มนุษย์ติดโซเชียล พร้อมพาส่องหนุ่มหล่อสาวสวยมากความสามารถ ชอบอัปเดตเทรนด์ของโลก มีอะไรปังๆ ดังๆ ก็ไม่พลาดเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน Show จากกรณีที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงการลงโทษเด็กนักเรียน ที่ดูเหมือนจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน มากกว่าการทำโทษให้เด็กรู้จักสำนึกผิดและเข้าใจว่าตนทำผิดอะไร แถมยังสร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับตัวนักเรียนอีกด้วย ในครั้งนี้ Sanook! Campus เราก็เลยอยากนำเสนอ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา มาให้ได้ศึกษากันว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่ถูกต้องนั้น ควรอยู่ในขอบเขตไหนถึงจะถูกต้อง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ. 2548อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงวางระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษาไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2543 ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความว่า ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการอธิการบดี หรือหัวหน้า ของโรงเรียน หรือสถานศึกษา หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นของโรงเรียนหรือสถานศึกษานั้น “การกระทำผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด โดยมีความมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอน ข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำผิดมี 4 สถาน ดังนี้
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้งหรือลงโทษด้วยความโกรธหรือด้วยความพยาบาท โดยคำนึงถึงอายุนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไปให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาหรือ ผู้ที่บริหารโรงเรียน หรือสถานศึกษามอบหมายเป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษนักเรียน นักศึกษา ข้อ 7 การว่ากล่าวตักเตือน ใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษากระทำความผิดไม่ร้ายแรง ข้อ 8 การทำทัณฑ์บนใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษาที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน หรือนักศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา / ฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา / ได้รับโทษว่ากล่าวตักเตือนแล้วแต่ยังไม่เข็ดหลาบการทำทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดา หรือผู้ปกครองมาบันทึกรับทราบความผิดและรับรองการทำทัณฑ์บนไว้ด้วย ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาของแต่ละสถานศึกษากำหนด และให้ทำบันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ข้อ 10 ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้ในกรณีที่นักเรียนและนักศึกษากระทำความผิดที่สมควรต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ข้อ 11 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาซึ่งกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ออกตามความใน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ได้กำหนดความประพฤติที่ต้องห้ามของนักเรียนหรือนักศึกษา ไว้ดังนี้
โหลดเพิ่ม ขอขอบคุณ ข้อมูล :ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ. 2548 ภาพ :istockphoto แท็กที่เกี่ยวข้องระเบียบกระทรวงศึกษาธิการลงโทษนักเรียนกระทรวงศึกษาธิการการลงโทษนักเรียนพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กทำโทษนักเรียนความรู้รอบตัวeducationEDUCATION การลงโทษนักเรียนมีอะไรบ้างข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทาผิดมี4 สถาน ดังนี้ (1) ว่ากล่าวตักเตือน (2) ทาทัณฑ์บน (3) ตัดคะแนนประพฤติ (4) ทากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ลงโทษนักเรียนเพื่ออะไรการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้รู้สำนึกในความผิดและกลับมาประพฤติตนตนในทางที่ดีต่อไป ให้ผู้บริหารโรงเรียน หรือผู้ที่ผู้บริหารโรงเรียนมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษ นักเรียนนักศึกษา
การทำโทษมีอะไรบ้างตามหลักวิธีทางจิตวิทยา หรือพฤติกรรมศาสตร์ การลงโทษ (punishment) คือการทำให้อัตราการตอบสนอง หรือความถี่ของพฤติกรรมลดลง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ. ว่ากล่าวตักเตือน. ทำทัณฑ์บน. ตัดคะแนนความประพฤติ. ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม. |