เวลาเปิดแอปพลิเคชันเช็คสภาพอากาศกันในแต่ละวัน มีใครเคยสงสัยไหมว่า ค่า AQI กับค่าฝุ่น PM 2.5 มันเหมือนกันไหม มันใช่ตัวเดียวกันหรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันค่ะ อย่างที่รู้กันนะคะว่า PM 2.5 ก็คือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งการรวมตัวของก๊าซอื่นๆ ในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ส่วน AQI (Air Quality Index) หรือดัชนีคุณภาพอากาศ เป็นค่าตัวเลขที่บอกว่ามีความเข้มข้นของสารมลพิษที่อยู่ในอากาศเท่าไหร่ ซึ่งวัดความเข้มข้นจากสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิดรวมกันคือ
ภาพจาก air4thai ข้อมูลจะแสดงออกมาเป็นตัวเลขและสีต่างๆเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ดังนั้นตัวเลขของค่า AQI ที่แสดงไม่ใช่มีแค่ปริมาณฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสารมลพิษทางอากาศอื่นๆด้วย ซึ่งเกณฑ์การวัดก็ต่างกัน โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ ตั้งแต่ 0 ถึง 201 ขึ้นไป แสดงผลสีเขียวจนไปถึงสีแดง จะเห็นว่าค่า AQI ที่ดีต่อสุขภาพคือไม่เกิน 50 ถ้าหากเกิน 100 ก็จะเริ่มส่งผลต่อสุขภาพแล้วค่ะ แต่ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพจะมีตัวเลขอยู่แค่ไม่เกิน 12 เท่านั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าในแต่ละพื้นที่ก็อาจจะมีปริมาณสารมลพิษอากาศแต่ละชนิดในปริมาณสัดส่วนที่แตกต่างกันไป ซึ่งเอาจริงๆเราก็แยกออกมาเป็นตัวเลขได้ยากว่าแต่ละชนิดมีอยู่ในปริมาณเท่าไหร่ ทำให้ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมีฝุ่น PM 2.5 อยู่ในอากาศมากน้อยแค่ไหน ค่า AQI 50 ที่ว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอาจจะมี PM 2.5 อยู่มากกว่า 12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรก็ได้ สรุป ค่า AQI ไม่เหมือนกับค่า PM 2.5 รวมทั้งเกณฑ์การวัดก็ต่างกันค่ะ ส่วนในเรื่องของตัวเลขที่ส่งผลต่อสุขภาพ ใครที่มีเครื่องกรองอากาศถ้าจะให้ปลอดภัยต่อสุขภาพชัวร์ๆค่าที่แสดงบนเครื่องฟอกอากาศไม่เกิน 12 น่าจะดีที่สุดค่ะ รวมถึงใครที่ต้องออกไปนอกบ้านในจุดเสี่ยงก็อย่าลืมหาหน้ากากใส่ป้องกันด้วยนะ Source: 1, 2 ค่ามาตรฐาน PM 2.5 ในบรรยากาศทั่วไป หรือเรียกง่าย ๆ ว่าค่าฝุ่น PM2.5 คือ การกำหนดขึ้นเพื่อบ่งชี้ความเข้มข้นของการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนในบรรยากาศ มีหน่วยเป็น ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยคิดค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง และรายปี แต่รู้ไหมว่าแท้จริงแล้วค่ามาตรฐาน
PM2.5 ที่ไทยใช้หย่อนยานกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศล่าสุด! ยิ่งไปกว่านั้นปีนี้องค์การอนามัยโลกปรับค่าแนะนำลงอีกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ทำให้ค่ามาตรฐานของไทยยิ่งห่างไกลจากค่าแนะนำของ WHO ถึง 3-5 เท่าไปใหญ่ ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศเฉลี่ยรายปีของประเทศไทยอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนองค์การอนามัยโลกแนะนำเฉลี่ยรายปีของ PM2.5 ไม่เกิน 5
ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของประเทศไทยอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลกอยู่ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ฉะนั้นการที่ค่ามาตราฐาน PM2.5 ของไทยมีค่าที่สูงกว่าค่าแนะนำของ WHO จึงไม่สามารถควบคุมและลดการปล่อยมลพิษจากแหล่งกำเนิดต่างๆ อีกทั้งเปิดช่องให้กับผู้ปล่อยมลพิษมากกว่าที่จะคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงอากาศสะอาด ค่า AQI คืออะไรค่า AQI (Air Quality Index) คือ ข้อมูลการวัดคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) โอโซน (O3) คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ค่าฝุ่น PM2.5 สำคัญยังไงการวัดค่า AQI คือการใช้ตัวเลขจากการวัดค่า PM2.5 มาร่วมคำนวนด้วย ค่าฝุ่น PM2.5 จึงเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการคำนวนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ AQI ทั้งนี้ การวัดค่า AQI และ PM2.5 จะโชว์ตัวเลขและสีในการแบ่งระดับการเตือนภัย เพื่อให้ประชาชนรับรู้ทราบระดับความรุนแรงและของความเสี่ยงต่อสุขภาพนั่นเอง การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 คืออะไรกรีนพีซจึงเรียกร้องให้รัฐปรับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศให้เข้มข้นขึ้นเพื่อยกระดับการเตือนภัยแก่ประชาชน รวมไปถึงทำให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆต้องยกระดับนโยบายของตัวเอง เช่น ปลดระวางถ่านหิน ตรวจวัดมลพิษ PM 2.5 จากปลายปล่องโรงงานอุตสาหกรรม ลดการเผาในที่โล่ง ปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนเพื่อลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ให้สอดคล้องกับค่ามาตรฐานใหม่นั่นเอง ร่วมเรียกร้องให้รัฐปรับค่ามาตรฐานให้เข้มข้นขึ้นเพื่ออากาศสะอาดสำหรับทุกคนได้ที่ https://act.seasia.greenpeace.org/th/right-to-clean-air #RightToCleanAir #ขออากาศดีคืนมา |