อุตสาหกรรมยานยนต์อาศัยกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อผลิตรถยนต์ เพราะเหตุใด

ปัจจุบันเทคโนโลยี ยานยนต์ไร้คนขับ หรือ Autonomous Car เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาด้านพลังงานน้ำมัน ความต้องการใช้พลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค ขณะนี้มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก อาทิ Tesla, Apple, Google กำลังแข่งขันกันพัฒนาระบบ โดยเริ่มมีการผลิตยานยนต์ไร้คนขับออกมาใช้บ้างแล้ว ซึ่งแนวโน้มน่าจะมีการผลิตเข้าสู่ตลาดโลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

การขับขี่ระบบอัตโนมัติมีข้อดีทั้งช่วยลดการพึ่งพามนุษย์ในการใช้งาน มีความแม่นยำสูง แต่ทั้งนี้ระบบอัตโนมัติก็ต้องผ่านการเรียนรู้ฟังก์ชันต่างๆ เพื่อให้ระบบอัตโนมัติมีความสมบูรณ์มากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมยานพาหนะไร้คนขับในปัจจุบัน ยังคงติดอุปสรรคในด้านการยอมรับจากสังคมในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากยังคงมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการทดสอบ Autonomous Vehicles อยู่เป็นระยะๆ เราลองมาดูกันดีกว่าว่าเทคโนโลยีของรถยนต์ไร้คนขับมีอะไรบ้าง

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์Facebook bangkokbanksme 

อุตสาหกรรมยานยนต์อาศัยกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อผลิตรถยนต์ เพราะเหตุใด

เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลักคือ

1. Computer Vision

ระบบที่ทำหน้าที่เป็นตาและหูให้กับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมเมื่อรถวิ่ง

2. Deep Learning

ระบบประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ ทำหน้าที่เหมือนสมองของรถยนต์ไร้คนขับ เป็นระบบที่ทำให้รถยนต์อัตโนมัติสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง จากการประมวลผลข้อมูลที่รับมาจากระบบ Computer Vision

3. Robotic

ระบบที่เชื่อมต่อระบบประมวลผลส่วนกลางเข้ากับระบบเครื่องจักรต่างๆ ในตัวรถ โดยทำหน้าที่เสมือนเส้นประสาทที่เชื่อมต่อสมองของมนุษย์เข้ากับแขนขาและส่วนต่างๆ ของร่างกาย

4. Navigation

ระบบแผนที่ ซึ่งประกอบด้วยระบบการระบุตำแหน่งของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจากดาวเทียม และระบบแผนที่เสมือนจริงที่เก็บรวบรวมข้อมูลในคลังข้อมูลดิจิทัล ทั้งนี้ข้อมูลที่เก็บคือข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งของรถบนถนน เช่น ตำแหน่งของไฟจราจร ตำแหน่งทางม้าลาย ป้ายสัญญาณห้ามเลี้ยวขวา ความกว้างของเลนถนน รวมถึงความเร็วสูงสุดที่กฎหมายอนุญาตให้รถวิ่งได้ในถนนแต่ละเส้น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะใช้ระบบแผนที่ซึ่งประมวลผลร่วมกับระบบ Sensor เพื่อเพิ่มความถูกต้องและแม่นยำในการตัดสินใจ

ระดับของรถยนต์ไร้คนขับ

The society of automotive engineering (SAE) หรือ คณะกรรมการวิศวกรรมยานยนต์ได้แบ่งการขับเคลื่อนอัตโนมัติเป็น 6 ระดับ ดังนี้

ระดับ 0เป็นระบบที่ใช้ในการบังคับและควบคุมด้วยมนุษย์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบคันเร่งเหยียบเบรก ดั่งเช่น รถยนต์สมัยก่อนที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำในการขับขี่

ระดับ 1 ผู้ช่วยในการขับเคลื่อน เป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นผู้ช่วยในการขับเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเข็มบอกความเร็วว่า ขับที่ความเร็วเท่าไหร่ ตลอดจนควบคุมความเร็วของตัวยานพาหนะ

ระดับ 2 ระบบอัตโนมัติบางส่วน จะเป็นการควบคุมระบบอัตโนมัติในการบังคับพวงมาลัยและความเร่ง โดยที่มนุษย์นั้นสั่งการจากระบบหน้าจอเป็นบางครั้ง

ระดับ 3 ระบบอัตโนมัติสามารถขับเคลื่อนไปได้ในระยะไกล ในจุดนี้ระบบอัตโนมัติจะมีความสามารถในการตรวจจับสิ่งแวดล้อม และสามารถบังคับควบคุมยานพาหนะนั้นได้ในระยะทางที่ไกลเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าระดับ 2

ระดับ 4 ระบบอัตโนมัติระดับสูง ยานพาหนะนั้นจะสามารถบังคับขับเคลื่อนและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใต้สภาวะที่เกิดขึ้นใน ณ ขณะที่ยานหานะเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นหลบหลีกสิ่งกีดขวาง มีรถเลี้ยวออกมาจากซอย อีกทั้งเตือนถึงความเร็วที่มากจนเกินไปในขณะขับขี่ โดยที่มนุษย์นั้นมีส่วนในการบังคับควบคุมนั้นน้อยมากๆ หรือแทบจะไม่ต้องบังคับเลย

ระดับ 5ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ยานพาหนะสามารถเคลื่อนที่ไปตามท้องถนนและวิเคราะห์สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ในแต่ละเงื่อนไขด้วยตัวเองในระหว่างยานพาหนะเคลื่อนที่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามนุษย์

ณ ปัจจุบัน การขับเคลื่อนอัตโนมัติในอุตสาหกรรมยานยนต์ยังอยู่ระดับ 1 เท่านั้น โดยที่มีอุปกรณ์ติดตั้งเสริมที่เรียกว่า การขับเคลื่อนผู้ช่วย หรือ Driver Assistance ซึ่งจะมีรายละเอียดอุปกรณ์ และเซนเซอร์ที่นิยมนำมาใช้กันในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก

ประโยชน์ของรถยนต์ไร้คนขับ

ผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับเชื่อว่าประโยชน์สูงสุด ก็คือลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งมักเกิดจากมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถแบ่งเบาภาระในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมักมีอุปสรรคในการขับรถ เนื่องจากข้อจำกัดทางร่างกาย และทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนได้ตามกฎจราจร การสัญจรสะดวก การจราจรไม่ติดขัด เพราะรถทุกคันสามารถขับเคลื่อนได้อย่างเป็นระเบียบด้วยระบบไร้คนขับ ทั้งนี้ยังช่วยให้คนพิการ เช่น คนพิการทางสายตาสามารถใช้รถยนต์ได้ง่ายและปลอดภัย

อุตสาหกรรมยานยนต์อาศัยกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อผลิตรถยนต์ เพราะเหตุใด

การเตรียมตัวเพื่อรถยนต์ไร้คนขับสำหรับประเทศไทย

1. ศักยภาพของรถยนต์ไร้คนขับกับประเทศไทย

ประเทศส่วนใหญ่ที่พร้อมใช้งานรถยนต์ไร้คนขับเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งมีความพร้อมในด้านต่างๆ มากกว่าไทย จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไร้คนขับประกอบด้วยเซนเซอร์จำนวนมากที่ช่วยการวิเคราะห์สถานการณ์รอบๆ ข้าง สำหรับประเทศไทยถ้าพูดถึงรถยนต์ไร้คนขับถือว่าเป็นเรื่องที่ใหม่มากๆ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธเทคโนโลยีนี้ได้ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวให้ทันเทคโนโลยีนี้

2. ความพร้อมด้านสภาพแวดล้อม

แน่นอนว่ารถยนต์ไร้คนขับต้องวิ่งบนถนนที่มีลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รวมถึงต้องขับขี่บนสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์และป้ายจราจรที่ไม่ชัดเจน รวมถึงสภาพแวดล้อมอื่นๆ เช่น สัตว์เลี้ยงบนถนน คนขับมอเตอร์ไซค์ สภาพแวดล้อมแบบนี้อาจทำให้รถยนต์ไร้คนขับไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

3. ความพร้อมด้านกฎหมาย

แน่นอนว่ารถยนต์ไร้คนขับต้องถูกพิจารณาเพื่อให้มีกฎหมายรองรับเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เช่น ถ้ารถยนต์ไร้คนขับเกิดอุบัติเหตุ ในทางกฎหมายแล้วคนที่ต้องรับผิดชอบต้องเป็นเจ้าของรถหรือบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เป็นต้น

ในปัจจุบันเรื่องนี้อาจจะยังดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่ก็เชื่อว่าอีกไม่นานยานยนต์ไร้คนขับจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในเมืองไทย ทางเลือกใหม่ของการสัญจรไปมาบนท้องถนนในบ้านเรา

แหล่งอ้างอิง :

http://www.thaiauto.or.th/

http://www.thaiphysoc.org/

https://www.depa.or.th/

อุตสาหกรรมยานยนต์อาศัยกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อผลิตรถยนต์ เพราะเหตุใด

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวงSMEs ดีแน่นอน<<

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333