ระบบเศรษฐกิจแบบใด

ระบบเศรษฐกิจนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทั้งทรัพยากรต่างๆและปัจจัยการผลิตทุกชนิด เอกชนไม่มีกรรมสิทธิ์ในการเลือกใช้ปัจจัยการผลิตได้ กลไกราคาไม่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ การตัดสินใจมักจะทำอยู่ในรูปของการวางแผนแบบบังคับ จากส่วนกลาง (central planning) โดยคำนึงถึงสวัสดิการของสังคมเป็นสำคัญ

ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม[แก้ไข | แก้ไขต้นฉบับ]

1.เป็นระบบเศรษฐกิจที่ช่วยลดปัญหาการเหลื่อมล้ำทางฐานะและรายได้ของบุคคลในสังคม

2.ภายใต้ระบบเศรษฐกิจนี้เอกชนจะทำการผลิตและบริโภคตามคำสั่งของรัฐ

1.ประชาชนไม่มีเสรีภาพในการผลิตหรือบริโภคอะไรได้ตามใจ

2.สินค้ามีคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควรเนื่องจากผู้ผลิตขาดแรงทุนทรัพย์ในการผลิต

3.การใช้ทรัพยากรทางเศรษฐกิจอาจเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ

ระบบเศรษฐกิจหลายคนยังไม่รู้ว่ามีกี่รูปแบบ และแตกต่างกันอย่างไรซึ่งและระบบเศรษฐกิจแบ่งได้หลายประเภท และมีความแตกต่างกันออกไป โดยแต่ละประเภทจะถูกนำมาใช้ในด้านที่แตกต่างกัน เพราะระบบแต่ละแบบได้ถูกนำไปใช้ในทางที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละแบบของมันนั้นเอง ซึ่งระบบเศรษฐกิจถูกแบ่งออกทั้งหมด 4 ประเภทด้วยกัน

ระบบเศรษฐกิจแบบใด

  • ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี หรือ ทุนนิยม

    คือระบบนี้จะเป็นของฝ่ายเอกชนที่มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งหมด โดยที่รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพราะฝ่ายเอกชนจะเป็นคนกำหนดทุกอย่างในระบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสินค้าต่างๆออกมาจำหน่ายในราคาใดก็ตาม เพราะใช้ระบบตลาดและราคาสินค้า เข้าไปช่วยด้วยในการตัดสินใจราคาต่างๆของคุณภาพสินค้า และผลกำไรในการจำหน่ายจะถูกคำนวณไว้หมดแล้ว และระบบนี้ถือว่าเป็นระบบของความเสรีอย่างมาก เพราะเราเป็นตัวกำหนดทุกอย่างไว้เองได้ โดยสามารถตัดสินเศรษฐกิจได้เลย และในต่างประเทศนำระบบนี้ไปใช้ทำให้มีความเติบโตทางด้านธุรกิจอย่างมาก เพราะบางประเทศมีธุรกิจทางด้านการค้ามาตลอดจึงทำให้ระบบนี้ได้ทำงานอย่างเต็มตัว เป็นต้น

  • ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม หรือระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน

    คือระบบแบบสังคมนิยม เป็นระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลดูแลอยู่ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยเหลือประชาชน เพราะจะกระจายการผลิตต่างๆให้กับประชาชน และยังสามารถแก้ไขความบกพร่องของระบบได้ ซึ่งเป็นที่นำปัญหาเข้ามาและยังมีการวางแผนการผลิตต่างๆของระบบ เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังให้เอกชกดูแลด้วยในบางส่วน เพราะสิทธิในการครอบครองต่างๆยังเป็นของเอกชนอยู่มาก และผลประโยชน์จะเป็นส่วนร่มมากกว่าเป็นส่วนตัว

  • ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์

    คือระบบที่รัฐเป็นเจ้าของการลงทุนต่างๆและปัจจัยของการผลิตสินค้าหรืออย่างอื่นทุกรูปแบบ และยังเป็นคนตัดสินใจหือควบคุมดูแลระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมอีกด้วย ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่ไม่เหมือนกับระบบทุนนิยมเลย โดยที่รัฐจะเป็นฝ่ายดูแลและควบคุมทุกอย่างโดยผู้เดียว

  • ระบบเศรษฐกิจแบบผสม

    คือระบบเศรษฐกิจที่นำระบบเศรษฐกิจทั้งสองตัวมารวมกันคือ ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมและระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม มาผสมกัน โดยที่จะแบ่งออกเป็นสองฝ่ายในการดูแลร่วมกันจะมีรัฐดูแลในส่วนหนึ่งและเอกชนดูแลควบคูกันไปด้วย โดยแต่ละหน่วยจะแบ่งหน้าที่การดูและที่ต่างกันออกไป จะมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองอย่างมาก ซึ่งถือว่าการตัดสินใจต่างๆจะต้องตัดสินใจร่วมกันไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง และระบบนี้เรียกอีกอย่างว่า ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมใหม่ นั้นเอง

    ระบบเศรษฐกิจแบบใด

    ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี (Free Economy) หรือทุนนิยม (Capitalism)
                เป็นระบบเศรษฐกิจที่เอกชนเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต มีเสรีภาพในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รัฐทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก และการจัดสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ดังนั้นเอกชนจึงเป็นผู้ตัดสินแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยใช้ระบบราคา หรือระบบตลาดช่วยในการตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร ผลิตอย่างไร ทั้งนี้ราคาเป็นตัวกำหนดว่ามีผู้บริโภคมากน้อยเพียงใดหรือมีผู้ผลิตจำนวนเท่าใด ณ ราคานั้นๆ กำไรคือแรงจูงใจของการผลิต จึงทำให้ระบบเศรษฐกิจนี้มีการแข่งขันทางราคาสูงมากและเป็นไปอย่างเสรี ทั้งนี้เพราะราคาถูกกำหนดขึ้นมาจากอุปสงค์และอุปทานของตลาด
                อังกฤษเป็นประเทศแรกที่ใช้ระบบนี้ เพราะมีความรุ่งเรืองทางด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมมาก่อน ประชาชนชาวอังกฤษเองก็มีอาชีพทางด้านการค้ามาช้านานโดยใช้ทรัพยากรทั้งใน และนอกประเทศมีอาณานิคมอยู่รอบโลก และภายใต้ระบบเศรษฐกิจในลักษณะนี้บุคคลมีเสรีภาพ โดยสมบูรณ์ที่จะถือทรัพย์สินส่วนตัว มีเสรีภาพที่จะเลือกการบริโภคการตัดสินใจในการแก้ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จะทำ โดยผ่านระบบตลาดแข่งขัน โดยที่ราคาในตลาดจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความต้องการของสังคม
              หลักการสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบเสรี ในระบบแบบเสรีมีหลักการที่สำคัญพอสรุปได้ดังนี้ (สาขาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 2538 : 57)
              1. การถือสิทธิ์ในทรัพยากร ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม หรือทุนนิยมยอมรับเรื่องกรรมสิทธิ์ คือ ยอมให้หน่วยธุรกิจหรือเอกชนเป็นเจ้าของทรัพย์สินและปัจจัยการผลิตได้ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์เหล่านี้จึงมีสิทธิเสรีภาพในการจัดกระทำใดๆ กับทรัพย์ของตนก็ได้
              2. เสรีภาพในการประกอบการ ทั้งปัจเจกบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เป็นองค์การหรือหน่วยธุรกิจ ต่างมีเสรีภาพอย่างเต็มเปี่ยมในการประกอบการใดๆ เพื่อจัดดำเนินการกับปัจจัยการผลิตและทรัพย์สินของตนได้อย่างอิสระ ปราศจากการบังคับควบคุมจากสิ่งใดทั้งสิ้น
              3. กำไรเป็นเครื่องจูงใจ ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรี กำไรซึ่งเป็นส่วนของผลได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญในการจูงใจให้หน่วยธุรกิจผู้ผลิตทำการผลิต โดยมุ่งนำเทคนิคใหม่ๆ ที่มาช่วยลดต้นทุนการผลิตมาใช้ในการดำเนินการ เพื่อที่จะได้กำไรสูงสุด ส่วนผู้บริโภคจะยึดเกณฑ์การเลือกบริโภคสินค้า และบริการที่จะนำความพอใจสูงสุด ด้วยการจ่ายเงินน้อยที่สุด โดยทำการเปรียบเทียบความต้องการของตนเองจากบรรดาสินค้าชนิดค่างๆ
              4. กลไกของราคา ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีใช้ราคาเป็นตัวตัดสินปัญหาพื้นฐานด้านการผลิต คือ ผู้ผลิตตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร เป็นจำนวนเท่าใด โดยดูแนวโน้มความต้องการของผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าชนิดต่างๆ และดูระดับราคาสินค้าที่ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายซื้อ ถ้าผู้บริโภคต้องการสินค้าชนิดใดมากก็จะใช้เงินซื้อสินค้านั้นมาก แม้ราคาจะสูงก็ยังจะซื้ออยู่ เมื่อเป็นดงนั้นผู้ผลิตก็จะทุ่มทุนกำลังการผลิต ผลิตสินค้าชนิดนั้น เพราะแน่ใจว่าขายได้แน่นอน วิธีดูแนวโน้มของราคา และพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้เองเป็นตัวกำหนดที่ผู้ผลิตใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร ในปริมาณเท่าใด ราคาในระบบเศรษฐกิจเสรี จึงทำหน้าที่บ่งชี้  และควบคุมการทำงานภายในระบบเศรษฐกิจจนกล่าวกันว่า ราคาทำหน้าที่แทนผู้บริโภค ชี้ทางให้ผู้ผลิตผลิตเฉพาะสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการ
              5. บทบาทของรัฐ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี รัฐจะไม่มีบทบาทในทางเศรษฐกิจเลย รัฐทำหน้าที่เพียงด้านความยุติธรรมและป้องกันประเทศ โดยที่รัฐบาลจะเป็นฝ่ายให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เอกชนหรือผู้ผลิตสินค้าและบริการ ดังเช่น อดัม สมิธ ได้กำหนดและวางหน้าที่บางอย่างแก่รัฐ ดังนี้ การป้องกันประเทศจากการรุกรานโดยใช้กำลัง ไม่ว่ารูปแบบใดๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ การคุ้มครองมิให้พลเมืองได้รับความอยุติธรรม หรือการกดขี่ข่มเหงจากการกระทำของพลเมืองด้วยกันเอง การสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อประชาชน
    ข้อดีของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม มีดังนี้
              - เกิดแรงจูงใจในการทำงาน เพราะทำแล้วรายได้ตกเป็นของตนเอง
              - เนื่องจากผู้ผลิตแต่ละรายต้องแข่งขันกันขายสินค้าและบริการให้มากที่สุด จึงต้องปรับปรุงเทคนิคการผลิตอยู่เสมอทำให้คุณภาพของงาน และคุณภาพของสินค้าดีขึ้น
              - ผู้ผลิตสินค้ามีเสรีภาพในการตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร ผลิตอะไร และผลิตมาปริมาณเท่าใด
              - ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกบริโภคสินค้าและบริการต่างๆ ในราคาที่เป็นธรรมมากที่สุด
    ข้อเสียของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม มีข้อบกพร่องหลายประการด้วยกัน คือ
             1. ทำให้การกระจายรายได้ของประชาชนไม่เท่าเทียมกัน เพราะบุคคลในสังคมต่างมีทรัพย์สินไม่เท่าเทียมกัน บุคคลที่มีทรัพย์สินมากย่อมมีความได้เปรียบบุคคลที่มีทรัพย์สินน้อยกว่าทั้งนี้เพราะทรัพย์สินเป็นแหล่งกำหนดรายได้ คนที่มีทรัพย์สินมากย่อมแสวงหารายได้จากทรัพย์สินของตนได้มาก โอกาสที่จะสร้างความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของบุคคลในสังคมจึงมีมาก   ซึ่งหากคนที่มีทรัพย์สินมากหรือที่เรียกว่า "นายทุน" เป็นบุคคลที่ขาดจริยธรรมแล้ว โอกาสที่นายทุนจะเอาเปรียบผู้อื่นย่อมมีมากเพราะมักจะขาดจริยธรรม และคำนึงถึงแต่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและกำไรมากๆ เป็นสำคัญ จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันและความระส่ำระสายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จึงมีผลให้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมต้องเสื่อมลงในบางประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม ฯลฯ ต้องเลิกล้มไปในที่สุด
             2. ในบางสถานการณ์ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมไม่สามารถจะนำมาใช้แก้ไขสถานการณ์ได้ เช่น ในภาวะฉุกเฉินหรือภาวะสงคราม หากรัฐบาลปล่อยให้เอกชนดำเนินการเศรษฐกิจเองโดยเสรี สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอาจจะเลวลงกว่าที่เป็นอยู่ เช่น ประเทศอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 รัฐบาลต้องหันมาแทรกแซงกิจกรรมของเอกชน เพราะกลไกราคาใช้ไม่ได้ผล ทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าและบริการต่างๆ จนต้องใช้วิธีปันส่วน
             3. ในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม หากมีผู้ผลิตสินค้าและบริการน้อยราย โอกาสที่ผู้ผลิตที่จะรวมตัวกันเพื่อผูกขาดการผลิตสินค้า และบริการย่อมเป็นไปได้ง่าย เพราะรัฐบาลไม่สามารถจะเข้ามาแทรกแซงกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ ผลเสียจะตกอยู่กับผู้บริโภคและผู้ใช้แรงงานซึ่งถูกเอาเปรียบ โดยการขึ้นราคาสินค้าให้สูง และกดค่าจ้าง ค่าแรงงานให้ต่ำ

    ระบบเศรษฐกิจแบบใด

            http://www.baanjomyut.com/library/global_community/03_2_1.html

    ระบบเศรษฐกิจแบบใด

    ระบบเศรษฐกิจมีแบบใดบ้าง

    ระบบเศรษฐกิจมีทั้งหมด 4 ประเภท.
    ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี หรือ ทุนนิยม ... .
    ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม หรือระบบเศรษฐกิจแบบวางแผน ... .
    ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ ... .
    ระบบเศรษฐกิจแบบผสม.

    ข้อใดคือรูปแบบของระบบเศรษฐกิจของไทย

    ไทยใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสมแต่ค่อนข้างไปทางทุนนิยมเอกชนมีบทบาทในการผลิตด้านต่าง ๆ มากกว่ารัฐบาลเอกชนมีสิทธิ์ในทรัพย์สินและปัจจัยการผลิต มีเสรีภาพในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการแข่งขันเพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้ารัฐบาลดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านกิจกรรมสาธารณูปโภค

    ระบบเศรษฐกิจแบบใดที่มีการแข่งขันกันอย่างเสรี

    ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี (Free Economy) หรือทุนนิยม (Capitalism)

    ระบบเศรษฐกิจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่อะไรบ้าง

    ระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันที่สำคัญ มี 3 รูปแบบ คือ 1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม (Capitalism) 2. ระบบเศรษฐกิจแบบบังคับ ซึ่งแยกเป็น แบบสังคมนิยมเสรี (Socialism) และแบบคอมมิวนิสต์ (Communism) 3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม (Mixed Economy)