สมัยนี้ ใครๆ ก็อยากที่จะได้ใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น กระโปรงตัวจิ๋ว อวดเรียวแขน เรียวขา และ รักแร้ ที่สวยลูบแล้วเรียบเนียน ฟิน ไม่มีขน กันใช่มั้ยคะ แต่ถ้าใครอยากมีผิวที่เรียบเนียน ไม่มีขนแบบนานๆ ไม่ต้องโกนหรือถอนหรือแว็กซ์บ่อยๆ “เลเซอร์กำจัดขน” คือคำตอบสำหรับเพื่อนๆ เลยค่า! ซึ่งเลเซอร์กำจัดขนเนี้ย ดั้นนน มีหลายประเภทมากๆ แต่ละชื่อ แค่อ่านก็งงแล้ว มีแต่ศัพท์ยากๆ เต็มไปหมดเลย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ ทำยังไงดี Show วันนี้ GoWabi จะมาแนะนำสาวๆ อย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง เลเซอร์กำจัดขน หรือ Laser Hair Removal เองค่า ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย! ก่อนอื่นเลย สาวๆ รู้รึเปล่าคะ ว่าเลเซอร์กำจัดขนบนโลกนี้มีกี่แบบ? ติ้กต็อก ติ้กต็อก เดากันออกรึยังคะ? เลเซอร์กำจัดขนมีด้วยกันทั้งหมด 5 แบบด้วยกันค่า นั่นก็คือ IPL, Nd:YAG, Diode, Alexandrite และ Ruby ค่า โอ้โห้ แค่ชื่อก็งงไปหมดแล้ว ไปดูกันทีละอย่างเลยค่ะว่าแต่ละแบบเป็นยังไง! 1. IPL
โดยเจ้า IPL เนี้ย จะไม่ได้กำจัดตัวรากขนไปจนหมดสิ้น ทำให้ยังคงขนที่งอกขึ้นมาใหม่หลังจากทำเลเซอร์ไป 1-2 เดือน เมื่อทำ IPL ซ้ำหลายๆ ครั้ง ขนที่ขึ้นมาใหม่จะมีสีที่อ่อนกว่าและเส้นบางกว่า เหมาะมากๆ สำหรับ คนที่มีผิวค่อนข้างขาว และสาวๆ ที่มีงบจำกัดค่ะเพราะราคาจะถูกกว่าเลเซอร์ตัวอื่น บริเวณที่นิยมใช้ ใบหน้า ขา หลัง บิกินี่ รักแร้ และส่วนที่บอบบางต่างๆ นอกจากนั้น IPL ยังนิยมใช้เป็นทรีตเม้นต์หน้าใส หรือลบรอยสิว รอยแดง ฝ้า กระ อีกด้วยค่ะ สาวๆ คงเดาได้ใช่มั้ยคะว่า อันดับที่ 2 ถึง 5 นั้นคือเลเซอร์นั่นเอง ซึ่งเลเซอร์ทั้ง 4 ตัวนี้ มีวิธีพื้นฐานในการกำจัดขนเหมือนกัน ก็คือ เวลายิงเลเซอร์ปุ้บ! เลเซอร์จะตรงไปที่รูขุมขนที่เป็นต้นกำเนิดของเส้นขนทันที โดยไม่ทำลายผิวข้างเคียงระหว่างทำเลเซอร์ค่ะ โดยเลเซอร์จะถูกเมลานินหรือเม็ดสีผิวในต่อมขนดูดซึมเพื่อไปใช้เป็นพลังงานในการทำลายรากขน พอรากขนถูกทำลายจนหมด ขนก็จะไม่งอกขึ้นมาอีกค่ะ! เมื่อให้แสงเลเซอร์ ในความร้อนระดับเดียวกัน ที่ความยาวคลื่นเท่ากัน คนผิวขาวจะสามารถรับพลังงานได้สูงกว่าเพราะคนผิวขาวมีเม็ดสีน้อยจึงทำให้เกิดความร้อนน้อยกว่า ในขณะที่คนผิวสีเข้ม มีเม็ดสีผิวมากกว่า ดังนั้น จึงดูดซับแสงมากกว่า ทำให้เกิดการไหม้ได้ แต่ด้วยความที่เลเซอร์แต่ละชนิด มีความยาวของลำแสงที่ต่างกัน จึงมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนไม่เท่ากัน และ เหมาะกับสีผิวและบริเวณที่ต่างกันค่ะ! ทางเราสรุปง่ายๆ มาเป็นตารางข้างล่างนี้เลย ถ้าพร้อมแล้ว ไปรู้จักเลเซอร์กันต่อเลย! 2. Nd:YAGมาดูที่เลเซอร์ขน Nd:YAG หรือที่ทั่วไปคนรู้จักในชื่อของ YAG (อ่านว่า “แย๊ก”ค่า) หรือ Gentle YAG เป็นเลเซอร์กำจัดขนตัวใหม่ล่าสุดของโลกใบนี้ และเป็นที่นิยมมากๆ สำหรับสาวไทย ความยาวของลำแสง 1,064 nm อนุภาพของมันรุนแรงถึงขั้นสามารถลบรอยสักได้เลยทีเดียว โอ้โหหห โดยจะเริ่มจากเจ้าหน้าที่จะทา Carbon lotion ลงบนผิว โดยเจ้าตัว Carbon นี่แหละ! ที่ช่วยในการดูดซึมลำแสงเลเซอร์ ทำให้กำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพล้ำลึก! เหมาะมากๆสำหรับ สาว ๆ ที่มีผิวสีแทน หรือผิวสีเข้มๆ ค่ะ เพราะเจ้า Nd:YAG ไม่ได้จับเม็ดสีผิวได้ดีเท่าเลเซอร์ขนตัวอื่น จึงเหมาะมากสำหรับสาวไทยอย่างเรา รับรองไม่มี รอยไหม้ รอยด่างดำที่พบบ่อยหลังการทำ IPL ค่ะ! บริเวณที่นิยมใช้ จุดที่ต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆ เช่น ใบหน้า หนวดเครา และ รักแร้ แต่ก็เป็นที่นิยมสำหรับเลเซอร์ขา แขน บิกินี่ เช่นกัน! นอกจากนั้น Nd:YAG ยังนิยมใช้เป็นเลเซอร์ช่วยให้ผิวขาวใส ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และลดขนาดรูขุมขนด้วยค่ะ 3. Diodeมาถึงเลเซอร์ขนตัวที่สามกัน นั่นก็คือ Diode (อ่านว่า “ไดโอด”) นั่นเอง โดยเจ้าเลเซอร์ตัวนี้มีความยาวของคลื่นที่หลากหลายมากเลย! เช่น 800-810 nm, 940 nm, 1,064-1,350 nm ทำให้สามารถปรับความยาวของคลื่นให้เหมาะสมกับสีผิวและความเข้มของสีขนได้เลย! โดยเลเซอร์ชนิดนี้ส่วนใหญ่ที่นำเข้าในไทย จะมีขนาด 800-810 nm ค่ะ เหมาะมากสำหรับ สาวๆ ที่มีผิวขาว ไปจนถึงสาวๆ ที่มีผิวสีกลางๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นผิวแทนค่ะ บริเวณที่นิยมใช้ แขน ขา และ บริเวณกว้างๆ ค่ะ เพราะ Diode Laser ต้องใช้เจลเย็นในการลดความร้อนระหว่างทำ จึงอาจไม่เหมาะกับการทำที่ผิวหน้าหรือในบริเวณเล็กๆ ที่ต้องการความละเอียดเป็นพิเศษค่า 4. Alexandriteเลเซอร์ขน ตัวต่อไป Alexandrite (อ่านว่า “อเล็กซานไดร์ท”) มีความยาวคลื่นที่สั้นขึ้นมา นั่นก็คือ 755 nm ค่ะ เหมาะมากสำหรับ สาวๆ ที่มีผิวขาว ไปจนถึง สาวๆ ที่มีสีผิวน้ำผึ้ง undertone เหลือง ค่า บริเวณที่นิยมใช้ บริเวณวงกว้างมากขึ้น นิยมมากที่เลเซอร์ขาค่ะ 5. Rubyเลเซอร์ขนตัวสุดท้ายก็คือ Ruby หรือ “รูบี้” นั่นเอง รู้รึเปล่า? ว่าเจ้าเลเซอร์ชนิดนี้เป็นเลเซอร์กำจัดขนชนิดแรกของโลก! มีความยาวคลื่น 694 nm ค่ะ เหมาะมากสำหรับ สาวๆ ที่มีผิวขาวมากๆ ค่ะ จะเป็นเลเซอร์ที่นิยมมากในสาวๆ ฝรั่งฝั่งยุโรปมากกว่าค่ะ
อ่าน Blog ความสวยความงามเพิ่มเติม คลิก >>>> |