สื่อมวลชนกับจริยธรรมและจรรยาบรรณในยุคโซเชียลมีเดีย (Social Media) Show ดร.ณัชชา พัฒนะนุกิจ สาขาวารสารศาสตร์ดิจิทัล คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการติดต่อสื่อสารมาเป็นอันดับหนึ่ง We are social และ Hootsuite ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต มือถือ โซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มต่างๆ ของคนทั่วโลกออกมาเป็นรายงานที่ชื่อว่า ‘Digital in 2018’ พบสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนไทยในยุคดิจิทัลจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศเรา 57 ล้านคน (82% ของประชากร) มีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย 51 ล้านคน ประเทศไทยใช้เวลาสูงสุด เฉลี่ย 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ (9 ชั่วโมง 29 นาที) และบราซิล (9 ชั่วโมง 14 นาที) ส่วนโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้เยอะที่สุดคือ Facebook (75%) การสำรวจยังพบว่าคนไทยใช้สมาร์ทโฟนใช้เพื่อถ่ายรูปหรือวิดีโอสูงถึง 54%, ใช้แทนนาฬิกาปลุก 42%, ใช้เช็คข่าวสาร 26%, ใช้จัดตารางนัดหมายหรือจดบันทึกสิ่งต่างๆ 25% (Brand Buffet, 2561: ออนไลน์ 2561) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ได้มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเนอข่าว เพิ่มช่องทางที่สื่อมวลชนสามารถรายงานข่าวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก(Facebook) และ ทวิตเตอร์ (Twitter) พฤติกรรมในการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียส่งผลให้ “ทุกคนเป็นสื่อได้” เพราะถูกออกแบบให้ใช้ง่ายบนโทรศัพท์มือถือ ทุกคนสามารถนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อดังกล่าวมีอิทธิพลเรื่องความเร็วของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร (เทียนทิพย์ เดียวกี่,2559) นักวิชาชีพวงการสื่อมวลชนถือได้ว่าได้รับผลกระทบโดยตรงความรวดเร็วที่เกิดขึ้นทำให้การเสนอข้อมูลข่าวสารไม่มีความรอบคอบเท่าที่ควร (เทียนทิพย์ เดียวกี่, 2559) ปัญหาของการนำเสนอเนื้อหาข่าวสารในยุคดิจิทัล จากความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมคนในสังคมยุคดิจิตอลและลักษณะการทำข่าวแบบคอนเวอร์เจนซ์ เราจะพบว่าสาธารณชนมีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทั่วไปสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆด้วยตนเองมีช่องทางเปิดให้ผู้รับสารกับองค์กรสื่อมีช่องทางปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ (interactive) ทำให้คนในสังคมสามารถเข้าถึงสื่อได้หลากหลายประเภทและช่องทางมากขึ้นยุคข่าวสารไร้พรมแดนที่ผู้รับสารสามารถตัดสินใจเลือกรับสารได้ตามความพอใจของตนเอง (Active audience)(Little John, 1999) ทำให้การบริโภคเนื้อหาข่าวสารมีความหลากหลาย องค์กรสื่อลดบทบาทของสื่อในการเป็นนายทวารข่าวสารหรือ Gatekeeper และบทบาทในการกำหนดสิ่งที่ประชาชนจะรับรู้ผ่านสื่อในการรับรู้เรื่องราวต่างๆ เกิดการพัฒนารูปแบบข่าวและการเล่าเรื่องที่ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียมากขึ้นจนเกิดการตั้งคำถามเรื่องจริยธรรมจรรยาบรรณของสื่อสรุปไว้ดังนี้ (Kendyl Salcito, 2561: ออนไลน์, อิสรานิวส์,2558: ออนไลน์)
จรรยาบรรณทางวิชาชีพสื่อมวลชน จรรยาบรรณ หมายถึง ประมวลกฎเกณฑ์ความประพฤติหรือประมวลมารยาทของผู้ประกอบอาชีพต้องเป็นเอกลักษณ์ทางวิชาชีพ ใช้ความรู้ มีองค์กรหรือสมาคมควบคุม (จรวยพร ธรณินทร์, 2554) จริยธรรมสื่อมวลชนจึงหมายถึง ธรรมที่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติของสื่อมวลชน (สมสุข หินวิมาน และคณะ, 2557) จรรยาบรรณของสื่อมวลชนจึงหมายถึง หลักคุณธรรมของผู้ประกอบอาชีพนักสื่อสารมวลชน ที่มารวมตัวกันเป็นสมาคมวิชาชีพ สร้างขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบอาชีพนักสื่อสารมวลชนให้มีความรับผิดชอบ เสรีภาพบนความรับผิดชอบในวิชาชีพสื่อมวลชน ข้อปฏิบัติสำคัญที่สื่อมวลชนที่มีความรับผิดชอบพึงกระทำ ได้แก่ สื่อจะต้องรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความเป็นจริงอย่างละเอียดรอบด้าน และตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยพิจารณาดูบริบทที่เหตุการณ์นั้นได้เกิดขึ้นสื่อมวลชนจะต้องสร้างเวทีแห่งการแสดงและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงเป็นช่องทางที่จะแสดงความคิดเห็นของสาธารณะสื่อมวลชนจะต้องเป็นตัวแทนของคนทุก ๆ กลุ่มในสังคมและจะต้องนำเสนอเป้าหมายและคุณค่าของสังคมอย่างชัดเจน (กาญจนา แก้วเทพ, 2556) Lasswell (1948) และ Wright (1974) (อ้างในอรอนงค์สวัสดิ์บุรีและพงศ์ภัทรอนุมัติราชกิจ,2554) ได้กล่าวถึงการทาหน้าที่ของสื่อมวลชนว่ามีบทบาทหน้าที่ในการสอดส่องดูแล (Surveillance) และรายงานเหตุการณ์ในสังคมปทัสถานสื่อมวลชนตามทฤษฎีว่าด้วยความรับผิดชอบทางสังคม (The social Responsibility Theory) มีหลัก 3 ประการคือ
McQuail (1994 อ้างถึงใน พงษ์ วิเศษสังข์, 2554) ได้กล่าวถึงความรับผิดชอบของสื่อมวลชนมีอยู่ 5 ประการ ได้แก่
5.1 สื่อมวลชนควรจะต้องยอมรับและปฏิบัติให้ลุล่วงในภาระหน้าที่ที่เป็นพันธกิจต่อสังคม 5.2 สื่อมวลชนจะต้องบรรลุถึงมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน 5.3 สื่อมวลชนควรจะต้องควบคุมตนเองภายใต้กรอบแห่งกฎหมายและสถาบันที่ธำรงอยู่ 5.4 สื่อมวลชนควรจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งใดก็ตามที่อาจนำไปสู่อาชญากรรม ความรุนแรง หรือ ความไม่สงบ หรือแสดงความก้าวร้าวต่อเชื้อชาติหรือศาสนาของชนกลุ่มน้อยในสังคม 5.5 สื่อมวลชนโดยทั่วไปควรจะเปิดกว้างและสะท้อนความหลากหลายของสังคม 5.6 สังคมและสาธารณะมีสิทธิที่จะคาดหวังการปฏิบัติในระดับมาตรฐานที่สูงของสื่อมวลชน และการเข้าแทรกแซงอาจจะต้องถือว่าไม่เป็นเรื่องผิด หากเพื่อความดีงามของสาธารณะ 5.7 นักวารสารศาสตร์และนักวิชาชีพสื่อมวลชนจะต้องเป็นที่วางใจหรือเชื่อถือได้ของสังคม เห็นได้ว่า มีนักวิชาการได้กล่าวถึงข้อปฏิบัติที่เป็นแนวทางความรับผิดชอบของสื่อมวลชนอยู่อย่างมากมาย ส่วนใหญ่เน้นไปที่บทบาทหน้าที่ที่เหมาะสมในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนภายใต้เสรีภาพและความรับผิดชอบ แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณของสื่อมวลชนในโซเชียลมีเดีย (Social Media) ที่ผ่านมาในวงการวิชาการด้านสื่อมวลชนและวิชาชีพ ได้ร่วมระดมความคิดเห็น ผ่านบทความวิชาการ งานวิจัย บทสัมภาษณ์ หรือเวทีการประชุมสัมมนาวงการวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นต้น เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะที่เป็นแนวทางร่วมกันในการพัฒนาจริยธรรมและจรรยาบรรณกลุ่มคนที่ทำงานในวงการสื่อมวลชน ผู้เขียนได้สรุปแนวทางการแก้ปัญหาทางด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณ ดังนี้ (สุทธิชัยหยุ่น (2555), วัฒนีภูวทิศ (2556),การดาร่วมพุ่ม (2557),ศิริวรรณอนันต์โท (2558),เทียนทิพย์ เดียวกี่ (2559) 1.ระดับองค์กรต่างๆ ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อมวลชน ควรสร้างความตระหนักในเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อแก่ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกอบรมวิชาชีพสื่อมวลชนแก่ผู้ปฏิบัติงาน การประชุมสัมมนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยน (เทียนทิพย์ เดียวกี่,2559) 2.ระดับองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมด้วยการเปิดโอกาสให้องค์กรหรือบุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบจริยธรรมจริยธรรมวิชาชีพของสื่อได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม (ศิริวรรณอนันต์โท, 2558) ทั้งนี้กระบวนการทำงานระดับผู้บริหารในองค์กรสื่อมวลชนควรมีการวางมาตรการการรับบุคคลเข้าทำงานในองค์กร ให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ในความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้นและควรออกใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเมื่อกระทำผิดสามารถยึดคืนได้ (วัฒนีภูวทิศ, 2556) ส่วนระดับผู้ปฏิบัติการในองค์กรสื่อมวลชน ควรช่วยกันตรวจสอบการกรองข่าวสารก่อนออกสู่สาธารณะ (เทียนทิพย์ เดียวกี่, 2559) ลดความเสี่ยงในผิดพลาดด้วยการประชุมโต๊ะข่าวในกองบรรณาธิการแสดงให้เห็นว่าได้ผ่านกระบวนการถกเถียงแสดงความคิดเห็นร่วมกันมาแล้ว (การดาร่วมพุ่ม, 2557) 3.ระดับสถาบันการศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการต่าง ๆ มีส่วนสำคัญที่จะเน้นย้ำถึงความสำคัญของจริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพสื่อมวลชนในระบบการเรียนการสอนและควรปูพื้นฐานสร้างนักข่าวรุ่นใหม่ตั้งแต่ระดับเยาวชนด้วย (สุทธิชัยหยุ่น, 2555) บทสรุป สื่อมวลชนกับจริยธรรมและจรรยาบรรณในยุคโซเชียลมีเดีย (Social Media)เป็นเรื่องที่มีการถกมาตลอด ตราบเท่าที่การทำหน้าที่สื่อยังไม่สามารถสลัดเรื่องทุนนิยมออกไปได้ ก็ปฏิเสธได้ยากที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่งที่บางครั้งมีผลต่อการทำงานหน้าที่ของสื่อ จนเป็นสิ่งที่ถกมาตลอดเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อมวลชน ปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคคลหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหน่วยงานการควบคุมการเข้ามาเป็นเจ้าของสื่อของนายทุน รวมถึงการสร้างจิตสำนึกด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบให้กับสื่อมวลชน มีข้อบังคับที่ชัดเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสังคมสื่อที่เอื้อต่อการสร้างกรอบจริยธรรม สื่อมวลชนให้ขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งสังคม บรรณานุกรม ภาษาไทย การดา ร่วมพุ่ม. (2557). สื่อมวลชนกับการรายงานข่าวสิทธิเด็ก. วารสารนิเทศศาสตร์ธุรกิจบัณฑิต. 8(1), 31-53. สืบค้นจาก http://www.dpu.ac.th/commarts/journal/upload/issue/lkxEvMl6tw กาญจนา แกวเทพ. (2556). สื่อสารมวลชน:ทฤษฎีและแนวทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาพพิมพ. พีระ จิระโสภณ. (2551). ปรัชญานิเทศศาสตร์และทฤษฎีการสื่อสาร หนวยที่ 10. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. พัชราภา เอื้อมอมรวณิช. (2560). สื่อมวลชนเสรีภาพและความรับผิดชอบ วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์.11(4). พงษ วิเศษสังข. (2554). ความรับผิดชอบของสื่อมวลชน. ในการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. 25 พฤษภาคม 2554. (น. 22-29). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ. เทียนทิพย์ เดียวกี่. (2559). จริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อในการนำข่าว ยุคดิจิตอล. วารสารการสื่อสารและการจัดการนิด้า 2(2), 125–143. จรวยพร ธรณินทร์. (2554). ความหมายและหลักการของคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ และธรรมาภิบาล (เว็บไซต์) สืบค้นจาก http://charuaypontorranin.com/index.php?lay=show&ac=article&ld=5375831 ศิริวรรณอนันต์โท. (2558). จริยธรรมวิชาชีพสื่อมวลชนการศึกษาในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน.วารสารอิศราปริทัศน์ 4 (6), (7–25) สืบค้นจาก https://www.presscouncil.or.th/?p=1473 มาลี บุญศิริพันธ. (2556). วารสารศาสตรเบื้องตน: ปรัชญา และแนวคิด.(พิมพครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สํานักพิมพมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร. แรนดัล เดวิด. (2559). คนขาว ฉลาดทํางานศตวรรษที่ 21.(สุนันทา แยมทัพ, ผูแปล).กรุงเทพฯ: โครงการจัดพิมพคบไฟ. สมสุข หินวิมาน และคณะ. (2557). ความรู้เบื้องต้นทางวิทยุและโทรทัศน์ (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สุทธิ ชัยหยุ่น. (2555). อนาคตของข่าว. สมุทรปราการ: บริษัท ดับบลิวพีเอส ประเทศไทย จำกัด. วัฒนี ภูวทิศ. (2556). บทบาทเชิงจริยธรรมของนักหนังสือพิมพ์ในการรายงานข่าวสารหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทย. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงราย. 15(1), 97-107. สืบค้นจาก http://www.research.cmru.ac.th/2014/journal/file/15-01-009.pdf. อรอนงค์ สวัสดิ์บุรี และ พงศ์ภัทร อนุมัติราชกิจ. (2554). ผลกระทบของสื่อต่อวิกฤติชาติ. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 31(4), 69-84. สืบค้นจาก http://www.utcc.ac.th/ public_content/files/001/31_4-5.pdf. อิสรานิวส์. 2558: ออนไลน์.เรื่อง จริยธรรมสื่อ: สอนคน สอนใคร สอนอย่างไร. สืบค้นจาก https://www.isranews.org/thaireform-doc-mass-comm/38733-ethics-for-mass-media.html. Brand Buffet. 2561: ออนไลน์.เรื่อง Digital in 2018 สำรวจพฤติกรรมคนไทยในยุคดิจิทัล. สืบค้นจากhttps://thematter.co/quick-bite/digital-2018/44856. ภาษาอังกฤษ Harrison, J. (2006). News. London: Routledge. Littilejohn, S. W. (1999). Theories of Human Communication. CA :Wadsworth Publishing Company. Ravi, B. K. (2012). Media and social responsibility: A critical prespective with special reference to television. Academic Research International. 2(1), 306-325. Shoemaker, P. J. (2006). News and newsworthiness: a commentary. Communications. 31, 105-111. Kendyl Salcito. (2561). New Media Trends สืบค้นhttps://www.scribd.com/document/264992826/New-Media-Trends. ดาวน์โหลดไฟล์บทความ ข้อใดเป็นจรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์1. จรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์. ให้ระมัดระวังการละเมิดหรือสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น. ให้แหล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้. ไม่กระทำการรบกวนผู้อื่นด้วยการโฆษณาเกินความจำเป็น. ดูแลและแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อจากโปรแกรมอันไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นเป็นเหยื่อ. กฎหมายเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์มีอะไรบ้างระวัง! เรื่องต้องห้าม เสี่ยงผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์. การฝากร้านใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท. ส่ง SMS โฆษณา โดยไม่รับความยินยอม ให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้ ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท. ส่ง Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท. มารยาทในการอยู่ร่วมกันในสังคมออนไลน์มีอะไรบ้างมารยาททั่วไปในการใช้อินเทอร์เน็ต. 1. ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการทำร้ายหรือรบกวนผู้อื่น. 2. ไม่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการทำผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม. 3. ไม่เจาะระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของตนเองและผู้อื่น. 4. ไม่ใช้บัญชีอินเทอร์เน็ตของผู้อื่นและไม่ใช้เครือข่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต. จริยธรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีกี่ประการ1. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น 2. ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น 3. ต้องไม่สอดแนมหรือแก้ไขเปิดดูในไฟล์ของผู้อื่น 4. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
|