ข่าวเรื่อง Facebook ที่กระทบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ มีให้เห็นกันแทบจะทุกอาทิตย์ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีรายงานว่า Facebook ประสบปัญหาการจัดเก็บรหัสผ่านผู้ใช้นับร้อยล้านชุด โดยรหัสผ่านถูกเก็บไว้ในรูปแบบตัวอักษรที่ไม่ได้เข้ารหัส โดยที่พนักงานของ Facebook สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญดังกล่าวนี้ได้เป็นเวลาหลายปี ก่อนที่เพิ่งถูกพบโดยบังเอิญ นับว่าเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ใช้อย่างพวกเราต้องฉุกคิดถึงภัยจากการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญรวมทั้งรหัสผ่านที่อาจทำให้มิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับบัญชีทรัพย์สินของเราได้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำ คือ การเลิกใช้งานไปเลย แต่เราคงไม่จำเป็นต้องไปถึงขั้นนั้น แล้วในฐานะผู้ใช้ทั่วไปควรทำอย่างไรดีที่จะรักษาความปลอดภัยบัญชีให้มากที่สุด มาดูคำตอบกัน Show
เริ่มต้นที่การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวขั้นพื้นฐานของ Facebook ก่อนเราสามารถเช็คได้ว่า มีแอปฯ ใดบ้างที่เข้าถึงข้อมูล Facebook ของเรา (ชื่อ รูปภาพ วันเกิดและรายชื่อเพื่อน) ได้ในหน้าการตั้งค่าแอปฯ (App Setting) และคลิกแต่ละรายการเพื่อแสดงประเภทของข้อมูลที่เราให้สิทธิ์ในการเข้าถึง เราสามารถเลือกจำกัดการเข้าถึงในข้อมูลส่วนตัวบางรายการได้ โดยการไม่คลิกเลือกในบางรายการนั้นๆ และยังสามารถยกเลิกการเชื่อมโยงแอปฯ จากบัญชี Facebook ในหน้านี้โดยคลิก “X” ที่ปรากฏถัดจากแอปฯ เราสามารถเช็คได้ว่า มีแอปฯ ใดบ้างที่เข้าถึงข้อมูล Facebook ของเรา (ชื่อ รูปภาพ วันเกิดและรายชื่อเพื่อน) ได้ในหน้าการตั้งค่าแอปฯ (App Setting) และคลิกแต่ละรายการเพื่อแสดงประเภทของข้อมูลที่เราให้สิทธิ์ในการเข้าถึง เราสามารถเลือกจำกัดการเข้าถึงในข้อมูลส่วนตัวบางรายการได้ โดยการไม่คลิกเลือกในบางรายการนั้นๆ และยังสามารถยกเลิกการเชื่อมโยงแอปฯ จากบัญชี Facebook ในหน้านี้โดยคลิก “/” ที่ปรากฏถัดจากแอปฯ ไปที่ “การตั้งค่า (Settings)” เลือก “แอปและเว็บไซต์ (Apps and Websites)” จากนั้นเลือก “แก้ไขและปิดการใช้งาน (Edit and Disable) ผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee บริษัทชั้นนำด้านโซลูชันความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำว่าการใช้บัญชี Facebook เพื่อลงชื่อเข้าใช้แอปฯ อื่น เสมือนสร้างการเชื่อมโยงให้ทั้งสองบริษัทคู่ค้าสามารถรวบรวมข้อมูลและสร้างโปรไฟล์เชิงลึกเกี่ยวกับตัวเราและกิจกรรมของเราได้ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นเพื่อปกป้องข้อมูลของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น ควรตั้งค่าการเข้าสู่ระบบและรหัสผ่านใหม่สำหรับแอปฯ ที่เคยเข้าระบบผ่านบัญชี Facebook วิธีนี้ช่วยยุติการถูกแชร์ข้อมูลส่วนตัวระหว่างบริการต่าง ๆ ได้ – ไปที่ “การตั้งค่า (Settings)” เลือก “แอปและเว็บไซต์ (Apps and Websites)” จากนั้นเลือก “แก้ไขและปิดการใช้งานแพลตฟอร์ม (Edit and Disable Platform”) ผู้เชี่ยวชาญจาก McAfee แนะนำว่าการใช้บัญชี Facebook เพื่อลงชื่อเข้าใช้แอปฯ อื่น เสมือนสร้างการเชื่อมโยงให้ทั้งสองบริษัทคู่ค้าสามารถรวบรวมข้อมูลและสร้างโปรไฟล์เชิงลึกเกี่ยวกับตัวเราและกิจกรรมของเราได้ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นเพื่อปกป้องข้อมูลของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น ควรตั้งค่าการเข้าสู่ระบบและรหัสผ่านใหม่สำหรับแอปฯ ที่เคยเข้าระบบผ่านบัญชี Facebook วิธีนี้ช่วยยุติการถูกแชร์ข้อมูลส่วนตัวระหว่างบริการต่าง ๆ ได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีการตั้งค่าเพื่อความเป็นส่วนตัวขณะใช้งาน Facebook ซึ่งรวบรวมไว้ทั้งหมด 17 แนวทางสำคัญ (แนะนำให้ตั้งค่าผ่าน Desktop)
อ้างอิงที่มา
NT cyfenceทีมงาน NT cyfence ที่พร้อมให้คำปรึกษา และ ดูแลความปลอดภัยให้กับทุกองค์กร อย่างครบวงจร ด้วยทีมงานมืออาชีพ ปิดรูปภาพที่มีคุณยังไง1.เข้าเฟสบุ๊คของเราผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แล้วไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว 2.จากนั้นเลือก การตั้งค่า 3.แล้วเลือก ความเป็นส่วนตัว 4.เลือก 'โปรไฟล์และการแท็ก' แล้วดูที่ 'การแท็ก' ให้เปลี่ยนเป็น 'เฉพาะฉัน' ไม่ว่าใครแท็กรูปอะไรมาก็จะไม่ปรากฏบนหน้าโปรไฟล์เรา แล้วถ้าเราอยากตรวจสอบการแท็กก่อน ให้เลือกเป็น 'เปิด'
ปิดรูปในเฟสยังไงเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของอัลบั้มรูปภาพของคุณบน Facebook. แตะ ... . เลื่อนลงมาแล้วแตะ "รูปภาพ". แตะ "อัลบั้ม" ที่ด้านขวาบน. แตะอัลบั้มที่คุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว. แตะ แล้วเลือก "แก้ไข". แตะการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวปัจจุบัน (เช่น เพื่อน). แตะเพื่อเลือกกลุ่มเป้าหมายใหม่ แล้วแตะ. แตะ "เรียบร้อย". Facebook ตั้งค่ายังไงไม่ให้คนอื่นเห็นรูปในอัลบั้มเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของอัลบั้มรูปภาพของคุณบน Facebook. แตะ ที่ด้านขวาบนของ Facebook จากนั้นแตะชื่อของคุณ. เลื่อนลงมาแล้วแตะ "รูปภาพ". แตะอัลบั้มที่คุณต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว คุณสามารถแตะ "อัลบั้มเพิ่มเติม" เพื่อค้นหาอัลบั้มที่ต้องการได้. แตะ แล้วเลือก "แก้ไข". วิธีตั้งค่าเฟสบุ๊คไม่ให้ใครเห็นแตะ ที่ด้านขวาบนของ Facebook.. เลื่อนลงมาแล้วแตะ "การตั้งค่า". เลื่อนลงมาที่ "กลุ่มเป้าหมายและการมองเห็น" แล้วแตะ "โพสต์". แตะ "จำกัดคนที่จะเห็นโพสต์ในอดีตได้". แตะ "จำกัดโพสต์เก่า" จากนั้นแตะ "ยืนยัน" เพื่อยืนยันการตัดสินใจ. |