เครื่องวัดอุณหภูมิ k9 pro อุณหภูมิไม่ตรง

เครื่องวัดอุณหภูมิ k9 pro อุณหภูมิไม่ตรง

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้คนต่างให้ความสนใจในการรักษาสุขภาพสำรวจอาการไข้ของตัวเอง และคัดกรองผู้ที่มีอาการไข้ตามจุดทางเข้าออกต่างๆ เช่น อาคาร สำนักงาน อพาร์เม้นท์ คอนโด หมู่บ้าน รวมไปถึงสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่รู้กันหรือไม่ว่าอุณหภูมิร่ายกายปกติมีค่าเท่าไหร่ และเมื่อวัดอุณหภูมิ ณ จุดคัดกรองได้ 32 หรือ 34 องศา เราควรดีใจที่ตัวเย็นไม่มีไข้ หรือตกใจที่ตัวเย็นคล้ายคนเสียชีวิต

10 ข้อที่มือใหม่มักใช้เครื่องวัดไข้ผิด

1. นำเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมมาวัดไข้

◾ อาจจะด้วยความเข้าใจผิด หรือถูกชักจูงให้เลือกซื้อ แต่การใช้เครื่องอุณหภูมิอินฟราเรดสำหรับอุตสหกรรมที่มีช่วงการวัดที่กว้าง เหมาะแก่การนำไปใช้วัดอุณหภูมิวัสดุที่หลากหลาย และมีค่าความแม่นยำ (Accuracy) ที่ไม่เหมาะสมต่อการวัดอุณหภูมิร่างกาย หากนำเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดสำหรับอุตสาหกรรมมาใช้คัดแยก หรือวัดไข้จะเกิดความผิดพลาดจากการใช้งานครื่องมือผิดประเภท และไม่สามารถแยกผู้ที่อาการไข้ๆ กับผู้ที่มีไข้สูงได้ หากจำเป็นต้องใช้เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดแบบอุตสาหกรรมมาวัดไข้ ผู้ใช้งานต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องมือเป็นอย่างสูง และการประยุกต์ใช้นี้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด

2. เลือกโหมดการวัดผิด

◾ เครื่องวัดไข้บางรุ่น อาจมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่รองรับการใช้งานวัดค่าทั่วไป (Surface) และวัดไข้ (Body) ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการใช้งาน เพราะหากใช้ฟังก์ชั่นสำหรับวัดค่าทั่วไป (ฟังก์ชั่นที่ใช้ในเครื่องวัดอุณหภูมิอุตสาหกรรม) จะเกิดความผิดพลาดในการวัดไข้

3. ผู้วัดอยู่ไม่นิ่ง หรือขยับร่างกาย

◾ การทำงานของเครื่องวัดไข้ปกติใช้เวลาในการวัดประมาณ 0.5 วินาทีต่อการวัดหนึ่งครั้ง ตามสเปคของแต่ล่ะเครื่อง ดังนั้นในช่วงที่ทำการวัดควรหยุดนิ่งสักครู่ไม่ขยับตัวไปมา

4. เครื่องสำอาง

◾ ปัญหานี้มักเกิดกับสาวๆ เนื่องจากเครื่องวัดไข้แบบอินฟราเรดจะวัดอุณหภูมิพื้นผิว หากบริเวณที่วัดมีสิ่งบดบัง เช่น เครื่องสำอาง สติ๊กเกอร์ แทททู และ Glitter ก็จะทำให้ค่าการวัดอุณหภูมิร่างกายผิดพลาด

เครื่องวัดอุณหภูมิ k9 pro อุณหภูมิไม่ตรง

5. เหงื่อ

◾ คราบเหงื่อไคล และเม็ดเหงื่อที่ติดบริเวณผิวหนังก็สามารถสร้างปัญหาในการวัด เพราะเหงื่อทำให้วัดค่าการวัดอุณหภูมิร่างกายผิดพลาด

6. สวมหมวก หรือผ้าโพกศีรษะ

◾ หากผู้ถูกวัดสวมใส่หมวก หรือโพกศีรษะ ให้ถอดหมวกก่อนวันอุณหภูมิไม่สวมใส่เครื่องแต่งกายที่บดบังบริเวณใบหน้า เพื่อให้ค่าการวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นไปถูกต้อง

7. เส้นผมปิดบังหน้าผาก

◾ ทรงผมหน้าม้าย่อมสร้างปัญหาในการวัด เพราะเส้นผมปิดบังบริเวณหน้าผากรบกวนการวัดอุณหภูมิร่างกาย

เครื่องวัดอุณหภูมิ k9 pro อุณหภูมิไม่ตรง

8. แอร์ตกใส่บริเวณใบหน้า

◾ สภาพแวดล้อมก็ส่งผลต่อค่าการวัด เช่น กรณีที่แอร์ตกยังบริเวณจุดวัดไข้ลมจากเครื่องปรับอากาศอาจตกกระทบบริเวณหน้าผากผู้ถูกวัด ซึ่งทำให่ค่าการวัดอุณหภูมิร่างกายผิดพลาด

9. ตากแดด

◾ สภาพแวดล้อมก็ส่งผลต่อค่าการวัด เช่น กรณีพึ่งตากแดดมาอุณหภูมิบริเวณหน้าผาก หรือบริเวณศรีษะจะมีความร้อนสูงกว่าปกติ ดังนั้นการวัดครั้งแรกอุณหภูมิที่วัดได้จะสูงกว่าความเป็นจริง ดังนั้นแนะนำให้ผู้ถูกวัดนั้งพักสักครู่แล้ววัดซ้ำ หากอุณหภูมิร่างกายยังสูงอยู่แสดงว่าผู้ถูกวัดมีไข้

10. ตั้งค่าตัวเครื่องไม่เหมาะสมกับการใช้งาน

◾ ปัญหาที่พบบ่อยสำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มใช้งานเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายคือ การตั้งค่า เช่น DT-8806H  เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายที่ส่วนใหญ่มักข้าใจผิดตั้งค่า Total Difference 1 ถึง 2 องศา ทำให้ค่าการวัดไม่เป็นตามจริง ดังนั้นหากไม่ทราบข้อมูลการตั้งค่าแนะนำให้กลับไปตั้งค่าจากโรงงานที่ 0.0 องศา ก่อนใช้งานเครื่องมือวัดทุกชนิดควรศึกษาข้อมูลการใช้งาน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือวัดทุกครั้ง

สรุป: ปกติอุณหภูมิร่างกายเราของคนเรานั้นจะอยู่ที่ 36.5 ถึง 37.3 องศาแบ่งตามเกณฑ์การวัด และบริเวณที่วัดดังนี้

อุณหภูมิปกติ แบ่งตามบริเวณจุดที่วัด

Meas. Method Normal Temp. ( ํC) Normal Temp. ( ํF)
ทวารหนัก 36.6 to 38 97.8 to 100.4
ปาก 35.5 to 37.5 95.9 to 99.5
รักแร้ 34.7 to 37.3 94.4 to 99.1
หู 35.8 to 38 96.4 to 100.4

อุณหภูมิปกติ แบ่งตามอายุผู้ถูกวัด

Age Temp. ( ํC) Temp. ( ํF)
อายุต่ำกว่า 2 ปี 36.4 to 38 97.5 to 100.4
อายุ 3 ถึง 10 ปี 36.1 to 37.8 97.0 to 100.0
อายุ 11 ถึง 65 ปี 35.9 to 37.6 96.6 to 99.7
มากกว่า 65 ปีขั้นไป 35.8 to 37.5 96.4 to 99.5


เครื่องวัดอุณหภูมิ k9 pro อุณหภูมิไม่ตรง

● เลือกซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิ เทอร์โมมิเตอร์ คลิก!

● สามารถเยี่ยมชม บทความจาก LEGA CORPARATION ได้ที่นี้

● โทร. 02-746-9933

● LINE: @LEGA

Cr. Picture: BBC news