หมายเหตุ: เราต้องการมอบเนื้อหาวิธีใช้ปัจจุบันในภาษาของคุณให้กับคุณโดยเร็วที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ หน้านี้ได้รับการแปลด้วยระบบอัตโนมัติ และอาจมีข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์หรือความไม่ถูกต้อง จุดประสงค์ของเราคือเพื่อให้เนื้อหานี้มีประโยชน์กับคุณ คุณแจ้งให้เราทราบว่าข้อมูลดังกล่าวมีประโยชน์ต่อคุณที่ด้านล่างของหน้านี้ได้หรือไม่ นี่คือ บทความภาษาอังกฤษ เพื่อให้ง่ายต่อการอ้างอิง ตารางต่อไปนี้แสดงรายการชนิดต่างๆ ของเอกสารที่ Word สามารถบันทึกได้ รูปแบบไฟล์ คำอธิบาย เอกสาร Word (.docx) เริ่มต้น รูปแบบเอกสารที่ยึดตาม XML สำหรับ Word 2008 สำหรับ Mac, Word for Mac 2011, 2016 Word for Mac, Word 2007 สำหรับ Windows, Word 2010 สำหรับ Windows, Word 2013 สำหรับ Windows และ 2016 Word สำหรับ Windows เอกสาร Word 97-2004 (.doc) รูปแบบเอกสารที่เข้ากันได้กับ Word 98 ผ่าน Word 2004 for Mac และ Word 97 ผ่าน Word 2003 สำหรับ Windows เทมเพลต Word (.dotx) บันทึกเอกสารเป็นเทมเพลตที่ใช้ XML ที่คุณสามารถใช้สำหรับเริ่มเอกสารใหม่ บันทึกเนื้อหาของเอกสารและการตั้งค่าเช่น สไตล์ เค้าโครงหน้า รายการข้อความอัตโนมัติ การกำหนดแป้มพิมพ์ลัดด้วยตนเอง และเมนูต่างๆ เทมเพลต Word 97-2004 (.dot) บันทึกเอกสารเป็นเทมเพลตที่คุณสามารถใช้สำหรับเริ่มเอกสารใหม่ บันทึกเนื้อหาของเอกสารและการตั้งค่าเช่น สไตล์ เค้าโครงหน้า รายการข้อความอัตโนมัติ การกำหนดแป้มพิมพ์ลัดด้วยตนเอง และเมนูต่างๆ รูปแบบเอกสารที่เข้ากันได้กับ Word 97 ผ่าน Word 2003 สำหรับ Windows และ Word 98 ผ่าน Word 2004 for Mac รูปแบบ Rich Text (.rtf) ส่งออกเนื้อหาของเอกสารและการจัดรูปแบบไปยังรูปแบบที่แอปพลิเคชันอื่นๆ สามารถอ่านและตีความได้ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมที่เข้ากันได้ของไมโครซอฟท์ ข้อความธรรมดา (.txt) ส่งออกเนื้อหาของเอกสารไปยังไฟล์ข้อความ และบันทึกข้อความโดยไม่มีการจัดรูปแบบ เลือกรูปแบบนี้ เฉพาะกรณีที่โปรแกรมปลายทางไม่สามารถอ่านรูปแบบไฟล์อื่นๆ ที่มีได้ ใช้ชุดอักขระของ Mac Extended ASCII เว็บเพจ (.htm) บันทึกเอกสารสำหรับแสดงบนเว็บ HTML เป็นค่าเริ่มต้นของรูปแบบเว็บ และสามารถแสดงผลโดยเบราว์เซอร์ของ Macintosh และ Windows ส่งออกเอกสารไปยังไฟล์ PDF ซึ่งมีรูปร่างเหมือนกันทั้งใน Macintosh และคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows เอกสาร Word ที่เปิดใช้งานแมโคร (.docm) รูปแบบเอกสารที่ยึดตาม XML รักษาโค้ดแมโคร VBA แมโคร VBA ที่ทำงานใน Word 2016 for Mac และ Word for Mac 2011 แต่จะไม่ทำงานใน Word 2008 เทมเพลต Word ที่เปิดใช้งานแมโคร (.dotm) บันทึกเอกสารเป็นแบบเทมเพลยึดตาม XML ที่รักษาโค้ดแมโคร VBA แมโคร VBA ที่ทำงานใน Word 2016 for Mac และ Word for Mac 2011 แต่จะไม่ทำงานใน Word 2008 เอกสาร XML ใน Word (.xml) ส่งออกเนื้อของหาของเอกสารไปยังไฟล์ XML แปลงการจัดรูปแบบทั้งหมดและคำสั่งข้อความเป็น XML เข้ากันได้กับ Word 2007 สำหรับ Windows เอกสาร XML ใน Word 2003 (.xml) ส่งออกเนื้อของหาของเอกสารไปยังไฟล์ XML แปลงการจัดรูปแบบทั้งหมดและคำสั่งข้อความเป็น XML เข้ากันได้กับ Word 2003 สำหรับ Windows เว็บเพจแบบไฟล์เดียว (.mht) บันทึกเอการสำหรับแสดงบนเว็บโดยการสร้างไฟล์เดี่ยวที่รวมองค์ประกอบของหน้าทั้งหมด เช่น กราฟิกต่างๆ ใช้มาตรฐานอินเทอร์เนต MIME HTML สเตชันเนอรีเอกสาร Word (.doc) บันทึกเอกสารพร้อมตั้งค่าสถานะตัวค้นหาไปที่แผงสเตชันเนอรี ซึ่งเมื่อเปิดเอกสาร ไฟล์จะเปิดเป็นเอกสารใหม่ หรือเอกสารที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ สร้างพจนานุกรมตัวตรวจการสะกดแบบกำหนดเอง บันทึกเนื้อหาของเอกสารเป็นไฟล์พจนานุกรมเพื่อจัดเก็บคำ และคำเฉพาะที่ไม่ได้รวมอยู่ในพจนานุกรมหลัก พจนานุกรมที่ไม่รวมตัวตรวจการสะกด บันทึกเนื้อหาของเป็นสารเป็นไฟล์พจนานุกรมเพื่อระบุการสะกดที่ต้องการของคำที่ถูกสะกดถูกต้อง เลือกตัวเลือกนี้เพื่อบันทึกคำ เช่นคำว่า "theatre" ไปยังพจนานุกรมแยก ซึ่งทำให้คำนี้จะไม่ถูกทำเครื่องหมายเป็นคำสะกดผิด Word 4.0-6.0/95 ความเข้ากันได้ (.rtf) รูปแบบ RTF นี้สามารถเข้ากันได้กับ Word 4.0 ผ่าน Word 6.0 for Mac เช่นเดียวกัน Word 6.0 และ Word 95 สำหรับ Windows Office Theme (.thmx) บันทึกฟอนต์ แบบแผนชุดสี และพื้นหลังของไฟล์ เพื่อให้คุณนำไปใช้เป็นธีมใหม่ ถ้าต้องการนำธีมที่ใช้ในเอกสารหนึ่งไปใช้เอกสารอื่น บนแท็บ หน้าแรก ภายใต้ ธีม ให้คลิก ค้นหาธีม ถ้าต้องการบันทึกธีมที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นธีมใหม่ บนแท็บ หน้าแรก ภายใต้ ธีม ให้คลิก บันทึกธีม E-Book (ภาษาอ่านออกเสียงว่า "อีบุ๊ค") หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือหนังสือดิจิทัล (แล้วแต่จะเรียก) ถือว่าเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศมาหลายปีแล้ว ส่วนในประเทศไทยตอนนี้เราก็รู้สึกว่ามันได้รับความเพิ่มขึ้นนะ (ผู้เขียน : ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการที่นิยายสไตล์ Light novel กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราหรือเปล่า) ก็เลยอยากจะพูดถึงนามสกุลไฟล์ของ E-Book ที่นิยมใช้งานกันสักหน่อย เพราะไฟล์ E-Book นี่ก็มีให้เลือกใช้งานกันอยู่หลากหลายนามสกุล แต่อย่าเพิ่งตกใจ เพราะมันไม่ได้มีอะไรเข้าใจยาก บทความเกี่ยวกับ Ebook อื่นๆ ความแตกต่างเรื่องนามสกุลไฟล์ E-Book จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้อ่านสักเท่าไหร่ หากเทียบกับไฟล์เพลงอย่าง MP3 ที่เราสามารถนำไปเล่นกับเครื่องเล่นเพลงรุ่นไหนก็ได้ แต่ไฟล์ E-Book ไม่ใช่แบบนั้น มันมีเรื่องกรรมสิทธิ์, รูปแบบการใช้, เครื่องอ่านที่รองรับ ฯลฯ ในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึงข้อดี-ข้อเสีย ของไฟล์ E-Book ในแต่ละแบบให้เข้าใจกันมากขึ้นครับ คุณผู้อ่านสามารถข้ามไปอ่านเนื้อหาที่ต้องการจากเมนูลัด ที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลย E-Book คืออะไร ?ก่อนจะไปถึงนามสกุลไฟล์ เรามาทำความรู้จักกับ E-Book กันก่อน ว่ามันคืออะไร? E-Book หมายถึง หนังสือทุกชนิดที่สามารถอ่านได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน, Kindle ฯลฯ Interactive E-BookE-Book ส่วนใหญ่ก็ประกอบด้วยข้อความ และภาพประกอบเหมือนหนังสือธรรมดาทั่วไป แต่ก็มีการพัฒนาหนังสือที่สามารถตอบโต้กับผู้อ่านได้ขึ้นมาด้วย เรียกว่า "Interactive E-Books" ที่ผู้สร้างใส่ลูกเล่นเข้าไป เช่น
ไฟล์ ePUB
ePUB เป็นไฟล์ E-Book ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด เริ่มพัฒนาขึ้นมาโดยกลุ่ม International Digital Publishing Forum ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ World Wide Web Consortium องค์กรระหว่างประเทศทำหน้าที่จัดระบบมาตรฐานที่ใช้งานบนเวิลด์ไวด์เว็บแล้ว โดย ePUB ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานแทนไฟล์มาตรฐานเดิมอย่าง Open E-Book format (OEB) ด้วยความที่ ePUB เป็นมาตรฐานที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี มันจึงกลายเป็นไฟล์ยอดนิยมในการทำ E-Book ไปอย่างง่ายดาย ePUB มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เวอร์ชันล่าสุดจะเป็น ePUB 3.2 ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) โดยมีความสามารถที่น่าสนใจดังนี้
e-Reader (เครื่องอ่าน E-Book) ที่รองรับ ePUBe-Reader ทุกรุ่นในท้องตลาด รวมไปถึงคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต สามารถอ่านไฟล์ ePUB (ผ่านแอปพลิเคชัน) ได้อยู่แล้ว ยกเว้นก็แต่ Kindle ของ Amazon ที่ไม่สามารถเปิด ePUB โดยตรงได้ แต่เราสามารถใช้โปรแกรมอย่างเช่น Calibre ในการแปลง ePUB เป็น MOBI ที่ Kindle สามารถเปิดได้ง่ายๆ ครับ ไฟล์ MOBIภาพจาก https://www.todoereaders.com/mobipocket-creator.html ที่จริงแล้วไฟล์ตระกูล MOBI กับ ePUB นั้นไม่ค่อยแตกต่างกันมากเท่าไหร่ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้แทนไฟล์ OEB ที่ตกรุ่น พัฒนาขึ้นมาในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) โดยบริษัท Mobipocket เพื่อใช้สำหรับเปิดอ่านด้วยโปรแกรม Mobipocket Reader software ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Amazon ได้ซื้อกิจการ Mobipocket มาครอบครอง ก่อนจะปิดเว็บไซต์ และเซิร์ฟเวอร์ลงในปี ค.ศ. 2016 (พ.ศ. 2559) อย่างไรก็ตาม ไฟล์นามสกุล MOBI ก็ยังถูกใช้งานอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ คุณสมบัติการทำงานไม่แตกต่างจาก ePUB มากนัก โดยรวมก็ทำงานคล้ายๆ กัน ความสามารถที่น่าสนใจของ MOBI มีดังนี้
อย่างไรก็ตาม MOBI มีข้อจำกัดตรงอนุญาตให้ไฟล์รูปมีขนาดได้ไม่เกิน 64K หรือพูดอีกนัยหนึ่ง คือ ไฟล์รูปจะมีขนาดเล็กมาก ไม่ก็ความละเอียดต่ำ ดังนั้น หากนำไฟล์ MOB ที่มีภาพประกอบ มาเปิดดูบนแท็บเล็ตที่มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ล่ะก็ ภาพในหนังสือก็จะแสดงผลได้ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก e-Reader (เครื่องอ่าน E-Book) ที่รองรับ MOBIe-Reader ส่วนใหญ่ในท้องตลาด ที่เปิด ePUB ได้ ก็มักจะเปิด MOBI ได้อยู่แล้ว คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ก็มีแอปพลิเคชันสำหรับเปิดได้เช่นกัน ไฟล์ AZW และ ไฟล์ AZW3ภาพจาก https://www.iosappweekly.com/open-azw-azw3-book-files-iphone-ipad/ AZW และ AZW3 เป็นไฟล์หนังสือ E-Book ที่ Amazon พัฒนาขึ้นมาใช้เอง โดย AZW เป็นไฟล์รุ่นเก่าที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Kindle เครื่อง e-Reader ของ Amazon ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) ส่วน AZW3 (มีอีกชื่อเรียกคือ KF8) เปิดตัวในปี ค.ศ. 2011 (พ.ศ. 2550) พร้อมกับ Kindle Fire ในช่วงแรก AZW3 จะใช้งานได้เฉพาะบน Kindle Fire เท่านั้น แต่ต่อมาก็ขยายการสนับสนุนใช้ได้กับ Kindle ทุกรุ่น หากเทียบ AZW3 กับ MOBI แล้ว AZW3 จะมีลูกเล่นการทำงานที่หลากหลายกว่า ทำให้มันได้รับความนิยมในการใช้งานแทน MOBI มากขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง โครงสร้างการทำงานของ AZW3 มีความคล้ายคลึงกับ MOBI มาก ทำให้สันนิษฐานกันว่า ที่ Amazon เข้าซื้อกิจการ Mobipocket ก็เพื่อเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างไฟล์ AZW นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ไฟล์ AZW มีจุดที่แตกต่างจาก MOBI อยู่เรื่องหนึ่ง คือ มันรองรับการเล่นวิดีโอ และเสียงด้วย e-Reader (เครื่องอ่าน E-Book) ที่รองรับ AZW และ AZW3ด้วยความที่ AZW และ AZW3 พัฒนาโดย Amazon ขึ้นมาใช้งานกับ Kindle ทำให้เครื่อง e-Reader ยี่ห้ออื่นๆ เช่น Nook, Kobo, Sony ฯลฯ ไม่สามารถเปิดไฟล์นามสกุลนี้ได้ อย่างไรก็ตาม บน Android และ iOS มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่สามารถเปิดอ่านไฟล์ AZW และ AZW3 หรือในคอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้ Calibre หรือ Alfa เปิดได้เช่นกัน ไฟล์ IBAภาพจาก https://support.apple.com/ibooks-author IBA เป็นไฟล์ E-Book ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแอปพลิเคชัน iBooks Author ในทางเทคนิคแล้ว ไฟล์ IBA มีโครงสร้างที่แทบจะไม่แตกต่างกับไฟล์ ePUB เลย อย่างไรก็ตาม มันมีคุณสมบัติ Custom widget code เพื่อใส่ลูกเล่นพิเศษลงไปในหนังสือ และนั่นเป็นสาเหตุที่มันอ่านได้บนอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น ทั้งนี้ IBA ใช้กับไฟล์หนังสือที่สร้างด้วย iBooks Author เท่านั้น หากเป็นไฟล์ E-Book แบบธรรมดาที่ซื้อจาก iTunes store เราก็จะได้เป็นไฟล์ ePUB (ที่ถูกเข้ารหัส DRM ไว้) e-Reader (เครื่องอ่าน E-Book) ที่รองรับ IBAไฟล์ IBA สามารถอ่านได้ผ่าน Mac, iPhone และ iPad ไฟล์ PDFภาพจาก https://pixabay.com/images/id-354352/ หากพูดถึงไฟล์ E-Book แล้วไม่ได้พูดถึงไฟล์เอกสารตระกูล PDF รายการนี้ก็คงไม่สมบูรณ์เป็นแน่แท้ เพราะมันเป็นไฟล์ยอดนิยมที่แพร่หลายมานานมาก และ E-Book จำนวนมากก็อยู่ในรูปแบบของ E-Book ข้อเสียของ PDF คือ ไม่รองรอบการทำ Reflowable document ทำให้การแสดงผลจะตรึงรูปแบบตายตัวตามขนาดหน้าจอแสดงผล หากเอาไฟล์ PDF ขนาดใหญ่ไปเปิดดูบน e-Reader ที่มีจอขนาดเล็ก มันก็จะอ่านยากมากเลยล่ะครับ ส่วนใหญ่ E-Book ที่สร้างด้วย PDF ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นหนังสือการ์ตูนที่เป็นภาพทุกหน้า แต่หากเป็นตัวหนังสือล้วนๆ การทำเป็น PDF จะนำไปใช้งานบน e-Reader ได้ไม่สะดวกเท่าไหร่ e-Reader (เครื่องอ่าน E-Book) ที่รองรับ PDFไฟล์ PDF สามารถเปิดอ่านได้เกือบทุกอุปกรณ์ แต่ e-Reader ที่ใช้หน้าจอ e-Ink แม้จะเปิดได้ แต่การแสดงผลก็จะทำได้ไม่ค่อยดีนัก อย่างผู้เขียนเอง ถ้าจะอ่าน E-Book ที่เป็น PDF ก็จะเลือกอ่านผ่าน iPad ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ เพราะเปิดอ่านบน Kindle แล้วพบว่าอ่านยากเกินไป |