Key Highlight Show
What's up here? • การแจ้งเกิด
สำคัญอย่างไร ในบรรดาของเตรียมคลอดที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำเช็กลิสต์กันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้น สิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้และถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญเลยก็คือ การเตรียมเอกสารสำหรับการแจ้งเกิดบุตร เพื่อทำใบสูติบัตรหรือใบเกิด ทั้งยังเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ฐานทะเบียนราษฏรอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าพอเป็นเรื่องเอกสารแล้ว ก็อาจจะก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายกันในบางครั้ง ยิ่งในกรณีที่เป็นลูกคนแรกก็ยิ่งตื่นเต้นจนอาจจะลืมนึกถึงการแจ้งเกิดไป บทความนี้จาก Enfa จะมาแนะนำรายละเอียดเบื้องต้นในการแจ้งเกิดค่ะ มาดูสิว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องแจ้งเกิดภายในกี่วัน และการแจ้งเกิดจะต้องใช้เอกสารใดในการยื่นบ้าง มาติดตามกันค่ะ ทำไมถึงต้องมีการแจ้งเกิดการแจ้งเกิดลูก ถือเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ทะเบียนราษฏรตามกฎหมาย และสูติบัตรถือเป็นเอกสารทางราชการเพื่อใช้ในการพิสูจน์ตัวบุคคล ตลอดจนการดำเนินเรื่องขอสิทธิ์ หรือรับสิทธิต่าง ๆ การแจ้งเกิดจึงเป็นหน้าที่ที่พึงกระทำเพื่อให้ลูกได้รับการยืนยันตัวตนตามกฎหมาย และสามารถรับสิทธิต่าง ๆ ในอนาคตได้อย่างถูกต้อง สูติบัตร สำคัญอย่างไร และจะได้มาเมื่อไหร่สูติบัตร ถือเป็นเอกสารสำคัญทางราชการที่คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้ไปดำเนินการแจ้งเกิดจะได้รับภายในวันเดียวกันนั้นเลย ซึ่งสูติบัตรนอกจากจะเป็นเอกสารในการยืนยันตัวบุคคลแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องใช้ในหลายกรณี ดังนี้
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าเมื่อได้รับสูติบัตรมาแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล หากพบว่ามีข้อมูลใดที่ไม่ถูกต้อง หรือผิดพลาด ควรรีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการแก้ไขทันที เอกสารแจ้งเกิด ที่พ่อแม่ต้องเตรียมให้พร้อมมีอะไรบ้าง อัปเดตปี 2565การแจ้งเกิด จำเป็นต้องใช้เอกสารในการยื่น ดังนี้ 1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้แจ้งและของบิดามารดา 2. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา (ถ้ามี) 3. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ต้องการจะเพิ่มชื่อเด็กที่เกิด 4. หนังสือรับรองการเกิดที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด (ถ้ามี) ขั้นตอนการแจ้งเกิด มีอะไรบ้าง อัปเดตปี 2565ขั้นตอนในการแจ้งเกิดโดยทั่วไป มีดังนี้
ขั้นตอนการแจ้งเกิดกรณีที่เด็กเกิดในโรงพยาบาลการแจ้งเกิดเด็กในกรณีที่เกิดในโรงพยาบาล ใช้เอกสารดังนี้ 1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้แจ้งและของบิดามารดา 2. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา (ถ้ามี) 3. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ต้องการจะเพิ่มชื่อเด็กที่เกิด 4. หนังสือรับรองการเกิดที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด (ถ้ามี) ส่วนขั้นตอนการยื่นแจ้งเกิดนั้น ทำเช่นเดียวกับการยื่นแจ้งเกิดตามปกติ ขั้นตอนการแจ้งเกิดกรณีที่เด็กเกิดที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาลเอกสารสำหรับการแจ้งเกิดกรณีที่เด็กเกิดในบ้าน ได้แก่ 1. บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน หรือบิดา หรือมารดา หรือผู้ได้รับมอบหมาย 2. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน 3. บัตรประจำตัวของเจ้าบ้าน หรือบิดา หรือมารดา หรือหนังสือมอบหมายกรณีได้รับมอบหมาย เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ให้ดำเนินการแจ้งเกิดในพื้นที่เขต เทศบาล หรืออำเภอตามทะเบียนบ้านที่บิดามารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมายที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามปกติ ขั้นตอนการแจ้งเกิดกรณีเด็กถูกทอดทิ้งหากพบเด็กถูกทอดทิ้ง ให้ผู้ที่พบเด็กนั้นนำเด็กส่งให้และแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์ในเขตพื้นที่นั้น ๆ หรือเจ้าที่และหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์จะทำการแจ้งเกิดภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับตัวเด็กไว้ โดยมีเอกสารที่ต้องใช้แจ้งเกิดกรณีเด็กถูกทอดทิ้ง ดังนี้ 1. บัตรประจำตัวผู้แจ้ง 2. สำเนาทะเบียนบ้านของสถานสงเคราะห์หรือสถานที่ที่ขอรับตัวเด็กไว้ 3. บันทึกการรับตัวเด็ก ซึ่งจัดทำโดยพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์ในเขตพื้นที่นั้น ๆ หรือเจ้าที่และหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4. หลักฐานการรับตัวเด็กของหน่วยงานที่รับตัวเด็กไว้ 5. รูปถ่ายของเด็ก ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป 6. หลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็ก ทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่ติดตัวเด็กมา พยานที่พบเห็น พยานวัตถุ ขั้นตอนการแจ้งเกิดกรณีเด็กถูกทอดทิ้ง
ขั้นตอนการแจ้งเกิดกรณีที่เด็กมีพ่อหรือแม่ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย หรือทั้งพ่อและแม่ไม่ได้มีสัญชาติไทยในกรณีที่เด็กไม่มีสัญชาติไทย โดยที่พ่อหรือแม่ไม่ได้มีสัญชาติไทย หรือทั้งพ่อและแม่ไม่ได้รับสัญชาติไทย และไม่ว่าเด็กนั้นจะมีสิทธิได้รับสัญชาติไทยหรือไม่ก็ตาม นายทะเบียนมีหน้าที่ที่จะต้องรับแจ้งการเกิดของเด็กทุกคน หากมีหลักฐานปรากฎว่าเด็กนั้นเกิดในราชอาณาจักร โดยผู้แจ้งให้เตรียมเอกสาร ดังนี้ 1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้แจ้งและของบิดามารดา 2. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา (ถ้ามี) 3. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ต้องการจะเพิ่มชื่อเด็กที่เกิด 4. หนังสือรับรองการเกิดที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด (ถ้ามี) เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้วให้ทำการยื่นแจ้งเกิดตามปกติ เพียงแต่จะมีการกระบวนการพิจารณาในการออกสูติบัตรที่แตกต่างไป ซึ่งในกรณีของเด็กที่พ่อหรือแม่ไม่ได้มีสัญชาติไทย หรือทั้งพ่อและแม่ไม่ได้รับสัญชาติไทย เด็กจะได้รับสูติบัตร ประเภท ท.ร.3 ควรแจ้งเกิดภายในกี่วันคุณพ่อคุณแม่ควรทำการแจ้งเกิดภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่เกิด หากพ้น 15 วันไปแล้ว จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือในกรณีจำเป็นไม่สามารถแจ้งเกิดได้ตามกำหนด ให้ทำการแจ้งเกิดภายหลังได้ แต่ต้องไม่เกิน 30 วันนับตั้งแต่วันที่เกิด การแจ้งเกิดล่าช้าเกินกำหนดมีผลอะไรหรือไม่? สามารถแจ้งเกิดย้อนหลังได้ไหม?การแจ้งเกิดเลยกำหนด 15 วัน หรือพ้นจากกรณีจำเป็น 30 วัน ถือว่ามีบทลงโทษตามกฎหมาย จะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท ในกรณีที่แจ้งเกิดเลยกำหนดจากที่ได้กำหนดไว้ในทุกกรณี ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพียงแต่จะเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท และนอกเหนือจากเอกสารตามปกติที่จะต้องเตรียมแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องมีพยานบุคคลมาให้ถ้อยคำประกอบการแจ้งเกิดด้วย โดยอาจจะเป็นบิดา มาดา ผู้ทำคลอด ผู้เห็นการคลอด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ (ถ้ามี) เพื่อประกอบการพิจารณา แจ้งเกิดลูกเข้าทะเบียนบ้าน ใครต้องเป็นคนไปแจ้งการแจ้งเกิดเข้าทะเบียนบ้าน ผู้ที่ต้องเป็นคนไปแจ้งคือเจ้าบ้าน หรือบิดามารดา ทำเรื่องแจ้งต่อนายทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิด ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เกิด แจ้งเกิดออนไลน์ ได้หรือเปล่าปัจจุบันยังไม่สามารถทำการแจ้งเกิดออนไลน์ได้ ผู้แจ้งเกิดยังจำเป็นจะต้องเตรียมเอกสารไปดำเนินเรื่องที่สำนักงานเขต เทศบาล หรืออำเภอ ส่วนในกรณีที่เกิดในต่างประเทศ สามารถทำการแจ้งเกิดได้ที่สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุล อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่สามารถแจ้งเกิดออนไลน์ได้ แต่ปัจจุบันนี้ในบางพื้นที่ก็มีการเปิดให้จองคิวออนไลน์ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการติดต่อดำเนินการเรื่องต่าง ๆ สามารถทำการจองคิวได้ล่วงหน้า ซึ่งก็แล้วแต่พื้นที่ บางพื้นที่ก็มีบริการจองคิวออนไลน์ แต่บางพื้นที่ก็ไม่มี ไขข้อข้องใจเรื่องการแจ้งเกิดกับ Enfa Smart Club1. แจ้งเกิดใช้อะไรบ้าง?ในกระบวนการแจ้งเกิด จำเป็นต้องมีเอกสารเบื้องต้น ดังนี้ 1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้แจ้งและของบิดามารดา 2. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา (ถ้ามี) 3. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ต้องการจะเพิ่มชื่อเด็กที่เกิด 4. หนังสือรับรองการเกิดที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด (ถ้ามี) 2. แจ้งเกิดใช้เอกสารอะไรบ้าง?เอกสารในการแจ้งเกิดที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเตรียมไว้ให้พร้อม ได้แก่ 1. บัตรประจำตัวประชาชนผู้แจ้งและของบิดามารดา 2. สำเนาทะเบียนบ้านของบิดา มารดา (ถ้ามี) 3. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านที่ต้องการจะเพิ่มชื่อเด็กที่เกิด 4. หนังสือรับรองการเกิดที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด (ถ้ามี) 3. แจ้งเกิดไม่มีบัตรประชาชนพ่อทำไงดี?หากไม่มีบัตรประชาชนพ่อ คุณพ่อควรยื่นเรื่องและดำเนินการทำบัตรประชาชนให้เรียบร้อย เพื่อให้มีเอกสารครบถ้วนในการยื่นแจ้งเกิดบุตร 4. แจ้งเกิดไม่มีทะเบียนบ้านต้องทำยังไง?ในกรณีที่ไม่มีทะเบียนบ้าน นายทะเบียนจะแจ้งเกิดเด็กไว้ในทะเบียนบ้านกลางของพื้นที่นั้น ๆ แทน 5. ขั้นตอนการแจ้งเกิด มีอะไรบ้าง?ขั้นตอนในการแจ้งเกิดโดยทั่วไป มีดังนี้ 1. เตรียมเอกสารทั้งหมดเพื่อนำไปยื่นต่อนายทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิด เอกสารที่ต้องใช้
2. จากนั้นนายทะเบียนจะตรวจสอบเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ในการแจ้งเกิด หรือตรวจสอบว่ามีการแจ้งเกิดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ 3. เมื่อตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้ว นายทะเบียนจะทำการเสนอต่อนายอำเภอในพื้นที่เพื่อพิจารณาอนุมัติออกสูติบัตร ลงรายการในสูติบัตร และเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน 4. นายทะเบียนมอบสูติบัตรตอนที่ 1 ทะเบียนบ้าน และเอกสารต่าง ๆ กลับคืนให้กับผู้แจ้ง บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
|