ช่องคลอดติดเชื้อเกิดจากอะไร

ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอดและปากช่องคลอด อาการที่พบบ่อย คือ ตกขาวผิดปกติ คัน กลิ่น ตกขาวปนเลือด แสบร้อนในช่องคลอด ซึ่งการวินิจฉัยโรคสามารถทำโดยการตรวจภายในร่วมกับการนำตกขาวไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุของเกิดช่องคลอดอักเสบว่ามีที่มาจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากการจัดการแต่ละสาเหตุมีความแตกต่างกันสามารถแบ่งได้โดยสังเขป ดังนี้
ช่องคลอดติดเชื้อเกิดจากอะไร
  • ตกขาวจากเชื้อรา เกิดจากความอับชื้น ตกขาวชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแป้ง มีอาการคันบริเวณช่องคลอด
  • ตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย ตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นคาว หรือกลิ่นภายหลังมีเพศสัมพันธ์
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบ คือ การสวนล้างช่องคลอด การใช้แผ่นอนามัย การใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป เนื่องจากจะทำให้ขาบีบชิดกันมากเกินไป ผู้ที่รับประทานยาแก้อักเสบบ่อยๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจึงตกขาวได้ง่าย เป็นต้น เมื่อมีอาการควรรีบพบแพทย์ เพราะหากเกิดบ่อยๆ บริเวณปากมดลูกจะเกิดการระคายเคือง และส่งผลเกี่ยวเนื่องกับมะเร็งปากมดลูกได้
ช่องคลอดติดเชื้อเกิดจากอะไร

การจัดการตนเองเบื้องต้นสำหรับผู้หญิงเกี่ยวกับช่องคลอดหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด ใช่แผ่นอนามัยเฉพาะช่วงวันที่มีประจำเดือน หลีกเลี่ยงการใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักตามเกณฑ์ที่กำหนด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไขมันเป็นสารตั้งต้นของการเกิดโรคหลายชนิด อาทิ มะเร็งไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น

การผ่าตัดเนื้องอกมดลูกแบบซ่อนรอยแผล การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ สุขภาพสตรี

งานวิจัยในสหรัฐฯ พบหลักฐานบ่งชี้ว่า การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก หรือ ออรัลเซ็กส์ อาจทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดโรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis หรือ BV) ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในสตรี

BV ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นอาการอักเสบในช่องคลอด ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียภายในช่องคลอด โดยอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง คัน และมีตกขาวผิดปกติ

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกช่วงวัย แต่มักพบมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุระหว่าง 15 - 49 ปี

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ ได้ศึกษาว่าแบคทีเรียภายในช่องปากจะส่งผลอย่างไรต่อแบคทีเรียที่อาศัยและเติบโตอยู่ในช่องคลอด

ผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS Biology พบหลักฐานว่า เชื้อแบคทีเรียชนิดที่มักพบในช่องปากคนเราซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคเหงือกและคราบหินปูน อาจทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค BV

นักวิจัยได้ทำการทดลองเรื่องนี้ในตัวอย่างช่องคลอดของมนุษย์ และในหนูทดลองเพื่อสังเกตพฤติกรรมของเชื้อแบคทีเรีย และพบว่า เชื้อแบคทีเรียในช่องปากที่ชื่อ "ฟิวโซแบคทีเรีย นิวคลีเอตัม" (Fusobacterium nucleatum) ดูเหมือนจะช่วยทำให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรค BV

ดร.อแมนดา ลิวอิส และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า หลักฐานที่ค้นพบแสดงให้เห็นว่าออรัลเซ็กส์อาจทำให้เกิดโรค BV ได้ในบางกรณี

ที่มาของภาพ, Science Photo Library

คำบรรยายภาพ,

โรค BV สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกช่วงวัย แต่มักพบมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์

ตามปกติ BV ไม่ใช่โรคที่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง แต่ก็ควรได้รับการรักษา เนื่องจากการเป็นโรคนี้ทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะได้รับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

หากสตรีมีครรภ์เป็นโรคนี้ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกําหนด

แม้ผู้หญิงที่เป็นโรค BV บางคนจะไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการนั้น โดยมากมักจะมีปัญหาตกขาวผิดปกติ ซึ่งอาจมีสีเทา หรือสีขาวที่มีลักษณะเป็นน้ำ และมีกลิ่นไม่พึงประสงค์รุนแรงคล้ายกลิ่นคาวปลา

ดังนั้น ผู้ที่มีอาการเหล่านี้จึงควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง โดยแพทย์จะทำการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทั้งชนิดเม็ด เจล หรือครีม

ผู้หญิงที่ไม่เป็นโรค BV มักมีแบคทีเรีย "ชนิดดี" ที่เรียกว่า แลคโตบาซิลไล (lactobacilli) ซึ่งอยู่ในสกุล แลคโตบาซิลัส (lactobacillus) ที่ช่วยรักษาให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นกรด และมีค่า pH ต่ำ

แต่บางครั้งค่าความสมดุลนี้อาจลดลงและทำให้แบคทีเรียชนิดอื่นที่อาศัยอยู่ภายในช่องคลอดเจริญเติบโตขึ้น แม้ปัจจุบันแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรค BV ที่ชัดเจน แต่ชี้ถึงปัจจัยที่อาจก่อโรคไว้ดังนี้

  • การมีเพศสัมพันธ์ (แต่ผู้หญิงบางคนก็อาจเป็นโรค BV ได้โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์)
  • การเปลี่ยนคู่นอน
  • การคุมกำเนิดโดยวิธีใส่ห่วงอนามัย
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของน้ำหอมสวนล้างภายในช่องคลอด หรือบริเวณรอบ ๆ

ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญทราบอยู่แล้วว่าโรค BV อาจมีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วย ซึ่งรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงด้วยกัน

ศาสตราจารย์คลอเดีย เอสต์คอร์ต โฆษกสมาคมเพื่อสุขภาพทางเพศและเอชไอวีของอังกฤษ ระบุว่า งานวิจัยในลักษณะนี้มีความสำคัญต่อการทำความเข้าใจโรค BV ให้มากขึ้น

"เรารู้อยู่แล้วว่าโรค BV มีลักษณะที่ซับซ้อน เพราะมีปัจจัยก่อโรคหลายประการ"

เธอยังระบุด้วยว่า ออรัลเซ็กส์อาจแพร่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ตลอดจนเชื้อแบคทีเรียชนิดที่อาจก่อโรคได้ด้วย

ช่องคลอดติดเชื้อแก้ยังไง

การรักษา มาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยการใช้ยา ยารับประทานกลุ่ม metronidazole หรือ clindamycin ซึ่งต้องรับประทานหลังอาหารทันที เนื่องจากยามีฤทธิ์ทำให้คลื่นไส้อาเจียน และต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1 สัปดาห์ระหว่างรับการรักษา ยาชนิดครีมสำหรับทาภายนอกร่วมด้วยเพื่อลดอาการแสบและอักเสบบริเวณผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศภายนอก

เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดเกิดจากอะไร

ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย Bacterial Vaginosis คือ การอักเสบของช่องคลอด อันเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด โดยแบคทีเรียชนิดแลคโตบาซิลไล (Latobacilli) มีปริมาณลดลง จำนวนแบคทีเรียที่แอนแอโรบส์ (Anaerobes) มีมากขึ้น ช่องคลอดจึงเกิดการอักเสบในที่สุด ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับ ...

ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หายเองได้ไหม

การรักษาภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากอาการ Bacterial Vaginosis สามารถหายไปได้เอง หากผู้ป่วยไม่มีอาการใด ๆ ที่เป็นปัญหาและไม่ได้ตั้งครรภ์ก็อาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษา ส่วนการรักษาภาวะนี้ ทำได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น

ช่องคลอดอักเสบเป็นยังไง

ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอดและปากช่องคลอด อาการที่พบบ่อย คือ ตกขาวผิดปกติ คัน กลิ่น ตกขาวปนเลือด แสบร้อนในช่องคลอด ซึ่งการวินิจฉัยโรคสามารถทำโดยการตรวจภายในร่วมกับการนำตกขาวไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุของเกิดช่องคลอดอักเสบว่ามีที่มาจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากการจัดการแต่ละสาเหตุมีความ ...