ความหมายของเวลาและการบริหารเวลาสุขใจ น้ําผุด(2536:44) กล่าวว่าเวลาเป็นสิ่งมีค่าที่สามารถใช้ให้เกิดเป็นเงินเป็นทองได้ คุณค่าของเวลาจึงขึ้นอยู่กับ การรู้จักใช้ ให้เกิด ประโยชน์ ส่วนวิรัตน์ Show บัวขาว (2537:26) กล่าวว่า ทรัพยากรเวลาเป็นสิ่งสําคัญยิ่ง เมื่อหมดไปไม่สามารถ ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนได้ ผู้ที่ประสบ ความสําเร็จ ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการใช้เวลา ในขณะที่วิมาน จิ๋วเจียม(2539:6) ได้ให้ ความหมายของเวลาว่า เวลาเป็น ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มนุษย์ ได้รับมาเท่าเทียมกันสําหรับใช้ในการ ทํางาน มีหน่วยเวลานับเป็น นาทีวันชั่วโมง สัปดาห์ เดือน ปี ยกเว้นช่วงอายุขัย ซึ่งจะไม่เท่ากันเวลา เป็นทรัพยากรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เวลาเป็นทรัพยากร ที่สะสมไม่ได้ เวลาเป็นทรัพยากรที่อนุรักษ์ไม่ได้ เวลาเป็นทรัพยากรที่หายืมเช่นเดียวกับเงินหรือวัสดุไม่ได้ และเกี่ยวกับการบริหารเวลา เฉลิม สุขคะสมบัติ (2527: 44-47) อธิบายว่า การบริหารเวลาหมายถึงวิธีการดําเนินการโดยใช้เวลา ปฏิบัติงานให้ได้ผลตรงตาม เป้าหมายมากที่สุด ให้รู้ถึงวิธีการทํางานโดยละเอียด รวมทั้งปัจจัยที่ เกี่ยวข้องกับงานด้วย เพื่อประโยชน์นํามาใช้ การวางแผน การปฏิบัติงาน จีรวัฒน์ วีรังก ร( 2540 : 20) ได้กล่าวถึง คําว่า“การบริหารเวลา” ว่ามักใช้กับผู้บริหาร เพราะ ผู้บริหารมีหน้าที่ใน การรับผิดชอบปฏิบัติงานมาก จึงต้องมีการจัดสรรเวลาเพื่อให้งานสําเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพและ ทันเวลา แต่นักศึกษาสามารถ ประยุกต์เทคนิคทางการบริหารเวลามาใช้ประโยชน์ต่อการเล่าเรียน สมิทธิ์และสมิทธิ์ (Smith; & Smith.1990) ให้ความหมายว่า การบริหารเวลา หมายถึง การที่ตนเอง บริหารการใช้เวลา ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้เวลา ได้อย่างถูกต้อง เป็นประโยชน์ ลดความเครียด จากการเรียน และยังเป็นการวางแผนกําหนดระยะเวลาในการทํากิจกรรมต่างๆ ในชีวิตของนักศึกษา อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ความสําคัญของการบริหารเวลาฮอคไฮเซอร์ (วิภาพร สิทธิสาตร์.2542:30; อ้างอิงจาก Hochheiser 1998) กล่าวว่า การบริหารเวลาไม่ใช่เพียงความคิด แต่เป็นทั้ง ความคิด การคิดและการกระทําว่า จะดําเนินการอย่างไร เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ในเวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดส่วน มาร์ติน (วิภาพร สิทธิสาตร์. 2542:30; อ้างอิงจาก Martin.1998) ได้อธิบายถึงความสําคัญเกี่ยวกับ การบริหารเวลาว่า เป็นสิ่งที่คนจําเป็นต้องนึกถึง เพราะไม่เช่นนั้น เวลาจะผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์โดยที่ไม่สามารถทํา อะไรได้เลย ซึ่งในความเป็นจริง เพียง แต่คิดก็จะสามารถบริหารตนเองได้ การบริหารตนเอง อาจจะเป็น เรื่องของการทํางาน เรื่องส่วนตัว แนวทางในการทํางาน และการดํารงชีวิต การบริหารเวลาไม่ใช่การ รีบเร่งในการทํางาน แต่เกี่ยวข้องกับ เวลา ส่วนสุขใจ น้ําผุด (2536: 44-45) กล่าวว่า คนควรมี การบริหารเวลาโดยมีการจัดสรรเวลา ซึ่งพิจารณาจากเวลา 24 ชั่วโมง ในสัดส่วนที่เหมาะสม กับวัน อันจะก่อให้เกิด ประโยชน์ทั้ง ด้านอาชีพ การงาน สุขภาพ และอื่นๆ หรือโดยการจดบันทึกเพื่อได้เห็นว่า ได้ใช้เวลาคุ้มค่า การทํางานตาม จังหวะเวลา วางแผนให้สอดคล้อง กับจังหวะเวลา ทํางานตามแผนที่ วางไว้สอดคล้องกับเวลาที่มีอยู่ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เวลา ที่เว้นจากอาชีพ หรือการสร้าง สุขภาพย่อมเป็นเวลาว่าง ซึ่งแต่ละคนมีอิสระที่จะเลือกใช้ได้ตามความถนัดและความพอใจการใช้เวลา ให้เกิดประโยชน์ด้วย การทํางานอดิเรกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวมสะสมสิ่งต่างๆงาน ประดิษฐ์ การปลูกต้นไม้ การอ่านหนังสือ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเพลิดเพลินความรู้และเป็นรายได้ อย่างดี เสกสรรค์ มธุลาภรังสรรค์. (2541: ออนไลน์) ได้สรุปลักษณะสําคัญของเวลา5 ประการคือ 1. เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ส่วนหนึ่งของการบริหารเวลาเป็นเรื่องของเทคนิคและทักษะ ซึ่งจะช่วยให้สลัด การเสียเวลาที่ไม่จําเป็นออกไป ทําให้ผู้ที่ฝึกฝนรู้สึกว่ามีเวลามากขึ้นและอยากทํา อะไรมากขึ้น เกรียงศักดิ์เจริญวงศ์ศักดิ์(2543: 18-27) กล่าวถึง การบริหารเวลาเวลาก็เหมือนชีวิต เมื่อใช้ หมดแล้วก็หมดไป การบริหารเวลา ก็เท่ากับ การบริหารชีวิต และคนที่ต้องการประสบความสําเร็จและ ความสุขในชีวิตย่อมหลักเลี่ยง การบริหารชีวิตหรือ การบริหารเวลา ไปไม่ได้ การบริหารเวลามีความจําเป็นสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้ 1. การทําให้ชีวิตมีเป้าหมาย ในการตระหนักถึงความสําคัญของการบริหารเวลาที่จุดกระตุ้น ให้ค้นหาเป้าหมายที่มีคุณค่าในชีวิต เป้าหมายนั้น จะกลับมากระตุ้นเร้าให้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ บริหาร เวลาในชีวิตจนกว่าไปถึงจุดหมายปลายทางของเป้าหมาย นอกจากนี้เสกสรรค์มธุลาภรังสรรค์(2541: ออนไลน์) ให้ความคิดเห็นว่า เวลามีความสําคัญต่อทุกคน เพราะธรรมชาติของเวลา มีลักษณะพิเศษ คือเวลาเป็นทรัพยากรที่จํากัดใช้แล้วหมดไป เวลาไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ไม่ว่ารวยหรือจน เวลาไม่สามารถ เก็บเอาไว้ ใช้ได้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
ไม่หวนย้อนกลับมาความสําคัญของการบริหารเวลาช่วยให้ ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น รักษาความสมดุลในชีวิต มีความสุขกับการใช้ชีวิตบรรลุตามเป้า หมาย ดังที่ จิตต์ อินสว่าง(2549:1-3) ได้กล่าวว่าความจริงของ คนสามารถจัดการ กับการใช้เวลาของตนเองได้ ซึ่งเป็นการจัดการที่ชาญฉลาด ฉะนั้นการบริหารเวลา จึงเป็นทรัพยากรที่สําคัญมาก ซึ่งจะต้องเข้ากับ รูปแบบการดําเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อมด้วย จากความหมายและความสําคัญของการบริหารเวลาดังที่กล่าวไว้ข้างต้น อาจสรุปได้ว่า การบริหารเวลา หมายถึง การเปลี่ยนแปลงให้ คนปรับตนเอ งให้สอดคล้องกับเหตุการณ์รวมทั้งการที่ กําหนดเกี่ยวกับการควบคุมการปฏิบัติงานให้บรรลุตามเวลาและวัตถุประสงค์ บุคคลรู้จักจัดสรรเวลา ในการทํากิจกรรมในแต่ละด้านโดยการรู้จักวางแผนและกําหนดเป้าหมายในการดําเนินชีวิตและปฏิบัติ ภารกิจของตน โดยมีการจัดระบบ การใช้เวลา ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดเพื่อให้งานสําเร็จลุล่วง มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสามารถ จัดสรรเวลาได้อย่าง สมดุลเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตนได้วางไว้ ซึ่งส่งผลต่อความก้าวหน้าในชีวิต ประเภทการบริหารเวลารัชนี ลาชโรจน์ (2527:100) กล่าวว่าการบริหารเวลาของคนนั้นสามารถแบ่งออกเป็น เวลาที่ ใช้ในการทํางาน เวลาที่ใช้ในการนอน เวลาที่ใช้เพื่อ ทํากิจวัตรประจําวันและเวลาที่ใช้เพื่อพักผ่อน หย่อนใจ อัชฌา ลิมป์ไพฑูรย์(2535:17) กล่าวว่า การบริหารเวลาขึ้นอยู่กับกิจกรรม 2 ส่วนคือ ส่วนแรก ต้องแบ่งเวลาในการทํางานออกเป็นช่วงสั้นๆ ส่วนที่สองคือ การวิเคราะห์๋การใช้เวลาที่ เป็นอยู่ว่า ส่วนใหญ่ใช้กับ การทํากิจกรรม อะไรที่สอดคล้องกับหน้าที่การงานที่ทําต้องปรับปรุงให้ เหมาะสมกับ ความสําคัญของงาน ดังนั้นการวางแผนการทํางาน ควรจัดแบ่งเวลา ให้เหมาะสมกับ ความสําคัญของงาน ในการวางแผนการทํางานจึงควรจัดแบ่งเวลา ให้เหมาะสม เป็นสัดส่วน ประเภท งานที่มีความสําคัญ คืองานในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบประเภทของงานที่มีความสําคัญรองลงมา คือ งานฉุกเฉิน และงานที่ได้รับ มอบหมาย พิเศษ ประเภทของงานที่มีความสําคัญทั่วไป คืองานทั่วไปงาน ริเริ่มสร้างสรรค์ ฉะนั้นการจัดแบ่งเวลาจึง ควรจัดแบ่งให้ เป็นสัดส่วน เมธี ปิลันธนานนท์ (2528: 8) ได้ แบ่งกิจกรรมในการบริหารเวลาของบุคคลคือ กิจกรรมอาชีพ กิจกรรมครอบครัว กิจกรรมชุมชน กิจกรรมพักผ่อนและการสังคม กิจกรรมส่วนตัวและกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ส่วน ยูริส (Uris. 1970:6) ได้แบ่งเวลาตามลักษณะงานที่ต้องใช้เวลาแตกต่างกันคือเวลาที่ต้องใช้อย่างคงที่เวลาที่พอยืดหยุ่นได้ เวลาที่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ และวารุณีอมรทัต (2530: 48-49) ได้กล่าวถึงหลักการแบ่งเวลาของ เยาวชนว่า ควรจะมีการแบ่งเวลา ให้กับตนเอง และเวลาให้กับ ผู้อื่นควบคู่กันไป โดยแบ่งเวลาให้กับ ตนเองนั้นได้แก่ เวลาในการทํากิจวัตรประจําวัน เวลาในการศึกษา หา ความรู้เพิ่มเติม และทบทวน บทเรียน เวลาในการทํางานอดิเรกที่ตนเองชอบและถนัด สําหรับเวลาเพื่อ ให้ผู้อื่นได้แก่ เวลาในการ ช่วยเหลือทํางานบ้าน ดูแลผู้สูงอายุและ น้องๆเวลา ในการเข้ากลุ่มพบปะสังสรรค์กับผู้อื่นเพื่อการสมาคม เวลาในการ ช่วยเหลือ สังคม นับตั้งแต่ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนบ้าน ตลอดจนบุคคลที่ อยู่ไกลตัวที่รู้จักและไม่รู้จัก หากเยาวชน สามารถจัดแบ่ง เวลาให้กับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม จะช่วยพัฒนาเยาวชน ให้กลายเป็นคนที่มีคุณภาพ ส่งผลต่อ ครอบครัวและสังคม การวางแผนใช้เวลาการจัดระบบไม่มีกฎตายตัว เพราะแต่ละคนมีปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกันเพราะฉะนั้นแต่ละคน ย่อมมีการจัดระบบและการบริหารเวลา ที่แตกต่างกัน สิ่งที่จะต้องทําคือลองค้นหาตัวเองว่าปัจจัยที่มี อิทธิพลในการควบคุมเวลา หรือจัดระบบเวลาของตนเอง มีอะไรบ้าง (จารุณี จันทร์ลอยนภา. 2546:13) การวางแผนการใช้เวลาและการตั้งเป้าหมายชีวิต เป็นการช่วยให้รู้จักควบคุมชีวิตของตนเอง เวลาและ การเคลื่อนไหวคือ การพยายามทําให้ทุกสิ่งทุกอย่างสําเร็จลงด้วยเวลาที่สั้นที่สุด โดยใช้อากัปกิริยาหรือ ความเคลื่อนไหว น้อยที่สุด (อํานวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์. 2534:9) ให้ความเห็นว่า การใช้เวลาคิดและ การวางแผน เป็นสิ่งจําเป็น ที่สุดกับ ชีวิตใน ปัจจุบัน การคิดวางแผนเป็นการช่วยให้ประหยัดเวลาเป็น อย่างมาก เพราะจะได้ไม่ต้องคิดไปคิดมาว่าควรทําอะไรและ ควรทํา อย่างไหนก่อน การมีแผนเรียบร้อย แล้ว ก็ลงมือทําตามแผนนั้น การงานก็จะสําเร็จตามเป้าหมาย (ชัยรัตน์ บูรณะวิวัฒน์. 2537:12) การ วางแผนเป็นการใช้เวลาที่มีค่า เพราะสามารถใช้เวลาในช่วงที่แบ่งไว้สําหรับ การวางแผนได้ผลสําเร็จ ควรมีการกําหนด เป้าหมาย เป็นตัวชี้การกระทํา มีการจัดลําดับความสําคัญก่อน-หลัง มีการทํารายการ สิ่งที่ต้องการ ไม่ควรเข้มงวดเกินไป กับการกระทําตาม การวางแผน ควรมีการยืดหยุ่นตามกรณี และ ควรทํางานอย่างสุขุม อย่าวอกแวก อย่าทําตัวสมบูรณ์เกินร้อย อย่าผัดวันประกันพรุ่ง รู้จักปฏิเสธและ ควรให้รางวัลชีวิต ในการบริหารและจัดสรรเวลา (เรื่องดีดีมีไว้แบ่งปันตอนการบริหารเวลา. 2541: ออนไลน์) คูเปอร์ (Cooper. 1952: 25) ได้กล่าวถึงหลักการที่สําคัญของนักบริหารว่าจะต้องจัดการ ตนเอง โดยกําหนดแผน การทํางานของ ตนเอง ขึ้นมาการกําหนดแผนงานควรมีลักษณะเป็นแผนการ ทํางานทั้งหมด เช่นทํางานที่สําคัญและมีค่าอย่างยิ่งได้มากกว่า กําหนดลําดับ ความสําคัญของงานได้ อย่างสมบูรณ์แบ่งสรร อัตราส่วนการใช้เวลาสําหรับ งานแต่ละอย่างได้ถูกต้อง ปฏิบัติงาน ได้สําเร็จใน กําหนดเวลา ตายตัว บรรลุถึงเป้าหมายของงานได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันการสูญเสียความพยายามในการ ทํางานโดยเปล่า ประโยชน์ ก่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการทํางาน ได้มากกว่าละเว้นที่จะไม่ทํางานซึ่งคน อื่นควรจะเป็นผู้ทําปรับปรุงความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้น ผลรวมที่จะได้รับจากการกําหนดแผน การทํางานคือ การที่สามารถใช้ ความพยายามน้อย แต่ปฏิบัติงาน ที่สําคัญที่สุดได้สําเร็จ ดังที่บลิส (Bliss.1976:120 –122) ได้เสนอ เทคนิคในการบริหารเวลาไว้คือ ต้อง วางแผน ต้องตั้งสมาธิต้องหยุดพักบ้าง หลีกเลี่ยงความไม่เป็นระเบียบ อย่าเป็นคนที่ต้องทํางานให้ สมบูรณ์แบบ อย่ากลัวที่ จะต้อง ปฏิเสธ อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ใช้วิธีการผ่าตัด คือสะสางงานที่สะสมมา การมอบอํานาจหน้าที่ อย่าเป็นคนบ้างานส่วน มงคล สัณฐิติวิฑูร (2531: 75-76) กล่าวถึงการใช้เวลา อย่างมีประสิทธิภาพคือ กําหนดจุดมุ่งหมาย ของงาน กําหนดงานที่จะทํา ในแต่ละวัน ใช้เวลาที่มีอยู่ให้ เกิดประโยชน์มากที่สุด พยายามทํางานให้เสร็จ ในครั้งเดียวพร้อม ที่จะปฏิบัติงานได้ตลอดเวลาซึ่ง สอดคล้องกับสมชาย ศรีสันติสุข (2541: 63) ได้กล่าวถึงการบริหารเวลา ให้มีประสิทธิภาพมีขั้นตอน คือตั้งเป้าหมายของตัวเองและจัดลําดับความสําคัญ พิจารณาเป้าหมายระยะยาวในชีวิตของตนเอง พิจารณาเป้าหมายระยะสั้น จัดลําดับความสําคัญของเป้าหมายที่กําหนดไว้ทําบันทึกสิ่งที่ต้องทําเป็น รายวัน เริ่มทําเรียงลําดับ ความสําคัญ อย่า ใช้เวลากับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินความจําเป็นถามตัวเอง ว่าขณะนี้ใช้เวลาคุ้มค่าหรือยัง เริ่มทําทุกข้อ ตั้งแต่วันนี้ และจิตต์ อินสว่าง (2549: 97)
ได้สรุปเกี่ยวกับ การทํางานประจําวันว่า ต้องมีประสิทธิภาพและมีกฎระเบียบ ของตัวเองซึ่งมีการตั้ง จุดมุ่งหมายที่ ชี้เฉพาะโดยการกําหนด เกี่ยวกับลักษณะจุดหมายคือ การเขียนบันทึกไว้ มีการวัดผลได้ สามารถเห็น ผลลัพธ์ได้ ต้องเป็นจริงท้าทาย สามารถบรรลุผลได้และสามารถเป็นกุญแจ ไปสู่ความสําเร็จได้ทั้งนี้ ควรมีการจัดลําดับ ขั้นตอนเพื่อให้ได้ ประสิทธิผลตามเป้าหมาย นอกจากนี้เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์(2543: 105-110) ได้เสนอแนวคิดของการใช้เวลาอย่าง มีประสิทธิภาพ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
ปัญหาที่ก่อให้เกิดการสูญเสียเวลาสิ่งที่เป็นอุปสรรคสําคัญในการบริหารเวลามีหลายประการ ซึ่งจะทําให้การทํางานไม่ประสบ ความสําเร็จตามที่วางแผนไว้ อุปสรรค ดังกล่าว มีดังนี้การผัดวันประกันพรุ่งการทํางานหลายๆอย่าง ในเวลาเดียวกัน การกลัวความล้มเหลว
การคาดหวังความสมบูรณ์แบบ ความไม่พึงพอใจ ในงานที่ทํา การขาดความอดทน การขาดขวัญกําลังใจ การเสียเวลาคิดและพูดมากเกินไป การไม่กล้าบอกปฏิเสธ ปัจจัยที่เกิดจากสาเหตุภายนอก1. ปัจจัยที่เกิดภายในตัวบุคคล คือขาดการจัดการที่ดี การผัดวันประกันพรุ่งไม่กล้าที่จะ กล่าวคําว่าไม่ขาดความสนใจ การปฏิเสธสังคม ไม่เป็นผู้ที่ต้องการความถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด สรุปได้ว่า การสูญเสียเวลานั้นเกิดจากปัจจัย2 ประการคือปัจจัยภายในเกิดจากตัวคนหรือ บุคคลนั้นเองและปัจจัยภายนอก เกิดจาก การทํางาน หรือการปฏิบัติงานรวมทั้งเกิดจากเครื่องมือ เครื่องใช้ วิธีการ การตัดสินใจ การติดต่อสื่อสารสงผลต่อการสูญเสียเวลา เวลา...สิ่งมีค่าสำหรับชีวิตสิ่งที่ไม่ต้องซื้อหาและมีค่าสำหรับชีวิตมนุษย์ ก็คือ เวลา คนบางคนปล่อยเวลาอันมีค่าให้ล่วงเลยไปอย่างน่าเสียดาย ในชีวิตประจำวันของเรานับตั้งแต่เกิด จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เราเคยใช้เวลาที่มีอยู่ในวันหนึ่ง ๆ ให้เป็นประโยชน์ คุ้มค่า และแบ่งเวลาอย่างมีแผนงานหรือไม่ เช่น เวลากิน เวลานอน เวลาทำงาน พักผ่อน ฯลฯ ถ้าเราแบ่งเวลาในการทำสิ่ง ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมสุขภาพ ร่างกาย จะสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอยู่เสมอ พร้อมที่จะปฎิบัติภารกิจตลอดไป เวลาทำงานนับว่ามีความสำคัญและมีบทบาทมาก เพราะชีวิตการทำงานจะประสบผลสำเร็จ มากน้อยเพียงได ขึ้นอยูกับ การใช้เวลาที่มีอยู่น้อยที่สุด ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ชีวิตของคนเราต้องผูกพันอยู่กับการทำงานอย่างน้อยที่สุด วันละ 8-10 ชั่วโมง ดังนั้นเพื่อประโยชน์แก่ผู้อ่าน จึงขอแนะนำวิธีที่จะใช้เวลาในการทำงานให้ได้ประโยชน์ค้มค่า ซึ่งมีผลดีทั้งต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ ดังนี้
www.2poto.com/work4.html สรุปเนื้อหา การบริหารจัดการเวลา Melossa Raffoni กล่าวว่า เวลาเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่ายิ่ง และไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายหรือยาจกทุกเพศทุกวัยก็ตาม
ทุกคนต่างมีเวลาอยู่เท่ากันล้วนแล้วแต่ได้รับเวลามาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าๆ กันไม่มากหรือน้อยไปกว่ากัน เราไม่สามารถเก็บเวลาเอาไว้ได้ หรือทำให้เวลาหยุดนิ่งกับที่ในชั่วขณะ ดังคำกล่าวที่ว่า “วันเวลาไม่เคยคอยใคร ” นอกจากนี้เวลายังเป็นทรัพย์สินที่ใช้แล้วหมดไป เพราะว่าเวลาจะหมุนนเดินไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่สามารถเติมเวลาดังเดิมได้ ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งเราสามารถทำได้ก็คือ การใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ดังที่ เบนจมิน แฟรงคลิน ได้กล่าวไว้ว่า “หากคุณรักชีวิตของคุณ
คุณก็ไม่ควรใช้เวลาให้หมดไปอย่างสูญเปล่า เพราะว่าเวลานี่เองที่เป็นแก่นแท้ของชีวิต ” บทที่ 1 ภาคผนวก จะอธิบายถึง วิธีการนำแนวคิดของการแตกงานชิ้นใหญ่ออกเป็นงานย่อย ๆ (work breakdown structure – WBS) นำมาใช้กับเป้าหมายใหญ่ โดยเริ่มต้นที่เป้าหมายสูงสุดของคุณแล้วแยกเป็นเป้าหมายนั้นให้ย่อยลงเป็นงานหลายๆชิ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เราตอบคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับการบริหารเวลาได้ ดังตัวอย่างคำถามต่อไปนี้ 1.มีอะไรบ้างที่เราต้องทำให้บรรลุเป้าหมายของเรา ? อ้างอิง สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือ/เอกสาร การบริหารจัดการเวลา ผู้เขียน Melossa Raffoni สุรีพร พึ่งพุทธคุณ แปล และเรียบเรียงโดย สรุปเนื้อหา โดย นายอุดมศักดิ์ แกล้วกล้า นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนพิษณุโลก กรมการพัฒนาชุมชน เวลา (Time) และการบริหารเวลา (Time Management) อนันท์ งามสะอาด 1. บทนำ เวลา (Time) เป็นทรัพย์สินที่มีค่า และไม่สามารถหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทดแทนได้ บุคคลผู้ประสบผลสำเร็จ ล้วนแล้วแต่รู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด การบริหารเวลาจึงถือเป็นความจำเป็นที่นักบริหาร จะต้องตระหนัก และให้ความสำคัญ เพราะผู้บริหารเวลาเป็นก็คือผู้บริหารชีวิตเป็น 2. ความหมายของเวลาและความสำคัญของเวลา 2.1 ความหมายของเวลา เวลา (Time) คือ มาตรวัดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตัวแปรที่ต่อเนื่อง (Continuous Variable) 3. การบริหารเวลา 3.1 ความหมายของการบริหารเวลา ศาสตราจารย์ Harold Koontz ให้ความหมายว่า "การบริหารคือการดำเนินงานให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้โดยอาศัยปัจจัยทั้งหลาย ได้แก่ คน เงิน วัสดุ เป็นอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานนั้น" 3.2 ความหมายของการบริหาร การบริหารเวลา คือ กระบวนการทำงานอย่างมีระบบ โดยใช้เวลาน้อยแต่ให้ผลคุ้มค่ามากสุด 4. การบริหารเวลาให้เกิดประสิทธิภาพ 4.1 การวางแผน (Planning) 4.1.1 การวางแผน เป็นหลักสำคัญของการทำงานการเรียน การทำงาน จึงต้องกำหนดจุดหมายใช้เวลาที่ประหยัด
และก่อให้เกิดงานที่มีประสิทธิภาพ 4.2 การจัดเวลาให้เหมาะสมงาน 4.2.1 กำหนดและจัดลำดับความสำคัญของงานไว้ในแผนการทำงาน 4.3 การจัดเวลาให้เหมาะสมกับคน 4.3.1 ควรตัดเวลาที่เกี่ยวกับงานสังคม หรือการประชุมที่ไม่จำเป็น 4.4 การสั่งการ/เตือนคนเสมอ 4.4.1 สร้างวิธีที่ฉลาดขึ้น แต่ไม่ใช่คลั่งการจัดระบบจนเกินไป 5. การจัดแบ่งเวลาและงาน 5.1 การจัดแบ่งเวลาและงานโดยใช้ตารางเมื่อสามารถจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนของงานได้แล้ว ก็พิจารณาใช้ตารางแบ่งเวลาและงานเข้าช่วยโดยการเขียนงานใส่ช่องที่เหมาะสมกับการใช้เวลาตามตารางแสดงข้างล่าง 5.2 ประโยชน์ของการบริหารเวลา เมื่อเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า มีความสำคัญ มีจำกัด ไม่อาจจะหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ ในฐานะผู้บริหาร หากเวลาได้ประโยชน์คุ้มค่าเหมาะสมย่อมเกิดประโยชน์ ทั้งส่วนรวมและส่วนตัว เพราะสามารถทำงานที่สำคัญได้เสร็จตามกำหนด ไม่ทำงานซ้ำซ้อน รู้จักสร้างตนสร้างความรับผิดชอบ สร้างทีมงานทั้ง การมีส่วนร่วมเลือกทำงานให้คุ้มค่ากับเวลาและที่สำคัญมีความสุขกับการทำงาน เรียงลำดับความสำคัญของงานว่างานใดควรทำให้เสร็จก่อน และควรหยุดรับทำกิจกรรมหลายอย่างเมื่อมีเวลาจำกัด และควรกำหนดตารางเวลาล่วงหน้า เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และพยายามทำให้ได้ตามกำหนด โดยเผื่อความยึดหยุ่นไว้บ้าง ตารางเวลาล่วงหน้าที่ควรจัดทำ เช่น ตารางต่อวัน, ตารางต่อสัปดาห์, ตารางต่อเดือน , ตารางต่อภาคเรียนและตารางต่อปี One day is worth two tomorrows. วันนี้มีค่าเท่ากับวันพรุ่งนี้ถึงสองวัน สรุป การบริหารเวลาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ในสังคม ที่มีความสลับซับซ้อน กิจกรรมทางสังคมมีความเคลื่อนไหว (Dynamic) จนแทบตามไม่ทัน สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนไปไม่มีวันสิ้นสุด ผู้ที่มองเห็นคุณค่าของเวลา และสามารถบริหารเวลาที่มีอยู่ให้บังเกิดผลประโยชน์ย่อมเป็นผู้ได้เปรียบ และจะสามารถขจัดปัญหาอันเป็นผลมาจากความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่าง ๆ รอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นย่อมหมายความว่า บุคคลนั้นได้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในมือได้แล้ว ทั้งนี้ด้วยสาเหตุเพียงประการเดียว คือ เขาบริหารเวลาเป็น ผศ.จุฬาภรณ์ โสตะ ให้นิยามไว้ว่า "เวลามีค่ายิ่งกว่าทอง ทองใช่ว่าจะซื้อเวลาได้" เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าของทุกคน ยิ่งคนที่รู้คุณค่าของเวลามากเท่าใด ย่อมสามารถเก็บเกี่ยวคุณ ประโยชน์จากการใช้เวลาให้มีคุณค่าได้มากเพียงนั้น เทคนิคการบริหารเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ต้องการเรียนรู้การใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างสูง ทำให้สามารถดำเนินภาระกิจต่างๆได้อย่าง ราบรื่น ง่าย และมีเวลาเพียงพอที่จะบริหารจัดการสิ่งต่างๆให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และยังมีเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ตามอัธยาศัย ปัญหาที่ทำให้เกิดการสูญเสียเวลา (ม.อึ้ง อรุณ,2537และ (Albert Stackmore อ้างถึงในชาญชัย อาจินสมาจาร, 2535)
หลักการเบื้องต้นในการบริหารเวลา |