การออกแบบสตอรี่บอร์ด

(Story Board) คือ การเขียนกรอบแสดงเรื่องราวที่สมบูรณ์ของภาพยนตร์หรือหนังแต่ละเรื่อง โดยมีการแสดงรายละเอียดที่จะปรากฏในแต่ละฉากหรือแต่ละหน้าจอ เช่น ข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี เสียงพูดและแต่ละอย่างนั้นมีลำดับของการปรากฏว่าอะไรจะปรากฏขึ้นก่อน-หลัง อะไรจะปรากฏพร้อมกัน เป็นการออกแบบอย่างละเอียดในแต่ละหน้าจอก่อนที่จะลงมือสร้างเอนิเมชันหรือ หนังขึ้นมาจริงๆ

ขั้นตอนการทำ Story Board
สิ่งสำคัญที่ควรมีใน Story Board
– ตัวละคร สิ่งของ ท่าทางที่ตัวละครต้องทำภายในฉาก
– มุมกล้อง ฉาก หรือภาพประกอบ ที่สำคัญต่อเนื้อเรื่องหลัก
– บทบรรยาย บทพูด หรือเสียงประกอบอื่นๆ

หลังจากสรุปแนวคิด โครงเรื่อง และทำบทบรรยายเสร็จ ให้นำบทบรรยายมาวาดให้เป็น Story Board ซึ่งปัจจุบันจะมี Template สำหรับการวาด Storyboard บนสื่อออนไลน์จำนวนมากที่นำมาใช้ได้เช่น
http://www.educationworld.com/tools_templates/template_strybrd_8panels.doc
http://reggiewolfpro.deviantart.com/art/Free-Storyboard-Template-32783552

ขั้นตอนวาด Story Board
หลังจากหา Template ของ Story Board หรือเตรียมกระดาษเปล่าเรียบร้อยแล้ว
ขั้นที่ 1 วาดช่องสี่เหลี่ยมหรือใช้ช่องสี่เหลี่ยมของ Template เพื่อวาดภาพร่างมุมกล้องที่จะถ่ายทำ หรือภาพประกอบที่จะนำมาใช้ หรือ ฉากและตัวละคร

Tip:
ลักษณะการวาดมี 2 แบบใหญ่ๆ คือ
1. วาดละเอียด เพื่อให้ได้ภาพตรงตามความต้องการ โดยมากจะใช้ในการทำ Animation, Viral clip video, หนังสั้น หรือฉากที่เน้นความสำคัญที่เข้าใจได้ยาก
2. วาดคร่าวๆ และให้อิสระกับผู้กำกับภาพ และตากล้อง ออกแบบมุมกล้องเพิ่มเติมได้ ไม่จำเป็นต้องวาดให้สวยงาม  แต่วาดให้พอเข้าใจได้ว่าในฉากนั้นต้องการภาพแบบไหน

ขั้นที่ 2 เขียนบทบรรยาย บทพูด ที่อยู่ในฉากนั้นทั้งหมด โดยพิจารณาถึงความสัมพันธ์กัน ระหว่างบทและภาพ

Tip:
– การแบ่งบทบรรยายที่เขียนลงใน Story Board ทดสอบพูดเพื่อจับเวลาและตรวจสอบความเหมาะสมระหว่างภาพกับบทบรรยาย ในกรณีที่บทบรรยายยาวเกินไปควรแบ่งฉากเพิ่ม
– ถ้ารูปแบบของสื่อเป็นรายการถามตอบ หรือสัมภาษณ์ อาจจะใส่เพียงคำถามไว้เท่านั้น

ขั้นที่ 3 เขียนรายละเอียดในการถ่ายทำ การตัดต่อ และรายละเอียดอื่นๆ เช่น เพลง เสียงเอฟเฟค  การเปลี่ยนมุมกล้อง(แพนกล้อง,ซูมภาพ)  หรือแต่งเติมภาพตอนตัดต่อต่างๆ

การออกแบบ หนังโฆษณาหรือการทำวิดีโอในปัจจุบันยังคงต้องการนักสร้างสรรค์หรือครีเอทีฟที่ทำ Pre-production หรือ Storyboard เก่ง ๆ เข้ามาพัฒนาผลงาน ถ้าพูดถึงอุตสาหกรรมโฆษณาถือว่าเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เข้ามาพัฒนาสังคมอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงอิทธิพลต่อการสร้างแบรนด์คือการทำหนังโฆษณาออกสู่สายตาผู้บริโภค อิทธิพลของหนังโฆษณานี่เองที่ดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้สนใจอยากเข้ามาทำงานในวงการครีเอทีฟกันมากขึ้น และสิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้ก่อนการทำหนังโฆษณา คือการฝึกทำ Storyboard เพื่อนำเสนอลูกค้า เรามาดูกันว่าการสร้างสรรค์ไอเดียลงไปใน Storyboard ให้น่าสนใจจะมีแนวคิดอย่างไรบ้าง

ตามทันกระแสโลกและสังเกตสิ่งรอบตัว

ถ้าเราอยากเป็นคนที่คิดงานเก่ง คุณสมบัติแรกที่เราต้องมีคือการหมั่นติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะบางครั้งความคิดสร้างสรรค์มักจะเกิดขึ้นมาจากความรู้รอบตัว หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เช่น เวลาเดินไปตามฟุตพาทลองสังเกตวิถีชีวิตของคนในสังคมดู บางครั้งไอเดียดี ๆ อาจจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ถ้าเราคิดเนื้อหาให้สอดคล้องกับกระแสสังคมโอกาสที่หนังโฆษณาของเราจะเป็นที่สนใจก็มีเปอร์เซ็นต์สูงมากเช่นกัน

 

สร้างผลกระทบทางบวกให้กับสังคม

ในสมัยนี้หลายแบรนด์หันมาทำหนังโฆษณาที่มีส่วนช่วยรณรงค์หรือสร้างกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกต่อสังคมมากขึ้น เพราะผู้เสพสื่อโฆษณาค่อนข้างที่จะชอบโฆษณาที่สร้างอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขา เช่น การเหยียดสีผิว การลดปริมาณพลาสติก หรือการต่อต้านคอร์รัปชัน เป็นต้น เหมือนเป็นการทำ CSR ผ่านสื่อโฆษณา ถ้าเรามีโจทย์มาให้คิดเนื้อเรื่อง Storyboard ลองนำแนวคิดที่มีคุณค่าต่อผู้คนมาประยุกต์ใช้กับเรื่องราวของแบรนด์ แล้วเราจะรู้ว่าการทำหนังโฆษณาหรือวิดีโอสามารถสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นได้เช่นกัน

 

การออกแบบสตอรี่บอร์ด

ถ่ายทอดแนวคิดผ่านแบรนด์

กรณีของการทำ Storyboard ในแวดวงโฆษณาจะแบ่งการทำโฆษณาอยู่ 2 แบบ แบบแรกคือการขายสินค้าหรือบริการแบบตรง ๆ ซึ่งจะเน้นการขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แบบที่สองคือวิธีที่เราส่งเสริมให้ครีเอทีฟรุ่นใหม่ฝึกคิด คือการทำโฆษณาโดยมีการแทรกแนวคิดต่าง ๆ เข้าไปด้วย นอกจากจะขายสินค้าหรือบริการแล้วยังสามารถสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่สอดแทรกเข้ามา เช่น โฆษณาไทยประกันชีวิต ที่ไม่ได้เน้นขายประกันเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจให้กับผู้บริโภค

 

เนื้อเรื่อง 3-5 วินาทีแรกต้องสร้างความน่าสนใจ

การทำการตลาดสมัยนี้คือการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ทฤษฎีในตำราเท่านั้น แต่ต้องใช้เครื่องมือสมัยใหม่ที่ทำให้เราเจาะกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น การทำโฆษณาบนยูทูบถือว่าเป็นการทำโฆษณาที่ท้าทายเหล่าบรรดาครีเอทีฟเป็นอย่างมาก เพราะยูทูบมีโฆษณาแบบ Bumper Ads ที่มีความยาวโฆษณาตั้งแต่ 6 วินาที, 15 วินาที หรือมากกว่านั้น ทำให้ครีเอทีฟต้องใส่ใจกับการคิดเนื้อเรื่องในช่วง 3-5 วินาทีแรกให้น่าดึงดูดมากที่สุดเพื่อไม่ให้คนดูกดข่ามโฆษณา แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ผู้ชมอยากดูโฆษณษหรือวิดีโอต่อจนจบนี่คือสิ่งที่เราต้องวางแผนให้ดี ๆ ดังนั้น เนื้อเรื่องช่วงเริ่มต้นจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการเผยแพร่วิดีโอบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม

 

การออกแบบสตอรี่บอร์ด

การทำ Character Animation เพื่อการนำเสนอผลงาน

เมื่อเราจัดวางโครงเรื่องเสร็จแล้ว ต่อไปคือการทำให้ Storyboard ออกมาเห็นภาพได้ชัดเจนผ่านการทำตัวละครในรูปแบบ Animation แนะนำให้ทำโดยใช้โปรแกรม Adobe Ae ซึ่งเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่คนในวงการครีเอทีฟชอบใช้กันมากที่สุด สาเหตุที่ไม่แนะนำให้นำเสนอ Storyboard ให้ลูกค้าผ่านการวาดเขียนด้วยมือ เพราะจะทำให้องค์กรหรือเอเจนซี่ที่เราสังกัดอยู่ขาดความน่าเชื่อถือและดูไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งต่อให้เราคิดงานมาดีแค่ไหน แต่ขาดการนำเสนอแบบมืออาชีพลูกค้าอาจจะไม่ไว้วางใจจ้างงานเราอีกต่อไปก็เป็นได้

 

“ในวงการครีเอทีฟไม่ได้คัดสรรคนจากวุฒิการศึกษา แต่คัดสรรคนจาก Passion”

 

ถ้าเรามีใจรักการทำงานสร้างสรรค์ถ้าหยุดพัฒนาตัวเอง จงฝึกฝนค้นคว้าหาความรู้ให้มากที่สุด ยิ่งถ้าเราอยากเป็นครีเอทีฟที่คิดงานเก่ง ๆ และสร้างผลงานให้น่าประทับใจยิ่งต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งรอบด้าน และหนึ่งในทักษะสำคัญต่อครีเอทีฟรุ่นใหม่ คือ การใช้โปรแกรมสร้างสรรค์งาน Artwork ซึ่งนอกจากเราคิดงานเองได้แล้วเราก็ต้องมีทักษะผลิตผลงานให้ออกมาเป็นรูปร่างด้วยตัวเองได้เช่นกัน ซึ่งเราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ เช่น คอร์ส Adobe After Effects ขั้นพื้นฐานสำหรับงาน Animation ซึ่งคอร์สนี้จะสอนใช้โปรแกรมขั้นพื้นฐาน เพื่อนำไปต่อยอดการทำงาน Motion Graphic อย่างมืออาชีพ โดยเนื้อหาการสอนจะสอนให้อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย พร้อมรวบรวมข้อมูลเรื่องระบบต่าง ๆ ที่ต้องรู้ นอกจากได้เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว ยังมีแบบฝึกหัดให้ได้ฝึกและใช้งานได้จริง

ถ้างานในฝันของเราคืองานด้านครีเอทีฟจริง ๆ ยังมีคอร์สเรียนการออกแบบอีกมากมายให้เราได้เลือกเรียนกัน โดย