คอมพิวเตอร์ Computer คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้การทำงานที่มีความซับซ้อนขึ้น หรือมีปริมาณมากเสร็จลงได้อย่างถูกต้องภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว การทำงานของคอมพิวเตอร์ จะทำงานตามลำดับคำสั่งที่เก็บไว้ภายในหน่วยความจำและสามารถรับข้อมูลภายนอก คำนวณหรือเปรียบเทียบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ซึ่งสามารถเก็บไว้เพื่อนำไปใช้ต่อไป 1. HARDWARE (ฮาร์ดแวร์) หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์
1.
จอภาพ (MONITER เรียกว่า มอนิเตอร์) เป็นหน่วยแสดงผล ใช้แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากหน่วยประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือนปากของคนเราที่สามารถบอกข่าวสาร หรือพูดจากับคนอื่นได้รู้เรื่อง
1.
จุดกระพริบ (CURSOR) เป็นจุดที่บอกตำแหน่งที่รอรับคำสั่งจากผู้ใช้ ซึ่งจุดกระพริบจะอยู่ในสถานะใดนั้นขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้งาน โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในรูปของขีด ( | )
หลักการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์คือ จะต้องป้อนข้อมูลผ่าน หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) จากนั้นข้อมูลจะส่งผ่านเข้าสู่กระบวนการทำงานของ หน่วยประมวลผลกลางหรือที่เรียกว่า ซีพียู (CPU: Central Processing Unit) โดยจะทำงานร่วมกับ หน่วยความจำหลัก (Memory Unit) และ หน่วยความจำสำรอง (Secondary Memory Unit) ของระบบเพื่อประมวลผลคำสั่งและแสดงผลการทำงานออกทาง หน่วยแสดงผล (Output Unit) ดังภาพด้านล่าง
หน่วยรับข้อมูล หมายถึง อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการรับข้อมูลชนิดต่าง ๆ เข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ มีอุปกรณ์หลายชนิด ได้แก่ แป้นพิมพ์ , เมาส์ , สแกนเนอร์ เครื่องอ่านรหัสบาร์โค้ด , ไมโครโฟน และกล้องดิจิตอล เป็นต้น
หน่วยประมวลผล หมายถึง อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ประมวลผลคำสั่ง เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้ป้อนคำสั่งให้ โดยผ่านทางอุปกรณ์รับข้อมูล หน่วยประมวลผลหรือ หน่วยประมวลผลกลางของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ซีพียู (CPU: Central Processing Unit)
หน่วยควบคุมเป็นหน่วยที่ทำหน้าที่ประสานงาน และควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ หน่วยนี้ทำงานคล้ายกับสมองคนซึ่งควบคุมให้ระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานประสานกัน และยังทำหน้าที่ควบคุมให้อุปกรณ์รับข้อมูล ส่งข้อมูลไปที่หน่วยความจำ ติดต่อกับอุปกรณ์แสดงผลเพื่อสั่งให้นำข้อมูลจากหน่วยความจำไปยังอุปกรณ์แสดงผล โดยหน่วยควบคุมของคอมพิวเตอร์จะแปลความหมายของคำสั่งในโปรแกรมของผู้ใช้ และควบคุมให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานตามคำสั่งนั้น ๆ
หน่วยคำนวณและตรรกะเป็นหน่วยที่ทำหน้าที่คำนวณทางเลขคณิตได้แก่ การบวก ลบ คูณ หาร
และเปรียบเทียบทางตรรกะเพื่อทำการตัดสินใจ เช่น ทำการเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าปริมาณหนึ่ง น้อยกว่า เท่ากับ หรือ มากกว่า อีกปริมาณหนึ่ง แล้วส่งผลการเปรียบเทียบว่าจริงหรือเท็จไปยังหน่วยความจำเพื่อทำงานต่อไป ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในเงื่อนไข การทำงานของเอแอลยู คือ รับข้อมูลจากหน่วยความจำมาไว้ในที่เก็บชั่วคราวของเอแอลยูซึ่งเรียกว่า เรจิสเตอร์ (Register) เพื่อทำการคำนวณแล้วส่งผลลัพธ์กลับไปยังหน่วยความจำ
ทั้งนี้ในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ข้อมูลและคำสั่งจะอยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าแล้วส่งไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านระบบส่งถ่ายข้อมูลผ่านในที่เรียกว่า บัส (Bus)
หน่วยความจำ คือ หน่วยความจำที่ต่อกับหน่วยประมวลผลกลาง ซึ่งหน่วยประมวลผลกลางสามารถใช้งานได้โดยตรง หน่วยความจำชนิดนี้จะเก็บข้อมูลและชุดคำสั่งในระหว่างการประมวลผลและมีกระแสไฟฟ้า เมื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลในหน่วยความจำนี้จะหายไป ซึ่งหน่วยความจำนี้ มีความสำคัญมากในการทำงานร่วมกับซีพียู โดยทั่วไปแล้วหน่วยความจำแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ - หน่วยความจำที่ใช้พื้นที่สำหรับการประมวลผลของซีพียู เรียกว่า หน่วยความจำหลัก มีอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการทำงานคือ รอม (Read Only Memory : ROM) เป็นหน่วยความจำชนิดถาวรที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บรรจุในหน่วยความจำชนิดนี้จะยังคงอยู่แม้จะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไปแล้วก็ตาม และหน่วยความจำหลักอีกประเภทหนึ่งคือ แรม (Random Access Memory : RAM) เป็นหน่วยความจำหลักที่สามารถนำโปรแกรมและข้อมูลจากอุปกรณ์ภายนอกหรือหน่วยความจำสำรอง ซึ่งแตกต่างจากรอมคือสามารถเก็บข้อมูลได้เฉพาะเวลาที่มีไฟฟ้าเลี้ยงวงจรอยู่เท่านั้น หากปิดเครื่องข้อมูลจะหายไปทันที และข้อมูลจะกลับมาทำงานใหม่ก็ต่อเมื่อมีการเปิดเครื่องอีกครั้ง - หน่วยความจำที่ใช้บันทึกแฟ้มข้อมูลประเภทต่าง ๆ เรียกว่า หน่วยความจำสำรอง เช่น แผ่นบันทึก (diskette) ,ซีดีรอม (Compact Disk Read Only Memory : CD-ROM) , Flash Drive เป็นต้น
หน่วยแสดงผล หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลการทำงานของคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์นั้น ๆ เช่น การแสดงผลออกทางมอนิเตอร์หรือจอภาพ (Monitor) , การพิมพ์ข้อความออกทางเครื่องพิมพ์ (Printer) , การนำเสียงออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์โดยใช้ลำโพง (Speaker) หรือ หูฟัง (Headphone) , Projector เป็นต้น
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่เข้ามามีบทบาททั้งทางตรงและทางอ้อม ในการสร้างสนเทศที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เรา การที่เราจะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมโลกปัจจุบันที่สภาวการณ์ต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงเราจะต้องปรับตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น ซึ่งจำเป็นจะต้องแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ และสารสนเทศที่เหมาะสมมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในด้านต่าง ๆ ปัจจุบันนี้ระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทต่อมนุษย์เราแทบทุกด้าน ดังนี้
ในการดำรงชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวันมีการนำคอมพิวเตอร์ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยในการทำงานต่าง ๆ มากมาย เช่นใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเลคทรอนิคส์ทันสมัยนานาชนิด โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น จุดประสงค์เพื่อให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่มีบทบาททางด้านการศึกษา ทั้งในด้านการจัดการระบบการเรียนการสอน ในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ประถมศึกษา มัธยมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา เช่นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI: Computer Assisted Instruction) การสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทและมีความสำคัญต่อองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น การพิมพ์เอกสารต่าง ๆ หรือ การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการช่วยงานฝ่ายต่าง ๆ เช่น โปรแกรมการบริหารงานบุคคล โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลลูกค้า เป็นต้น
สารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน เช่น เราใช้อินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นแหล่งข้อมูล เป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้และข่าวสารต่าง ๆ สู่สังคม
มีการนำคอมพิวเตอร์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ทางการแพทย์มากมาย เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ การตรวจรักษา การทดลองต่าง ๆ ในห้องทดลอง เป็นต้น
การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างกว้างขวาง สะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด เช่น การส่งจดหมายอิเล็คทรอนิคส์ การสนทนาผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ในปัจจุบันเราใช้เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาพัฒนาทั้งในด้าน ภาพ เสียงทำให้มีความบันเทิงในด้านต่าง ๆ มากมายเช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือ คาราโอเกะ
พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
จากอดีตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หลอดสุญญากาศขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามากและอายุการใช้งานต่ำ เปลี่ยนมาใช้ทรานซิสเตอร์ที่ทำจากชิ้นซิลิคอนเล็ก ๆ ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำและผลิตได้จำนวนมาก ราคาถูก ต่อมาสามารถสร้างทรานซิสเตอร์จำนวนหลายแสนตัวบรรจุบนชิ้นซิลิคอนเล็ก ๆ เป็นวงจรรวมที่เรียกว่า ไมโครชิป (Microchip) และใช้ไมโครชิปเป็นชิ้นส่วนหลักที่ประกอบอยู่ในคอมพิวเตอร์ ทำให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลง 1. ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer)
2. สถานีงานวิศวกรรม (Engineering workstation) 3. มินิคอมพิวเตอร์ (Minicomputer) 4.
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) 5. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Supercomputer) หรือคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High performance computer)
1. กลุ่มฟังก์ชั่นคีย์ (FUNCTION KEYS) เป็นกลุ่มที่อำนวยความสะดวกในการสั่งงานหรือใช้ โปรแกรม
คือ คีย์ F1 – F12 โดยแต่ละคีย์จะบรรจุคำสั่งที่ใช้บ่อย ๆ เอาไว้ในแต่ละโปรแกรมคำสั่งในฟังก์ชันคีย์จะแตกต่างกันไป ซึ่งประกอบด้วยปุ่มต่าง ๆ ดังนี้
4. คีย์ตัวเลข (The Numeric Keypad) เป็นคีย์ที่ใช้สำหรับพิมพ์ตัวเลข ซึ่งจัดตำแหน่งคีย์คล้าย ๆ กับเครื่องคิดเลข เหมาะกับการป้อนข้อมูลที่เป็นตัวเลขล้วน ๆ เวลาจะใช้ต้องกด Num Lock Led ให้ กลุ่มตัวเลขทำหน้าที่ 2 สถานะ ถ้าไฟที่แถบสถานะของ Num Lock สว่างหมายถึง กดปุ่ม Num Lock แสดงว่าอยู่ในสถานะของการใช้กลุ่มตัวเลขจะอยู่ในสถานะของการใช้กลุ่มตัวเลข แต่ถ้าไฟที่แถบสถานะของ Num Lock ดับ หมายถึง กดปุ่ม Num Lock อีกครั้ง แสดงว่ากลุ่มตัวเลขจะอยู่ในสถานะของการเลื่อน Cursor 5. คีย์พิเศษสำหรับควบคุมการเลื่อน Cursor สำหรับคีย์รุ่นใหม่จะแยกคีย์ที่ใช้ควบคุม Cursor และคีย์ตัวเลขมาใช้ต่างหาก เพื่อความสะดวกเวลาใช้งานมีรายละเอียดดังนี้
|