โลกแคบลงทุกวัน นักเรียน คิดว่า เนื่อง มาจาก สาเหตุ ใด

ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพราะปริมาณการค้า 25% ของสองชาตินี้ต้องใช้สะพานนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ในอเมริกาต้องหยุดชะงัก เพราะไม่มีชิ้นส่วน

Freedom Convoy จัดแยกขบวนประท้วงส่วนหนึ่งไปถึงเมืองหลวงของแคนาดาคือ Ottawa กดดันให้รัฐบาลยกเลิกข้อบังคับการตรวจหลักฐานการฉีดวัคซีนของผู้ขับรถบรรทุกข้ามชายแดน

ตั้งแต่เริ่มโควิด-19เป็นต้นมา ผู้ขับรถบรรทุกได้รับการผ่อนผันมาตลอด เนื่องจากรัฐบาลทั้งสองประเทศกลัวการหยุดชะงักของการขนส่งสินค้า แต่เมื่อผู้ขับรถบรรทุกในแคนาดาประมาณ 85% ของ 120,000 คนได้รับวัคซีนแล้ว ทางรัฐบาลจึงได้ยกเลิกการผ่อนผันนี้ในวันที่ 15 ม.ค. และทางสหรัฐยกเลิกการผ่อนผันเช่นกันในวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา

เรื่องนี้จริงแล้วจะกระทบผู้ขับรถประมาณไม่เกิน 26,000 คนในทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยมาก (คนขับรถบรรทุกในสหรัฐ 3.5 ล้านคน) คนกลุ่มน้อยเหล่านี้ยังดื้อดึงต่อต้านนโยบายวัคซีน ทั้งที่สหภาพผู้ขับขี่รถบรรทุกทั้งในอเมริกาและแคนาดาออกประกาศสนับสนุนนโยบายของรัฐ

แต่เรื่องของคนกลุ่มน้อยนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะมีการปลุกปั่นยุยงให้ฝ่าฝืนอำนาจรัฐ โดยกลุ่มสื่อและโซเชียลมีเดียของฝ่ายขวาจัด ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ มีการเปิดบัญชีออนไลน์รับบริจาคเงิน เพื่อสนับสนุนการประท้วงและชดเชยรายได้ของผู้ขับรถ

โดยใช้แอพของGoFundMe ได้เงินถึงกว่า 8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลแคนาดาเพิ่งสั่งปิดบัญชีนี้เนื่องจากเป็นการละเมิดกฏหมาย ที่น่าสังเกตคือผู้บริจาคส่วนใหญ่มาจากนอกแคนาดา โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา อังกฤษและประเทศอื่นๆ

การประท้วงทำนองเดียวกันนี้ กำลังจะลามไปอีกหลายแห่งในแคนาดาและอเมริกา และหลายประเทศกำลังเตรียมมาตรการรับมือการประท้วงเลียนแบบ มีข่าวว่าอาจจะมีขึ้นที่ฝรั่งเศส เบลเยียม นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและอีกหลายประเทศ การประท้วงที่ตั้งประเด็นต่อต้านการฉีดวัคซีน กำลังจะขยายวงออกไปถึงนโยบายอื่นๆ เช่นน้ำมันแพง เป็นต้น

Infodemic มาจากส่วนผสมของคำว่า information และ epidemic ซึ่งหมายถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างไกลของข้อมูล ทั้งที่ถูกและที่ผิด ครอบคลุมถึงข้อเท็จจริง ข่าวลือ ข่าวสะเทือนขวัญต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคสับสนและไม่สามารถแยกแยะแก่นแท้ของสาระได้

เศรษฐกิจทั่วโลกเชื่อมโยงกันหมด ระบบการเงินการธนาคารติดต่อกันเป็นลูกโซ่สลับซับซ้อน เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นซึ่งกระทบจุดใดจุดหนึ่ง ก็จะส่งผลรวดเร็วและกว้างไกล ข้อมูลทั้งจริงและเท็จจะเดินทางโดยพาหะ ทั้งสื่ออาชีพและโซเชียลมีเดีย

สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นตัวอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความหวั่นไหวในการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก สถาบันการเงินแห่งหนึ่งคาดว่าหากสงครามเกิดขึ้นแล้วนำ้มันอาจจะสูงถึง 120 ยูเอสดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ความวิตกกังวลทำให้เกิดการขยับของราคาพลังงานทั่วโลก ทั้งที่สถานการณ์จริงอาจจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากรัสเซียอาจเพียงแค่ทดสอบปฏิกิริยาของผู้นำอเมริกันคนใหม่ และส่งสัญญาณเตือนประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตให้คิดรอบคอบว่า จะหวังพึ่งความคุ้มครองจากประเทศทางตะวันตกได้หรือไม่ อีกทั้งเป็นการแสดงพลังให้รู้ว่า รัสเซียยังมีอิทธิพลระดับมหาอำนาจอยู่ เพราะตั้งแต่ปธน.Bidenเข้ามารับตำแหน่งจะพูดถึงคู่แข่งที่สำคัญคือจีนอยู่เสมอ

เรื่องความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ การเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพจีน ความเสี่ยงของไต้หวัน การพัฒนาขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ปัญหาสิทธิมนุษยชน ความเหลื่อมล้ำเรื่องวัคซีนซึ่งยังแก้ปัญหาไม่ตก เนื่องจากนโยบายแต่ละประเทศไม่ประสานงานกัน และที่สำคัญที่สุดกว่าทุกประเด็นคือเรื่องสิ่งแวดล้อม มลภาวะและปัญหาโลกร้อน ซึ่งมีเพียงความหวังแต่ยังไม่เห็นผล

เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวด้วยความเศร้าใจว่า ประชาคมโลกอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายกว่าเมื่อห้าปีที่แล้ว หากเราไม่เลิกเห็นแต่ประโยชน์ในกลุ่มของตนและหันมาร่วมมือกันอย่างจริงจัง อนาคตของเราจะมืดมน

อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ขยับขึ้นถึง 7.5% จากเดิม 6.8% ตลาดหุ้นลังเล จะขายเทเพราะเงินเฟ้อ หรือจะรอดูท่าทีเพราะเงินจะสะพัดเงินเฟ้อหมายถึงดอกเบี้ยจะต้องสูงขึ้น ดอกเบี้ยสูงขึ้นคือกำไรของบริษัทจะลดลง ราคาหุ้นจะลดลงด้วย

ธนาคารกลางอเมริกาจะแก้ปัญหาเงินเฟ้อด้วยการขยับขึ้นดอกเบี้ย ดอกเบี้ยเพิ่มหมายถึงค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่หากชาวอเมริกันรายได้ปานกลางลงมาได้รับความเดือดร้อน ก็จะมีเงินอัดฉีดยังชีพออกมาอีก โดยทางตรงและทางอ้อม ทำให้เงินในกระแสเพิ่มขึ้นอีก เงินสะพัดมาก ไม่มีที่ลง ก็ไปลงที่ตลาดหุ้น วงจรนี้จะลงเอยอย่างไร ในเมื่อไม่มีเพดาน

การลงทุนแทบทุกอย่างในระยะนี้เป็นสิ่งที่วิเคราะห์ยาก เพราะตัวแปรและความเสี่ยงไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักการเหตุผลแบบเดิม ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม การบริโภคข่าวรวดเร็วและเป็นวงกว้าง บางครั้งบางคนขาดความละเอียดรอบคอบในการกลั่นกรองข้อมูล infodemicอาจทำให้ตัดสินใจแบบรีบร้อน ซื้อขายหุ้นหรือตัดสินใจในการลงทุนธุรกิจต่างๆ ด้วยอารมณ์มากกว่าหลักการ

ตั้งสติเปิดใจให้กว้าง ในโลกแคบใบนี้ มองไกลตั้งเป้าหมายชัดเจนและหนักแน่น อย่างที่ Cathie Wood of ARK invest ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์นักวิเคราะห์การลงทุนอเมริกัน ย้ำไว้ว่า เราอย่ามองการขยับของราคาหุ้นระยะสั้น แต่ให้มองไปที่เป้าหมายห้าปีข้างหน้าครับ

ขณะเดียวกันก็ติดตามข่าวสารของบ้านเราจากอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะจากไทยรัฐออนไลน์ หรือ www.thairath.co.th เพียงเว็บเดียวก็รู้เรื่องเมืองไทยครบถ้วน

ยังตั้งใจไว้ว่าถ้ามีเหตุการณ์ใหญ่มากๆเกิดขึ้นในบ้านเราผมก็จะเขียนออกความคิดความเห็นร่วมแจมมาจากที่โน่นเลย

แต่เผอิญยังไม่มีอะไรใหญ่หลวงมากนัก ก็เลยเฉยๆเอาไว้เขียนแต่เรื่องราวของทางโน้นเป็นเรื่องหลัก

ต้องยอมรับว่าโลกเราทุกวันนี้แคบลงจริงๆไม่ว่าไปอยู่แห่งหนไหนขอให้เข้าอินเตอร์เน็ตได้ก็เหมือนอยู่ที่บ้านเรานี่เอง

อยากฟังวิทยุ อยากดูโทรทัศน์ อยากอ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์ก็สามารถกดอินเตอร์เน็ตแก้อยากไปได้ทุกอย่าง

แถมทุกวันนี้ยังมีระบบไลน์ส่งข้อความโต้ตอบผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกเวลาระหว่างเราที่อยู่ทางโน้นกับญาติมิตรที่อยู่บ้าน

หรือจะพูดคุยผ่านไลน์ก็ได้อีก โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไรเลย

โทรศัพท์มือถือก็เช่นกัน ผมไปซื้อซิมที่โน่นจ่ายไปไม่ถึง 100 เหรียญดีนัก สามารถโทร.ในสหรัฐฯอย่างไม่อั้นเป็นเวลา 30 วัน และโทร.กลับบ้านมาที่เบอร์ 02 หรือโทรศัพท์บ้านได้อย่างไม่อั้นในเวลา 30 วันเช่นกัน

สุ้มเสียงใช้ได้เลยครับ ผมยังโทรศัพท์มาเข้ารายการวิทยุ “สนทนากีฬากับจ่าแฉ่ง” ที่ FM 96 ที่ฝากให้หลานๆช่วยกันจัดแทนหลายต่อหลายครั้ง

ผมยังนึกว่าตอนอยู่นิวยอร์กจะลองทำตัวเหมือนอยู่เมืองไทย คือเขียนคอลัมน์เหะหะพาทีแบบอยู่บ้านโดยเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ของบ้านเราโดยอาศัยข้อมูลจากเว็บไซต์ทั้งของไทยรัฐและของเพื่อนๆฉบับอื่น

เสร็จแล้วก็จัดวิทยุทั้งรายการในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ให้เหมือนกับที่ผมจัดอยู่ในเมืองไทย

เพราะข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาอื่นๆทั้งของยุโรปและของบ้านเราก็หาได้จากอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว

แต่เผอิญเพื่อนๆทางโน้นไม่เปิดโอกาสให้ผมทดลอง เพราะมารับตัวตั้งแต่สายๆของทุกวัน พาไปเที่ยวโน่นดูนี่ และกินนั่นตลอด 6 วันที่ผมอยู่นิวยอร์ก โครงการทดลองของผมก็เลยต้องเลิกไปโดยปริยาย

ถึงกระนั้นผมก็ยังเชื่อว่า ถ้าจะทำจริงๆ...ทำได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับจากไอโฟนและไอแพดเพียง 2 เครื่องที่ผมหิ้วติดตัวไปด้วย

ครับ! ด้วยความสะดวกรวดเร็วของสื่อสารสมัยใหม่นี่เองที่ทำให้เกิดข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้แก่ข่าว ไปรษณีย์สหรัฐฯ จะเลิกส่งจดหมายในวันเสาร์

เหตุเพราะไปรษณีย์สหรัฐฯขาดทุนยับเยินเมื่อประชาชนหันมาใช้สื่อทันสมัยและเลิกส่งจดหมายไปอย่างฮวบฮาบ ส่งผลให้ U.S.Postal Service หรือการไปรษณีย์สหรัฐฯต้องปลดพนักงาน ต้องปิดที่ทำการไปหลายๆแห่ง รวมทั้งต้องประกาศเลิกส่งจดหมายวันเสาร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป

เป็นข่าวใหญ่ช็อกคนอเมริกัน เพราะไปรษณีย์สหรัฐฯไม่เคยหยุดส่งจดหมายในวันเสาร์เลยมากว่า 100 ปีแล้วกระมัง

ทำไงได้ล่ะครับ...โลกเราเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะทางด้านการสื่อสารคมนาคมต่างๆ

ไม่เพียงแต่ไปรษณีย์สหรัฐฯเท่านั้นที่เจอผลกระทบจากเทคโนโลยียุคใหม่ แม้ไปรษณีย์ไทยของเราก็ต้องเจออย่างแน่นอน โปรดเตรียมตัวหาทางหนีทีไล่เอาไว้เถิด