น้ำยาซักผ้า ใส่ ช่องไหน ฝาบน

อะอะ!!!ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ถูกช่องนะจ๊ะ😇 > ตำแหน่งน้ำยาปรับผ้านุ่ม = ด้านมุมซ้ายบน 👖< - หันหน้าเข้าหาเครื่อง...

Show
Posted by Spin Clean Thailand -Sukhumvit 22, Bangkok on Thursday, September 5, 2019

จำเป็นจริงเหรอ? จะซักผ้าแต่ละครั้งต้องเลือกผงซักฟอกให้ตรงกับเครื่องซักผ้าที่ใช้ แล้วผงซักฟอกแต่ละแบบต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลยยย

น้ำยาซักผ้า ใส่ ช่องไหน ฝาบน

10 ต.ค. 2021 · โดย ButterNoey

เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันไหมคะ? ว่าทำไมเวลาจะเลือกซื้อผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าหรือแม้แต่เจลบอลซักผ้า จะต้องมีข้อความกำกับหรือรูปของเครื่องซักผ้าแต่ละประเภทบอก ทำไมถึงเลือกใช้ตามชอบไม่ได้ นั่นเพราะประสิทธิภาพการทำงานของผงซักฟอกแต่ละประเภทมีการทำงานแตกต่างกันค่ะ ถ้าเอามาใช้โดยที่ไม่เลือกให้ตรงกับเครื่องซักผ้าที่บ้าน Wongnai Beauty ขอเตือนเลยว่าเพื่อน ๆ อาจจะต้องกำเงินซื้อเครื่องใหม่กันได้เลยล่ะค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าการซักผ้าแต่ละแบบเหมาะกับผงซักฟอกแบบไหนก็ตามมาเลยค่าาาา

ผงซักฟอกสำหรับซักมือ

น้ำยาซักผ้า ใส่ ช่องไหน ฝาบน

ผงซักฟอกสำหรับซักมือ สามารถเลือกใช้ได้ทั้ง ผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าที่มีข้อความกำกับว่าสำหรับซักมือ เพราะว่าการทำงานของผงซักฟอกที่ใช้กับการซักมือนั้น จะมีปริมาณของฟองเยอะมากที่สุด แบบฟูฟ่องละอองฟิ้ว ถ้าเอาไปใช้กับเครื่องซักผ้าฟองทะลักล้นเครื่องแน่ ๆ ค่ะ และสิ่งสำคัญอีกหนึ่อย่างก็คือผงซักฟอกแบบซักมือนั้นถึงจะมีฟองมากแค่ไหนแต่ก็ยังช่วยถนอมผิวหนังที่มือได้ เพราะฤทธิ์ของการซักล้างจะไม่รุนแรงเท่าแบบที่ใช้กับเครื่องซักผ้าค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่มือแห้ง มือแตกหรือโดนผงซักฟอกกัดมือ อาจจะต้องลองอ่านที่หีบห่อของผลิตภัณฑ์แล้วนะคะว่าเป็นแบบซักมือหรือซักเครื่องกันแน่นะ

ผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน

น้ำยาซักผ้า ใส่ ช่องไหน ฝาบน

ผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน ไม่ว่าจะฝาเดี่ยวหรือฝาคู่ สามารถเลือกใช้ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า และเจลบอลซักผ้าที่มีข้อความหรือรูปภาพบอกว่าสำหรับเครื่องซักฝาบนกำกับไว้ เพราะผงซักซอกที่ใช้สำหรับเครื่องซักฝาบนนั้นจะมีปริมาณฟองน้อยกว่าผงซักฟอกแบบซักมือค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าซักผ้าอยู่แล้วฟองจะทะลักออกมาเครื่อง และผงซักฟองจะมีประสิทธิภาพในการซักล้างทำความสะอาดได้ดีและแรงกว่าแบบซักมือ เพราะแรงหมุนจากเครื่องซักผ้านั้นเบากว่าการขยี้ด้วยมือตัวต่อตัว จึงทำให้ผงซักฟอกมีต้องมีความแรงกว่าแบบซักมือค่ะ

ผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า

น้ำยาซักผ้า ใส่ ช่องไหน ฝาบน

ผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า สามารถเลือกใช้ได้ทั้งผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า และเจลบอลที่ใช้สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้านะคะ เพราะถ้าเทียบปริมาณฟองที่ได้จากผงซักฟอกนั้น สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนจะมีปริมาณน้อยที่สุด และมีประสิทธิภาพในการซักล้างทำความสะอาดมากที่สุดเลย แบบที่ไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าที่ซักนั้นจะไม่สะอาด สะอาดแน่นอนค่ะ และไม่มีฟองตกค้างเป็นคราบที่เสื้อผ้าด้วยเพราะผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้นฟองน้อยที่สุดแล้วค่ะ

Tips

น้ำยาซักผ้า : สามารถใช้งานได้เหมือนผงซักฟอกเลยค่ะ โดยที่น้ำยาซักผ้าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องคราบผงซักฟอก และไม่เป็นก้อนติดที่เสื้อผ้าค่ะ

เจลบอลซักผ้า : จะมีการทำงานที่คล้ายกันกับน้ำยาซักผ้าค่ะ ใช้งานได้สะดวก กะปริมาณการใช้งานได้ชัดเจน แต่ข้อเสียคือมีราคาที่สูงกว่าน้ำยาซักผ้า และผงซักฟอกค่ะ

เพื่อน ๆ น่าจะคลายความสงสัยสำหรับการเลือกใช้ผงซักฟอกกับเครื่องซักผ้าแต่ละแบบไปได้นะคะ เพราะการเลือกผงซักฟอกให้ตรงกับเครื่องซักผ้าที่ใช้นั้นช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของเครื่องผ้าไปได้อีกหลายปีเลยล่ะค่ะ และแนะนำว่าถ้าไม่อยากซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ ไม่ควรนำผงซักฟอกไปใช้สลับประเภทกันนะคะเพราะส่งผลกับการทำงานของเครื่องได้เลย ถ้าถูกใจก็อย่าลืมแบ่งปันให้เพื่อนคนอื่นได้คลายความสงสัยกันด้วยนะคะ แล้วครั้งหน้า Wongnai Beauty จะมีเรื่องคลายความสงสัยในครัวเรือนอะไรมาฝากอีกก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ

คุณอาจคิดว่าใช้เครื่องซักผ้าก็ง่ายๆ ไม่เห็นต้องวุ่นวายอ่านวิธีใช้ให้ยุ่งยาก แต่ข้อห้ามที่เรากำลังจะเล่าให้ฟัง ถึงจะไม่ทำให้เครื่องซักผ้าของคุณพังทันที แต่หากทำไปเรื่อยๆ ไม่ดีกับเครื่องซักผ้าของคุณแน่ วิธีใช้เครื่องซักผ้าที่รักษาทั้งเสื้อผ้าและเครื่องซักผ้าทำได้ไม่ยาก

เครื่องซักผ้ามีกี่แบบ

เครื่องซักผ้าแต่ละประเภทมีข้อเด่นและข้อด้อยแตกต่างกัน หากจะแบ่งกลุ่มเครื่องซักผ้า ก็แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ 

เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ 

เครื่องซักผ้าชนิดนี้เป็นแบบฝาบนที่มี 2 ถัง คือ ถังซักและถังปั่นหมาด ที่เรียกว่ากึ่งอัตโนมัติก็เพราะคุณต้องเติมน้ำ ใส่ผงซักฟอก และตั้งเวลาเอง เมื่อซักผ้าเสร็จ คุณก็ต้องย้ายผ้ามาที่ถังปั่นหมาดเอง 

ข้อดีก็คือ คุณสามารถกำหนดเวลาซักได้เอง จึงรวดเร็ว รวมถึงง่ายต่อการแยกผ้าซัก แถมราคาก็ถูกกว่า ส่วนข้อเสียก็คือคุณต้องลงแรงเยอะหน่อยในการทำทุกอย่างด้วยต้วเอง

เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ 

เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ ตามที่ชื่อบอกคือคุณไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่ใส่ผ้า เลือกโปรแกรมการซัก และกดปุ่ม จากนั้นก็นั่งรอ เครื่องซักผ้าก็จะทำให้คุณทุกอย่าง เหลือแค่นำไปตาก ซึ่งบางเครื่องก็มีระบบปั่นแห้งด้วย เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติแบ่งย่อยออกไปได้อีกเป็นแบบฝาบนและฝาหน้า     

  • เครื่องซักผ้าฝาบน - ถังซักผ้าตั้งตรง ใช้ระบบการซักแบบหมุนไปมาทางซ้ายขวาให้เกิดแรงเหวี่ยง จึงต้องใช้มอเตอร์กำลังสูงที่อยู่ด้านล่างของถังซักและใช้ไฟค่อนข้างมาก แต่ระบบนี้อาจซักขจัดคราบหนักได้ไม่หมดเกลี้ยง ข้อดีคือสะดวกในการใส่ผ้าและใส่ผ้าได้จำนวนมาก

  • เครื่องซักผ้าฝาหน้า - ถังมีลักษณะเป็นวงล้อ มอเตอร์ตั้งในแนวดิ่งที่ทำให้ถังหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ ผ้าจึงตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก แรงการซักระบบนี้จึงขจัดคราบได้ค่อนข้างดี แต่ใส่ผ้าได้ไม่มากนัก ข้อเสียคือใช้เวลาซักนานและราคาสูง 

5 วิธีใช้เครื่องซักผ้าแบบผิดๆ 

คุณอาจจะกำลังทำร้ายเครื่องซักผ้าของคุณอยู่แบบที่คุณไม่รู้ตัวด้วยวิธีซักผ้าที่ผิด เพราะบางอย่างก็ดูไม่น่าจะเสียหายอะไร แต่กลับทำให้ลดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าได้ 

#1 ใช้งานเครื่องซักผ้าหนักเกินไป

คุณควรอ่านคู่มือว่าเครื่องซักผ้าของคุณมีความจุที่รองรับได้เท่าไร ส่วนใหญ่ความจุจะระบุเป็นกิโลกรัมของน้ำหนักแห้ง แต่เลขนี้เป็นแค่การกะปริมาณคร่าวๆ คุณไม่ถึงขั้นต้องไปชั่งน้ำหนักเสื้อผ้าก่อนใส่ในเครื่องซักผ้า เทียบเป็นจำนวนชิ้นได้ประมาณนี้

  • ความจุ 5-6.9 กิโลกรัม ซักเสื้อผ้าได้ราว 25-30 ชิ้น

  • ความจุ 7-8.9 กิโลกรัม ซักเสื้อผ้าได้ราว 36-45 ชิ้น

  • ความจุ 9-10.9 กิโลกรัม ซักเสื้อผ้าได้ราว 46-65 ชิ้น

  • ความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไป ซักเสื้อผ้าได้ 56 ชิ้นขึ้นไป

การใส่เสื้อผ้าเกินขีดกำจัด จะทำให้เสื้อผ้าของคุณไม่สะอาดถึงจะผ่านการซักแล้ว เพราะถังซักจะแน่นจนไม่มีพื้นที่ให้ผ้าขยับเสียดสีกัน น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟองอาจซอกซอนเข้าไม่ถึงทั่วทุกจุดของเสื้อผ้า 

นอกจากนี้ยังทำให้มอเตอร์ของเครื่องซักผ้าทำงานหนักเกินกว่าที่ออกแบบไว้ จะหมดอายุการใช้งานและต้องเปลี่ยนก่อนเวลาอันสมควร

#2 เติมน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกเยอะเกิน

คุณอาจเข้าใจว่ายิ่งใช้นำ้ยาซักผ้าหรือผงซักฟอกมาก ก็จะยิ่งทำให้ซักเสื้อผ้าได้สะอาดขึ้น แต่ความจริงแล้ว หากคุณใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกมากเกินไปจะทำให้ซักไม่หมด และเกิดเป็นคราบติดบนเสื้อผ้า ยิ่งถ้าเป็นเสื้อผ้าสีเข้มจะยิ่งเห็นคราบได้ชัดเจน 

โดยเฉพาะชุดออกกำลังกายที่ทำจากใยสังเคราะห์ถักทออย่างแน่น การใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกเกินขนาดจะทำให้ตกค้างในเนื้อผ้า ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและมีกลิ่น จึงควรใช้เพียงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่ใช้ปกติ เราขอแนะนำผงซักฟอกสูตรพิเศษอย่างบรีสเอกเซล แอคทีฟเฟรซ ที่เน้นขจัดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นอับ แถมไม่ทิ้งคราบผงซักฟอกตกค้างบนเสื้อผ้า

นอกจากนี้ คุณไม่ควรใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกลงบนเสื้อผ้าโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดคราบหรือสีด่างเป็นวง ให้คุณใส่ในช่องสำหรับใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกเท่านั้น อ่านคู่มืออีกครั้งให้แน่ใจ

การใช้น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกเยอะเกิน ไม่เพียงทำให้เสื้อผ้าเสียหาย แต่ยังทำให้ช่องใส่น้ำยา ที่กรอง และท่อน้ำของเครื่องซักผ้าอุดตัน ทำให้ซักเสื้อผ้าไม่สะอาด รวมถึงเครื่องซักผ้าอาจทำงานได้ไม่ดีจนต้องหาวิธีซ่อมเครื่องซักผ้า

#3 ไม่จัดระเบียบเสื้อผ้าก่อนเอาใส่เครื่อง

ก่อนนำเสื้อผ้าใส่เครื่องซักผ้า คุณควรแยกประเภทของเสื้อผ้า แยกซักสีเข้มกับสีอ่อน แต่เท่านั้นยังไม่พอ คุณควรซักผ้าประเภทเดียวกันพร้อมกัน เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเสียหาย เช่น คุณไม่ควรซักเสื้อผ้าที่บอบบางพร้อมกับผ้ายีนส์ที่แข็ง หรือผ้าบางอย่างอาจต้องซักเดี่ยวๆ อย่างเช่นเสื้อกันหนาว

คุณควรนำสิ่งของออกจากกระเป๋าเสื้อและกางเกงให้หมด ไม่ว่าจะเหรียญ ปากกา กระดาษทิชชู ลูกอม หรืออะไรก็แล้วแต่ สำคัญเลยคือเข็มขัด คุณต้องห้ามลืมถอดเข็มขัดออกจากหูกางเกงเด็ดขาด เพราะของเหล่านี้จะหลุดออกจากกระเป๋าและอาจเหวี่ยงไปทำให้เครื่องซักผ้าเสียหาย โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่เป็นกระจก ส่วนกระดาษทิชชูจะย่อยเป็นขุยและอาจไปติดตามที่ต่างๆ 

คุณควรรูดซิปเสื้อผ้าขึ้นก่อนใส่เครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ไปเกี่ยวเสื้อตัวอื่น หรือขีดข่วนด้านในของถังซักผ้า แต่ถ้าเป็นกระดุม ให้คุณแกะรังดุมออกเพราะแรงเหวี่ยงของเครื่องซักผ้าอาจทำให้รังดุมขยาย ทีนี้เวลาติดกระดุมก็จะหลุดง่าย 

เคล็ดลับเด็ด- ถ้าให้ชัวร์ ใช้ถุงตาข่าย ถุงนี้ใช้ได้ทั้งป้องกันเสื้อผ้าบอบบางไม่ให้โดยเหวี่ยงไปมาจนยืดย้วยเสียหาย และป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าที่มีซิปหรือตะขอไปเกี่ยวเสื้อผ้าตัวอื่นจนพังด้วย

#4 อย่าปิดเครื่องซักผ้า!

คุณอาจคิดว่าต้องปิดฝาเครื่องซักผ้าเพื่อป้องกันแมลงหรือสัตว์เล็กๆ เข้าไปติดอยู่ข้างใน ถ้าออกไม่ได้ล่ะก็ เหม็นเน่าแน่ แต่การปิดฝาเครื่องซักผ้าให้มิดชิดตลอดเวลาจะทำให้สะสมความชื้น ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับและเป็นสาเหตุของเชื้อรา โดยเฉพาะที่ขอบยาง 

สิ่งที่คุณควรทำก็คือ เมื่อใช้เครื่องซักผ้าเสร็จ ให้คุณรีบนำผ้าออกมาโดยไม่ทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าเป็นเวลานานๆ เช็ดขอบยางไม่ให้เปียก เพราะตรงนี้ขึ้นราได้ง่าย และหากเสียหายจะทำให้เครื่องซักผ้าเหม็น มีเชื้อโรค และอาจทำให้ยางพังจนน้ำรั่ว จากนั้นให้คุณเปิดฝาเครื่องซักผ้าระหว่างรอบการซักเพื่อให้น้ำระเหยออกจนแห้งแล้วจึงปิด

#5 ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า

ถึงจะดูเหมือนว่าเครื่องซักผ้าได้รับการล้างทุกครั้งที่คุณซักผ้า แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ คุณยังคงต้องล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอยู่ดี 

ทุกครั้งหลังการซักผ้า อย่าลืมเอาเศษผงหรือเศษผ้าต่างๆ ที่ตกค้างในถังซักผ้าออกไปทิ้ง รวมถึงทำความสะอาดช่องใส่น้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกและช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น เพื่อไม่ให้อุดตันหรือมีคราบสะสม 

เปิดโปรแกรมซักน้ำร้อน โดยปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงานด้วยถังเปล่าแบบไม่มีเสื้อผ้า เติมน้ำส้มสายชูใสลงไปด้วย 1-2 ถ้วยตวงขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องซักผ้าคุณ น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค คุณควรทำเช่นนี้เดือนละครั้ง 

เพียงแค่คุณหลีกเลี่ยง 5 ข้อห้ามของการใช้เครื่องซักผ้า ก็ถือว่าเป็นวิธีดูแลเครื่องซักผ้าได้ดีที่สุดแล้ว อีกข้อควรระวังก็คือ ถึงเครื่องซักผ้าของคุณจะใช้งานได้ปกติ คุณไม่ควรซักผ้าขณะไม่อยู่บ้าน เพราะอาจเกิดน้ำรั่วหรือเครื่องขัดข้องจนอาจเกิดไฟไหม้

5 สัญญาณเมย์เดย์จากเครื่องซักผ้า

คำถามว่าเมื่อไรที่ต้องใช้วิธีซ่อมเครื่องซักผ้า ให้คุณสังเกตเครื่องซักผ้าของคุณว่ามีอะไรผิดแปลกไปจากเดิมหรือไม่ เพราะทั้งหมดนั้นเป็นสัญญาณว่ากำลังมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น 

  • สั่นสะเทือน - เครื่องซักผ้าสั่นสะเทือนเวลาทำงาน อาจเป็นได้ว่ามีการเคลื่อนที่จนเครื่องซักผ้าขยับไปตั้งบนพื้นที่ไม่เรียบ 

  • เสียง - ถ้าเครื่องซักผ้ามีเสียงดังผิดปกติ อาจมีระบบการทำงานที่ติดขัดข้างในที่เรามองไม่เห็น

  • กลิ่น - เครื่องซักผ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เสื้อผ้าที่ซักมาก็ไม่หอมสดชื่น อาจมีความอับชื้นสะสมด้านใน

  • ค่าน้ำค่าไฟ - หากอยู่ๆ คุณต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟมากขึ้นกว่าเดิม อย่าลืมตรวจสอบเครื่องซักผ้าด้วยว่ามีการรั่วตรงไหนหรือไม่ 

  • ความสะอาด - เสื้อผ้าซักแล้วไม่สะอาดเหมือนเดิม คงต้องเรียกมือโปรมาช่วยสืบว่าเกิดอะไรขึ้น

เครื่องซักผ้ามีจุดอ่อนที่ต้องระวัง หากมีปัญหาเครื่องซักผ้าไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่ ลองเช็กการทำงานของมอเตอร์ ประสิทธิภาพของปั๊มน้ำ การอุดตันหรือรั่วซึมของท่อ สภาพของสายพาน ความแน่นของยางที่ขอบฝาเครื่อง 

หากคุณลองตรวจสอบทุกอย่างแล้วยังไม่เวิร์ค คงต้องมองหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วย สิ่งสำคัญก็คือ คุณควรรีบซ่อมเมื่อเจอความผิดปกติ เพราะทิ้งไว้นานอาจทำให้ซ่อมยากขึ้นและระบบอื่นๆ พังไปด้วย

เครื่องซักผ้ารวน ชีวิตป่วน!

เครื่องซักผ้าพัง! ไม่ใช่แค่หมายถึงการที่คุณขาดอุปกรณ์ซักผ้าแล้วลำบากชีวิต แต่นี่ยังทำให้คุณสูญเสียเสื้อผ้าสุดโปรด เสียเงิน และเสียเวลา 

เวลาเสื้อผ้าเหม็นและมีคราบตกค้างอันเนื่องมาจากเครื่องซักผ้ามีปัญหา ทำให้คุณเสียบุคลิกและความมั่นจนไม่อยากเจอใคร ป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ได้ด้วยวิธีใช้เครื่องซักผ้าที่ถูกต้อง

ใช้ไฮเตอร์ตอนไหน

*จุดที่มีเชื้อโรคสะสมเยอะ และสามารถใช้ไฮเตอร์เช็ดทำความสะอาดได้ เช่น ลูกบิดประตู ที่จับไมโครเวฟ ราวบันได คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ เมาท์คอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงานโต๊ะทานข้าว โทรศัพท์บ้าน รีโมททีวี ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากพลาสติกอย่าง ถังขยะ ตะกร้า ของเล่นเด็กพลาสติก

เครื่องซักผ้าฝาบนใช้น้ำยาซักผ้าได้ไหม

ผงซักฟอกสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน ไม่ว่าจะฝาเดี่ยวหรือฝาคู่ สามารถเลือกใช้ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า และเจลบอลซักผ้าที่มีข้อความหรือรูปภาพบอกว่าสำหรับเครื่องซักฝาบนกำกับไว้ เพราะผงซักซอกที่ใช้สำหรับเครื่องซักฝาบนนั้นจะมีปริมาณฟองน้อยกว่าผงซักฟอกแบบซักมือค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าซักผ้าอยู่แล้วฟองจะทะลักออกมาเครื่อง และผงซักฟองจะมี ...

น้ำยาซักผ้าใส่ในช่องไหน

เครื่องซักผ้าจะมีช่องใส่ผงซักฟอก 3 ช่อง : ด้านซ้ายจะเป็นช่องสำหรับการซักหลัก ช่องขวาด้านหน้าจะเป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มและช่องขวาด้านหลังจะเป็นช่องสำหรับการซักล่วงหน้าดังรูปด้านล่าง ช่องซักล่วงหน้า : ใส่ผงซักฟอกซักล่วงหน้า ช่องซักหลัก : ใส่ผงซักฟอกสำหรับการซักหลัก ผงแช่ผ้า น้ำยาฟอกขาวและ/หรือน้ำยาขจัดคราบ

น้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ตรงไหน

oวิธีการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ถูกต้อง เทน้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณที่เหมาะสม แนะนำให้ใส่ตามคำแนะนำบนฉลากลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องที่ 2.