อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่

อ่าน 0

อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่

ความรักของคู่คุณตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ยังหวานเหมือนเดิมไหม หรือจืดจางไปตามการเวลา หรือรู้สึกเหมือนเป็นคนเเปลกหน้าที่อยู่ข้างกัน หากคุณกำลังไม่มมั่นใจในความสัมพันธ์ วันนี้ GangBeauty จะพาไปเช็ค 7 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ความรักของคุณกำลังจะถึงทางตัน คู่คุณเป็นอยู่ไหม ไปดูเลย

1. ต่างคนต่างอยู่


อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่

หากพักหลังมานี้ คุณทั้งคู่เริ่มใช้ชีวิตเเบบของใครของมัน ไม่ค่อยไปไหนมาไหนด้วยกัน คิดหรือทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน เเละบางครั้งคุณก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เเต่ก็ไม่ได้สนใจ การมีชีวิตเเบบต่างคนต่างอยู่เป็นสัญญาณเเรกของความสัมพันธ์ที่สั่นคลอน

2. รู้สึกน้อยลง

จากที่เมื่อก่อนเวลาทะเลาะกัน คุณจะกระวนกระวายใจอยากจะเคลียร์กันให้รู้เรื่อง เเต่เดี๋ยวนี้กลับไม่มีใครง้อใคร งอนเองหายเอง ไม่ค่อยเเคร์ความรู้สึกกันเหมือนเดิม นี่เเปลว่าความรู้สึกที่คุณมีต่อกันมันน้อยลงหรือเปล่า

3. ความฝันต่างกัน


อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่

คุณทั้งคู่มีความฝันหรือจุดมุ่งหมายชีวิตที่ไปกันคนละทิศละทาง เเละก็ไม่มีใครยอมทิ้งความฝันของตัวเอง คุณเข้าใจใช่ไหมว่าวันนึงมันก็ต้องถึงทางเเยก

4. ครอบครัวไม่ปลื้ม

เรื่องภายในครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนใครๆก็รักครอบครัวของตัวเองทั้งนั้นเเหละค่ะ เเต่ถ้าครอบครัวของฝ่ายใดเกิดไม่ปลื้มที่คุณคบกันขึ้นมา ความรักของคุณครั้งนี้ก็เหมือนเจอศึกหนักเเล้ว เเละถ้าคนกลางไม่เข้มเเข็งพอ ก็อาจยอมปล่อยมือเเละเลือกครอบครัวได้ง่ายๆ

5. มีปัญหาเรื่องเงิน

อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่

ใครว่าเงินไม่สำคัญ คู่รักหลายคู่ที่ต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องเงินทอง ไม่ว่าจะมีน้อยจนเครียด หรือมีมากจนเเบ่งไม่ลงตัว เเต่ถ้ามันทำให้ทะเลาะกันก็ยากที่จะเคลียร์กันได้

6. ห่างเหินเรื่องบนเตียง

อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่


การที่คุณทั้งคู่มัวเเต่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องอื่นๆในชีวิต จนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องบนเตียง อาจทำให้ชีวิตคู่ขาดสีสัน หมดความหวาน และส่อเเววไม่ดีเเล้ว

7. มีมือที่สาม

ปัญหาอื่นอาจพอทนกันไปได้ เเต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ความรักของคุณเริ่มมีช่องว่าง จนมีมือที่สามเข้ามาได้ เเละดูเหมือนว่ามือที่สามจะสร้างความสุขได้มากกว่าเสียด้วย เเบบนี้ก็เตรียมทำใจได้เลยค่ะ

มีพบก็ต้องมีจากเป็นธรรมดาชีวิต อย่ายึดติด ถ้าไปกันไม่ไหว สุดจะยื้อก็ปล่อยไปเถอะค่ะ ดีกว่าทนเจ็บกันไปตลอด


คู่รักหลายคู่มักจะคิดว่าความรักของเรานั้นมั่นคงและแน่นอน ไม่มีใครมาทำให้พังลงได้ หลายคู่รักจึงมีเกราะป้องกันปัญหาภายนอกที่แข็งแกร่ง จนบางครั้งก็ลืมไปว่าปัญหาภายในที่เกิดจากคนสองคนนั่นแหละที่คอยบั่นทอนความสัมพันธ์ของพวกคุณอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคู่ที่แต่งงานอยู่กินด้วยกันยิ่งต้องระวังให้มาก เพราะบางพฤติกรรมที่คุณคิดว่ารับได้เมื่อตอนแต่งแรกๆ อยู่ๆ ไปเริ่มรับไม่ไหว ใครที่อยากรู้ว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่จะทำให้ ชีวิตคู่ จบเห่ รีบตามมาอ่านด่วนๆ เลย!

1. ไม่รู้จักคำว่า “กึ่งกลาง”

ชีวิตคนเราเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างมีลักษณะนิสัยและความต้องการของตัวเองกันทุกคน แต่ในเมื่อต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันแล้วมันก็ต้องรู้จักคำว่า 50:50 บ้างนะคะ หลายคู่ต้องเลิกรากันไปเพราะหากึ่งกลางระหว่างกันไม่เจอ ฉันจะเอาอย่างนี้ เธอจะเอาอย่างนั้น ไม่มีใครยอมใคร ถือเอาความรู้สึกและความต้องการของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ พูดง่ายๆ ว่าต่างคนต่างเอาแต่ใจตัวเอง แล้วแบบนี้ชีวิตคู่มันจะไปกันรอดเหรอคะ ถามจริง?

2. หาไม่เจอว่าเธอต้องการอะไร

อย่างที่บอกไปข้อที่แล้วว่าต่างคนต่างมีความต้องการเป็นของตัวเอง และเมื่อมีคนรักแล้วก็หวังจะให้อีกคนเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ยังขาด แต่ในความเป็นจริงหลายคนมักที่จะไม่พูดออกมาตรงๆ ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการ และอีกหลายคนก็ปากหนักเกินจะถามว่าคนรักของคุณอยากได้สิ่งไหน ยิ่งไปกว่านั้นคือ คิดเองเออเองเสร็จสรรพว่าเขาก็ต้องการสิ่งเดียวกันกับคุณ ซึ่งบางทีมันก็ผิดนะจ๊ะ! ลองคิดดูว่าถ้าคุณไม่พูด เขาไม่ถาม แล้วจะรอให้ตรัสรู้ด้วยตัวเองหรือยังไง! (คนธรรมดานะไม่ใช่ผู้วิเศษ)

3. ต่างคนต่างก็เงียบหายไป

บางครั้งบางทีความเงียบก็ช่วยแก้ปัญหาได้ดีเหมือนกันนะ เพราะเมื่อเวลาทะเลาะกันแล้วลองปล่อยให้ความเงียบเข้ามาจัดการสถานการณ์สักพักอะไรๆ ก็มักจะดีขึ้น แต่! อย่าปล่อยให้เงียบนานจนเกินไป เมื่ออารมณ์คงที่เมื่อไหร่ควรหันหน้ามาคุยกันดีๆ เพราะถ้าขืนคุณเงียบหายไปนานๆ เป็นวันเป็นเดือน แบบนี้ความรักก็คงจะหายตามไปด้วยแน่นอน (เผลอๆ ไปเจอคนใหม่ไฉไลกว่าเดิมอีก!)

อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่
ภาพจาก : www.groundworkcounseling.com

4. ปล่อยให้ความรักจืดชืด

สิ่งที่ควรทำสำหรับชีวิตคู่คือ หมั่นเติมความหวานให้กันอยู่เสมอ จะดูหนัง ฟังเพลง หรืออะไรก็ทำเถอะค่ะ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่คุณปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์ระหว่างกัน ไม่เติมเชื้อรักให้กับชีวิตคู่ เมื่อนั้นความรักที่มีก็คงจะระเหิดระเหยหายไป จากคำว่าคู่รักก็อาจเหลือเพียงแค่คนสองคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแค่นั้นเอง

5. ไม่ใส่ใจกันและกัน

เรื่องนี้มักจะเกิดกับฝ่ายชายซะเป็นส่วนใหญ่ ไอ้อาการอัลไซเมอร์ชั่วขณะ ไม่ว่าจะลืมวันเกิด ลืมวันครบรอบ ลืมนัดสำคัญ ลืมนั่นลืมนี่ ติดเพื่อน ติดเกมส์ บางทีถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ ก็ทำให้อีกฝ่ายคิดได้ว่าตัวเธอนั้นไม่มีความสำคัญพอให้จดจำเลยหรือ? นานวันไปกลายเป็นความน้อยใจ สุดท้ายทนไม่ไหวก็ขอบอกลาเลยแล้วกัน

6. เก็บงำทุกอย่างเอาไว้ในใจ

ปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกคนเลยนะคะ บางครั้งเวลาเราเจอเรื่องร้ายๆ ของคนรักทีไร ถ้ามันไม่หนักหนามากเกินไปก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้ในใจไม่พูดไม่เคลียร์ ปล่อยให้มันผ่านไปเงียบๆ แต่! พอเจอพฤติกรรมเดิมๆ บ่อยๆ เข้า สิ่งที่เก็บไว้เริ่มจะเยอะจนล้นใจกลายเป็นระเบิดเวลา วันดีคืนดีหมดความอดทนเมื่อไหร่ก็ตู้ม-ม-ม! ปล่อยออกมาหมด รัศมีทำลายล้างเสียจนความรักพังทลายกู้คืนมาไม่ได้อีกแล้ว

อยู่บ้าน เดียวกัน แต่ ต่างคนต่างอยู่
ภาพจาก : www.quotesgram.com

7. ไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เมื่อชีวิตคู่เจอปัญหาจนบางครั้งทำให้คุณทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่พอพายุอารมณ์สงบ ต่างคนก็ต่างพูดคำว่าไม่เป็นไร ช่างมัน ปล่อยไปเถอะ แล้วก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมต่อไป แบบนี้เหตุการณ์ดูเหมือนจะดีนะ แต่สุดท้ายปัญหาเดิมๆ ก็กลับมาเยือนอีก ทะเลาะกันอีก เป็นแบบนี้วนลูปไปเรื่อยๆ โดยที่ปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไข ไม่ได้ถูกปรับความเข้าใจ สุดท้ายทะเลาะกันจนเหนื่อย ประคองความรักไปต่อไม่ไหวก็ถอดใจเลิกกันไปอยู่ดี

8. ชอบเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่

ปัญหาข้อนี้เป็นงานถนัดของฝ่ายหญิงค่ะ เอะอะอะไรก็ขุดคุ้ยเรื่องเก่าขึ้นมาพูด ย้อนหลังไปถึงความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา แบบนี้ขอบอกเลยว่าไม่มีใครชอบหรอกค่ะ ร้อยทั้งร้อยถ้าโดนบ่อยๆ ก็อยากจะเซย์กู๊ดบายกันทั้งนั้น รวมไปถึงพฤติกรรมจู้จี้จุกจิก คิดเล็กคิดน้อยโดยไม่จำเป็นของผู้หญิงด้วยนะ ถ้าทำพฤติกรรมเช่นนี้เป็นประจำรับรองเลยว่าผู้ชายขอเลิกแน่!

9. ปล่อยให้ความเครียดเข้ามาครอบงำ

ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะคะว่าชีวิตคนเรามันมีเรื่องวุ่นวายมาให้เครียดอยู่เสมอ บางคนจัดการกับความเครียดได้ดีก็รอดตัวไป แต่บางคนรับมือกับความเครียดไม่ได้จนส่งผลกระทบกับชีวิตคู่ เครียดจากที่ทำงานก็มาบ่นมาลงกับคนในบ้าน ทำให้คนรักออกอาการเอือมระอา เจอแบบนี้บ่อยๆ ทั้งคุณและคนรักก็ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่ กลายเป็นการสร้างรอยร้าวให้ความสัมพันธ์ อีกหน่อยก็ต้องเลิกรากันไป เหมือนเพลงของคุณอิทธิที่ร้องว่า “แก้วที่มันร้าวไม่นานก็คงจะแตก!”

10. จะเอาชนะอย่างเดียว

หลายคู่รักอยู่ด้วยกันไม่ได้เพราะคิดอยู่แค่ว่าฉันจะต้องเป็นฝ่ายชนะ ฉันจะต้องได้ทุกอย่าง ฉันถูกเสมอ ฉันไม่ยอมและยอมไม่ได้ (อย่างกับนางร้ายในละคร) กลายเป็นปัญหาใหญ่โต ทะเลาะกันไปมา เพราะเธอก็ไม่ยอมและฉันก็ไม่ยอม สรุปว่าพอไม่มีใครยอมใครความสัมพันธ์และความรักก็เลยหักเป็น 2 ท่อน และส่วนใหญ่มักจะต่อไม่ติดซะด้วย แม้จะใช้กาวอย่างดีมาทาก็ยังมีรอยต่ออยู่ดีนั่นแหละ

ลองเช็คกันดูซิว่าคุณและคนรักมีพฤติกรรมแย่ๆ ทั้ง 10 ข้อตามที่ว่ามาหรือไม่ ถ้าเกิดว่ามีตามนี้ ก็คงถึงเวลาที่คุณทั้งคู่ต้องรีบหาทางแก้ไข หากว่ายังอยากประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่ตลอดรอดฝั่ง สิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้คงต้องเริ่มจากการปรับปรุงตัวเองเสียก่อนเป็นอย่างแรก แล้วลองนึกดูสิว่าคุณรักกันเพราะอะไร แต่งงานกันเพราะอะไร แล้วอยากจะให้ชีวิตคู่เป็นแบบไหน สิ่งสำคัญเมื่อเกิดปัญหาก็คือ ลองถอยกันคนละก้าวให้ใจเย็นลงสักนิด พิจารณาว่าอะไรทำให้เกิดปัญหา และจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร สุดท้ายท่องจำให้ขึ้นใจว่า “ใครขอโทษก่อนชนะ” จากนั้นให้ปรับความเข้าใจกัน แบบนี้ก็จะช่วยให้คุณทะนุถนอมชีวิตคู่ได้ยืดยาว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เรียบเรียง : www.brides.com
ภาพ : quotesgram.com,  groundworkcounseling.com, huffingtonpost.com