สวัสดีค่ะเพื่อนๆนักบัญชี ในอาทิตย์ก่อนๆเราพูดถึงเกี่ยวกับบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์กันมาแล้ว แต่ว่าบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ เป็นบัญชีหมวดสินทรัพย์ ก็ยังมีบัญชีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ คือ บัญชีค่าเสื่อมราคา ในหมวดค่าใช้จ่ายค่ะ ในการคำนวณค่าเสื่อม หากเราใช้โปรแกรมบัญชีส่วนใหญ่ก็จะเป็นการคำนวณแบบอัตโนมัติให้เราอยู่แล้วใช่ไหมคะ แต่ก็จะมีการคำนวณค่าเสื่อมอยู่เพียงแค่ 1
วิธีที่นักบัญชีและนักออกแบบโปรแกรมนิยมใช้กัน แต่วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จัก วิธีการคำนวณค่าเสื่อมวิธีอื่นๆกันบ้างค่ะ ว่ามีวิธีอะไรอีกบ้าง ค่าเสื่อมราคา คือ การทยอยรับรู้ค่าใช้จ่ายในบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในประเภทของสินทรัพย์ประเภท อาคารและอุปกรณ์ โดยการพิจารณาแยกส่วนกันในสินทรัพย์ที่สามารถแยกอายุการใช้งานได้อย่างชัดเจน หรือแยกออกกันในด้านของประเภทการใช้งาน
ค่าเสื่อมต้องคิดอย่างมีระบบตลอดอายุการใช้งาน และ ทบทวนอายุการให้ประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ การคำนวณค่าเสื่อมราคาต้องคำนึงถึงปัจจัยหลัก 3 สิ่งนี้
2. วิธีคิดค่าเสื่อมราคา มีวิธีอะไรบ้าง?ค่าเสื่อมราคานอกเหนือจากวิธีคำนวณแบบเส้นตรงแล้ว มีวิธีอะไรอีกบ้าง มาดูกันค่ะ
เป็นวิธีที่รับรู้ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีเท่าๆกัน ตามสูตรดังนี้ ค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรง = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) / อายุการใช้งาน
เป็นวิธีที่คำนวณค่าเสื่อมราคาทีละปี
แล้วลดยอดคงเหลือในการคูณอัตราค่าเสื่อมไปจนถึงปีสุดท้าย ตามสูตรดังนี้ ค่าเสื่อมราคาวิธียอดคงเหลือลดลง = (อัตราค่าเสื่อมราคา x 2 ) x มูลค่าทางบัญชี
ค่าเสื่อมที่รับรู้จะเป็นค่าเสื่อมราคาที่รับรู้ตามจำนวนการผลิต ตามสูตรดังนี้ ค่าเสื่อมราคาวิธีจำนวนผลผลิต = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) x (จำนวนที่ผลิตได้ในปี/ปริมาณการผลิตทั้งหมด)
ค่าเสื่อมที่รับรู้จะเป็นค่าเสื่อมราคาที่รับรู้ ปีแรกๆ จะรับรู้มาก และทยอยรับรู้น้อยลงไปจนถึงปีสุดท้ายค่ะ แต่จะแตกต่างกับวิธี วิธียอดคงเหลือลดลง คือ จะมีความคงที่ในการลดลงมากกว่า ตามสูตรดังนี้ ค่าเสื่อมราคาวิธีผลรวมจำนวนปี = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) x (จำนวนปีที่เหลือ/ผลรวมจำนวนปี) วิธีคำนวณค่าเสื่อมราคา3. ความแตกต่างของแต่ละวิธี จะเลือกใช้วิธีไหนดี?มี 4 วิธีให้เลือกใช้ได้ ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะใช้วิธีการไหน หรือสูตรการคำนวณรับรู้ค่าใช้จ่ายแบบใด ถึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของเรากันค่ะ เพื่อให้เห็นภาพชัดมากขึ้น ยกตัวอย่างการคำนวณค่าเสื่อมเครื่องจักร ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่ะ
จากสูตรการคำนวณ ค่าเสื่อมราคาวิธีเส้นตรง = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) / อายุการใช้งาน เป็นสูตรการคำนวณที่ค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับทุกๆปี เหมาะสมกับกิจการทั่วไป เป็นการคำนวณค่าเสื่อมอย่างง่าย แต่ต้องใช้วิธีคิดนี้ไปอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพื่อที่จะสามารถนำตัวเลขในงบไปวิเคราะห์เปรียบเทียบได้
ค่าเสื่อมราคาวิธียอดคงเหลือลดลง = (อัตราค่าเสื่อมราคา x 2 ) x ราคาทรัพย์สิน
ค่าเสื่อมราคาวิธีผลรวมจำนวนปี = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) x (จำนวนปีที่เหลือ/ผลรวมจำนวนปี)
ค่าเสื่อมราคาวิธีจำนวนผลผลิต = (ราคาทุน – มูลค่าคงเหลือ) x (จำนวนที่ผลิตได้ในปี / ปริมาณการผลิตทั้งหมด)
จากที่แสดงการคำนวณค่าเสื่อมราคาของแต่ละวิธีแล้ว สรุปได้ว่า
วิธีที่รับรู้ค่าเสื่อมราคาเท่ากันทุกปี คือ วิธีเส้นตรง เป็นวิธีที่หารเท่ากันทุกปี และวิธีที่ไม่สามารถคาดการณ์ค่าเสื่อมราคาของแต่ละปีได้ คือ วิธีจำนวนผลผลิต ที่ขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตว่าเครื่องจักรจะผลิตได้ปีละเท่าไร พอทราบความแตกต่างแล้ว เพื่อนๆลองวิเคราะห์ดูนะคะ ว่าการคำนวณค่าเสื่อมราคาแบบไหนที่เหมาะสมกับธุรกิจของเพื่อนๆบ้าง 4. ค่าเสื่อมราคาอยู่ตรงไหนในงบการเงินค่าเสื่อมราคา ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนอันนี้ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับหมายเหตุประกอบงบการเงินต้องเปิดเผยเรื่องค่าเสื่อมไหม เราลองมาดูตัวอย่างนี้กันค่ะ ในหมายเหตุประกอบงบการเงินเรื่อง “ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์” ตามมาตรฐานรายงานการเงินบอกไว้ว่า ต้องเปิดเผยรายการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาสะสม อธิบายเป็นภาษาคนง่ายๆ เราขอแบ่งแบบนี้ค่ะ ในตารางการเคลื่อนไหวหมายเหตุงบการเงิน จะมีอยู่ 4 ช่อง ตามนี้ ช่องที่ 1 เป็นราคาทุนที่เพิ่มขึ้น หมายความว่า กิจการได้มีการซื้อสินทรัพย์เข้ามาเพิ่ม สามารถดูได้รายบรรทัดว่ากิจการนั้นซื้อทรัพย์สินประเภทใด หมวดใดเข้ามาเพิ่มในปีบ้าง ช่องที่ 2 เป็นรายการลดลงของรายการราคาทุน หมายความว่า มีการขายหรือตัดจำหน่ายทรัพย์สินระหว่างปีออกไปค่ะ สามารถดูได้รายบรรทัดว่ากิจการนั้น ขายทรัพย์สินประเภทใด หมวดใดออกบ้างในปี ช่องที่ 3 เป็นรายการลดลงของค่าเสื่อมราคาสะสม หมายความว่า เป็นการบันทึกบัญชีค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ที่มีอยู่ของกิจการ ช่องที่ 4 เป็นรายการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาสะสม หมายความว่า มีค่าเสื่อมสะสมที่เราตัดออกไปเท่าใดเมื่อมีการขายหรือตัดจำหน่ายทรัพย์สินระหว่างปีค่ะ ระหว่างปีเกิดอะไรขึ้นบ้างจากคำอธิบายในหมายเหตุประกอบงบการเงิน พออ่านแล้วอาจจะดูงงๆ ต้องไปเปิดอ่านเพิ่มเติมข้อนั้น ข้อนี้ แต่ข้อนี้ก็มีความสำคัญมากนะคะ เนื่องจากเป็นการบอกถึงสถานภาพทางการเงิน ว่าสินทรัพย์ที่เรามีอยู่แล้วเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นจากการซื้อเงินสด หรือว่าเพิ่มขึ้นจากการกู้ยืม หรือเจ้าหนี้ลิสซิ่ง ซึ่งจะบอกได้ถึงสภาพทางการเงินของกิจการ และภาระในอนาคตที่กิจการจะต้องมีสภาพคล่องพอที่จะจ่ายชำระหนี้ตามกำหนด และอีกข้อคือสินทรัพย์ที่อยู่ในบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ นำไปติดหลักประกันกับสถาบันการเงินหรือไม่ ค่าเสื่อมราคามีหลายรูปแบบที่สามารถเลือกให้เหมาะกับแต่ละกิจการ เพื่อนๆสามารถนำวิธีการคำนวณของแต่ละรูปแบบเสนอให้หัวหน้างานหรือผู้บริหาร ทราบถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละปีที่จะรับรู้ได้ด้วยนะคะ ก็จะทำให้เพื่อนๆเป็นนักบัญชีที่มีคุณภาพและหายากเป็นการสร้างมูลค่าให้ตัวเองด้วยค่ะ อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน สอบถามได้ที่นี่ Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2017 ด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยมในการส่งต่อความรู้ดีๆ ให้กับนักบัญชีและผู้สอบบัญชีในรูปแบบ e-learning ที่ช่วยให้การเก็บชั่วโมง CPD เป็นเรื่องง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน |