การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

โดยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 เป็นคดีความผิดอัน “ยอมความกันได้” ส่วนพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1) เป็น “ความผิดอันยอมความกันไม่ได้” และในส่วนของอัตราโทษความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท แต่ในส่วนของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ทำให้นักกฎหมาย หรือแม้แต่คำพิพากษาของศาลชั้นต้นก็วินิจฉัยไปในหลายรูปแบบ บางคดีก็ยกฟ้องทั้งหมด บางคดีก็พิพากษาลงโทษเฉพาะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328 บางคดีก็พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาและตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ด้วย

กฎหมายฉบับใหม่จึง “แก้ไข” พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) โดยมุ่งเน้นไปในเรื่องของการทุจริตหรือการฉ้อโกงในระบบคอมพิวเตอร์ และตามมาตรา 14 วรรคสุดท้าย หากการกระทำดังกล่าวนั้น มิได้กระทำต่อประชาชน ให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และเป็นความผิดอันยอมความกันได้ ซึ่งในส่วนท้ายของมาตรา 14 (1) ระบุไว้ชัดเจน “อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา"

ส่วนในกรณีที่กระทำความผิดต่อประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์การประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งยังเป็นความผิดอันยอมความกันไม่ได้นะครับ

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(1) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

(5) เผยแพร่หรือส่งต่อ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชน แต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้

จากประสบการณ์ของผม การกระทำในลักษณะดังต่อไปนี้ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1)

1. การหลอกลวงหรือชักชวนผู้อื่น/ประชาชน ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ Facebook, LINE ฯลฯ ให้ร่วมเล่นแชร์ หรือลงทุนในธุรกิจด้านต่างๆ โดยผู้ชักชวนมีเจตนาทุจริต หรือไม่มีเจตนาจะตั้งวงแชร์จริงๆ หรือไม่มีเจตนาจะให้ร่วมลงทุนด้านธุรกิจจริงๆ

2. การหลอกลวงขายสินค้าให้แก่ ผู้อื่น/ประชาชน ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ Facebook, LINE ฯลฯ โดยมีเจตนาทุจริต หรือไม่มีเจตนาจะขายสินค้าจริงๆ หรือไม่มีสินค้าอยู่จริง หรือนำภาพสินค้าของผู้อื่นมาโพสต์ เพื่อจำหน่ายและหลอกเหยื่อ

3. การหลอกลวงผู้อื่น/ประชาชน ว่าจะให้กู้ยืมเงิน อัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยหลอกให้ผู้อื่น/ประชาชน โอนเงินมัดจำไปก่อนที่จะตกลงให้กู้ยืมเงิน

4. การหลอกลวงผู้อื่น/ประชาชน ว่าจะดำเนินการแก้ไขสถานะเกี่ยวกับเครดิตทางการเงิน จากเดิมมีสถานะค้างชำระให้กลับมาเป็นสถานะปกติ หรือ หลอกลวงว่าสามารถดำเนินการจัดให้สถาบันการเงินอนุมัติเงินกู้ยืมหรือสินเชื่อ ทั้งที่ผู้ขออนุมัติสินเชื่อมีเครดิตทางด้านการเงินไม่น่าเชื่อถือ โดยจะเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายไปก่อน

5. การหลอกลวงผู้อื่น/ประชาชน ด้วยการตีสนิทหรือหลอกจีบ และหลอกว่าส่งสิ่งของมาให้ ต่อมาจะมีบุคคลแอบอ้างเป็นพนักงานในบริษัทขนส่งหลอกให้โอนเงินค่าใช้จ่าย เพื่อดำเนินการนำพัสดุออกจากด่านศุลกากร โดยมักอ้างว่ามีเงินสดอยู่ในพัสดุเป็นจำนวนมาก

สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย และต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” [email protected]  ได้เลยครับ

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

กองบรรณาธิการ

BookmarkFacebookTwitterLineCopy

LATEST

+

Speak

ศาลฮ่องกงลงโทษจำคุก 6 ปี ผู้ชุมนุมที่ ‘ถูกยิง-เสียไต’ ฐานขัดขวางเจ้าหน้าที่และพยายามขโมยปืน

3 ธ.ค. 65

ASIA

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

เมืองในอิตาลีแก้ปัญหาประชากรน้อย ออกโปรโมชันซื้อบ้านแถมเงิน 10,000 ยูโร

1 ธ.ค. 65

World

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ‘ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ’ พรรคเล็กจะรอดในสูตรหาร 100 อย่างไร

30 พ.ย. 65

Thai politics

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับการเข้าสภา นำเสนอร่างฯ ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อกระจายอำนาจ

30 พ.ย. 65

Thai politics

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

morebutton read more

Summary
  • หากย้อนดูความผิดฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จในไทย มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายอย่างน้อย 3 ฉบับ ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
  • ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ผู้เอาผิดต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ข้อมูลที่ถูกนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นเป็น ‘ข้อมูลอันเป็นเท็จ’ และข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลที่ ‘กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ’ เพราะมีหลายคดีที่ศาลยกฟ้อง เพราะไม่ครบตามองค์ประกอบความผิด
  • ภายใต้ข้อกำหนดฉบับที่ 27 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ใช้ในปี 2564 หากมีการนำเสนอข้อมูลข่าวที่เป็นความจริง แต่ทำให้คนเกิดความหวาดกลัว ก็กลายเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ



Share article

  • facebook
  • Twitter
  • Line
  • link

RELATED

+

ผลสำรวจอเมริกันชนเชื่อว่า ความเกลียดชังและแนวคิดสุดโต่ง เกิดจากข้อมูลข่าวสารที่ ‘ถูกบิดเบือน’

สงครามข่าวสารในสงครามยูเครน

เฟกนิวส์ในสื่อจีน อ้างสหรัฐฯ แทรกแซงการหาต้นตอโควิด-19

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการไทยรัฐพลัส

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

speak

9 ปี กปปส. ปฐมบทปฏิรูปล้มกระดาน สถาปนาอำนาจกองทัพเข้าสู่การเมือง

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

speak

ทำความเข้าใจ ‘การกระจายอำนาจ’ ก่อนร่างฯ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ เข้าสภา

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

speak

ภาคประชาชนเสนอเปิด ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เลิกเล่นเกมการเมือง หยุดสุญญากาศกัญชาเสรี

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

morebutton read more

LATEST

+

Speak

ศาลฮ่องกงลงโทษจำคุก 6 ปี ผู้ชุมนุมที่ ‘ถูกยิง-เสียไต’ ฐานขัดขวางเจ้าหน้าที่และพยายามขโมยปืน

3 ธ.ค. 65

ASIA

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

เมืองในอิตาลีแก้ปัญหาประชากรน้อย ออกโปรโมชันซื้อบ้านแถมเงิน 10,000 ยูโร

1 ธ.ค. 65

World

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ‘ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ’ พรรคเล็กจะรอดในสูตรหาร 100 อย่างไร

30 พ.ย. 65

Thai politics

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

Speak

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับการเข้าสภา นำเสนอร่างฯ ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อกระจายอำนาจ

30 พ.ย. 65

Thai politics

การนำเข้าข้อมูลบิดเบือนหลอกลวงมีโทษทางกฎหมายอย่างไร

morebutton read more

คดีหมิ่นประมาทติดคุกกี่ปี

มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่น นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จต้องระวังโทษใด

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบาง ส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

การแชร์ข้อมูลเท็จ มีโทษอย่างไร

ทั้งนี้ รวมถึงให้การอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน ก็อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172, มาตรา 173 หรือ มาตรา 137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานฯ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท

นําข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์มีโทษอย่างไร

มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน