เชมเบอร์มิวสิก Show เชมเบอร์มิวสิกเป็นการบรรเลงเพลงโดยวงเล็กๆ จึงมีความแตกต่างจากออร์เคสตร้าโดยสิ้นเชิงสุนทรีย์ของเชมเบอร์มิวสิกมุ่งไปสู่ความเด่นชัดของสีสันของเครื่องดนตรีสำหรับวงเล็ก ๆ ประเภททริโอ ควอเทท ควินเทท จนถึงวงประเภท ๗-๘ คนเท่านั้น ดังนั้นความเด่นชัดของเครื่องดนตรีแต่ละประเภทจึงเป็นเอกลักษณะเฉพาะของเพลงประเภทนี้ นอกจากนั้น การประสานความสัมพันธ์ในการบรรเลงเพลงจนเป็นหนึ่งเดียวกันก็เป็นเสน่ห์ที่ผู้ฟังจะได้สัมผัสกับดนตรีประเภทเชมเบอร์มิวสิก เพราะแต่ละวงจะมีการการฟังเพลงประเภทเชมเบอร์มิวสิกต้องการความรู้ความเข้าใจเช่นเดียวกับการฟังเพลงคลาสสิกประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพลงประเภทนี้ใช้ผู้เล่นเพียงไม่กี่คน ย่อมไม่สามารถสร้างอารมณ์ความรู้สึกของดนตรีได้อย่างเพลงที่บรรเลงโดยวงออร์เคสตร้า เช่น ความมีพลัง สีสัน หรือเสียงของ วงประสานเสียงที่ร้องไปกับวงออร์เคสตร้า ทำให้รู้สึกยิ่งใหญ่ มโหฬาร แต่สิ่งที่จะได้รับจากเพลงประเภทเชมเบอร์มิวสิก จะเป็นในลักษณะลักษณะของเสียงดนตรีที่แท้จริง ในด้านคุณภาพของการเล่น เพราะถ้ามี ผู้เล่นผิดพลาดจะได้ยินอย่างเด่นชัด ฉะนั้น การบรรเลงประเภทนี้ ผู้บรรเลงต้องมีความถูกต้อง และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเพลงได้อย่างกระจ่างแจ่มชัดแจ้งจริง ๆ นอกจากนี้ ความเป็นหนึ่งในการบรรเลงเพลงซึ่งเป็นความหมายของคำว่า Ensemble คือ ความพร้อมเพียงของผู้บรรเลง เป็นสิ่งที่การบรรเลงเพลงประเภทนี้ต้องการเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะความถูกต้องในการบรรเลงของแต่ละคนเท่านั้น ความถูกต้อง ความเป็นหนึ่งของทั้งวง ย่อมจะต้องมีอยู่อย่างครบครัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้จาการฟังเพลงประเภทเชมเบอร์มิวสิก ซึ่งต่างไปจากเพลงที่บรรเลงโดยวงออร์เคสตร้าโดยปกติการผสมวงแบบเชมเบอร์มิวสิก จะมีนักดนตรีตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป จนถึง ๙ คน และวงดนตรีจะมีชื่อต่าง ๆ ตามจำนวนของผู้บรรเลง เช่น ผู้บรรเลง ๒ คน เรียก ดูโอ (Duo) เช่น เล่น Violin กับ Piano ฯลฯ ผู้บรรเลง ๓ คน เรียก ทริโอ(Trio) เช่น เล่น Piano ๓ หลัง หรือ Piano ๒ กับ Flute ฯลฯ ผู้บรรเลง ๔ คน เรียกว่า ควอเทท (Quartet) เช่น String Quartet ประกอบด้วยไวโอลิน ๒ คัน วิโอลา ๑ คัน และ เชลโล ๑ คัน ผู้บรรเลง ๕ คน เรียกว่า ควินเทท (Quintet) เช่น บทบรรเลง Quintet For two Pianos, Cello and Violin, etc. ผู้บรรเลง ๖ คน เรียกว่า เซ็กเทท (Sextet) ผู้บรรเลง ๗ คน เรียกว่า เซ็พเทท (Septet) ผู้บรรเลง ๘ คน เรียกว่า อ็อคเทท (Octet) ผู้บรรเลง ๙ คน เรียกว่า โนเนท (Nonet) สุนทรีย์ของเชมเบอร์มิวสิกซ้อมกันอย่างดี จนบรรเลงร่วมกันอย่างรู้ใจ คล้ายกับเป็นเครื่องดนตรีเพียงเครื่องเดียวที่มีความหลากหลาย ด้วยเหตุนี้สุนทรีย์ของเชมเบอร์มิวสิกจึงอยู่ที่ความเด่นชัด ยอดเยี่ยมของผู้บรรเลงซึ่งนำเสนอจากโสตศิลป์ อันเป็นการสร้างสรรค์ของผู้ประพันธ์เพลง แม้ความมีพลัง ความยิ่งใหญ่ เช่นวงออร์เคสตร้า จะหาไม่ได้จากวงเชมเบอร์มิวสิก แต่ความเด่นชัดเฉพาะตัวของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละเครื่อง กลับเป็นความงดงามที่เชมเบอร์มิวสิก สามารถให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มเปี่ยมการสอดประสานสัมพันธ์ และการบรรเลงเป็นผู้นำสอดสลับรับกันไปของเครื่องดนตรีแต่ละเครื่องในวงเชมเบอร์มิวสิกเป็นความสวยงามอีกประการหนึ่งที่ผู้ฟังเพลงประเภทนี้จะได้รับ ส่วนในการฟังเพลงเชมเบอร์มิวสิกประเภทสตริงควอเททมิได้นำเสนอสีสันที่แตกต่างมากนักเพราะเครื่องดนตรีแต่ละเครื่อง คือเครื่องสาย ลีลาของเพลง จังหวะ ท่วงทำนองเทคนิคของการบรรเลง และองค์ประกอบดนตรีอื่น ๆเป็นความเฉพาะตัว และเป็นสุนทรีย์ของสตริงควอเททสำหรับวงประเภทอื่นๆ ที่มีดนตรีประเภทอื่นเข้ามาผสม เช่น เครื่องดนตรีที่ใช้ นิยมใช้บรรเลงที่ห้องโถงที่ไม่ใหญ่มากนักมีชื่อเรียกตามแบบต่างๆกันออกไปจามจำนวนผู้บรรเลงดังนี้
เพลงที่ใช้บรรเลงในวงนี้เป็นบทประพันธ์แบบสั้นๆ ต้องการแสดงความโดดเด่น เทคนิคต่างๆ ในการบรรเลงและการประสานเสียงของเครื่องดนตรีที่บรรเลงร่วมกัน ส่วนใหญ่นิยมใช้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายเป็นสำคัญ แหล่งที่มา http://www.culture.go.th/subculture7/index.php?option=com_content&view=article&id=37:-chamber-music&catid=7:2010-09-01-10-08-02&Itemid=14 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C
|