พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ป่าฝนแอมะซอน - ป่าซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลภูมิอากาศโลกและช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน กำลังได้รับความเสียหายจากการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ด้วยเช่นกัน

Show

การตัดไม้ทำลายป่าใน 4 เดือนแรกของปี 2020 เพิ่มขึ้นถึง 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากผู้คนพากันฉวยโอกาสใช้วิกฤตครั้งนี้เข้าถางป่าอย่างผิดกฎหมาย

ก่อนหน้านี้การตัดไม้, การลักลอบทำเหมืองแร่, การบุกรุกถางป่าให้เป็นที่ดินเปล่าและไฟป่า ล้วนแต่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปีอยู่แล้ว นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเรากำลังขยับเข้าใกล้ "จุดที่ไม่อาจหวนคืน" อย่างรวดเร็ว และเมื่อถึงจุดนั้น แอมะซอนจะไม่สามารถทำหน้าที่สำคัญของมันได้อย่างที่ควรจะเป็นอีกต่อไป

เรามาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่กดดันให้ผืนป่าแอมะซอนต้องเดินไปสู่ภาวะใกล้ล่มสลาย รวมทั้งค้นหาคำตอบว่า 9 ประเทศที่ครอบครองอาณาเขตแต่ละส่วนของแอมะซอน ได้ลงมือทำอะไรเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติแห่งนี้บ้างหรือไม่

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Reuters

ป่าแอมะซอนกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ป่าฝนเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดและเต็มไปด้วยความหลากหลายมากที่สุดของโลก ถือเป็นบ้านของผู้คนกว่า 33 ล้านชีวิต รวมทั้งเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นับหมื่นสายพันธุ์

นับแต่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในบราซิล ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐแอมะซอนาสเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมีอัตราการติดเชื้อสูงสุดของประเทศ และยังเป็นรัฐที่มีการสนับสนุนงบประมาณด้านสาธารณสุขต่ำที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย

ทางการบราซิลได้กำหนดให้ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และจำกัดการเดินทางเคลื่อนย้ายผู้คน เพื่อสกัดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเหมือนกับในประเทศอื่น ๆ

แต่นั่นหมายความว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ภาคสนามซึ่งดำเนินภารกิจปกป้องป่าสงวนมายาวนานต้องถอนกำลังออกไป โจนาธาน มาโซเวอร์ จากองค์กรอนุรักษ์ Survival International บอกว่า ไม่มีการลาดตระเวนหรือเฝ้าระวังผืนป่ากันอีกแล้ว

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและรัฐต่าง ๆ ของบราซิลเริ่มใช้มาตรการปิดเมือง สถิติการตัดไม้ทำลายป่ากลับพุ่งพรวดขึ้นถึง 64% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นนี้ได้จากภาพถ่ายดาวเทียมของสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล (INPE)

เมื่อปีที่แล้ว เหตุไฟป่ารุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งชนิดที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน ได้เผาทำลายผืนป่าแอมะซอนไปเป็นบริเวณกว้าง ฤดูกาลที่ไฟป่ารุนแรงที่สุดนั้นเริ่มจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเป็นกังวลว่า ช่วงเวลาดังกล่าวอาจประจวบเหมาะเข้ากับตอนที่วิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นสู่จุดสูงสุดพอดี

แม้ทางการบราซิลจะได้วางกำลังทหารในภูมิภาคแอมะซอน เพื่อปกป้องป่าฝนแห่งนี้และจัดการกับพวกลักลอบตัดไม้รวมทั้งปัญหาไฟป่า แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า อันที่จริงนโยบายและถ้อยแถลงของรัฐบาลนั้น กลับช่วยส่งเสริมขบวนการมอดไม้และพวกลักลอบทำเหมืองแร่ในป่าเสียมากกว่า

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

แม้ก่อนที่อัตราการตัดไม้ทำลายป่าจะพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ สถิติในเรื่องดังกล่าวของ 9 ประเทศและดินแดนในภูมิภาคแอมะซอนก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดอยู่แล้ว

บราซิล โบลิเวีย และเปรูเป็น 3 ใน 5 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิ (primary forest) ไปมากที่สุดในปี 2019 นอกจากนี้โบลิเวียยังประสบเหตุไฟป่ารุนแรงมากที่สุดในประวัติการณ์ด้วย

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้น

ดร. อันโตนิโอ โดนาโต นอบรี นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศของบราซิลบอกว่า "หากเอาแต่อ้างถึงการตัดไม้ทำลายป่าเพียงอย่างเดียว เวลาที่เราคุยกันเรื่องสาเหตุของการสูญเสียผืนป่าแอมะซอน ผมขอเรียกคำพูดเช่นนี้ว่า โกหกสีเขียวคำโต"

"ขณะนี้ ระดับการทำลายป่าฝนเขตร้อนของแอมะซอนนั้นกินพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 20% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ชอบพูดกันทางสื่อมวลชนไปมากแล้ว"

เพื่อให้เข้าใจถึงระดับการทำลายล้างที่แท้จริงอย่างสมบูรณ์ ดร. นอบรีบอกว่าจำเป็นต้องนำเอาปัจจัยอื่น ๆ ที่ร่วมกันทำให้ป่าเสื่อมสภาพเข้ามาพิจารณาด้วย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟป่าหรือการลักลอบล่าสัตว์โดยผิดกฎหมาย ซึ่งสภาพการณ์เหล่านี้ขัดขวางไม่ให้ระบบนิเวศทำหน้าที่ของมันอย่างที่ควรจะเป็น

แม้ป่าจะไม่ได้สูญเสียต้นไม้และพืชพรรณอื่น ๆ ไปทั้งหมด แต่การที่ป่าเสื่อมสภาพจะทำให้มันสูญเสียคุณสมบัติที่มีความสำคัญยิ่งยวดต่อโลกใบนี้

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าหากเราไม่สามารถแก้ไขระดับความรุนแรงของการตัดไม้ทำลายป่าและการเสื่อมสภาพของป่าให้เปลี่ยนแปลงไปจากอัตราที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปด้วย

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

  • เปิดสถิติไฟป่าแอมะซอน วิกฤตหนักแค่ไหน
  • บราซิลจะปฏิเสธเงินช่วยเหลือจากกลุ่ม G7 เพื่อช่วยแก้วิกฤตไฟป่าแอมะซอน

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Reuters

เหตุตัดไม้ทำลายป่าทุกครั้งใช่ว่าจะเหมือนกัน

วิธีวัดความรุนแรงของการตัดไม้ทำลายป่าที่นิยมใช้กันทั่วไปมากที่สุด คือการหาความกว้างของพื้นที่สูญเสียต้นไม้ปกคลุม (tree cover loss) ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ไม่หลงเหลือพืชพรรณใด ๆ อยู่อีกเลย

องค์กรพิทักษ์ป่าโลกหรือ Global Forest Watch รายงานว่าในปี 2019 เพียงปีเดียว ได้เกิดพื้นที่สูญเสียต้นไม้ปกคลุมในผืนป่าแอมะซอนไปแล้วถึง 24,000 ตร.กม.

ในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ของป่าปฐมภูมิราว 17,000 ตร.กม. โดยป่าปฐมภูมินั้นคือผืนป่าที่ยังอยู่ในสภาพดั้งเดิมและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ตัวเลขสถิติข้างต้นหมายความว่า มีการทำลายป่าอุดมสมบูรณ์ที่ยังไม่เคยถูกรบกวน คิดเป็นพื้นที่เท่ากับ สนามฟุตบอล 3 สนาม ในทุก 1 นาที ตลอดปี 2019

ข้าม "สนามฟุตบอล 3 สนาม"

สนามฟุตบอลมักจะถูกใช้เป็นหน่วยอ้างอิงเปรียบเทียบในกรณีเช่นนี้ เนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าระบุว่า สนามฟุตบอลมาตรฐานสากลที่ใหญ่ที่สุดจะมีขนาดอยู่ที่ 1.08 เฮกตาร์ หรือ 10,800 ตารางเมตร แต่บางประเทศใช้สนามฟุตบอลที่มีขนาดเล็กกว่านั้น อันเป็นสาเหตุให้การคำนวณพื้นที่ป่าซึ่งถูกตัดทำลายได้ผลต่างกันออกไปอย่างมาก

จบ "สนามฟุตบอล 3 สนาม"

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

แม้สถิติการทำลายป่าปฐมภูมิของแอมะซอนใน 1 ปีจะฟังดูเล็กน้อย คิดเป็นเพียง 0.32% ของชีวนิเวศ (biome) ทั้งหมดเท่านั้น ทว่าหัวใจสำคัญของปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเชิงปริมาณหากแต่เป็นคุณภาพ

"พื้นที่ป่าแต่ละเฮกตาร์ที่ถูกตัดทำลาย ก็คือส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ต้องหยุดทำงานไป และมันส่งผลกระทบต่อผืนป่าที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด" ดร. เอริกา แบเรนเกอร์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านป่าฝนเขตร้อนของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกล่าว

ตลอดช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขการสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิยังคงพุ่งสูงในบรรดาสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มประเทศที่มีอาณาเขตทับซ้อนกับผืนป่าแอมะซอน

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ต้นไม้มีบทบาทอย่างไร

ป่าปฐมภูมิเป็นบ้านของต้นไม้อายุเก่าแก่หลายร้อยปีหรือหลายพันปี ต้นไม้เหล่านี้แสดงบทบาทอันทรงพลังในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทำหน้าที่เป็นคลังกักเก็บคาร์บอนปริมาณมหาศาล

ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศเพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง และปลดปล่อยกลับคืนออกมาเพียงเล็กน้อยระหว่างการ "หายใจ" ในแบบของพืช ส่วนที่เหลือจะถูกแปลงเป็นคาร์บอนเพื่อให้ต้นไม้นำไปใช้ผลิตน้ำตาล ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบการเผาผลาญสร้างพลังงาน

ยิ่งต้นไม้มีอายุเก่าแก่และมีขนาดใหญ่โตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถกักเก็บคาร์บอนเอาไว้ได้มากขึ้นเท่านั้น

ดร. แบเรนเกอร์บอกว่า ไม้ใหญ่ที่ลำต้นมีขนาดของเส้นรอบวงอย่างน้อย 3 เมตรขึ้นไป อาจมีปริมาณคาร์บอนที่กักเก็บไว้ภายใน 3-4 ตัน แต่ถ้าหากคาร์บอนในต้นไม้กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ก็จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 10-12 ตันเลยทีเดียว โดยตัวเลขนี้เทียบได้กับไอเสียที่รถยนต์สำหรับครอบครัว 1 คัน ปล่อยออกมาในระยะเวลา 4 ปี

คนจำนวนมากเชื่อว่าเราสามารถชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปในแอมะซอนได้ เพียงแค่ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นในที่อื่น ๆ แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ดร. เอริกา แบเรนเกอร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด

ผลกระทบโดยตรงอย่างหนึ่งจากการตัดไม้ทำลายป่า คือการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ป่ากักเก็บเอาไว้ ไฟป่าหรือการย่อยสลายของต้นไม้ที่ล้มลง ล้วนเปลี่ยนคาร์บอนในต้นไม้ให้กลายเป็นก๊าซเรือนกระจก

ด้วยเหตุนี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์จึงเกรงว่าแอมะซอนจะหยุดทำหน้าที่เป็นคลังกักเก็บคาร์บอนของโลก แล้วกลับกลายมาเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลแทน ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเร่งให้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้น

มีงานวิจัยที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า 20% ของผืนป่าแอมะซอนเริ่มปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูงกว่าอัตราการดูดซับกักเก็บไว้

  • ผืนป่าแอมะซอนถูกทำลายมากเป็นประวัติการณ์จากไฟป่าและการบุกรุก

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Getty

แอมะซอนถูกทำลายโดยเรามองไม่เห็น

ผู้เชี่ยวชาญอย่างดร. อันโตนิโอ นอบรี เชื่อว่าการตัดไม้ทำลายป่าเพียงอย่างเดียว ไม่อาจแสดงให้เราเห็นภาพของความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ และเราควรจะต้องนำปัญหาการเสื่อมสภาพของผืนป่าที่แอบแฝงอยู่มาพิจารณาร่วมด้วย

ปรากฏการณ์ที่ป่าเสื่อมสภาพเป็นผลมาจากปัจจัยทางภูมิอากาศอย่างเช่นภัยแล้ง มากพอ ๆ กับสาเหตุจากการกระทำของมนุษย์ เช่นการเผาป่าหรือลักลอบตัดไม้ซึ่งทำให้ป่าไม่สามารถทำหน้าที่สำคัญของมันได้ อย่างไรก็ตาม ขณะที่ปรากฏการณ์ป่าเสื่อมสภาพเกิดขึ้น เราอาจยังมองเห็นว่าป่ายังคงเขียวขจีและอยู่ในสภาพดีเมื่อมองลงมาจากที่สูง

เราไม่ควรตัดโค่นต้นไม้ในแถบแอมะซอนอีกแม้แต่ต้นเดียว ดร. อันโตนิโอ นอบรี สถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติบราซิล (INPE)

"แม้จะไม่ได้สูญเสียพืชพรรณต่าง ๆ ไปทั้งหมด แต่ดินจะแห้งและกร่อนตัวพังทลายได้ง่ายขึ้น สิ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศจุลภาค (microclimate) หรือสภาพภูมิอากาศส่วนย่อยเฉพาะพื้นที่ของป่า ส่งผลให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะดินแห้งและร้อนขึ้นได้เร็วกว่าเดิม" ดร. อเล็กซานเดอร์ ลีส์ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยาเขตร้อน มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เมโทรโพลิตันของสหราชอาณาจักรอธิบาย

นักวิทยาศาสตร์ยังเตือนว่า การเสื่อมสภาพนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ป่าคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่กักเก็บไว้ออกมา โดยผลวิจัยล่าสุดของเครือข่ายข้อมูลข่าวสารด้านสังคม-สิ่งแวดล้อม ตามพิกัดอ้างอิงทางภูมิศาสตร์แห่งภูมิภาคแอมะซอน (RAISG) ชี้ว่า 47% หรือเกือบครึ่งของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมดในพื้นที่แถบนี้ มาจากการเสื่อมสภาพของผืนป่า

สำหรับกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอมะซอนทั้ง 9 ประเทศนั้น ปัญหาป่าเสื่อมสภาพเป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน 7 ประเทศ

ความเสื่อมโทรมของป่ายังทำให้ "ประสิทธิภาพ" ในการทำงานตามกลไกต่าง ๆ ของป่าลดลง เช่นไม่สามารถสร้างฝนให้ตกในพื้นที่ของตนเองได้เหมือนเช่นเคย

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ดร. นอบรีบอกว่า หากนำเอาพื้นที่ป่าซึ่งถูกตัดทำลายมารวมเข้ากับพื้นที่ป่าเสื่อมสภาพ ผลที่ได้จะชี้ว่ากว่า 50% ของผืนป่าแอมะซอนไม่สามารถทำหน้าที่ทางสิ่งแวดล้อมให้กับภูมิอากาศของท้องถิ่นได้อีกต่อไป

นอกจากนี้ พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมยังกว้างใหญ่กว่าพื้นที่ป่าซึ่งถูกตัดทำลายถึง 2 เท่า

รายงานของรัฐบาลโคลอมเบียยืนยันเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผืนป่าแอมะซอนที่อยู่ในเขตแดนของประเทศตน ถูกตัดโค่นไปเป็นพื้นที่กว้างถึง 1,880 ตร.กม. และยังเกิดพื้นที่ป่าเสื่อมสภาพอีก 4,146 ตร.กม. ซึ่งมากกว่ากันเกิน 2 เท่า

เหตุใดจึงไม่มีการพูดถึงประเด็นป่าเสื่อมโทรม เมื่อมีการวัดระดับความสูญเสียของพื้นที่ป่าแอมะซอนก่อนหน้านี้

ดร. อเล็กซานเดอร์ ลีส์ อธิบายว่า "มันเป็นปรากฏการณ์ที่ยากจะตรวจวัดได้ แม้จะมองเห็นร่องรอยการเสื่อมสภาพของป่าจากภาพถ่ายดาวเทียม แต่ก็ต้องอาศัยข้อมูลจากภาคพื้นดินมาพิจารณาประกอบด้วย เพื่อให้เข้าใจได้ว่าป่าแห่งนั้นเสื่อมสภาพในระดับไหน มีการเสื่อมสภาพมากขึ้นหรือน้อยลง หรือกำลังฟื้นตัวอยู่"

ในหมู่นานาประเทศของภูมิภาคแอมะซอน บราซิลเป็นเพียงประเทศเดียวที่เผยแพร่ข้อมูลสถิติว่าด้วยการเสื่อมสภาพของป่าเป็นประจำทุกปี แต่อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิทยาศาสตร์จากทั่วภูมิภาคแห่งนี้กำลังพยายามค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประมวลขึ้นเป็นภาพรวมของสถานการณ์ปัจจุบันจากมุมมองที่กว้างขึ้น

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Alexander Lees/RAS

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้องสูญเสียป่าไป

หากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและป่าเสื่อมสภาพ ยังคงดำเนินต่อไปในระดับเดียวกับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แอมะซอนในฐานะระบบนิเวศเขตร้อนอาจหยุดทำงานลง แม้ป่าบางส่วนจะยังคงมีต้นไม้อยู่ก็ตาม

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิของแอมะซอนเป็นรายปี ระหว่างปี 2002-2019

  • บราซิล
  • โบลิเวีย
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • กายอานา
  • เฟรนช์เกียนา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

อัตราการสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิในแอมะซอนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี ระหว่างปี 2002-2019Country20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018bolivia0.160.340.540.861.111.361.671.92.492.853.163.313.623.754.184.544.745brazil0.460.891.461.982.392.723.033.233.563.794.114.284.554.795.636.236.627colombia0.120.160.30.410.490.680.830.941.051.191.31.421.571.661.832.132.52.7ecuador0.060.090.140.20.250.320.40.470.560.670.80.920.981.081.221.441.591.7french-guiana0.020.040.080.10.130.160.210.230.260.290.390.410.450.470.520.560.590.6guyana0.020.040.060.080.10.120.150.180.220.250.310.330.380.430.520.60.640.7peru0.070.130.220.360.450.560.690.861.011.141.391.61.791.942.152.412.612.8suriname0.020.030.050.070.080.10.130.170.20.240.340.390.470.530.610.720.840.9venezuela0.020.070.090.120.150.20.240.280.340.380.420.460.510.550.730.80.861ที่มา : Global Forest Watch

เราอาจเสี่ยงเข้าใกล้สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า "จุดพลิกผัน" (tipping point) อย่างน่าหวาดเสียว โดยจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ จะทำให้ลักษณะทางธรรมชาติของแอมะซอนแปรสภาพไปอย่างสิ้นเชิง

การคาดการณ์เช่นนี้จะกลายเป็นจริง หากอัตราการตัดไม้ทำลายป่าแตะถึงระดับ 20%-25% ซึ่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า

ในตอนนั้นแอมะซอนอาจต้องเผชิญกับฤดูแล้งที่ยาวนาน อุณหภูมิภายในผืนป่าสูงขึ้นจนต้นไม้เริ่มตายลง และในที่สุดป่าฝนเขตร้อนก็อาจจะกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้าที่แห้งแล้ง คล้ายกับทุ่งหญ้าสะวันนา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

คำทำนายที่ฟังดูน่ากลัวนี้ ยังไม่ได้รวมเอาปัจจัยเรื่องป่าเสื่อมสภาพเข้ามาพิจารณาด้วย เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ตรวจวัดได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่เรียกว่า Panamazonas หรือชีวนิเวศร่วมของแอมะซอนที่ครอบคลุมข้ามพรมแดนของหลายชาติ

นี่หมายความว่า เหตุการณ์เลวร้ายอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้กว่าที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญเคยคาดเอาไว้ แต่มันจะเป็นอย่างไรหากแอมะซอนได้ข้ามผ่าน "จุดพลิกผัน" ที่ว่านั้นไปแล้ว

ฝนตกน้อยลง

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Marizilda Cruppe/RAS

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถบอกได้แน่นอนว่า ความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่จะเกิดขึ้นกับป่าฝนเขตร้อนแอมะซอนได้แก่อะไรบ้าง

แต่ศาสตราจารย์ คาร์ลอส นอบรี นักภูมิอากาศวิทยาชาวบราซิลบอกว่า อุณหภูมิในบริเวณที่กลายสภาพเป็นทุ่งหญ้าสะวันนานั้นอาจสูงขึ้น 1.5-3 องศาเซลเซียส หรืออาจจะสูงกว่านั้นหากนำเอาอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากภาวะโลกร้อนมาคำนวณร่วมด้วย

ผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป สามารถจะนำหายนะมาสู่ระบบเศรษฐกิจของท้องถิ่นได้ การที่อุณหภูมิสูงขึ้นและฝนตกน้อยลงหมายถึงภาวะขาดแคลนน้ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์และปลูกพืชอย่างถั่วเหลือง

โรคภัยชุกชุมยิ่งขึ้น

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Getty

งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การตัดไม้ทำลายป่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับโรคภัยที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ เช่นไข้มาลาเรียและโรคลิชมาเนีย (Leishmaniasis)

การที่ป่าเสื่อมสภาพยังทำให้บรรดาแมลงต่าง ๆ ต้องมองหาแหล่งอาหารใหม่ และอาจทำให้พวกมันเริ่มออกหากินเข้ามาใกล้กับเขตเมืองและที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มากขึ้น

นอกจากนี้ ดร. เบียทริซ การ์เซีย เด โอลิเวียรา จากเครือข่ายสืบสวนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Red-Clima) ของบราซิลยังบอกว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังนำไปสู่การเกิดโรคที่สัมพันธ์กับอวัยวะอย่างหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคของระบบทางเดินหายใจอีกด้วย

"แม้สภาพการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของแอมะซอนจะไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ แต่อุณหภูมิของอากาศภายในภูมิภาคก็จะยังคงสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนอาจเพิ่มขึ้นถึง 8 องศาเซลเซียสภายในปี 2070 หากเรานำปัจจัยเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าและภาวะโลกร้อนมาพิจารณาร่วมกัน"

"การที่ป่าฝนของแอมะซอนจะถูกแทนที่ด้วยระบบนิเวศอีกแบบหนึ่งนั้น อาจทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นยิ่งกว่าที่ทำนายไว้เสียอีก หรือมันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้มาก" ดร. การ์เซีย เด โอลิเวียรา กล่าว

เราจะหลีกเลี่ยงจุดพลิกผันได้ไหม

ศ. คาร์ลอส นอบรี บอกว่ายังพอมีหนทางอยู่

"อันดับแรก เราต้องประกาศนโยบายห้ามตัดไม้ทำลายป่าอย่างสิ้นเชิงในแถบ Panamazonas ทันที รวมทั้งดำเนินโครงการปลูกป่าในทางตอนใต้ ทางตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ของแอมะซอน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกทำลายมากที่สุด"

"หากเราสามารถฟื้นฟูให้ป่ากลับคืนมาได้ราว 60,000 หรือ 70,000 ตร.กม.ในบริเวณอันกว้างใหญ่ที่มีช่วงฤดูแล้งยาวนานขึ้นกว่าเดิมไปแล้วนี้ เราอาจช่วยให้กลไกของป่ากลับมาทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้ป่าสามารถปรับตัวทนทานต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้นด้วย" ศ. นอบรีกล่าว

แต่ดูเหมือนว่าแผนการเหล่านี้จะไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ ในอนาคตอันใกล้

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Getty

ภัยคุกคามต่อแอมะซอนใน 9 ประเทศ มีอะไรบ้าง

การตัดไม้ทำลายป่าและสาเหตุของมัน คือแหล่งที่มาสำคัญแห่งความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลของ 9 ชาติในภูมิภาคแอมะซอน กับบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งบริษัทต่าง ๆ และชนเผ่าพื้นเมือง แต่หากกล่าวโดยสรุปแล้ว ความต้องการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ ได้ปะทะเข้ากับอุดมการณ์อนุรักษ์ผืนป่าแอมะซอนและการปกป้อง ชนพื้นเมืองดั้งเดิม เข้าอย่างจัง

ข้าม "ชนพื้นเมืองดั้งเดิม"

มีผู้คนกว่า 33 ล้านชีวิต อาศัยอยู่ในภูมิภาคแอมะซอน ซึ่งคิดเป็น 8% ของประชากรอเมริกาใต้ทั้งหมด โดยนับรวมทั้งผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง ชุมชนริมแม่น้ำ และหมู่บ้านของชนเผ่าต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันยังมีชนเผ่าพื้นเมืองอย่างน้อย 100 กลุ่ม ที่มีการติดต่อกับโลกภายนอกน้อยมากหรือไม่มีการติดต่อกับคนนอกเลย

จบ "ชนพื้นเมืองดั้งเดิม"

ความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของภูมิภาคแอมะซอนทั้งหมด รวมไปถึงผู้คนภายนอกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาบริเวณนี้และคนที่อยู่ห่างไกลออกไปทั่วโลก

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ดร. อันโตนิโอ นอบรี กล่าวว่า "หากไม่มีผืนป่าแอมะซอน พื้นที่แอ่งของลุ่มแม่น้ำริโอเดลาปลาตา หรือที่เรียกว่าแอ่งลุ่มแม่น้ำ "ริเวอร์เพลต" (River Plate Basin) รวมทั้งพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของบราซิลจะกลายเป็นทะเลทราย"

"ผู้คนไม่รู้กันเลยว่า มันหมายความว่าอย่างไรหากต้องสูญเสียพื้นที่ทางอุทกวิทยาที่แสนวิเศษนี้ไป"

อะไรคือสาเหตุที่ผลักดันให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าในแต่ละประเทศของภูมิภาคแอมะซอน มีการสูญเสียป่าปฐมภูมิไปเท่าใดแล้ว และรัฐบาลของแต่ละชาติกำลังทำอะไรอยู่

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน

  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

โบลิเวีย

พื้นที่ในแอมะซอน: 48 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 8%

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา reuters

มูลนิธิเพื่อนธรรมชาติ (FAN Bolivia) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่เฝ้าจับตาประเด็นด้านการอนุรักษ์ระบุว่า ไฟป่าที่เริ่มปะทุในโบลิเวียเมื่อเดือน พ.ค. ของปีที่แล้ว ได้ทำลายผืนป่าแอมะซอนไปเกือบ 2 ล้านเฮกตาร์

ครึ่งหนึ่งของป่าที่มอดไหม้อยู่ในเขตอนุรักษ์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพอยู่สูง

บรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังระบุว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีเอโบ โมราเลส ส่งเสริมการตัดไม้ทำลายป่า โดยมีนโยบายขายที่ดินให้กับนักธุรกิจและนำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกร

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของโบลิเวียที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน boliviaปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares4613052313560869389369906730759047965473169272103733884664531488129388481222771029065788390531ที่มา : Global Forest Watch

นโยบายถางป่าเพื่อขยายพื้นที่การเกษตรนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองและการเลี้ยงวัว โดยหวังจะเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดของประเทศจีน โดยในเดือนส.ค. ปี 2019 อดีตประธานาธิบดีโมราเลสได้จัดงานฉลองการส่งออกเนื้อวัวไปจีนครั้งแรกจากเมืองซานตาครูซ

พื้นที่ในแถบเดียวกันยังมีการปลูกถั่วเหลืองอย่างหนาแน่น โดยมีผลผลิตคิดเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศในปี 2018 พื้นที่ดังกล่าวยังได้รับผลกระทบจากไฟป่ามากที่สุดในปีที่แล้วด้วย

เพื่อยุติเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องไฟป่า อดีตประธานาธิบดีโมราเลสได้สั่งระงับการขายที่ดินในแถบซานตาครูซ โดยอ้างถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า "หยุดพักด้วยเหตุผลทางนิเวศวิทยา"

บีบีซีได้สอบถามไปยังกระทรวงสิ่งแวดล้อมของโบลิเวียเรื่องแผนลดการตัดไม้ทำลายป่า แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2008: เมืองลาจิกิตาเนียทางตะวันออกของโบลิเวีย เป็นหนึ่งในพื้นที่หลักของการทำฟาร์มเลี้ยงวัวและปลูกถั่วเหลืองของประเทศ

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2010: สมัยที่เอโบ โมราเลส ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ มีมาตรการส่งเสริมให้นักธุรกิจและเกษตรกรขยายพื้นที่การผลิตในแถบนั้น

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2014: การเผาป่าโดยจำกัดบริเวณ เป็นวิธีที่ทำกันทั่วไปในกระบวนการตัดไม้ทำลายป่า

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2016: หนึ่งปีหลังรัฐบาลของเอโบ โมราเลส อนุญาตให้ผู้ผลิตรายย่อยถางป่าเป็นพื้นที่กว้างกว่าเดิมได้ถึง 4 เท่า สถิติการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่นี้ก็เพิ่มสูงขึ้น

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2018: โบลิเวียเป็น 1 ใน 5 ประเทศของโลก ที่มีอัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิสูงที่สุด องค์กรอนุรักษ์ GFW ยังระบุว่า ในปี 2019 ไฟได้ทำลายผืนป่าแอมะซอนไปกว่า 2 ล้านเฮกตาร์

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

บราซิล

พื้นที่ในแอมะซอน: 421.3 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 18%

บราซิลได้รับคำชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก หลังสถิติการตัดไม้ทำลายป่าลดลงอย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2004-2014 ซึ่งคิดเป็นอัตราการลดลงสะสมถึง 80% ในช่วงเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษ

แต่อย่างไรก็ตาม การสูญเสียพื้นที่ป่าของบราซิลได้กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของบราซิลที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน brazilปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares1497092139641418549771716304133765810630411004269657409108083973945810358785792798741277770592717808196329512803911294540ที่มา : Global Forest Watch

ในเดือนพ.ย. ปี 2019 รัฐบาลบราซิลได้เผยแพร่ข้อมูลที่ตรงกับการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญก่อนหน้านั้นว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 ไปจนถึงกลางปี 2019 การตัดไม้ในเขตผืนป่าแอมะซอนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น

มีการตัดถางป่าจนเตียนโล่งเป็นพื้นที่ถึง 9,800 ตร.กม. ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ป่าถูกตัดโค่นที่กว้างใหญ่ที่สุดนับแต่ปี 2008 เป็นต้นมา

ตัวเลขนี้ยังไม่รวมพื้นที่ป่าที่ถูกเผาทำลายในเดือน ส.ค.ของปีที่แล้ว อันเป็นเหตุไฟป่าแอมะซอนที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

รัฐบาลของประธานาธิบดี ชาอีร์ โบลโซนาโร บอกว่าไฟป่าดังกล่าวเกิดจากสภาพอากาศในฤดูแล้ง แต่ผลการตรวจสอบและศึกษาของสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมแอมะซอน (IPAM) และมหาวิทยาลัย UFAC ของบราซิลพบว่าไม่ใช่เช่นนั้น

รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า หายนะจากไฟป่าครั้งล่าสุดเป็นผลมาจากการตัดไม้ทำลายป่าโดยตรง

"หลังจากตัดโค่นต้นไม้แล้ว พวกเขาจะปล่อยมันทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 เดือนให้แห้งตัว ก่อนจุดไฟเผาเพื่อปรับหน้าดินทั้งหมดให้เตียนโล่ง ที่ดินแห่งใหม่จะถูกนำไปใช้ปลูกหญ้าและทำเป็นทุ่งเลี้ยงวัว" ดร. เอริกา แบเรนเกอร์ กล่าว

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Alexander Lees/RAS

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่าการตัดไม้ทำลายป่าถึง 80% ในบราซิล มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับการทำฟาร์มเลี้ยงวัว บราซิลนั้นเป็นผู้ส่งออกเนื้อรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งทำรายได้เข้าประเทศคิดเป็น 7% ของจีดีพี และ 4.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

ปัจจุบันการเลี้ยงวัวถึง 40% ของบราซิล กระจายอยู่ในรัฐต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าแอมะซอน

แต่พื้นที่ป่าในลักษณะนี้ราว 60 ล้านเฮกตาร์ กลับถูกมองว่าเป็นที่ดินสาธารณะ ซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

กล่าวคือรัฐบาลไม่ได้กำหนดให้พื้นที่ป่าเหล่านี้เป็นเขตอนุรักษ์หรือเขตแดนของชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิม ดร. มาร์เซโล สตาบิลี นักวิจัยของ IPAM บอกว่า ผู้คนจำนวนมากพากันมาถางป่า ตัดโค่นต้นไม้ และเอาฝูงวัวมาเลี้ยงในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นวิธีการราคาถูกที่สุดเพื่อเข้าครอบครองที่ดินในป่า

ที่ดินที่เตียนโล่งปราศจากต้นไม้นั้น มีมูลค่าสูงกว่าในตลาดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

ที่ดินในบราซิลซึ่งได้จากการหักร้างถางพงส่วนใหญ่ ถูกใช้ประโยชน์เพื่อการเลี้ยงวัวเป็นหลัก แต่จุดมุ่งหมายของการทำฟาร์มอาจไม่ได้อยู่ที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เนื้อ แต่อยู่ที่การขายที่ดิน ดร. มาร์เซโล สตาบิลี, สถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมแอมะซอน (IPAM)

ขั้นตอนต่อไปของการเข้าครอบครองที่ดินในป่า ก็คือพยายามให้ได้เอกสารสิทธิ์มาโดยผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย จากนั้นจะขายที่ดินเพื่อทำกำไรให้กับเกษตรกรรายใหญ่ ซึ่งเมื่อที่ดินถูกโอนไปอยู่ในมือของผู้ซื้อแล้ว ก็ยากที่จะบอกได้ว่าพื้นที่ทำฟาร์มแปลงไหนได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่

สภาพการณ์น่าหดหู่เช่นนี้เกิดขึ้นกับโคลอมเบีย เปรู และเอกวาดอร์ด้วยเช่นกัน

อันที่จริงแล้ว ดร. สตาบิลีและนักวิจัยคนอื่น ๆ ได้เคยชี้เอาไว้ว่า บราซิลสามารถจะเพิ่มพื้นที่เลี้ยงวัวให้มากขึ้นได้ 2-3 เท่า โดยไม่ต้องตัดโค่นผืนป่าแอมะซอนอีกแม้แต่นิดเดียว

"การซื้อขายและเก็งกำไรราคาที่ดิน จูงใจให้ผู้คนทำลายป่ามากขึ้น หากรัฐบาลกำหนดให้พื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ควบคุมแทนที่จะเป็นพื้นที่สาธารณะ ก็จะทำให้มูลค่าการซื้อขายที่ดินในป่าลดลง"

เหล่านักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังชี้ว่า ถ้อยแถลงและนโยบายจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโบลโซนาโรนั้น ล้วนแต่ส่งเสริมการตัดไม้เพื่อสร้างพื้นที่การเกษตรใหม่ และยังสนับสนุนการเบียดเบียนทำร้ายชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมอีกด้วย

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

แม้รัฐบาลบราซิลจะปฏิเสธเรื่องนี้ แต่ประธานาธิบดีโบลโซนาโรบอกว่าต้องการจะยุติ "อุตสาหกรรมภาษีสิ่งแวดล้อม" และบอกว่าทั้งประเทศมีพื้นที่อนุรักษ์มากเกินไป นอกจากนี้ รัฐบาลบราซิลยังมีโครงการจะทำเหมืองบนพื้นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมอีกด้วย

ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนปี 2019 สถิติการทำร้ายและบุกรุกที่ดินของชนเผ่าพื้นเมืองมีเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาธารณชนต่างกล่าวโทษบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการถางป่า ตัดไม้ และทำเหมือง

อย่างไรก็ตาม เมื่อวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข้าขั้นร้ายแรงในเดือนพฤษภาคม ทางการตัดสินใจวางกำลังทหารราว 4,000 นายในพื้นที่ป่าแอมะซอน เพื่อต่อต้านการลักลอบตัดไม้และกิจกรรมอื่น ๆ ไปจนถึงเดือนมิถุนายน โดยปฏิบัติการนี้สามารถยืดระยะเวลาออกไปได้จนถึงช่วงฤดูแล้งเพื่อช่วยป้องกันไฟป่าด้วย

นายริคาร์โด ซาลเลส รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของบราซิลระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ทำให้สถานการณ์ในปีนี้เลวร้ายลงไปอีก

แต่ด้านประธานาธิบดีโบลโซนาโรกลับพูดคัดค้านมาตรการลงโทษพวกตัดไม้และทำเหมืองแร่ในป่า เช่นการทำลายเครื่องไม้เครื่องมือที่ถูกยึดทิ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายมันออกมาจากป่าได้ บรรดานักวิจารณ์มองว่านี่คือการที่รัฐบาลส่งสัญญาณว่าสนับสนุนขบวนการผิดกฎหมายเหล่านี้

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

โคลอมเบีย

พื้นที่ในแอมะซอน: 48.5 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 11.7%

เมื่อปี 2017 ขนาดของการตัดไม้ทำลายป่าในโคลอมเบียอยู่ในระดับสูงที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคแอมะซอน ทั้งยังเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของชาติอีกด้วย พื้นที่ป่ากว่า 140,000 เฮกตาร์ถูกตัดโค่น ซึ่งถือว่ามากกว่าสถิติของปีก่อนหน้าทั้งปีถึง 2 เท่า

อัตราการตัดไม้ทำลายป่าที่สูงเป็นประวัติการณ์นี้ เป็นผลจากการที่รัฐบาลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มกบฏฟาร์ก (FARC) ในปี 2016 ทำให้พื้นที่ป่าเกิดภาวะ "สุญญากาศทางอำนาจ"

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของโคลอมเบียที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน colombiaปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares47801201165714742836365717563065279439074572356573482094792263713366137167112277115383591369ที่มา : Global Forest Watch

บรรดาผู้นำชุมชนท้องถิ่นบอกว่า กลุ่มกบฏมีบทบาทเป็น "ตำรวจสิ่งแวดล้อม" ประเภทหนึ่ง โดยทำหน้าที่ควบคุมว่าเมื่อใดเกษตรกรจะสามารถถางป่า เผาไร่ หรือทำฟาร์มเลี้ยงวัวได้

"ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะไม่เฉียดเข้าใกล้พื้นที่ป่าแอมะซอนเลย เพราะว่ามีกลุ่มกบฏฟาร์กอยู่ กองกำลังแบบนี้ต้องป้องกันตนเองโดยใช้แนวไม้เป็นที่กำบัง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถบังคับใช้กฎที่เข้มงวดในการรักษาผืนป่า" นายโรดริโก โบเตโร ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์และการพัฒนาที่ยั่งยืน (FCDS) กล่าวอธิบาย

ทว่าทุกวันนี้โคลอมเบียกำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ หลังจากกลุ่มคนที่นำโดยเกษตรกรรายใหญ่, เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น, แก๊งค้ายาเสพติด, และกองกำลังต่อต้านรัฐบาลกลุ่มอื่น ๆ เช่น ELN ต่างเริ่มแข่งกันหักร้างถางพงเป็นการใหญ่

สิ่งที่คนเหล่านี้ทำ ล้วนเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการที่ดินในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยที่รัฐบาลไม่สามารถหยุดยั้งพวกเขาได้

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Alamy

รัฐบาลโคลอมเบียได้จัดตั้ง "สภาแห่งชาติเพื่อการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า" เพื่อแก้ไขปัญหานี้

กระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนบอกว่า หน่วยงานดังกล่าวจะออกค้นหาพื้นที่ป่าแหว่ง รวมทั้งสืบสวนหาสาเหตุและแนะนำมาตรการที่ควรลงมือทำในแต่ละกรณี

นอกจากนี้ยังมีการออกกฎหมายหลายฉบับเมื่อปี 2018 เพื่ออนุรักษ์แหล่งน้ำ ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และกำหนดให้ประเด็นทางสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญเป็นอันดับต้นในนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทำให้ขณะนี้รัฐบาลสามารถเข้าไปดำเนินปฏิบัติการปกป้องผืนป่าจากกิจกรรมผิดกฎหมาย ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแอมะซอนได้แล้ว

มาตรการอื่น ๆ ยังรวมถึงปฏิบัติการทางทหารเพื่อยับยั้งขบวนการถางป่าให้เป็นที่ดินเปล่า รวมทั้งออกโครงการเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินเพื่อหวังผลทางการอนุรักษ์อีกด้วย

จนกระทั่งปี 2018 โคลอมเบีย สูญเสียป่าปฐมภูมิไปแล้วถึง 11.7% ของพื้นที่รวม ในจำนวนพื้นที่ที่สูญเสียไปนี้เกิดขึ้นระหว่างปี 2010-18 ถึง 14% แต่ก็มีสัญญาณว่าความพยายามกำลังส่งผลดี โดย ในปี 2019 ตัวเลขการสูญเสียป่าปฐมภูมิลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แม้ว่า ระดับของการทำลายป่ายังสูงเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าก่อนการบรรลุข้อตกลงสันติภาพเสียอีก

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

เอกวาดอร์

พื้นที่ในแอมะซอน: 10.3 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 10%

ในทางตอนเหนือของประเทศเอกวาดอร์ การผลิตน้ำมันปาล์มถือเป็นภัยคุกคามหลักต่อผืนป่าแอมะซอน

น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารและสิ่งของอุปโภคบริโภคทั่วโลก เช่น ช็อกโกแลต เครื่องสำอาง เชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเอกวาดอร์เป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคลาตินอเมริกา และอันดับ 6 ของโลก

องค์กรพิทักษ์ป่าโลก GFW และโครงการอนุรักษ์แอมะซอน MAAP ระบุว่า การขยายพื้นที่ทำสวนปาล์มน้ำมันและปลูกต้นโกโก้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่า

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของเอกวาดอร์ที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน ecuadorปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares472330223967465746805322705460017198936310599107705034761611944187751234511359ที่มา : Global Forest Watch

กรณีของเอกวาดอร์นั้นน่าห่วงใยเป็นพิเศษ เพราะแม้จะมีพื้นที่ของประเทศอยู่ในชีวนิเวศแอมะซอนเพียงแค่ 2% แต่ก็เป็นเขตที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุดส่วนหนึ่งของผืนป่า โดยในพื้นที่เพียง 1 เฮกตาร์ของอุทยานแห่งชาติยาซูนิ ก็มีต้นไม้อยู่มากถึง 670 ชนิดพันธุ์แล้ว ซึ่งมากกว่าความหลากหลายของพืชพรรณที่มีอยู่ทั้งหมดในอเมริกาเหนือเสียอีก

นอกจากนี้ ผลการศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติของเอกวาดอร์ยังชี้ว่า ต้นไม้ราว 40%-60% ในผืนป่าแอมะซอนส่วนของตนนั้น ยังเป็นต้นไม้ที่นักพฤกษศาสตร์ไม่รู้จักและยังไม่ได้ทำการศึกษา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Getty

การทำเหมืองแร่เป็นที่แพร่หลายขึ้น

ข่าวโครงการทำเหมืองแร่และขุดเจาะสำรวจหาแหล่งน้ำมันในผืนป่าแอมะซอน กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่สร้างความฮือฮาในประเทศเอกวาดอร์เมื่อไม่นานมานี้

โครงการหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็คือ "มิราดอร์" (Mirador) เหมืองเปิดขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งจะขุดหาทองคำ เงิน และทองแดง ในพื้นที่ 2 จังหวัดของภูมิภาคแอมะซอน แต่นั่นไม่ใช่โครงการเดียว

รัฐบาลเอกวาดอร์บอกว่า อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในภูมิภาคดังกล่าวจะดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบโดยบริษัทสัญชาติจีน ส่วนรายได้ที่เกิดขึ้นจะเปิดทางให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของท้องถิ่นด้วย

อย่างไรก็ตาม บรรดานักอนุรักษ์มองว่าการทำเหมืองแร่จะนำปัญหาร้ายแรงมาสู่ภูมิภาคแอมะซอนเสียมากกว่า

ดร.คาร์เมน โฮซเซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของมูลนิธินิเวศวิทยาศาสตร์ (EcoCiencia) บอกว่าเรื่องนี้ไม่ต่างไปจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งไม่อาจจะรู้ได้แน่นอนว่าผู้ประกอบการเอกชนจะสร้างเขื่อนเหมืองแร่ขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และจะเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร

มันเป็นพื้นที่ทุรกันดารที่ยังมีความหลากหลายทางชีวภาพอยู่มาก เราไม่ต้องการให้เกิดโศกนาฏกรรมเขื่อนเหมืองแร่แตก อย่างที่เมืองบรูมาดีโญในบราซิล ดร. คาร์เมน โฮซเซ มูลนิธินิเวศวิทยาศาสตร์ (EcoCiencia)

บีบีซีได้สอบถามไปยังรัฐบาลเอกวาดอร์ เรื่องแผนป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมเหมืองแร่ไปเร่งการตัดไม้ทำลายป่าให้เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้รับคำตอบ

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

เฟรนช์เกียนา

พื้นที่ในแอมะซอน: 8 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 3%

ทหารของเฟรนช์เกียนามีหน้าที่ออกลาดตระเวนในป่า เพื่อติดตามค้นหาผู้ทำเหมืองแร่โดยผิดกฎหมาย

องค์กร GFW ระบุเมื่อปี 2016 ว่าพื้นที่ถึง 75% ของดินแดนในปกครองฝรั่งเศสแห่งนี้ยังคงเป็นป่าดั้งเดิมที่สมบูรณ์ และแทบจะไม่เคยโดนน้ำมือของมนุษย์แตะต้อง

เฟรนช์เกียนามีสัดส่วนร้อยละของพื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์ถึง 50% ซึ่งจัดว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาประเทศสมาชิกของภูมิภาคแอมะซอนทั้งหลาย นอกจากนี้ เฟรนช์เกียนายังมีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าในระดับต่ำสุดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของชนพื้นเมืองและนักอนุรักษ์ต่างเป็นกังวลกันว่า มีขบวนการบุกรุกป่าของผู้ทำธุรกิจเหมืองแร่ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย กำลังรุกคืบเข้าไปในพื้นที่อนุรักษ์มากขึ้นเรื่อย ๆ

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของเฟรนช์เกียนาที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน french-guianaปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares162812673268202419442420371320882417214174051948278819463921273926132271ที่มา : Global Forest Watch

เมื่อช่วงต้นปี 2019 ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้สั่งระงับโครงการเหมืองทองคำขนาดใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเกียนันแอมะซอน หลังจากที่เขาเป็นผู้อนุมัติโครงการเองในตอนแรก เมื่อเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศได้ไม่นาน เห็นได้ชัดว่าคำสั่งที่ออกมาล่าสุดนั้นเป็นผลจากการประท้วงคัดค้านของกลุ่มอนุรักษ์ระดับชาติและนานาชาติ

ถึงกระนั้นก็ตาม การลักลอบทำเหมืองแร่ก็ยังเป็นภัยคุกคามหลักต่ออุทยานแห่งชาติของเฟรนช์เกียนา กองกำลังรักษาความมั่นคงตรวจพบกรณีการลักลอบทำเหมืองแร่ในพื้นที่เพิ่มขึ้นนับแต่ปี 2017

ประมาณการว่ามีผู้กระทำผิดถึง 8,000 -10,000 ราย ซึ่งจัดว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไม่ถึง 300,000 คน สาเหตุนั้นเนื่องมาจากราคาทองที่เพิ่มขึ้นหลังวิกฤตการเงินปี 2008 เป็นต้นมา ทำให้ผู้คน "ตื่นทอง" และพากันหลั่งไหลเข้ามาหาทองคำในป่าแห่งนี้

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Getty

บรรยายภาพ : ทหารของเฟรนช์เกียนาติดตามค้นหาผู้ทำเหมืองแร่โดยผิดกฎหมาย

"ส่วนใหญ่พวกเขาจะเป็นเด็กหนุ่มยากจนจากบราซิลที่พยายามจะหาเงินด้วยวิธีง่าย ๆ พวกเขาจะอาศัยอยู่ในป่านานหลายเดือน" ร้อยเอกเวียนเนย์ ผู้นำปฏิบัติการต่อต้านการทำเหมืองทองคำซึ่งประจำการในกองทหารต่างชาติแห่งฝรั่งเศสกล่าว

บีบีซีได้สอบถามไปยังกระทรวงดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส เรื่องแผนของรัฐบาลที่จะปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า แต่ไม่ได้รับคำตอบ

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

กายอานา

พื้นที่ในแอมะซอน: 21.1 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 1%

95% ของพื้นที่ประเทศกายอานาถูกปกคลุมด้วยป่าแอมะซอน

กายอานามีแนวทางบริหารจัดการป่าไม้อยู่ 2 แนวทาง ซึ่งดูเหมือนว่าจะไปด้วยกันไม่ได้ ในทางหนึ่งมีการมองหาวิธีใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากป่าไม้ แต่ในอีกทางหนึ่งก็พยายามสร้างภาพความเป็นรัฐสีเขียวที่คอยปกป้องผืนป่าแอมะซอนไปด้วย

ตัวเลขสถิติของรัฐบาลชี้ว่า ประเทศแห่งนี้มีอัตราการตัดไม้ทำลายป่าต่อปีที่ 0.051% ซึ่งต่ำสุดในภูมิภาค

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของกายอานาที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน guyanaปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares280241992612355437223318635048966619580489274503776484391665313362754912787ที่มา : Global Forest Watch

ความสำเร็จส่วนหนึ่งของกายอานามาจากกลยุทธ์อย่างเช่นการตั้งคณะกรรมการบริหารป่าไม้ ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจว่าต้นไม้ต้นใดควรจะถูกตัดโค่นได้หรือไม่

ถึงกระนั้นก็ตาม การตัดไม้อย่างถูกกฎหมายที่ควบคุมโดยรัฐบาล ก็ยังถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าอยู่ดี บรรดานักอนุรักษ์ชี้ว่าการออกใบอนุญาตให้บริษัทอุตสาหกรรมป่าไม้ข้ามชาติขนาดใหญ่ ทำให้เกิดช่องทางเข้าถึงพื้นที่ป่าดั้งเดิมที่ยังไม่เคยถูกรุกล้ำ โดยพวกลักลอบทำเหมืองแร่ก็พากันฉวยใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้

คณะกรรมการป่าไม้ของกายอานาชี้แจงว่า ไม่ได้เปิดพื้นที่ป่าแห่งใหม่ให้กับผู้รับสัมปทานตัดไม้มาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว

นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ยังมีการเรียกคืนใบอนุญาตจากบางบริษัทที่ดำเนินงานไม่ถูกต้องด้วยซ้ำ และรัฐบาลได้นำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นเขตอนุรักษ์แล้ว

ส่วนปัญหาการลักลอบทำเหมืองทองคำในป่านั้น นับเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียพื้นที่ป่าถึง 85% ของที่ถูกตัดโค่นไปทั้งหมด เนื่องจากทองคำเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Alamy

รัฐบาลกายอานาแถลงว่า ประเทศของตนใช้ "กลยุทธ์พัฒนารัฐสีเขียว" ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนเพิ่มในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และพลังงานที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ ออกมาตรการจำกัดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมโครงการอนุรักษ์ป่าให้มีเพิ่มมากขึ้น

แผนการทั้งหมดนี้จะใช้งบประมาณที่ได้จากข้อตกลงระหว่างประเทศและรายได้จากการขุดเจาะแหล่งน้ำมันดิบในทะเล

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

เปรู

พื้นที่ในแอมะซอน: 78.9 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 8%

เกษตรกรรมขนาดย่อมเคยเป็นสาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่าในเปรู แต่ในปัจจุบัน การทำสวนปาล์มน้ำมัน รวมทั้งการปลูกต้นโกโก้และต้นโคคากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เริ่มกลายมาเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ผืนป่าถูกทำลาย

ผลวิจัยในปี 2018 พบว่า 11% ของพื้นที่ที่มีการตัดไม้ทำลายป่าทั้งหมดระหว่างปี 2007-2013 เป็นบริเวณที่ใช้ปลูกต้นปาล์มน้ำมัน แม้ว่าผลผลิตของพืชชนิดนี้จะคิดเป็นเพียง 4% ของบรรดาพืชเศรษฐกิจในภูมิภาคแอมะซอนเท่านั้น

ซานดรา ริยอส นักภูมิสารสนเทศจากสถาบันเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม (Instituto de Bien Comun - IBC) ของเปรูบอกว่า หลังจากที่ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบางรายถูกทางการสั่งปรับด้วยโทษฐานตัดไม้ทำลายป่า ธุรกิจเหล่านี้ก็หันไปกว้านซื้อที่ดินจากเกษตรกรรายย่อย ซึ่งได้ที่ดินเปล่ามาจากการตัดไม้และแผ้วถางป่าอย่างผิดกฎหมาย

ภาครัฐเชื่องช้ามากในการวางระบบเฝ้าระวัง ควบคุม และลงโทษผู้ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม ซานดรา ริยอส, สถาบันเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม (IBC)

บีบีซีได้สอบถามไปยังรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเปรู ในเรื่องแผนป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า แต่ไม่ได้รับคำตอบ

การทำเหมืองทองยังส่งผลให้ผืนป่าแอมะซอนของประเทศเสี่ยงต่อการถูกทำลายยิ่งขึ้น เปรูนั้นเป็นผู้ส่งออกทองคำรายใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา และเป็นรายใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า 25% ของทองคำที่ผลิตได้ในแต่ละปีมาจากการทำเหมืองอย่างผิดกฎหมาย

นับแต่ปี 2006 เป็นต้นมา เกิดกระแสตื่นทองครั้งใหม่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติตัมโบปาตาของเปรู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแอมะซอน โดยกระแสตื่นทองครั้งนี้เกิดจากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งการก่อสร้างทางหลวงข้ามทวีปซึ่งเชื่อมต่อฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของบราซิลเข้ากับฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเปรู

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของเปรูที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน peruปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares4581443622619039722058529778308856812004910085688782176931142699132921104726142541180299140042161468ที่มา : Global Forest Watch

ทางหลวงข้ามทวีปดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นเท่านั้น มันยังเปิดทางให้เข้าถึงพื้นที่ป่าทึบที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงได้มาก่อนอีกด้วย ส่งผลให้กลุ่มคนทำเหมืองในพื้นที่แถบเมืองลาปัมปามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงราว 5,000 คนแล้ว

พวกคนทำเหมืองตัดโค่นต้นไม้และกำจัดพืชพรรณต่าง ๆ ออกจากผืนดินของป่าแอมะซอนเพื่อค้นหาทองคำ มีการใช้ปรอทแยกเอาโลหะมีค่าออกจากสินแร่ชนิดอื่น ๆ ทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนและสัตว์ป่าเป็นอันตรายจากพิษของสารปรอทไปด้วย

ศูนย์เพื่อนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ของแอมะซอน (CINCIA) บอกว่าในปี 2017 สถิติการตัดไม้ทำลายป่าของเปรูพุ่งขึ้นถึงระดับสูงสุดนับแต่ปี 1985 เป็นต้นมา โดยมีสาเหตุจากการทำเหมือง

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2007: จุดเริ่มต้นการก่อสร้างทางหลวงข้ามทวีป เชื่อมต่อบราซิลกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติตัมโบปาตาของเปรู ซึ่งเป็นบริเวณหนึ่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุดของแอมะซอน

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2010: เมื่อการก่อสร้างทางหลวงเสร็จสิ้น มีเหมืองแร่ที่ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายหลายแห่งเกิดขึ้นในป่าแถบที่ใกล้เมืองลาปัมปา

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2013: นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ทางหลวงนี้ได้เปิดช่องให้คนเข้าถึงพื้นที่ป่าลึกได้มากขึ้น ทำให้การตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มสูง เพราะต้องการสร้างเหมืองแร่ในพื้นที่นั้น

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2016: รายงานของโครงการ MAAP ระบุว่าพื้นที่ป่า 350 เฮกตาร์ถูกตัดโค่น เพราะการทำเหมืองแร่ผิดกฎหมายในเขตอนุรักษ์ตัมโบปาตา

  • พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
    2018: พื้นที่ป่าแถบเมืองลาปัมปาเคยมีผู้ลักลอบทำเหมืองสูงสุดถึง 5,000 คน จนในปี 2019 ทางการต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้ากวาดล้างค่ายพักของคนงานเหมืองเหล่านี้

เมื่อเดือนมีนาคมของปีที่แล้ว รัฐบาลเปรูได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 60 วัน เพื่อดำเนินปฏิบัติการทางทหารปราบปรามขบวนการลักลอบทำเหมืองในเขตลาปัมปา

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ซูรินาม

พื้นที่ในแอมะซอน: 14.7 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 4%

ด้วยเหตุที่เขตแดนของประเทศซูรินามอยู่ในผืนป่าแอมะซอนถึง 94% ทำให้มีประวัติดีเด่นที่สุดสำหรับความพยายามอนุรักษ์ระบบชีวนิเวศแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม นับแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ซูรินามเริ่มสูญเสียพื้นที่ป่าไปมากขึ้นเพราะการทำเหมืองทองคำเป็นสาเหตุหลัก

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ที่มา Alamy

มูลนิธิเพื่อการบริหารจัดการป่าไม้และควบคุมการผลิต ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลซูรินามระบุว่า ระหว่างปี 2000-2014 พื้นที่การทำเหมืองขยายตัวขึ้นอย่างมากถึง 893% โดยส่วนใหญ่เป็นการทำเหมืองแร่ขนาดเล็กแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ สาเหตุของการตัดไม้ทำลายป่าถึง 73% ในประเทศก็มาจากการทำเหมือง

ซูรินามมีสัดส่วนการผลิตทองคำเทียบกับขนาดพื้นที่ประเทศสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก โดยยังไม่ได้รวมเอาสถิติการทำเหมืองทองแบบผิดกฎหมายเข้าไว้ด้วย

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของซูรินามที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน surinameปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares19162218270317631860209143674217479441031337766249638806010425137061536313995ที่มา : Global Forest Watch

เหตุลักลอบทำเหมืองทองคำมักเกิดขึ้นในป่าลึกห่างไกลจากเจ้าหน้าที่ทางการ คาดกันว่าพวกลักลอบทำเหมืองราว 60% อาจเป็นชาวบราซิลที่ข้ามพรมแดนมาอย่างผิดกฎหมาย

ส่วนในบางเขตที่มีพื้นที่ขนาดกว้างใหญ่กว่า ซึ่งมักเป็นของชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมหรือผู้สืบเชื้อสายของทาสในอดีต การทำเหมืองแร่ได้กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัวในท้องถิ่นไปเสียแล้ว

ภัยคุกคามผืนป่าที่ร้ายแรงที่สุดในแต่ละประเทศคืออะไร เลือกประเทศเพื่อดูสถานการณ์ในพื้นที่แต่ละส่วนของแอมะซอน
  • โบลิเวีย
  • บราซิล
  • โคลอมเบีย
  • เอกวาดอร์
  • เฟรนช์เกียนา
  • กายอานา
  • เปรู
  • ซูรินาม
  • เวเนซุเอลา

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

เวเนซุเอลา

พื้นที่ในแอมะซอน: 47 ล้านเฮกตาร์

อัตราการสูญเสียป่าปฐมภูมิ: 4%

ไม่มีตัวเลขสถิติการตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นทางการของเวเนซุเอลาในขณะนี้ แต่จากการเฝ้าสังเกตการณ์ของบรรดานักวิทยาศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ พบว่ามีการสูญเสียพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรัฐบาลกำหนดให้พื้นที่รูปโค้งลุ่มแม่น้ำโอริโนโกเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่เรียกว่า Orinoco Mining Arc หรือ "โค้งเหมืองแร่โอริโนโก"

นับแต่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตกต่ำ และปริมาณการผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลาก็ลดลงมาตั้งแต่ปี 2014 รัฐบาลของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร ได้หันไปให้ความสนใจกับรัฐที่อุดมไปด้วยแหล่งแร่ธาตุต่าง ๆ อย่างเช่นภูมิภาคแอมะซอน

เวเนซุเอลานั้นมีแหล่งแร่ทองคำในธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งคิดเป็นปริมาณถึง 7,000 ตัน

นับแต่มีการก่อตั้งเขตอุตสาหกรรมเหมืองแร่โอริโนโกในปี 2016 มีการมอบประทานบัตรให้เอกชนหลายรายเข้าทำเหมืองทองคำ เพชร และแร่คอลแทน (coltan เป็นแร่ผสมโคลัมไบต์-แทนทาไลต์ ที่ใช้ในการผลิตโทรศัพท์มือถือ) เขตทำเหมืองแร่ดังกล่าวกินพื้นที่ถึง 112,000 ตร.กม. หรือราว 12% ของทั้งประเทศ

พื้นที่ทำเหมืองแร่ขนาดมหึมายังครอบคลุมสถานที่สำคัญทางธรรมชาติ เขตป่าสงวน อุทยานแห่งชาติแอมะซอน และพื้นที่กำหนดให้เป็นเขตอยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมถึง 4 แห่ง

นายการ์โลซ ปาลาเอซ์ นักนิเวศวิทยาขององค์กรเอกชนโปรวิตา (Provita) บอกว่า "เขตลุ่มน้ำโอริโนโกนั้นเป็นพื้นที่ทำเหมืองแร่มาแต่เดิมอยู่แล้ว แม้แต่ชนเผ่าพื้นเมืองก็ยังนิยมทำเหมืองแร่กันแพร่หลาย"

"แต่กฎหมายในปัจจุบันกลับไปยอมรับการทำเหมืองแร่บางประเภทที่เคยมีอยู่แล้ว ซึ่งมันไม่ช่วยลดกิจกรรมลักษณะนี้ลงได้เลย ทั้งจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อมและประชากรในท้องถิ่นด้วย"

อันที่จริงแล้ว แผนการของประธานาธิบดีมาดูโรคือการมอบสัมปทานทำเหมืองแร่แก่บริษัทต่างชาติ ซึ่งจะต้องจัดตั้งกิจการร่วมค้ากับรัฐวิสาหกิจขึ้นมาเพื่อให้ดำเนินการในพื้นที่ได้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติขณะนี้ กลับมีกิจการทำเหมืองแร่รายย่อยผุดขึ้นมากมายแทนที่เหมือนดอกเห็ด

ในปี 2018 เพียงปีเดียว ธนาคารกลางของเวเนซุเอลาระบุว่า รัฐบาลได้ซื้อทองคำไปแล้วถึง 9.2 ล้านตันจากตลาดภายในประเทศ ซึ่งเท่ากับปริมาณที่ซื้อทั้งหมดระหว่างปี 2011-2017

พื้นที่ป่าปฐมภูมิของเวเนซุเอลาที่สูญเสียไประหว่างปี 2002-2019

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

การสูญเสียพื้นที่ป่าปฐมภูมิใน venezuelaปี 2002-2019year20022003200420052006200720082009201020112012201320142015201620172018hectares740016309988285151033218307128201730420090121361709012684171931302464016252152254752897ที่มา : Global Forest Watch

การก่อตั้งเขตอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ได้ส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อภูมิภาค

นายปาลาเอซ์บอกว่า น่าเสียดายที่ทองคำซึ่งได้จากการขุดเหมืองในเขตดังกล่าวมีคุณภาพต่ำและไม่บริสุทธิ์พอ ทั้งยังหาได้ในปริมาณน้อยกว่าที่คาดหวังกันไว้ด้วย

ผู้คนกำลังทำลายป่าและขุดหาทองไปทุกแห่งที่ขุดได้ ทิ้งไว้เพียงทรายที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ใช้เพาะปลูกต้นอะไรก็ไม่ขึ้น การตัดไม้ทำลายป่าทำให้พื้นที่นี้ไม่อาจฟื้นคืนสภาพเดิมได้แล้ว การ์โลซ ปาลาเอซ์, องค์กรเอกชนโปรวิตา

การทำเหมืองทองยังก่อให้เกิดตะกอนหลายล้านตันสะสมตัวอยู่ในแม่น้ำสายหลัก ทั้งมีสารปรอทที่เป็นพิษปนเปื้อนลงไปด้วย

แต่เวเนซุเอลาก็ยังคงมีสถิติของกรณีลักลอบทำเหมืองสูงที่สุดในภูมิภาคแอมะซอน โดยข้อมูลขององค์กร RAISG ระบุว่า มีเหมืองแร่ที่ดำเนินกิจการโดยผิดกฎหมายถึง 1,899 แห่ง กระจุกตัวกันอยู่ในพื้นที่โค้งเหมืองแร่โอริโนโก

พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด
พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ เป็นป่าแบบใด

ท่ามกลางภาวะวิกฤตทางการเมืองของเวเนซุเอลา สภาแห่งชาติได้พยายามถอดถอนกฎหมายจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมเหมืองแร่โอริโนโก โดยประณามว่าเป็นอาชญากรรมต่อสิ่งแวดล้อมและ "การฆาตกรรมระบบนิเวศ"

บีบีซีได้สอบถามไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 3 แห่งของเวเนซุเอลา ในเรื่องแผนลดการตัดไม้ทำลายป่าในโอริโนโก แต่ไม่มีกระทรวงใดให้คำตอบกลับมา

เครดิต

ผู้สื่อข่าว: คามิลลา คอสตา

ผู้เขียน: คามิลลา คอสตา และ แครอล โอโลนา

ออกแบบและกราฟิก: เซซิเลีย ทอมเบซี

อำนวยการผลิต: มาร์ตา มาร์ตี และ มาร์กอส เกอร์เกล

แปลภาษา: โดมินิก เบลีย์

ขอขอบคุณ: คาร์ลอส นอบรี, อันโตนิโอ นอบรี, เครือข่ายแอมะซอนยั่งยืน (RAS), เครือข่ายข้อมูลข่าวสารด้านสังคม-สิ่งแวดล้อม ตามพิกัดอ้างอิงทางภูมิศาสตร์แห่งภูมิภาคแอมะซอน (RAISG),จูเลีย จาโคมินี, กุสตาโว ฟาเลรอส, องค์กร InfoAmazonia, ทิอาโก เมดาเลีย, เอริกา แบเรนเกอร์, โรดริโก โบเทโร, มิกเคลา ไวซ์, องค์กร Global Forest Watch

ทวีปอเมริกาใต้มีพื้นที่ป่าชนิดใดมากที่สุด

ป่าดิบชื้นแอมะซอน เป็นป่าใบกว้างชื้นซึ่งป่าอะเมซอนผลิตออกซิเจนให้กับโลกประมาณ 20% และครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอ่งแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้ แอ่งนี้กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งป่าดิบชื้นแอมะซอนกินพื้นที่ไป 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้รวมดินแดนที่เป็นของ 9 ประเทศ พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ราวร้อยละ 60 อยู่ในประเทศ ...

พื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาใต้มีอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบใด

ทวีปอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ระหว่างละติจูดที่ 12 องศาเหนือถึง 56 องศาใต้ ทำให้ทวีปอเมริกาใต้มีภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อนและเขตอบอุ่น พื้นที่ส่วนใหญ่ ของทวีปนี้อยู่ในเขตร้อน

พื้นที่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้คือพื้นที่ป่าใด

แอมะซอน เป็นป่าดิบชื้นขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีพื้นที่ทั้งหมด 5,500,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมเขตแดนของ 9 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ โดยตั้งอยู่ในประเทศบราซิลมากที่สุด 60% ป่าแห่งนี้ ถูกยกย่องให้เป็นเสมือน ปอดของโลก

เขตป่าเซลวาส อยู่ในบริเวณใด

เขตภูมิอากาศแบบป่าดิบชื้น (Tropical Rainforest Climate) เป็นเขตที่มีอากาศร้อนและชุ่มชื้นตลอดปีพบในบริเวณเขตศูนย์สูตรแถบลุ่มแม่น้ำแอมะซอนและชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล พืชพรรณธรรมชาติ เป็น ป่าดิบ เรียกว่า ป่าเซลวาส (Selvas)