หากเพื่อนๆนั้นกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเมนูไอคอนต่างๆบนแถบ Task bar หายไป เช่น ไอคอนลำโพงหาย, ไอคอนแบตเตอรี่หาย เป็นต้น ไม่ต้องตกใจครับ เพราะมันสามารถแก้ไขได้ไม่ยากอย่างที่คิด ซึ่งสาเหตุที่ไอคอนเหล่านั้นหายไปอาจจะเกิดจากการตั้งค่าการแสดงไอคอนของ Taskbar ได้ถูกไวรัสหรือถูกตัวเราเองเปลี่ยนแปลงไปแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง ซึ่งวิธีการเอาเหล่าไปคอนต่างๆบน Taskbar กลับมามีขั้นตอนวิธี ดังต่อไปนี้เลยครับ Show
ขั้นตอนที่ 1 : คลิกขวาที่แถบ Taskbar เลือกเมนู Properties ขั้นตอนที่ 2 : เราจะเข้าสู่หน้าการตั้งค่าของเหล่า Taskbar และ ระบบ Nevigation ต่างๆของ Windows ขั้นตอนที่ 3 : เมื่อถึงตรงนี้ให้เราสังเกตุหาไอคอนลำโพงของเรา แล้วดูค่า Behaviors ของมันว่าเป็นค่า Show icon and otification รึปล่าว หากไม่เป็นให้เปลี่ยนแล้วทำการกด OK ไปก่อน 1 ครั้ง แล้วลองสังเกตุว่าไอคอนลำโพงที่ Taskbar ของเราขึ้นมารึยัง ? * หากยังไม่ขึ้นให้เรากดต่อไปที่เมนู Turn system icons on or off ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อเราคลิกมากจากเมนู Turn system icons on or off เราจะพบหน้าต่างการตั้งค่า System icons ที่เป็นหน้าต่างตั้งค่าการแสดงไอคอนต่างๆบน Taskbar ของเรา โดยเราสามารถเลือกโชวไอคอนที่ต้องการได้โดยการเปลี่ยนค่า Behaviors ให้เป็น On หรือซ่อนไอคอนได้โดยการเปลี่ยนค่า Behaviors ให้เป็น Off นั่นเอง เพียงเท่านี้ ไอคอนต่างๆ ที่หายไป อย่าางเช่น ลำโพง หรือ โหมดพลังงาน ก็จะปรากฏขึ้นมาเหมือนเดิมแล้วล่ะครับ TLMS Admin รวม 3 วิธีแก้ Taskbar หรือแถบ Start Menu ใน Windows 11 ไม่ทำงาน ค้าง ทำอะไรไม่ได้เลย
รวม 3 วิธีแก้ Taskbar หรือแถบ Start Menu ใน Windows 11 ไม่ทำงาน ค้าง ทำอะไรไม่ได้เลย
ถ้าคุณคือผู้ใช้วินโดวส์ที่มักมีปัญหากับ ทาสก์บาร์ (Taskbar) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่ไอคอนรก แถบอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ไปจนถึงการที่ทาสก์บาร์ชอบเอ๋อ หรือค้างไปดื้อ ๆ จนทำให้ต้องรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์กัน เรามีวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้นมาฝากกัน 1. ปัญหาแถบทาสก์บาร์รกเกินไป (Too is too cluttered)แถบทาสก์บาร์มีเมนูฟังก์ชันต่าง ๆ ให้ใช้งานอยู่เยอะมาก แต่เราก็สามารถปิดการแสดงผลได้ง่าย ๆ ด้วยการ คลิกขวาที่ "แถบทาสก์บาร์" และเลือกเปิดตัวเลือกต่าง ๆ ที่เราตกมาให้ดู ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีไอคอนอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นอยู่ที่ด้านขวาสุดของแถบด้านข้างด้วยเหมือนกัน
เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/tag/5-steps-fix-windows-10-taskbar-issues/ คราวนี้คุณก็จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับไอคอนแอปที่คุณใช้ตลอดเวลาแล้วล่ะ 2. ทาสก์บาร์ค้าง ? ลองรีสตาร์ทโพรเซส Explorer.exe ดู(Taskbar is not responding ? Try to restart the Process Explorer)วิธีแก้ไขแบบเร่งด่วนอย่างแรกเมื่อคุณมีปัญหากับทาสก์บาร์ใน Windows คือการรีสตาร์ท "โพรเซส explorer.exe" ใหม่ เพราะโพรเซสดังกล่าวควบคุม Windows Shell ที่มีกระบวนการทำงานของโปรแกรม File Explorer รวมไปถึงทาสก์บาร์ และ เมนูสตาร์ท (Start Menu) ในนี้ด้วย ซึ่งการรีสตาร์ทจะช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆน้อย ๆ เช่น ทาสก์บาร์ไม่ทำงานได้ เป็นต้น วิธีการรีสตาร์ทโพรเซส Explorer.exe
คุณจะเห็นว่าทาสก์บาร์นั้นหายไปแวบหนึ่ง แล้วกลับมาปรากฎอีกครั้ง ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมันกลับมาอีกครั้ง คุณก็จะสามารถใช้งานดังเดิมแล้ว แต่ถ้ามันยังไม่เหมือนเดิม ให้ลองออกจากระบบแล้วล็อกอินกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง สุดท้าย ถ้ายังไม่ได้ผล ก็ลองรีสตาร์ทเครื่องดู 3. แก้ปัญหาทาสก์บาร์ค้างด้วย Powershell(Fixing frozen taskbar with Powershell)ถ้าทำแบบข้อสองแล้วยังไม่สามารถคลิกหรือใช้การอะไรบนทาสก์บาร์ได้ อาจต้องลองใช้งาน PowerShell ดู โดยขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อนอะไรมาก และไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่งที่ไปวุ่นวายกับระบบมากนัก จึงไม่ต้องกังวลว่าระบบจะเสียหาย
วิธีเรียกใช้งาน PowerShell
หลังจากนั้นทาสก์บาร์ก็น่าจะกลับคืนสู่สภาพปกติแล้วล่ะ เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/tag/5-steps-fix-windows-10-taskbar-issues/ แต่ถ้าหากว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไร มันก็ไม่กลับมาเป็นปกติสักที คราวนี้ก็ถึงคิวต้องลบแอปพลิเคชัน Windows 10 ทั้งหมด รวมไปถึง Microsoft Store ออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว ถ้าจะใช้วิธีนี้ ก็อย่าลืมตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องแอปอะไรจากร้านค้าแล้วนะ หากตัดสินใจจะใช้วิธีนี้จริง ๆ ให้จัดการเรียก PowerShell ขึ้นมาอีกครั้ง ใส่คำสั่งด้านล่าง แล้วกด "ปุ่ม Enter"
หลังจากนั้นให้จัดการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์อีกครั้งเป็นอันเสร็จ 4. ตรวจสอบไดร์เวอร์ และการอัปเดตของ Windows(Check for a Driver and Windows Updates)การตรวจสอบไดร์เวอร์ และอัปเดตของ ระบบปฏิบัติการ Windows ถือเป็นวิธีการที่ค่อนข้างครอบคลุมปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ของคุณ รวมถึงปัญหาเรื่องทาสก์บาร์ด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งการที่ทาสก์บาร์มีอาการผิดปกติ อาจเป็นเพราะไดร์เวอร์ที่ตกรุ่นแล้วก็เป็นได้ โดยเฉพาะไดร์เวอร์ด้านที่เกี่ยวกับการแสดงผล (Graphic Display Driver) เพราะฉะนั้น การลองอัปเดตไดร์เวอร์ดูก็ไม่เสียหาย เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/tag/5-steps-fix-windows-10-taskbar-issues/ และอย่าลืม ตรวจสอบการอัปเดตของ Windows Updates โดยไปที่ "เมนู Settings" → "เมนู Update & Security" → "เมนู Windows Update" เพราะบางครั้ง แพทช์ใหม่ ๆ ของ Windows ก็สามารถช่วยเคลียร์ปัญหาแปลก ๆ บางอย่าง เช่นเรื่องทาสก์บาร์ไม่ทำงานได้ด้วย 5. สั่งซ่อนทาสก์บาร์อัตโนมัติแล้ว แต่ไม่ยอมซ่อน(Taskbar is not automatically hiding)เมื่อคุณเปิดฟังก์ชันให้ทาสก์บาร์ซ่อนอัตโนมัติไว้ แต่มันกลับไม่ยอมทำงาน รีสตาร์ทโพรเซสก็แล้วก็ยังไม่ได้ผล หรือปัญหาที่มีก็ยังเกิดบ่อย ๆ เหมือนเดิม ให้ลองวิธีต่อไปนี้ดู ขั้นแรก ตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าเปิดฟังก์ชันซ่อนอัตโนมัติไว้แล้วจริง ๆ โดย
เพราะบางครั้ง เพียงแต่ปิดแล้วเปิดใช้ฟังก์ชันมัน ก็สามารถแก้อาการเอ๋อไม่ทำงานได้แล้ว เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/tag/5-steps-fix-windows-10-taskbar-issues/ หนึ่งในสาเหตุที่พบมากที่สุดในเวลาที่ฟังก์ชันซ่อนทาสก์บาร์อัตโนมัติไม่ทำงาน คือมีบางแอปที่ต้องการให้คุณไปดูการแจ้งเตือนจากมันสักหน่อย เช่น บางแอปที่มีกะพริบแจ้งเตือนที่ไอคอนแอปฯ แต่ก็ไม่ได้เป็นตลอดซะทีเดียว ถ้าเกิดว่าทาสก์บาร์ยังค้างอยู่อีก ให้ลองตรวจสอบแอปต่าง ๆ ที่เปิดใช้งานไว้ว่า มีข้อความแจ้ง Errors ใดใดหรือแจ้งเตือนไหนเด้งขึ้นมาหรือเปล่า เช่น แอปแชทที่เพิ่งได้รับข้อความใหม่ หรือเวลาที่เว็บเบราว์เซอร์มีแจ้งเตือนจากหน้าเว็บที่เข้าไว้ เป็นต้น ถ้าเช็คแล้วไม่เจออะไรเป็นพิเศษ ให้ลองไปดูที่แอปพลิเคชัน ที่อยู่ในถาดระบบ (System Tray) หนึ่งในโปรแกรมเหล่านั้นอาจทำงานอยู่เบื้องหลัง แต่แอบเรียกร้องความสนใจอยู่เงียบ ๆ ก็เป็นได้ ซึ่งถ้าหากคุณเจอปัญหาจำพวกการแจ้งเตือนเป็นประจำ ให้ลองปรับการตั้งค่าของ Windows Notifications ดู โดย
เครดิตภาพ : https://www.makeuseof.com/tag/5-steps-fix-windows-10-taskbar-issues/ 6. ไอคอนบนทาสก์บาร์หายไป (Missing Taskbar Icons)หากไอคอนบนทาสก์บาร์และไอคอนในถาดระบบหายไปจากมุมขวาล่าง แถมยังไม่โชว์นาฬิกาและไอคอนอื่น ๆ ที่ควรจะมีด้วย ก็คงจะต้องใช้คำสั่งผ่าน Windows PowerShell อันเป็นวิธีแก้ปัญหาสุดคลาสสิกในเวลาที่การแก้ไขปัญหาแบบภายนอกทั่วไปไม่สามารถทำได้
ถ้าใช้โปรแกรมตรวจสอบไฟล์ระบบแล้วยังแก้ไขไม่ได้ ให้ลองใช้คำสั่งด้านล่างเพื่อเรียก โปรแกรม Disk Image Servicing and Management (DISM) แล้วรีสตาร์ทเครื่องดู คราวนี้ก็น่าจะกลับมาแล้วล่ะนะ
7. วิธีแก้ไขไม่ให้ทาสก์บาร์เคลื่อนที่(How to fix Windows Taskbar not to move around ?)ถ้าหากทาสก์บาร์ของคุณชอบเลื่อนไปเลื่อนมาเวลาที่คลิก เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะปลดล็อกทาสก์บาร์เอาไว้ แก้ไขได้ง่าย ๆ โดย
เมื่อเปิดการล็อกทาสก์บาร์เอาไว้แล้ว ทีนี้ ทาสก์บาร์ก็จะไม่เคลื่อนที่ไปไหนแล้วล่ะ 8. ลองคืนค่าระบบ หรือสร้างผู้ใช้ใหม่(Try to use system restore or create a new user account)ลองแก้ไขด้วยวิธีต่าง ๆ ข้างบนทั้งหมดทั้งมวลแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ก็เหลือแต่วิธีการขั้นเด็ดขาดอย่าง การคืนค่าระบบ หรือ System Restore กันแล้วล่ะ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าได้สำรองข้อมูลจุดคืนค่า (Backup Restore Point) เอาไว้หรือเปล่า หรือกังวลว่าเมื่อคืนค่าแล้ว ข้อมูลสำคัญจะหายไป มีอีกวิธีที่พอช่วยได้ก็คือการสร้างผู้ใช้ใหม่ขึ้นมา ทำให้ข้อมูลไม่หาย แต่ก็ต้องย้ายไปใช้งานในยูสเซอร์ใหม่ด้วยล่ะนะ ซึ่งก็อาจจะทำให้หาไฟล์ไม่สะดวกอยู่บ้าง โดยเฉพาะคนที่ชอบเซฟงานหรือไฟล์ต่าง ๆ ไว้ใน Documents, Pictures, Videos, หรือโฟลเดอร์อื่น ๆ ที่จัดเป็นโฟลเดอร์เฉพาะของผู้ใช้งานนั้น ๆ |