E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกันอย่างไร

28 ต.ค. 2564   ผู้เข้าชม 18,236

คลายข้อสงสัย น้ำมันเชื้อเพลิงE20 และ E85 แตกต่างกันอย่างไร รู้ก่อนใช้สำคัญกว่า เพราะนอกจากจะเลือกใช้น้ำมันให้เข้ากับเครื่องยนต์แล้ว ยังควรที่จะเลือกคุณภาพน้ำมันที่ดีที่สุด เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

บทความนี้ แพนด้า สตาร์ออยล์ จะขอพาทุกคนไปเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันชัด ๆ ว่า E20 และ E85 น้ำมันเชื้อเพลิงอันไหนดีกว่ากันแน่ ควรเติมน้ำมันแบบไหน รวมไปถึงความคุ้มค่าของราคา และคุณภาพที่ได้รับ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเลือกใช้งาน

สารบัญ

  • รู้จัก น้ำมันเชื้อเพลิง E20 กับ E85
    • แก๊สโซฮอล์ E20
    • แก๊สโซฮอล์ E85
  • เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไรดี?

รู้จัก น้ำมันเชื้อเพลิง E20 กับ E85

ก่อนจะไปถึงข้อดีของน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด ควรรู้ถึงความแตกต่างก่อนว่า น้ำมันทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร

E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกันอย่างไร

แก๊สโซฮอล์ E20

เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน 80% และมีส่วนผสมของ เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethanol) 20% 

น้ำมันเชื้อเพลิง ประเภทแก๊สโซฮอล์ E20 ไม่ได้สามารถใช้กับเครื่องยนต์ได้ทุกประเภท ฉะนั้นต้องดูให้ดีว่า เหมาะแก่การใช้งานกับเครื่องยนต์ของเราไหม เพราะการที่มีปริมาณเอทิลแอลกอฮอล์มากขึ้น มีส่วนช่วยในเรื่องการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ เครื่องยนต์สะอาดขึ้น ทำให้มีแรงบิดที่มากขึ้น เทียบเท่ากับการใช้น้ำมันเบนซิน แม้จะดูเหมือนเป็นข้อดี แต่ทว่าอาจจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ที่ไม่ได้รองรับได้เช่นกัน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

แก๊สโซฮอล์ E85

แตกต่างจาก E20 ตรงที่ มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินเพียง 15% และอีก 85% เป็นส่วนของเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethanol) ถือว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงมาก น้ำมันชนิดนี้มีค่าออกเทนสูง จึงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยม 

ค่ายรถยนต์หลายค่ายเริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมัน E85 ได้ น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดนี้ช่วยทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เร็วมากขึ้น  เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีการรองรับการเติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethanol) E85 ซึ่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันเบนซิน มลพิษน้อยลง เมื่อเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ 

เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างไรดี?

เมื่อได้รู้ถึงข้อแตกต่างไปข้างต้นแล้ว คำถามต่อมาคือ แล้วจะเลือกน้ำมันชนิดไหนดี ควรเติมน้ำมันแบบไหน เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดกับเงินในกระเป๋าของเรา

หากเปรียบเทียบความแตกต่างในแต่ละด้าน สิ่งแรกที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาคือ ราคาของน้ำมัน จะเห็นข้อแตกต่างจุดนี้ได้ดีที่สุด เพราะว่าน้ำมัน E20 จะมีราคาที่สูงกว่า E85 หากมองแค่เรื่องของราคา ก็คงตัดสินใจกันได้ไม่ยาก แต่จริง ๆ แล้วต้องมองถึงเหตุผลอื่นร่วมด้วย

E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกันอย่างไร

แม้ราคาของ E85 จะถูกกว่าก็ตาม แต่กลับมีส่วนผสมของเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethanol) มาก ส่งผลต่ออัตราการวิ่งของรถยนต์ เพราะใช้น้ำมันมากกว่า ดังนั้น หากเทียบการเดินทางด้วยระยะทางที่เท่ากัน เราจะพบว่า น้ำมัน E85 มีราคาที่แพง และเผาผลาญน้ำมันมากกว่า

ดังนั้น การพิจารณาราคาเพียงอย่างเดียว อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหากวัดด้วยระยะทาง และราคาน้ำมัน จะเห็นได้ชัดเจนว่า E20 เป็นทางเลือกที่ดีกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า และจากสถิติพบว่า น้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สโซฮอล์ E20 ถือเป็นน้ำมันที่ประหยัดที่สุด เมื่อเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ทั้ง E85  แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91

หากพูดถึงความคุ้มค่าแล้ว จะเห็นได้ว่าเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ใช่การดูเพียงแค่เรื่องของราคาเท่านั้น ต้องนำปัจจัยหลาย ๆ อย่างมาประกอบการพิจารณาร่วมกัน เพราะราคาที่ถูกที่สุด ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยประหยัดน้ำมันที่สุดเสมอไป เรื่องของเครื่องยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึง หากเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงผิด แน่นอนว่าจะส่งผลเสียตามมาในระยะยาวอย่างแน่นอน

ในปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราใช้กันอยู่ทุกวันมีให้เลือกเติมหลายแบบ หลายชนิดแน่นอนว่าน้ำมันแต่ละชนิด จะต้องมีลักษณะคุณสมบัติแตกต่างกัน รวมไปถึงราคาก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยซึ่งโดยคนทั่วไปมักจะมองว่า ของถูกมันมักจะไม่ดี แต่สำหรับสาระน่ารู้นี้ผมจะมาบอกว่าไม่เสมอไปนะครับ

บทความนี้จะมาพูดถึง น้ำมันที่มีเอทานอลผสมอย่าง E20 ว่าดีอย่างไร

E20 คือน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเป็นออกเทน 95 80% ผสมกับเอทานอลอยู่ 20% ประสิทธิภาพไม่ต่างจาก แก๊สโซฮอล 91 และ 95 เท่าไหร่ แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า การใช้ E20 ทำให้เครื่องนั้นสะอาดกว่าการเติมน้ำมัน 95 ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่มองว่าข้อเสียว่าการที่เชื้อเพลิงมีอัตราส่วนของแอลกอฮอล์อยู่ด้วย ทำให้อุปกรณ์ที่เป็นยางภายในนั้นเสื่อมและแข็งตัวเร็วกว่าปกตินั้นไม่ผิดหรอกครับแต่ส่วนผสมเพียงแค่นี้ มีเปอร์เซนต์น้อยมากๆ ที่จะทำให้อุปกรณ์เสื่อมสภาพ

E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกันอย่างไร
ภาพจาก: อู่ป๋าเอ็ก รังสิ

ทำไม E20 นั้้นถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสะอาดกว่าน้ำมันเบนซิน 95

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเอทาน่อลก่อนนะครับ

เอทาน่อลและเอททิลคือแอลกอฮอล์ เป็นเชื้อเพลิงที่ได้จากการหมักพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย มันสัมปะหลัง ข้าวโพด กลั่นจนได้ความบริสุทธ์ของแอลกอฮอล์ 99.5% ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับ เหล้า ไวน์ เบียร์ที่เราดื่มกันทุกวันนี้แหละครับ

เอทาน่อล มีข้อดีในเรื่องของการจุดระเบิดของเครื่องยนต์นั้นสะอาดกว่าน้ำมัน เพราะแอลกอฮอล์นั้นเป็นพลังงานสะอาดที่ได้จากพืชและยังให้ค่าอ๊อกเทนสูงอีกด้วยจึงทำให้ช่วยต้านทานการชิงจุดระเบิดหรืออาการเขกของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

ต้นทุนในการกลั่นนั้นมีราคาแพงกว่า 91 และ 95 “แล้วทำไมถึงขายถูกกว่าหละ?” ก็เพราะรัฐบาลช่วยอุดหนุนตรงนี้อยู่จึงทำให้ E20 ได้ราคาถูก แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่อุดหนุน น้ำมัน E20 จะอยู่ลิตรละ 30 กว่าบาท

ทีนี้ก็ทราบกันแล้วนะครับว่า ของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไปซึ่งแก๊สโซฮอล์ E20 จะมีราคาต่ำกว่า 95 ถึงลิตรละ 2 บาท ซึ่งในปี 2564 มีเกณฑ์ว่า E85 กำลังจะยกเลิกการจำหน่ายต้องคอยติดตามกันนะครับ

อ่านสาระน่ารู้เพิ่มเติม:

ทำไม E20 ถูกกว่า 95

1. ผู้บริโภคได้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ในราคาถูกลงกว่าลิตรละ 5 บาท 2. ราคารถยนต์ที่ใช้ E20 ถูกลงจากการลดภาษีสรรพสามิตประมาณคันละ 5 หมื่น -1 แสนบาท 10.ข้อดีของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 1. การเผาไหม้ของ E 20 สมบูรณ์กว่าน้ำมันเบนซินปกติ จึงช่วยเพิ่มกำลังและ แรงบิดของเครื่องยนต์

น้ำมัน E20 ประหยัดจริงไหม

ดังนั้น การพิจารณาราคาเพียงอย่างเดียว อาจไม่ถูกเสมอไป เพราะหากวัดด้วยระยะทาง และราคาน้ำมัน จะเห็นได้ชัดเจนว่า E20 เป็นทางเลือกที่ดีกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า และจากสถิติพบว่า น้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สโซฮอล์ E20 ถือเป็นน้ำมันที่ประหยัดที่สุด เมื่อเทียบกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ทั้ง E85 แก๊สโซฮอล์ 95 และ 91.

E20 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 ผสมกันได้ไหม

ปัญหาที่หลายคนสงสัยกันมากว่ารถของเราสามารถเติมน้ำมันผสมกันได้ไหม รถของเราเติมแต่แก๊สโซฮอลล์ E20 มาโดยตลอด แต่ปั๊มนี้มีแต่แก๊สโซฮอลล์ 95 และแก๊สโซฮอลล์ 91 จะเติมผสมเข้าไปได้หรือไม่ คำตอบสุดท้ายคือ สามารถผสมกันได้ ก็เพราะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนที่เครื่องยนต์รองรับ ซึ่งการเติมผสมกันระหว่าง แก๊สโซฮอลล์ 95 กับ ...

น้ำมัน E20 มันดียังไง

- มันประหยัดกว่า (แหงสิต่อถังมันถูกกว่าหลายบาทเลยนะ) - E20 สะอาดกว่า เผาไหม้ได้หมดจดกว่า เครื่องยนต์สะอาดกว่า - อัตราเร่งมาดีขึ้น