรใดจึงจะเหมาะสมกับเวลาและสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุด ๔.๔ ประเมินผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของโครงงาน ดังนี้ ๑. ห้องน้ำไม่มีกลิ่นรบกวน ๒. นักเรียนแกนนำจิตอาสาและครูที่ปรึกษามีความรู้และทักษะเกี่ยวกับการทำน้ำหมักชีวภาพ ๓. นักเรียนโรงเรียนลาซาลจันทบุรี (มารดาพิทักษ์) เกิดจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาความสะอาดของห้องน้ำภายในโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น ๔. สามารถพัฒนา “การทำน้ำหมักชีวภาพ” เป็นฐานการเรียนรู้บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ความรู้แก่คณะผู้มาศึกษาดูงานการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา ๔.๕ การประเมินตนเอง ความคิดเห็นและความรู้สึกของประธานกลุ่มเยาวชนผู้รับผิดชอบโครงงาน “ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจในตนเองที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหากลิ่นของห้องน้ำที่ส่งกลิ่นรบกวนได้ สามารถนำทีมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของเพื่อน ๆ และน้องๆ ให้ดีขึ้นได้ และตั้งใจจะดำเนินโครงงานต่อไปเรื่อยๆ อย่างดีที่สุด”จากการที่ได้ทำโครงงานในครั้งนี้ได้เรียนรู้กระบวนการในการแก้ปัญหาต่างๆ และได้รู้จักการทำงานที่เป็นจิตอาสาโดยแท้จริง จิตอาสามีคุณธรรมด้านใดจิตอาสา หรือ จิตสาธารณะ เป็นคุณธรรมของพลเมือง ส่งเสริมทาให้สังคมเข้มเเข็งมีศักยภาพ ในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากการมีพลเมืองที่ตะหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม มีปรารถนาที่จะ ช่วยเหลือสังคม เชื่อมั่นในความสามารถของตนเองและการรวมกลุ่มปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตามแนวทางที่ได้กาหนดไว้จะทาให้เกิดการพัฒนาของสังคมนั้นได้ ...
หลักธรรมข้อใด การช่วยเหลือมีน้ำใจ อาสาการทำงานทีพอจะช่วยได้3. อัตถจริยา คือ การทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ช่วยเหลือตามกำลังแรงกายที่ตนมีอยู่ ไม่ได้ถูกบังคับทำด้วยความเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ขวนขวายช่วยทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นสาธารณะประโยชน ์ มุ่งให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาให้กับองค์กรด้วย
หลักธรรมใดที่ควรนำมาใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อเกิดประโยชน์มากที่สุด1. ความสามัคคีทางกาย คือ การทำงานร่วมกันด้วยความเสียสละ 2. ความสามัคคีทางใจ คือ มีความพร้อมใจกันที่จะทำกิจทุกอย่าง 3. ความสามัคคีทางความคิด คือ การช่วยกันคิดสร้างสรรค์ความเจริญให้เกิดแก่ส่วนรวม ไม่คิดเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
การประพฤติตนให้เป็นประโยชน์จัดอยู่ในหลักธรรมข้อใด3. อัตถจริยา คือ การประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กัน คือช่วยเหลือด้วยแรงกายและ ขวนขวาย ช่วยเหลือกิจการต่าง ๆ ให้ลุล่วงไป เป็นคนไม่ดูดาย ช่วยให้เกิดสติสำนึกในความผิดชอบชั่วดี หรือช่วย แนะนำให้เกิดความรู้ ความสามารถในการ ประกอบอาชีพ
|